ตอนที่แล้วตอนที่ 191 เพลิงปีกอัคคีโลกันย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 193 เรื่องราวที่ลึกลับ

ตอนที่ 192 ประตูหิน


ตอนที่ 192 ประตูหิน

แต่ม้งซิงหยวนและยู่เอ้าชิงยังหนีออกไปได้ไม่ไกล ด้านนอกมีเสียงแห่งการต่อสู้ที่รุนแรงดังขึ้น หลังจากนั้น

ศิษย์สาวกทั้งสองที่ไล่ตามหยางไค่ได้หวนกลับมาด้วยสภาพที่อึดอัดใจอย่างเหลือทน

เกิดอะไรขึ้น? ม้งซินหยวนกล่าวถาม

อาจารย์อา มีฝูงแมลงจำนวนมากมาย !! ศิษย์คนหนึ่งกล่าวตอบอย่างเร่งรีบด้วยสีหน้าที่บูดเบี้ยว

ไม่ต้องรอให้เขากล่าวถามอีกต่อไป เพราะมีเสียงโบยบินของฝูงแมลงดังก้องไปถึงหูของม้งซินหยวน หลังจากนั้นเขามองเห็นกลุ่มก้อนสีดำทะมึนที่เสมือนเมฆสี่ดำขนาดใหญ่กำลังโบยบินเข้ามา

กลุ่มก้อนสีดำทะมึนมีขนาดเท่ากำปั้นเท่านั้น มันก่อกำเนิดขึ้นจากปีสีดำทะมึนจำนวนมากมาย เมื่อมองออกไป แมลงสีดำเหล่านี้ได้ครอบครองพื้นที่จนหมดสิ้น จำนวนของพวกมันมีมากมายอย่างไม่สิ้นสุด

ยู่เอ้าชิงกล่าวตะโกนด้วยเสียงที่สิ้นสติ : อาจารย์ลุง ฝูงแมลงเหล่านี้จับพวกเราเข้ามา !

สีหน้าของเม้งซิงหยวนเย็นยะเยือก เขากล่าวตอบอย่างเคร่งขรึม : ถอยออกไปและไปหลบอยู่ด้านหลังของข้า!!

เขาก้าวเท้าออกไปข้างหน้าและพุ่งมาถึงด้านหน้าของศิษย์สาวก สองมือของเขาประสานรวมเป็นหนึ่ง ทันใดนั้น พลังลมปราณแท้จริงที่รุนแรงได้พุ่งออกไป

เมื่อฝูงแมลงถูกโจมตีด้วยกระบวนท่าของม้งซิงหยวน ฝูงแมลงที่อยู่ด้านได้ร่วงหล่นไปที่พื้นดินทั้งหมด

อาจารย์อาร้ายกาจช่างเก่งกาจยิ่งนัก ศิษย์สาวกคนหนึ่งได้กล่าวตะโกนด้วยความตื่นตะลึงและอดไม่ได้ที่จะชื่อชมอาจารย์อาของเขา

พุ่งโจมตีออกไปพร้อมกับข้า !! ม้งซิงหยวนตะโกนอย่างเสียงดัง โดยที่เขาเป็นผู้นำในการเริ่มโจมตี

ศิษย์สาวกทั้งสองคุ้มครองยู่เอ้าชิงอยู๋ตรงกลางและตามหลังม้งซิงหยวนออกไปในทันที

พวกเขาค่อยๆก้าวออกไปที่ละก้าว ทุกครั้งทีม้งซิงหยวนโจมตี เขาสามารถฆ่าเหล่าแมลงเหล่าสิบตัว แต่ไม่ว่าอย่างไรฝูงแมลงเหล่านี้มีจำนวนที่มาก ไม่มีวันที่จะฆ่าให้หมด หลังจากที่พวกเขาโจมตีออกไปติดต่อกันหลายครั้ง พวกเขากำลังหอบหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อย พวกเขากดทับโลหิตที่กำลังพุ่งพล่านอย่างวุ่นวาย และโจมตีออกไปอย่างรุนแรงอีกครั้ง

ทางที่พวกเขาเดินไป เต็มไปด้วยซากศพของฝูงแมลง

หลังจากที่หนีออกประมาณ 50 จ้าง ฝีเท้าของม้งซิงหยวนหยุดลงอย่างกะทันหัน สีหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด

คากคาก !! ฉาก !! ส่วนลึกของถ้ำมีเสียงระเบิดที่แตกออกมาอย่างต่อเนื่อง สิ่งสกปรกที่อยู่บนเพดานถ้ำ ได้ตกลงมายังษีษะของพวกเขา ทันใดนั้น เสียงระเบิดทึ่กึกก้องได้แว่วเข้ามา ถ้ำใต้ดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

แย่แล้ว !! ม้งซิงหยวนตะโกนด้วยเสียงที่ตกใจ : ถ้ำแห่งนี้กำลังจะถล่ม รีบออกไปเร็ว !!

ศิษย์สาวกทั้ง 3 ที่ติดตามเขาอยู่ด้านหลังแสดงออกด้วยสีหน้าที่ตื่นตกใจ พวกเขารีบวิ่งติดตามเขาออกไปอย่างรวดเร็ว

แต ด้าหน้าของพวกเขามีแมลงมากมายนับไม่ถ้วนขวางเส้นทางของพวกเขา แม้ว่าพวกเขาอยากวิ่งเร็วแค่ไหนก็ไม่สามารถทำได้ พลังทั้งหมดของม้งซิงหยวนถูกปลดปล่อยออกไป ก็ไม่สามารถไล่ให้แมลงเหล่านั้นถอยหนี ในช่วงเวลาที่วุ่นวาย พวกเขาถูกโจมตีจากด้านหลัง ทำให้พวกเขาทั้ง 3 เข้าสู่ภาวะที่ตื่นตระหนก

พวกเขาวิ่งออกไปอีก 30 จ้าง แต่ทางด้านหน้าได้พังทลายลง ซึ่งได้ปิดทางออกของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง

สีหน้าของม้งซิงหยวนและศิษย์สาวกทั้ง 3 ราวแสดงออกอย่างอาลัย โดยเฉพาะสีหน้าของยู่เอ้าชิงที่แสดงออกอย่างตื่นตะลึง นางไม่คาดคิดว่าความหวังเสี้ยวสุดท้ายของจะพังทลายไปต่อหน้า

ปังปัง !! เสียงดังสนั่นดังออกมาอย่างต่อเนื่อง ในเวลานี้หยางไค่ได้วิ่งออกมาถึงปากถ้ำด้านนอก ในขณะที่เขาพุ่งออกมาจากถ้ำแห่งแมลง ถ้ำใต้ดินจะถล่มลงมาและปิดทางเข้าไปในทันที

หยางไค่ไม่กล้าที่จะหยุดนิ่ง เขาได้พุ่งโบยบินออกไปอีกครั้ง

ในขณะที่เขาถูกศิษย์สาวกทั้ง 2 แห่งสำนักหยุนเซี่ยโจมตี หยางไค่ได้สั่งการให้แมลงเหล่านั้นทำลายถ้ำแห่งนี้ เขารู้ดีการเผชิญหน้ากับยอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริงไม่ส่งผลดีต่อเขาอย่างแน่นอน ในเวลานี้เหล่าแมลงทั้งหมดทั้งมวลอยู่ใต้การควบคุมของเขา เขาจึงต้องใช้ประโยชน์จากมัน

แมลงเหล่านี้เป็นนักขูดถ้ำที่เชี่ยวชาญ การทำลายถ้ำของตนเองก็ง่ายดายเช่นเดียวกัน

เมื่อเสียงถล่มของถ้ำแห่งแมลงดังขึ้น หยางไค่ได้วิ่งออกไปเกือบหลายลี้ เขาจึงหยุดฝีเท้าของเขาและหันกลับไป ในรัศมีบริเวณนั้น เขาพบว่าถ้ำแห่งแมลงที่เป็นจุดศูนย์กลาง โดยพื้นดินบริเวณนั้นได้ทรุดต่ำลงอย่างมาก

ถ้ำแมลงทั้งหมดทรุดตัวลงอย่างสมบูรณ์

แต่หยางไค่ยังไม่วางใจ เขาไม่ทราบว่าถ้ำแห่งแมลงที่ทรุดตัวและพังทลายลงมา จะสามารถฆ่ายอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริงได้หรือไม่ การรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขาเคลื่อนไหวอีกครั้ง เขาได้สั่งการให้ฝูงแมลงเสาะหาร่องรอยของศิษยืสาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ย เพราะเขาต้องจัดการพวกเขาอย่างถอนรากถอนโคนให้สิ้นซาก !!

หลังจากที่ผ่านไปสักพัก หยางไค่ได้ยินเสียงกรีดร้องที่ทุรุนทุรายอย่างทุกข์ทรมาณดังขึ้นมาจากพื้นดินด้านล่าง

มันเป็นเสียงกรีดร้องของม้งซิงเหยวน ฝูงแมลงคงค้นพบตัวเขาและในเวลานี้พวกเขากำลังต่อสู้กันอยู่

หลังจากนั้น เสียงของเขาได้แปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนแอและหายไปในที่สุด

ยอดฝีมือแห่งเขตแดนลมปราณแท้จริงเช่นม้งซิงหยวนได้ตายไปแล้ว ศิษย์สาวกที่เหลือของเขาก็มิอาจที่จะมีชีวิตรอดต่อไป พวกเขาอาจถูกฝังอยู่ในถ้ำแมลงในขณะที่มันพังทลายลงมา

นายเสียดายสตรีที่งดงามดั่งหยกที่ล้ำค่า มารปฐพีกล่าวถอนหายใจ ยู่เอ้าชิงเป็นสตรีที่งดงามที่พบเห็นได้ไม่ยาก แต่ว่าจิตใจของนางชั่วร้ายดั่งอสรพิษ นางสมควรตายอย่างยิ่ง

มารปฐพีรู้สึกเสียดายเท่านั้น

หยางไค่ยังคงนิ่งโดยไม่กล่าวสิ่งใด สีหน้าของเขาแสดงออกอย่างเฉยชา โดยที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

หลังจากนั้นไม่นาน พื้นดินรอบบริเวณได้ตลบคุ้งกระจาย ฝูงแมลงจำนวนมากมายกำลังโผบินออกมา พวกมันล้อมรอบร่างกายของหยางไค่ เพื่อรอคำสั่งจากเขา

ในเกาะซ่อนเร้นฝูงแมลงเหล่านี้ เป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถตรวจสอบและน่าเชื่อถือที่สุดสำหรับหยางไค่

ตั้งแต่ที่เขาเข้ามายังเกาะซ่อนเร้นจนกระทั่งตอนนี้ หยางไค่ระมัดระวังตัวอย่างถี่ถ้วนราวกับว่ากำลังเดินอยู่บนธารน้ำแข็งที่เบาบาง จนถึงตอนนี้ เขาก็เป็นอิสระจากคนแห่งสำนักหยุนเซี่ย ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายจากเสรีภาพที่ได้รับ

ถึงเวลาที่ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ในอนาคต

แมลงเปล่านี้สามารถโบยบิน ความเร็วของมันก็ไม่ช้า หยางไค่จึงนำพาพวกมันไปได้โดยไม่ต้องกังวล

เขาเดินนำแมลงเหล่านี้ไป และมายังขอบเขตของหมอกพิษ หยางไค่สั่งการให้พวกมันทำลายหมอกพิษเหล่านั้น

แมลงตัวเล็กๆ โบยบินออกไป พวกมันพุ่งเข้าไปยังหมอกพิษและเริ่มกลืนกินมันอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้น หมอกพิษที่พันธนาการบริเวณนี้ได้ถูกฝูงแมลงกัดเป็นช่องว่างช่องหนึ่ง สีหน้าของหยางไค่แสดงออกอย่างดีใจ หมอกพิษเหล่านี้เป็นทักษะการต่อสู้ที่ร้ายกาจที่สุด ดูเหมือนว่าหมอกพิษเหล่านี้มีเพียงเหล่าแมลงที่จะสามารถทำลายมันได้

หลายวันผ่านมา หยางไค่ไม่ได้รีบเร่งที่จะสำรวจเกาะซ่อนเร้น แต่เขาหาสถานที่เงียบสงบเพื่อทำความคุ้นเคยกับเพลิงปีอัคคีโลกันย์ของเขา

หลายวันผ่านไป หยางไค่โผบินอยู่เหนือเกาะซ่อนเร้น เพื่อสังเกตุเกาะซ่อนเร้นแห่งนี้

เมื่อร่างกาายอยู่บนกลางอากาศ ทำให้เขามองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่ถือกำเนิดขึ้นในเกาะซ่อนเร้น

จากแผนที่ภายในเกาะซ่อนเร้นที่ฮู่หญิงตะกูลเจียงมอบให้แก่เขา หยางไค่ทราบถึงตำแหน่งของตนเอง และกำลังเริ่มค้นหาเส้นทางที่ถูกต้อง

หยางไค่โผบินไปด้านหน้าสักครู ก่อนจะลอยลงไปยังพื้นดินด้านล่าง และเปิดใช้ท่ารางแห่งการเคลื่อนไหวของตนเอง

เมื่อใช้เพลิงปีกอัคคีโลกันย์ความเร็วในการเดินทางจะรวดเร็วอย่างยิ่ง แต่มันก็สูญเสียพลังลมปราณไปมากเช่นเดียวกัน ในเกาะซ่อนเร้นที่โดดเดี่ยวเช่นนี้ หยางไค่ไม่กล้าที่จะใช้หยดน้ำพลังลมปราณหยางที่อยู่ในจุดตันเถียนอย่างฟุ่มเฟือย

นอกจากนั้นการโผบินอยู่บนกลางอากาศ ยังเผยตนเองได่ง่ายขึ้น มีโอกาสที่จะถูกจับจ้องจากสัตว์อสูรหรือศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ย

แม้ว่าท่าร่างแห่งการเคลื่อนไหวของเขาจะช้ากว่า แต่มันเป็นวิธีการที่ปลอดภัยยิ่ง !!

หลายวันผ่านไป หยางไค่รีบเร่งในการเดินทาง ในระหว่างทางไม่ว่าเขาจะพบเจอกับสมบัติวิเศษต่างๆ เขากลืนกินมันโดยไม่ลังเล เพื่อให้กระดูกทองคำดูดซึมพลังของมันเอาไว้

เกาะซ่อนเร้นเต็มไปด้วยอันตราย สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง หากเขาไม่ระวังตัว เขาคงต้องพบกับการต่อสู้ที่ไร้ซึ่งหนทางแห่งชัยชนะอย่างแน่นอน

หลายวันที่เขาเดินทาง เขาไม่พบร่องรอยของคนแห่งสำนักหยุนเซี่ย ทำให้หยางไค่สงสัยว่าคนแห่งสำนักหยุนเซี่ยอาจจะตายไปทั้งหมด

แต่เมื่อเขามาถึงจุดมุ่งหมายปลายทางสุดท้าย หยางไค่มองเห็นร่องรอยการเดินผ่านของมนุษย์

เขารีบเร่งเพิ่มความระมัดระวังให้แก่ตนเอง

จุดศูนย์กลางของเกาะซ่อนเร้น คือยอดเขาโดดเดี่ยว ที่มีความสูงประมาณ 500 จ้าง ทางเดินเต็มไปด้วยหินที่ขรุขระ มีภูมิทัศน์ที่งดงาม จากแผนที่ฮู่หญิงเจียงมอบให้เขา เป้าหมายสุดท้ายที่อธิบายไว้ในแผนที่คงเป็นยอดเขาที่โดดเดี่ยวแห่งนี้

แต่เมื่อมองดูแล้ว ดูเหมือนว่าคนแห่งสำนักหยุนเซี่ยก็มุ่งเน้นและตั้งเป้าหมายมายังยอดเขาที่โดดเดี่ยวแห่งนี้ ปัญหาเพียงอย่างเดียวคือไม่รู้ว่าพวกเขามีกันกี่คน และความแข็งแกร่งของพวกเขาอยู่ในระดับใด

เมื่อมาถึงยอดเขาที่โดดเดี่ยว หยางไค่ลังเลป็นเวลานาน ก่อนจะขนฟันแน่นและปีนขึ้นไปในทันที

เขาสงบหัวใจที่เต้นกระตกไปมาอย่างรุนแรง กดทับลมหายใจของตนเอง แต่เมื่อเขาปีนมาถึงครึ่ง เขาได้ยินเสียงสนั่นหวั่นไหวมาจากด้านบน ซึ่งทำให้ยอดเขาที่โดดเดี่ยวสั่นสะเทือนไปมาอย่างรุนแรง

จิตใจของหยางไค่สั่นไหวอย่างยิ่ง เขาทราบดีว่าข้างบนนั้นต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่่ยนแปลง ทำให้เขาต้องเร่งฝีเท้าในการเดินทาง

ผ่านไปได้ไม่นาน หยางไค่ปีนมาถึงยอดสูงสุดของยอดเขา เขาเดินซุ่มและซ่อนตัวอยู่ด้านข้าง และมองไปยังทิศทางของเสียงอย่างเงียบเชียบ

ประมาณ 10 จ้างที่ห่างจากตำแหน่งของเขา ศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ยกำลังโจมตีไปยังประตูหินอย่างรุนแรง

เมื่อจ้องมองและสังเกตุการณ์ได้สักพัก จิตใจที่เป็นกังวลได้ผ่อนคลายลง !! ในกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่ใช่ผู้อาวุโสระดับสูงฮ่อเซียงหลัน แต่เป็นยู่ซิวผิง คนที่เหลือเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นยอดฝีมือที่อยู๋ในเขตแดนลมปราณแท้จริง

แต่หลังจากนั้นไม่นาน คนเหล่านี้มีสภาพที่น่าหดหู่ใจ ระหว่างทางพวกเขาคงประสบกับความลำบากมาไม่น้อย ร่างกายของคนส่วนมากเต็มไปด้วยบาดแผล และโลหิตที่แห้งเกรอะกรัง

โชคดีที่พวกเขามีสภาพเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นตัวเขาเองคงถูกค้นพบจากพวกเขาอย่างแน่นอน

คนเหล่านี้กำลังกวัดแกว่งอาวุธของพวกขา และกำลังพุ่งกระบวนท่าการโจมตีของพวกเขาไปยังประตูหินนั้น ทุกครั้งที่พวกเขาพุ่งโจมตี ประตูหินจะสั่นสะเทือนอย่างไม่หยุด นอกจากนั้นประตูหินยังแผ่แสงที่พรั่งพรูออกมาและประกายออกมา ทำให้การโจมตีของเขาออกจากประตูหินราวกับว่าพวกเขาไมได้โจมตีประตูหิน

ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไร่ต่อ ?

สีหน้าของยู่ซิ่วผิงแสดงออกด้วยความเคร่งขรึ เขากล่าวตอบอย่างรำคาญใจ : จะทำอย่างไร่ต่อไปล่ะ ? โจมตีต่อไป ต้องทำลายประตูแห่งนี้ให้สำเร็จ !! สำนักหยุนเซี่ยของเราสูญเสียงอย่างใหญ่หลวง พวกเราต้องสูญเสียแม้แต่ผู้อาวุโสระดับสูงทั้งสองท่าน หากไม่ได้รับผลตอบแทน พวกเราจะมีหน้ากลับไปได้อย่างไร ?

เมื่อได้ยินดังนี้ หยางไค่รู้สึกดีใจอย่างยิ่ง !!

แท้จริงแล้ว ฮ่อวเซียงหลันตายไปแล้ว ! โดยไม่รู้ว่าหญิงชราตายไปได้อย่างไร แต่ว่าข่าวที่หยางได้รับในวันนี้ ทำให้หยางไค่ปลื้มปริ่มใจโดยไม่จำเป็นกังวลเรื่องของผู้แข็งแกร่งอีกต่อไป !

ยู่ซิ่วผิงพุ่งออกไป เขาปลดปล่อยพลังลมปราณแท้จริงอย่างไม่คิดชีวิต ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขาโจมตีประตูหิน ก่อนจะคำรามด้วยเสียงที่เกรี่ยวโกรธ : การสูญเสียผู้อาวุโสระดับสูงทั้งสองท่าน ศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ยที่ตายไปและได้รับบาดเจ็บสาหัส และไม่ทราบว่าบุตรีของข้าไปอยู่แห่งหนใด !! การเสียสละด้วยชีวิขของพวกเขาทั้งหมด มีเพียงการทำลายประตูหินแห่งนี้จึงจะสามารถชดเชยสิ่งที่เกิดขึ้น หากไม่สามารถทำลายประตูหิน เปรียบเสมือนว่าข้าต้องสูญเสียทุกอย่างไปอย่างเปล่าประโยชน์ แล้วข้าจะมีชีวิตต่อไปเพื่ออะไร !!

คำกล่าวที่บ้าคลั่งของยู่ซิ่วผิงทำให้คนอื่นแสดงสีหน้าที่หดหู่ใจ การเดินทางมาสำรวจเกาะซ่อนเร้น ถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างมหันต์

หากพวกเขาทราบว่าการเดินทางในครั้งนี้จะมีอันตรายที่มากมายเช่นนี้ พวกเขาจะยอมออกจากสำนักหยุนเซี่ยได้อย่างไร จากความสามารถของสำนักหยุนเซี่ย แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขายังไร้ซึ่งความสามารถและคุณสมบัติที่จะสำรวจเกาะซ่อนเร้นแห่งนี้

แต่คำพูดของยู่ซิ่วผิงทำให้พวกเขาถูกกระตุ้นด้วยความแค้นอย่างรุนแรง พวกเขาเร่งรีบฟื้นฟูความแข็งแกร่งของพวกเขา โดยไม่กล่าวสิ่งใด และเริ่มโจมตีไปยังประตูหินอีกครั้ง

ประตูหินแห่งนี้ต้องเป็นตราผนึกที่คนรุ่นก่อนหลงเหลือเอาไว้ แม้มันจะแข็งแกร่งอย่างมาก แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่สามารถพังทลาย ยอดเขาโดดเดี่ยวมีสั่นสะเทือนไปมาอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากที่่ผ่านไปไม่ถึง 1 ชั่วยาม ประตูหินเริ่มปราฏรอยแตกเล็กๆ จำนวนมากมาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด