ตอนที่แล้วประกาศิตรัก : ประกาศิตรัก : ตอนที่ 7 - อยู่ร่วมกับอาโดนิสเจ้าอารมณ์ (7)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปประกาศิตรัก : ตอนที่ 9 - อยู่ร่วมกับอาโดนิสเจ้าอารมณ์ (9)

ประกาศิตรัก : ตอนที่ 8 - อยู่ร่วมกับอาโดนิสเจ้าอารมณ์ (8)


หลังจากที่ซูซินเหยินพูดจบ เขาก็คุยโทรศัพท์ต่อแล้วเดินขึ้นบันไดไป เผยให้เห็นความเย็นชาและใจแข็งของเขา

ป้าซูรู้สึกอึดอัดที่ลูกชายปฏิเสธชัดเจนแบบนั้น เธอจึงยิ้มให้ซ่งจิงเฉินเป็นการขอโทษ “จิงเฉิน.. อย่าไปใส่ใจเลยนะ ลูกชายของป้าเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เด็กแล้ว”

ซ่งจิงเฉินยิ้มและทำท่าเหมือนเธอไม่ใส่ใจ “ไม่เป็นไรค่ะป้าซู หนูกลับเองได้ค่ะ”

ก่อนที่ซ่งจิงเฉินจะมาถึงที่นี่ เธอก็ได้วางแผนไว้แล้วว่าจะติดรถซูซินเหยินกลับไป เธอจึงไม่ได้ขับรถมา หลังจากที่บอกลาป้าซู เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใช้บริการเรียกรถแท๊กซี่ผ่าน “คิวเบอร์” แต่รถที่จะมาที่นี่ยังอยู่ค่อนข้างไกล ดังนั้นเธอจึงต้องรออีกครู่ใหญ่

ในช่วงกลางของฤดูหนาวนั้น บริเวณที่พักอาศัยแถบเนินเขาจะมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าในเมือง ลมที่พัดผ่านนั้นราวกับเข็มที่ทิ่มแทงเข้าไปในกระดูกของเธอ ทำให้เธอหนาวจนสั่น

สิบนาทีต่อมา รถที่เธอเรียกก็มาถึงพอดี ซ่งจิงเฉินเหลือบมองบ้านพักตากอากาศที่อยู่ด้านหลังเธอเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็เปิดประตูรถถอนหายใจอย่างหมดหวังและขึ้นรถไป ล้มเหลวอีกครั้งสินะ..

ซ่งจิงเฉินไม่คิดมาก่อนจริงๆว่า เธอจะต้องสูญเสียพลังงานมากมายขนาดนี้เพื่อให้ได้พบกับผู้ชายคนหนึ่ง และเพื่อทำเรื่องราวให้แย่ลงกว่าเดิม และชายคนนั้นคือซูซินเหยิน

จริงๆแล้ว.. เธอค่อนข้างคุ้นเคยกับนิสัยที่ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตาของซูซินเหยิน เมื่อก่อนเธอกลับรู้สึกดีที่เขาไม่สนใจเธอ และเธอก็ไม่สนใจเขาเช่นกัน แต่ไม่เหมือนตอนนี้.. ที่เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขาอย่างมาก

แต่ถึงแม้เธอจะล้มเหลวในคืนนี้ เธอก็แอบได้ยินซูซินเหยินคุยโทรศัพท์ เขาพูดถึงเรื่องรับประทานอาหารเย็นตอนสองทุ่มที่ “เอลโดราโด” ในวันมะรืน

...

สักครู่รถก็แล่นออกจากบ้านพักไป ซูซินเหยินลงมาจากบันได ป้าซูที่ตอนนี้อยู่ในชุดนอนกำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นมองเห็นเขา จึงถามว่า “ลูกคุยโทรศัพท์กับใครเมื่อครู่นี้? คุยกันนานจังเลย”

ซูซินเหยินตอบชัดถ้อยชัดคำ “เพื่อนร่วมงาน”

ป้าซูไม่ถามอะไรต่อ แต่กลับเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นการอบรมลูกชายเบาๆ “ลูกควรจะปฏิบัติกับจิงเฉินให้ดีกว่านี้ เพราะลูกก็เคยไปอาศัยอยู่ที่บ้านของเธอมาก่อน แล้วทำไมถึงได้เย็นชากับเธอแบบนั้น? ลูกไม่มีแม้กระทั่งคำบอกลาให้กับเธอ!”

ซูซินเหยินไม่แก้ตัวอะไร เขารอจนแม่ของเขาพูดจบ แล้วจึงตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “แม่ครับ.. ผมจะกลับเข้าเมืองครับ”

ป้าซูงง.. “ก็ใหนลูกบอกว่าคืนนี้จะไม่กลับไง?”

“ผมเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากที่ทำงาน มีเรื่องต้องเข้าไปจัดการที่บริษัทครับ พวกเขาต้องการให้ผมไปที่นั่น”

ซูซินเหยินถามขึ้นอีกหลังจากคิดอยู่สักพัก “ที่บ้านยังมีอะไรเหลือพอจะทานได้บ้างครับแม่? ได้ยินมาว่าทีมงานฝ่ายเทคนิคสองคนยังไม่ได้ทานข้าวเย็นเลย”

“มี.. แต่เป็นของเหลือจากเมื่อตอนเย็นนะ ลูกคิดว่าพอจะได้ไม๊?” ป้าซูถามความคิดเห็นของลูกชายก่อนจะพูดเพิ่มเติม “เอ.. หรือจะให้แม่ทำอาหารเพิ่มอีกสักสองสามอย่าง หรือว่าลูกจะแวะซื้อระหว่างทางดี?”

ซูซินเหยินขมวดคิ้ว เมื่อได้ฟังข้อเสนอของแม่ เขาจึงพูดขึ้นมาว่า “มันยุ่งยากเกินไป เอาที่เหลือให้ผมก็แล้วกัน”

ป้าซูรีบแพคอาหารที่เหลือ แล้วนำไปไว้ในรถให้เขา และก่อนเขาจะไป เธอบอกกับเขาให้เดินทางปลอดภัย

ซูซินเหยินพยักหน้าไม่พูดอะไรแล้วสตาร์ทรถออกไป หลังจากพ้นเขตบ้านพักอาศัย เขาก็ขับรถด้วยความเร็วสูงสุด แต่เมื่อเขาเหลือบไปเห็นเงาของรถที่ซ่งจิงเฉินนั่งมา เขาจึงลดความเร็วลง และรักษาระยะห่างให้อยู่หลังรถของเธอราวสองร้อยเมตร

...

และในคืนวันอาทิตย์ ซูซินเหยินกับเพื่อนอีกสองสามคน ก็นัดกันมาเล่นไพ่นกกระจอกกันที่ ‘เอลโดลาโด’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด