ตอนที่แล้วSGS บทที่ 53 – จงปล่อยตัวโลลิในมือแกลงเดี๋ยวนี้!!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSGS บทที่ 55 – ส่งมอบความตายอันเจิดจรัสให้ล่ะ!

SGS บทที่ 54 – เมื่อสาวน้อยโลลิเรียกผมว่า ‘ โอนี่จัง ’ ล่ะ! อ๊ากกก!


“เฮ้! ปล่อยโลลิน้อยในมือแกลงเดียวนี้!” เสียงตะโกนดังกึกก้องก้องไปทั่วบริเวณ ทำให้คนที่กำลังตะลุมบอนกับหมาหยุดชะงัก แล้วหันมามองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า ข้างบนก็มีฝูงอีกากระพือปีกบินปากร้อง ‘ไอ้โง่ ไอ้โง่’ ไม่หยุด

แม้ว่าวู่หยานจะมีหนังหน้าที่หนามาก แต่ตอนนี้เขาก็อดที่จะรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่ได้ ผมจากการเผลอปากไปคือเขาได้รับสายตาดูหมิ่นจากสองสาว และโลลิลิลินที่มองมาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ

บางทีเธออาจจะกำลังคิดว่าหลุดจากปากเสือได้แล้วกลับต้องมาตกอยู่ในเงื่อมมือของหมีหิวโซก็ได้ และบางทีอาจะเป็นเพราะคำพูดวู่หยานทำให้สองสาวทนดูไม่ได้ จู่ๆพวกเธอก็พลังพุ่งกระฉูดเร่งความเร็วจัดการสุนัขเขี้ยวอสูร

“ติ๊ง! เควส1สำเร็จ! ได้รับ แต้มอุปกรณ์ แต้มไอเท็ม แต้มอบิลิตี้ และแต้มอัญเชิญ 3,000แต้ม!”

พร้อมๆกับที่เสียงระบบดังขึ้น สาวน้อยผมสีน้ำตาลอ่อนและสาวน้อยผมสีชมพูก็มาถึงข้างๆตัววู่หยานทันที กำหมัดน้อยๆขึ้นและพร้อมใจกันทุบใส่หัววู่หยานจนเขาร่วงลงไปกองกับพื้น

ฮินางิคุถอนมือกลับมา แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันไปมองเทียนลี่และลิลินที่ยืนแข็งทื่ออย่างงุนงง “อะแฮ่ม เมื่อกี้เกิดข้อผิดพลาดเล็กน้อย ลืมๆมันไปซะ อันนี้ของจริง จงปล่อย..เอ่อ....สาวน้อยในมือนายซะ!!”

สิ้นเสียงฮินางิคุ ลิลินก็ได้สติและเริ่มดิ้นรนใหม่อีกครั้ง สีหน้าเทียนลี่ก็บูดเบี้ยว มันรู้สึกราวกับว่าตัวเองถูกเล่นตลก

เทียนลี่ส่งเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นชา เพิ่มแรงจับลิลิน สายตาดุจหมาป่ามองฮินางิคุกับมิโคโตะสลับไปมา แล้วฉีกยิ้มอย่างน่ารังเกียจ

“ได้สิ ได้แน่นอน ตราบใดที่พวกเธอยอมทำตามที่ข้าสั่งล่ะก็น่ะ ข้าถึงจะปล่อยนังเด็กนี่ไป!”

คำพูดของเทียนลี่ ทำให้สองสาวที่กำลังเตรียมคำพูดดีๆสะดุ้ง ก่อนจะปล่อยออร่าสังหารออกมาทันที มองเทียนลี่ด้วยใบหน้าโกรธเคือง

‘เปรี๊ยะๆ’เปิดพลังจิตของตัวเอง มิโคโตะหรี่ตาเป็นประกายอันตราย เตรียมตอบโต้ด้วยกำลัง เธอกำลังคำนวณปริมาณพลังว่าควรใช้กี่โวลต์ ถึงจะทำให้ไอ้บัดซบนี่กลายเป็นกบย่างได้

“นักเวทย์ ธาตุสายฟ้า!” เทียนลี่มองมิโคโตะด้วยสายตาฉงนสงสัย ก่อนจะเลียริมฝีปากด้วยความตื่นเต้น นักเวทย์เป็นอะไรที่หายากมาก ไม่นึกเลยว่าสาวน้อยตรงหน้าจะเป็นนักเวทย์ นี่ทำให้เทียนลี่ที่ผ่านผู้หญิงมามากมายเลือดลมพุ่งพล่าน

ในอดีตผู้หญิงที่มันได้ลิ้มลองมีแต่แบบธรรมดา นักรบมันยังไม่เคยลองเลยแล้วนับประสาอะไรกับนักเวทย์ เมื่อคิดว่าตัวเองจะได้ลิ้มลองรสชาติอันหอมหวานของนักเวทย์ ทำให้หัวใจเทียนลี่เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง หลังจากมันจัดการเธอเสร็จแล้ว ก็จะให้มาเป็นผู้ช่วยมือขวา การที่เดินไปทั่วโดยมีสาวงามนักเวทย์อยู่ข้างๆ มันจะมีความสุขขนาดไหนกันนะ?

คิดถึงตรงนี้ มันก็ยิ่งอยากได้หญิงสาวตรงหน้ามากกว่าเดิม

แน่นอนว่ามันได้ลืมไปว่า ‘คนที่มีพื้นพลังที่แข็งแกร่งและมีพรสวรรค์ถึงจะเดินในเส้นทางของนักเวทย์ได้’ ไป ดูเหมือนว่าความโลภและตันหาราคะจะทำให้สายตาคนมืดบอดจริง........

การโดนสายตาน่าขยะแขยงจ้อง ไม่เพียงแค่มิโคโตะ ฮินางิคุเองก็สีหน้ามืดครึ้มยกชิโระซากุระชี้ไปที่เทียนลี่ ฮินางิคุพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “ดูเหมือนว่า ถ้าไม่สอนบทเรียนให้สักหน่อย แกก็คงไม่เชื่อฟังสะนะ”

“ฮ่าๆๆ ข้าคิดว่าพวกเจ้าควรใช้สมองมากกว่านี้หน่อยนะ”

ยกลิลินขึ้น แล้วแสยะยิ้มให้สองสาว “อย่าคิดว่าตัวเองสามารถฆ่าไอ้ขยะพวกนั้น แล้วจะสู้ข้าได้นะ ข้าเป็นนักรบแรงค์5 ถึงสู้กันจริงๆข้าก็ได้เปรียบ!”

“เจ้านี่....” มิโคโตะถลึงตามองเทียนลี่ กัดฟันพูดด้วยความโกรธว่า “ไม่เพียงจับเด็กผู้หญิงมาข่มขู่ แต่ยังว่าพวกพ้องตัวเองเป็นขยะอีก!”

“เฮอะ เรียกว่าขยะ ก็ให้เกียรติพวกมันมากพอแล้ว!กะอีแค่จัดการเด็กยังทำไม่ได้”เทียนลี่หัวเราะเสียงดัง “กับอีแค่เด็กขนยังไม่ขึ้นไม่กี่คนยังจัดการกันไม่ได้ แล้วข้าจะเลี้ยงพวกมันให้เสียข้าวสุกทำไม ถึงพวกแกจะไม่ฆ่ามัน ข้าก็จะเป็นคนปลิดชีพพวกมันเองอยู่แล้ว เหอะ ไม่จำเป็นที่จะต้องมีขยะอยู่รอบๆตัวข้า!”

“ไอ้บ้านี่!” มิโคโตะกับฮินางิคุหัวร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ ใจอยากจะฉีกกระชากมันให้เป็นชิ้นๆ แต่ในมือมันมีลิลินอยู่ ทำให้พวกเธอไม่กล้าทำอะไรวู่วาม

“ฮ่าๆๆๆ” เทียนลี่หัวเราะอย่างพออกพอใจ “เป็นอะไรไป? ไม่พูดต่อแล้วรึ? ก็อย่างที่ข้าพูดไปตราบใดที่เจ้ายอมเชื่อฟังคำสั่งข้า นังหนูนี่ก็จะปลอดภัยแน่นอน!”

“อ่อเหรอ? งั้นก็ต้องขอขอบคุณจริงๆ....”

“ข้ายินดี....” จู่ๆเทียนลี่ก็สันหลังเย็นวาบ สัมผัสได้ถึงอันตราย เสี้ยววินาทีต่อมาก็มีประกายคมดาบสีเงินปรากฏตรงหน้ามัน เสือกแทงเข้ามาตรงหน้าผากตน

คมดาบแผ่รังสีเย็นยะเยือกราวกับอสรพิษ นัยน์ตาเทียนลี่หดตัว จากสีหน้ายิ้มแย้มกลายเป็นตื่นกลัว

ภายใต้สถานการณ์วิกฤติ เทียนลี่กระตุ้นพลังปราณสุดชีวิต โดยไม่สนความเจ็บปวดที่เร่งปราณเร็วเกินไป พยายามโยกหัวหลบ ในนาทีชี้เป็นชี้ตายมันก็หลบพ้นแบบเฉียดฉิว ขนาดที่ว่ามันยังสามารถสัมผัสได้ถึงออร่าเย็นเยียบที่พุ่งวูบ ผ่านหูมันไป

เหงื่อท่วมหน้า ตัวมันไม่เคยเฉียดตายมากขนาดนี้มาก่อนเลย ขาสั่นเล็กน้อย

แทงพลาด ใบดาบสีเงินก็อยู่ในท่านั่นนิ่งไป อยู่ข้างๆหูขวามัน ในเวลาเดียวกันก็มีฝ่ามืออันอบอุ่น ยืนมาจับมือเทียนลี่ และในมือเทียนลี่ก็กำลังจับลิลินอยู่!

“เปรี๊ยะๆ!!”

กระแสไฟฟ้าสีขาวฟ้าถูกส่งผ่านจากฝ่ามือนี้ไปหามือเทียนลี่ และกระจายไปทั่วร่างมัน เทียนลี่กรีดร้องอย่างเจ็บปวด เป็นอัมพาตทั้งตัวทำให้มือที่จับลิลินคลายออกมา

นักเวทย์ ธาตุสายฟ้าอีกคน! เป็นไปไม่ได้! ไม่ใช่ว่าเจ้าหนุ่มนี่ใช้ดาบ? ก็ต้องเป็นนักรบไม่ใช่รึไง? แล้วพลังปราณกับพลังเวทย์จะไปอยู่ในร่างคนๆเดียวได้ยังไงกัน!!!

เทียนลี่มองตาค้างอย่างไม่อยากเชื่อ แน่นอนว่ามันไม่รู้ว่า จริงๆแล้ววู่หยานไม่มีพลังทั้งปราณหรือเวทมนตร์ มีแค่วิชาดาบกับพลังจิตที่จะอ่อนหรือเก่งก็ขึ้นอยู่กับการคำนวณ!

วู่หยานเอื่อมมือจับลิลินที่กำลังร่วงลงมา แล้วอุ้มเธอไว้ในอกตัวเอง เขาหันไปมองเทียนลี่ด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะฟาดดาบอัดมันจนปลิวไปกระแทกต้นไม้

“หยาน!!” มิโคโตะกับฮินางิคุทำท่าราวกับคิดไว้แล้วว่าเขาคงต้องลงมือ สองสาววิ่งมาเอาตัวลิลินออกจากมือเขาโดยไม่พูดอะไรสักคำ ก่อนจะหันหน้ามาถลึงใส่อย่างจับผิด ราวกับว่ากำลังพยายามป้องกันไม่ให้เขาทำอะไรลิลิน

วู่หยานหัวเราะแห้งๆ ดูเหมือนไอ้ที่คำตะโกนว่า ‘โลลิ’ จะทำให้สองสาวระวังตัวแจ......

“ฮึก...” หลังจากผ้าอุดปากตัวเองหายไป ลิลินก็กระโดดเข้าอกฮินางิคุแล้วร้องไห้น้ำตาอาบแก้ม เธอร้องหนักมากราวกับว่าเธอพยายามร้องให้ความกลัวหายไป

“โอ๋ๆ อย่าร้องนะเด็กดี อย่าร้อง....” ฮินางิคกับมิโคโตะลนลานกับท่าทางของลิลิน บางทีอาจะเป็นเพราะสองสาวให้ความรูสึกปลอดภัยเธอจึงร้องไห้อย่างไม่สนใจอะไร แม้แต่เทียนลี่ที่ค่อยๆลุกขึ้นมาเธอก็ยังเมิน ยังคงร้องไห้ต่อไปไม่หยุด ทำให้สองสาวสงสารจับใจ ส่วนวู่หยานก็ปวดหัวจี๊ด

สิ่งที่วู่หยานหวาดกลัวที่สุดก็คือน้ำตาของผู้หญิง โดยเฉพาะสาวน่ารักๆ.....

“บัดซบ! ไอ้เด็กบ้า!” เทียนลี่ถลึงตามองวู่หยานและคนอื่นๆด้วยสีหน้าซีดขาว ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มโหดเหี้ยม “แกคิดว่าลอบโจมตีข้าแล้วจะชนะงั้นสิ? ก็ดี ข้าจะให้เห็นถึงขุมพลังอันมหาศาลของนักรบแรงค์5เอง ไอ้มดปลวก!”

เพราะเลือดขึ้นหน้า ทำให้ตัวมันหลงลืมความคิดที่ว่าทำไมวู่หยานถึงสามารถใช้ทักษะการต่อสู้(@วิชาที่ต้องใช้ปราณ) และเวทมนตร์ได้ไปจนหมด อีกอย่างมันก็ไม่ได้สนใจวู่หยานด้วย ในความคิดมันวู่หยานยังเด็กเกินไป และถึงแม้ว่าไอ้หนุ่มนี่จะเป็นนักเวทย์ ก็ไม่มีทางที่จะแข็งแกร่งไปกว่าตนเองได้ ก็แค่พวกเก่งแต่ลอบกัด!

ดังนั้น เทียนลี่ที่ยังคงคิดว่าตัวเองเก่งกว่าก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเคืองจากเรื่องเมื่อกี้

เป็นแค่มดปลวกแต่กล้าทำให้เสื้อผ้าท่านรองกัปตันคนนี้แปดเปื่อน!

ส่วนเรื่องที่เด็กน้อยลิลินโดนชิงตัวไปมันไม่แคร์เลย ตราบใดที่ฆ่าได้เด็กเหลือขอนี้ได้ ค่อยกลับไปชิงคืนก็ไม่สาย อืม เอาเด็กสาวสองนั่นด้วย......

ขณะที่ความมั่นใจของเทียนลี่พุ่งทะยานเทียมฟ้า วู่หยาน ฮินางิคุ และมิโคโตะก็มีสีหน้าเหยเกพูดไม่ออก

ขุมพลังอันมหาศาลของนักรบแรงค์5งั้นเหรอ?

ขอโทษนะ แต่ทางนี้มีแรงค์6กับแรงค์7อยู่ถึงสองคนเลยนะเฮ้ย!

“โอนี่จัง....” เสียงหวานใสที่สามารถทำให้คนฟังขาอ่อนได้ ดังออกมาจากปากเล็กๆของลิลินที่ยังคงมีหยาดน้ำเอ่อคลอเบ้าตาอยู่ นี่ทำให้วู่หยานสั่นสะเทือนไปถึงแก่น เขาเกือบจะคุกเข้าแล้วหยิบอมยิ้มขึ้นมาให้เธอแล้ว....

สาวน้อยลิลินทำหน้าตาที่ทำให้ผู้คนต้องต่อสู้แย่งชิงกันเพื่อเอาอกเอาใจเธอ ลิลินเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าอกฮินางิคุ เธอสะอื้นขณะที่พูดกับวู่หยาน “โอนี่จางง คนๆนั่นแข็งแกร่งมากเลยนะ แม้แต่องครักษ์ของหนูก็ยังสู้ไม่ไหวเลย พวกเรารีบหนีกันเถอะ.....”

ถึงแม้ลิลินจะยังเด็กอยู่ แต่เธอก็สามารถบอกได้ว่าคนไหนเป็นคนดีหรือเลว ในความคิดเธอ คนที่ลักพาตัวเธอมาเป็นโจนชั่วร้าย ส่วนพี่ชายและพี่สาวที่มาช่วยเธอเป็นคนดี ไม่งั้นเธอคงไม่กระโดดเข้าใส่ฮินางิคุเหมือนนกน้อยหรอก

แต่ขณะเดียวกันเธอที่เห็นพลังของเทียนลี่มากับตาแล้วย่อมกังวล กังวลว่าพี่ชายและพี่สาวจะเป็นเหมือนองครักษ์ของเธอที่ตายภายใต้น้ำมือของเทียนลี่

วู่หยานที่ไม่มีพลังอ่านใจ ย่อมไม่รู้ความของลิลิน ถ้าเขารู้ เขาคงจะจับคอเสื้อเธอแล้วตะโกนใส่ว่า “ตูไม่ใช่คนดีโว้ยย! อย่ามาตัดสินคนมั่วๆเซ่!!”

แต่ถึงยังงั้น สีหน้ากังวลของลิลินเขาก็ดูออก ดังนั้นวู่หยานจึงแย้มยิ้มปลอบเธอ มือก็โบก นิเอโทโนะ โนะ ชานะ ก่อนจะหันไปมองเทียนลี่ วู่หยานฉีกยิ้ม

“สบายใจได้หนูน้อย ไอ้คนที่คิดว่าตัวเองไร้เทียมทาน และคิดว่าสวมเกราะใหญ่ๆที่ดูเหมือนหมูอ้วนๆแล้วจะเป็นผู้เชี่ยวชาญล่ะก็ หึๆ พี่จะสอนมันให้รู้ซึ้งถึงชะตากรรมว่าคนที่กล้ามีความคิดสกปรกกับผู้หญิงของคนอื่นสุดท้ายแล้วมันจะเป็นยังไง!!”

“เมื่อกี้แกพูดว่าไงนะ?” ได้ยินคำพูดวู่หยาน เทียนลี่อึ้ง ก่อนจะมีความโกรธพวยพุ่งขึ้นมา สายตาจ้องเขม็งอ้าปากคำราม แล้วปลดปล่อยปราณทั้งหมด

แต่น่าสงสารมันถูกเมินอย่างสิ้นเชิง ทำให้เทียนลี่แทบกระอักเลือดจากโทสะที่มากล้น ในเวลาเดียวกันมิโคโตะกับฮินางิคุที่ได้ยินคำพูดวู่หยานก็ตัวแข็งทื่อ สองสาวมองหน้าวู่หยานแล้วเอ่ยปากพูดติดๆขัดๆ “..คะ...คะ..คะ...ใครกันเป็นผู้หญิงของนายกัน....”

แน่นอนว่าไอ้อาการซึนเดเระนี่วู่หยานถือว่าตอบตกลงโดยอัตโนมัต...

“ฮ่าๆๆๆๆ!!!” จู่ๆเทียนลี่ก็หัวเราะลั่น ราวกับว่าจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อ แต่กลับไม่มีน้ำตาออกมา ตอนนี้ในแววตา มันมีแค่จิตสังหารอันเย็นเยียบ

“ดี! ดีมาก! ไอ้เด็กเหลือขอ! ในเมื่อแกรนหาที่ตายเอง ข้าก็จะช่วยสงเคราะห์ให้! ผู้หญิงและยุทธภัณฑ์หลักของแก ข้าขอรับไว้อย่างไม่เกรงใจล่ะนะ ฮ่าๆๆ!!!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด