ตอนที่แล้วตอนที่ 8 ตำนานของโรงเรียนอันดับที่ 60
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10 ความจริงเมื่อ 6 ปีที่แล้ว

ตอนที่ 9 เจ้าสองสีและเจ้าดูปี้


 

ตอนที่ 9 เจ้าสองสีและเจ้าดูปี้

 

 

ในโลกนี้ไม่มีการเกิดใหม่ที่น่าอนาถเท่านี้มาก่อน ยกตัวอย่างเช่น ตือโป้ยไก่ (ผู้ซึ่งถูกลงโทษเนื่องจากล่วงเกินเทพธิดาบนสวรรค์) เพราะตัวมันเองเป็นถึงราชาปีศาจระดับ5ซึ่งเหลือแค่เพียงเศษเสี้ยวดวงวิญญาณ มันถูกอัญเชิญมายังห้องเรียนและดันถูกรวมวิญญาณเข้ากับวิญญาณดวงอื่น จากปีศาจคางคกกลายเป็นสุนัข

 

หรือนี่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่มีการเกิดใหม่ข้ามสายพันธุ์

 

หลังจากเจ้าสองสีได้เข้าร่วมชั้นเรียน บรรยากาศภายในห้องเรียนก็ดูเรียบร้อยขึ้นโดยงานอดิเรกทุกคนคือการที่ถูแก้มอ้วนๆของเจ้าสองสีหลังจากจบคาบเรียน

 

หวังลิ่งรู้สึกได้ว่าตั้งแต่เจ้าสองสีเข้ามาในห้อง การมีอยู่ของเขาก็ดูเหมือนจะค่อยๆจางหายไป

 

เขาพึงพอใจกับมันมาก ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้เจ้าสองสีมันมีชีวิตต่อไป

 

.........

 

 

เมื่อไม่กี่วันก่อนมาสเตอร์ดูปี้หรือกัวหาว ผู้ซึ่งครอบครัวของเขาเปิดร้านขายสัตว์เลี้ยงวิญญาณ อาสาที่จะสอนให้เจ้าสองสีเห่า

 

หรือที่เรียกว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม การสอนคางคกที่กลายร่างเป็นหมาให้เห่า มันเกินกว่าใครจะคาดคิด

 

เจ้าสองสีพึ่งจะคิดขึ้นได้ว่ามันสายเกินไปแล้วที่จะหันหลังกลับ

 

ดอกไม้ทุกดอกบนโลกต้องสั่นสะเทือนถ้าหากคางคกเห่าได้ มันโคตรจะแปลกประหลาด

 

ทุกคนเฝ้าดูกัวหาวสอนเจ้าสุนัข กัวหาวเอาใจใส่และใช้เวลาหลังเลิกเรียนค้นคว้าวิดีโอสุนัขเห่าให้เจ้าสองสีดู แต่มันไม่ใช่แค่เพียงไม่สนใจ แต่มันยังนอนแผละ แสดงอย่างชัดเจนว่ามันไม่อยากสนใจวิถีชีวิตแบบสุนัขเลยแม้แต่น้อย

 

กัวหาวจึงคิดว่าเขาคงใช้วิธีการสอนที่ผิด

 

ในช่วงชีวิตที่แล้วมันเป็นถึงราชาปีศาจระดับ5 การที่จะให้ปีศาจระดับนั้นเห่าเหมือนสุนัขทั่วไป...ถ้าหากเขาเป็นมันก็คงรู้สึกอับอาย

 

และทันใดนั้นเองเขาก็คิดไอเดียบางอย่างได้

 

วันถัดมาทุกคนเห็นเขาถือโปสเตอร์มาแผ่นนึง เขาติดมันไว้ที่ประตูหลัง

 

ทุกคนอ้าปากค้าง “นายเอาโปสเตอร์อะไรมาเนี่ย”

 

กัวหาวยิ้มด้วยความภูมิใจ เขานำเจ้าสองสีไปยืนหน้าโปสเตอร์ และชี้ไปที่มัน “เห็นไหม? เทพเจ้าสุนัข! พระเจ้าของเหล่าสุนัข! มันไม่ใช่ว่านายสูญเสียความเป็นราชาปีศาจ แต่ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปนี่คือเป้าหมายใหม่ของนาย!”

 

สองสี “...”

 

ทุกคน “...”

 

สุดท้ายคนที่ทำให้เจ้าสองสีทิ้งศักดิ์ศรีและเริ่มเรียนรู้การเห่าก็คือ เพื่อนร่วมห้องหญิงชื่อว่า หลินเสี่ยวหยู และนกแก้วดูปี้

 

หลินเสี่ยวหยูผู้ซึ่งหวังลิ่งพึ่งเอาเพิ่มเข้าไปในรายชื่อเป็นคนที่6 เขาค้นพบว่าเธอนั้นน่ากลัวกว่าอาจารย์ป่าน เพราะว่าเธอเป็นสาววาย(Yaoi) เธอจิ้นได้ทุกอย่างขอแค่เป็นผู้ชายก็พอ

 

เธอนั้นจับดูปี้และสองสีมาเป็นคู่กันโดยที่เธอกำหนดให้ฝ่ายหนึ่งเป็นรุกอีกฝ่ายเป็นรับเรียบร้อย

 

ที่ไม่คาดคิดที่สุดก็คือ เธอให้เจ้าสองสีที่ดูแข็งแกร่งเป็นรับ...

 

และเจ้าสองสีก็ค้านสุดชีวิต...

 

เมื่อเลิกเรียนหลินเสี่ยวหยูเริ่มเล่นการจับคู่ของเธอซึ่งเป็นการขืนใจเจ้าสองสีอย่างมาก “ฟังนะ นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ให้ขันอย่างไก่ และขี้ขโมยให้เหมือนสุนัข ให้ทำตัวเลียนแบบสุนัขที่กำลังจะขโมยไก่ ไก่และสุนัขนั้นถูกยอมรับว่าเป็นคู่หูกันมานานตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว” (บทสนทนานี้ค่อนข้างจะงงๆนิดนึงผู้แปลยังงงเลย)

 

เจ้าสองสี “...” [ไก่บ้านเธอสิ นั่นมันนกแก้วชัดๆ สึส...]

 

หลังจากที่มันฟังเรื่องเล่าปัญญาอ่อนของหลินเสี่ยวหยูจบ มันก็หลุดเสียงเห่าออกมาด้วยความโกรธ “โฮ่งงง!!”

 

หลังจากนั้นทุกอย่างก็จบ มันยังคงเป็นสุนัข ถึงแม้ว่าจิตวิญญาณมันจะปฏิเสธ แต่ร่างกายมันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

 

เมื่อเธอทำให้เจ้าสองสีโกรธจนเห่าได้ หลินเสี่ยวหยูพูดเยาะเย้ยว่า “หึ..กลับกลายเป็นว่ามันเป็นซึนเดเระรับ”

 

สองสี “...”

 

.................

 

 

จนถึงตอนนี้มันก็เป็นเวลาถึง1อาทิตย์นับตั้งแต่เปิดเทอมมา มีเหตุการณ์แปลกๆที่ที่ทำให้แผนของเขาเปลี่ยนเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ เขาเข้ามาอยู่ในห้องพิเศษทั้งที่เขาไม่ควรมาอยู่และคนเพี้ยนๆที่เขาได้เจอ มันก็ยังถือว่าสถานการณ์ไม่เลวร้ายเท่าไหร่

 

อย่างน้อยเขาก็ยังรู้สึกว่าการเป็นจุดสนใจตอนสอบคนก็เริ่มจะลืมกันหมดแล้ว โดยเฉพาะเหตุการณ์เจ้าสองสีและดูปี้

 

แต่ช่วยเวลาดีๆมันมักจะอยู่ได้ไม่นาน เรื่องซวยๆก็รอเขาอยู่ไม่ไกล

 

วันศุกร์หลังเลิกเรียน หวังลิ่งรับรู้ถึงความผิดปกติในอากาศ

 

เขารู้สึกว่ามีคนสะกดรอยตามเขา

 

เขาหันมองผ่านกระจกไปข้างหลัง เขาก็สังเกตว่าในทิศทางนั้นมีกลุ่มคนกำลังจับตามองเขาอยู่

 

มีกลุ่มคนที่ใช้เครื่องมือทันสมัย มีทั้งเครื่องป้องกันการติดตาม และยันต์หลายอย่างเพื่อปกปิดคลื่นพลังวิญญาณ

 

โชคไม่ดีที่เครื่องมือพวกนี้ยังคงไม่สามารถซ่อนจากสายตาของเขาได้ ตาของเขามองเห็นละเอียดกว่าเครื่องเลเซอร์สแกนเป็นพันเท่า ยังไม่นับหูกับทักษะอ่านใจของเขา เขาสามารถระบุได้ทันทีว่าใครกำลังทำอะไรอยู่

 

ตั้งแต่เขาสำเร็จวิชาขั้นสูงมาหลายวิชา ณ ตอนนี้ไม่มีใครเป็นคู่มือกับเขาได้อีกแล้ว

 

.................

 

 

“นายน้อย ระบุเป้าหมายได้แล้วเขากำลังออกจากโรงเรียน” ชายสวมแว่นดำชุดดำ เดินไปทางรถซุเปอร์คาร์คันสีดำรุ่นลิมิตเต็ด และโค้งคำนับให้แก่บุคคัลหลังกระจกรถที่ลดลงมาเหลือเพียงครึ่งบาน

 

“ตามเขาต่อไปจนกว่าจะรู้ที่อยู่ของเขา ห้ามพลาดเด็ดขาด” เสียงเย็นชาดังออกมาจากบุคคลภายในรถ

 

“ได้ครับ นายน้อย”

 

“แต่ว่านายน้อย...เมื่อตอนที่ผมรายงานให้ทราบ สายข่าวแจ้งมาว่าเป้าหมายหายตัวไปแล้ว...”

 

“อะไรนะ หายตัวไป?!”

 

อะไรกัน มันเป็นเดอะแฟลชหรือยังไง?

 

“ทำไมนายน้อยถึงสนใจบุคคลผู้นี้กัน?”

 

“เพราะว่าเขาคืออาจารย์ของฉัน” บุคคลที่อยู่ภายในรถตอบอย่างไม่เต็มใจ

 

“อะไรนะ? อาจารย์ของนายน้อย?”

 

ชายชุดดำและคนขับรถแสดงสีหน้าตกใจทันที่ที่ได้ยินคำตอบ

 

ถ้าหากผู้คนรอบๆเห็นบุคคลภายในรถ พวกเขาจะต้องตกใจ

 

เพราะคนภายในรถไม่ใช่ใครเลยเขาเป็นรองผู้อำนวยการของสมาคม100โรงเรียนและเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนแห่งนี้ หรือที่รู้จักกันในนาม -โจวยี่

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด