ตอนที่แล้วEG บทที่ 165  ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผมเลย (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEG บทที่ 167 โรงงานรถจักรยานยนต์ (อ่านฟรี)

EG บทที่ 166  กวาดล้างให้สิ้นซาก (อ่านฟรี)


“ซ่งเหล่าซื่อ เลิกพยายามขัดขืนสักทีเถอะ ผมจะยอมเมตตาให้คุณถ้าคุณพูดความจริงและเราจะเอาจริงถ้าคุณยังไม่ยอมรับสารภาพ ผมไม่ชอบพูดซ้ำบ่อยๆ ไม่มีประโยชน์หรอกที่จะนิ่งเงียบไม่พูดอะไร เรารวบรวมหลักฐานมาสักพักหนึ่งแล้ว ซึ่งหลักฐานที่รวบรวมมาได้นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้คุณยอมรับสารภาพ!”

“หัวหน้าจาง จริงๆแล้วผมก็ทำงานเป็นสายลับนอกเครื่องแบบให้กับตำรวจนะครับ ผมก็กำลังรวบรวมหลักฐานจัดการหวังขาเป๋ เฮียเคอ และหนมปังหยางเหมือนกัน!” ซ่งเหล่าซื่อพูดขึ้นมาทันที

หัวหน้าจางเลิกคิ้วขึ้น “คุณพูดว่าอะไรนะ?”

ซ่งเหล่าซื่อเนี่ยนะเป็นสายลับนอกเครื่องแบบให้กับตำรวจ? ตลกสิ้นดี ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่สายลับนอกเครื่องแบบกลายมาเป็นหัวหน้ามาเฟียเสียเอง

“ผมพูดเรื่องจริงนะ ถ้าคุณไม่เชื่อผม คุณไปถามหัวหน้าตำรวจของเมืองเจียงเป่ยที่ชื่อ หลี่ชุนลี่ ได้เลย เขาช่วยยืนยันให้ผมได้ ผมได้รวบรวมหลักฐานการกระทำความผิดจำนวนมากของหวังขาเป๋และเฮียเคอ ไม่ใช่เฉพาะพวกนั้นเท่านั้นนะ ยังมีเจ้าพ่อมือมีดจากเหม่ยกังและหัวล้านซุนจากยาซี รวมถึงเจ้าพ่อดำจากเมืองกู่ด้วย ผมรวบรวมหลักฐานทั้งหมดมาแล้วซึ่งรับรองว่าพวกคุณเอาผิดพวกนั้นได้แน่นอน”

ซ่งเหล่าซื่อเริ่มพูดถึงชื่อหัวหน้ามาเฟียคนอื่นๆ จากเมืองและจังหวัดอื่นๆ ตอนที่เขาได้เป็นเจ้าพ่อของจังหวัดหลงเจียง เขาได้ใกล้ชิดกับเจ้าพ่อคนอื่นๆ และมีโอกาสได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ

ในตอนแรก เขากลัวว่าเขาจะควบคุมพวกนั้นไม่ได้ เลยรวบรวมหลักฐานเอาไว้เพื่อใช้หักหลังพวกนั้น แต่นึกไม่ถึงว่าวันนี้เขาจะได้นำหลักฐานดังกล่าวมาใช้ช่วยตัวเองให้พ้นผิด

เขาเคยคิดกุเรื่องการเป็นสายลับนอกเครื่องแบบนี้มานานแล้วเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน หลี่ชุนลี่เป็นหนึ่งในผู้นำที่เขาเคยติดสินบนให้เมื่อนานมาแล้ว นอกจากนี้ เขายังเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดำรงตำแหน่งสูงสุดซึ่งเขาสามารถติดสินบนให้ได้ ในตอนแรก เขารู้สึกว่าเขาใช้เงินติดสินบนเจ้าพนักงานคนนี้มากเกินไป แต่ตอนนี้เขาคิดว่าเงินที่เขาใช้ไปนั้นคุ้มค่าแน่นอน

หลี่ชุนลี่มีเอกสารรับรองว่าซ่งเหล่าซื่อทำหน้าที่เป็นสายลับนอกเครื่องแบบให้เขา โดยซ่งเหล่าซื่อช่วยเหลือตำรวจในการรวบรวมหลักฐานของมาเฟียคนอื่นๆ

ถ้ามีการนำเอกสารฉบับนี้ไปใช้ เขาก็จะไม่ถูกพิจารณาความผิด และแถมยังประวัติที่ขาวสะอาด แม้ว่าตำรวจจะยึดทรัพย์สินของเขา ก็ไม่เป็นไรเพราะเขาได้โอนทรัพย์สินส่วนใหญ่ของเขาไปให้ซ่งเสี่ยงเฟิงก่อนหน้านี้นานแล้ว และตอนนี้ซ่งเสี่ยวเฟิงก็อยู่ในฮ่องกงและใช้ชีวิตอย่างดีที่นั่น ถ้าตำรวจยอมปล่อยตัวเขา เขาก็จะบินไปฮ่องกงทันที!

ซ่งเสี่ยงเฟิงเป็นคนแนะนำแผนการนี้ให้ตั้งแต่แรก ซ่งเหล่าซื่อคิดเรื่องนี้มาสักพักและสุดท้ายเขาก็เชื่อซ่งเสี่ยงเฟิง แผนนี้ดีกว่าแผนการหลบหนีอื่นๆ และเขาสามารถใช้เป็นไพ่ใบสุดท้ายได้

อันที่จริงซ่งเหล่าซื่ออยากวางมือในช่วงสิ้นปีนี้หลังจากที่ได้รับส่วยจากพวกมาเฟียในท้องถิ่น เขาวางแผนที่จะบินไปฮ่องกงและใช้เงินซื้อเพื่อให้ตัวเองได้เป็นพลเมืองที่นั่น เขาตั้งใจไว้ว่าจะไม่กลับมาที่เมืองปิงอีก แต่ก็มาถูกตำรวจจับซะก่อน!

โชคดีที่ซ่งเหล่าซื่อวางแผนการหลบหนีเอาไว้ก่อนล่วงหน้า เขารู้สึกว่าอย่างน้อยแผนนี้ก็ประสบความสำเร็จ สำหรับเขาแล้ว เขาไม่ได้สนเรื่องการพูดพาดพิงถึงหัวหน้ามาเฟียคนอื่นๆ อยู่แล้ว เพราะยังไงเขาก็จะออกจากเมืองปิงและจะไม่ไปเป็นเจ้าพ่อของจังหวัดหลงเจียงอีกต่อไป

หัวหน้าจางรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ได้รับฟังจากซ่งเหล่าซื่อ ซ่งเหล่าซื่อรวบรวมหลักฐานเพื่อเอาผิดพวกหัวหน้ามาเฟียคนอื่นๆ จริงๆ หรอ? เป็นไปไม่ได้ หลี่ชุนลี่เป็นแค่รองหัวหน้าระดับเขตเท่านั้น เขาจะขอให้ซ่งเหล่าซื่อช่วยรวบรวมหลักฐานได้อย่างไร?

แต่หัวหน้าจางกลับคิดถึงแต่เรื่องหลี่ชุนลี่ เขาเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน เขาเป็นคนที่ได้รับการสนับสนุนดูแลจากหนึ่งในรองผู้บริหารตำรวจระดับจังหวัด หรือว่าซ่งเหล่าซื่อจะรู้จักกับรองผู้บริหารคนนี้?

ซ่งเหล่าซื่อเป็นสายลับนอกเครื่องแบบให้กับตำรวจจริงๆ หรือ?

หัวหน้าจางสั่งให้ลูกน้องไปติดต่อหลี่ชุนลี่ และในขณะเดียวกันเขาก็พยายามล้วงข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมจากซ่งเหล่าซื่อ เขาไม่สนว่าซ่งเหล่าซื่อจะเป็นสายลับนอกเครื่องแบบหรือไม่ เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าก็คือหลักฐาน

ด้วยหลักฐานเหล่านี้ การรักษาความปลอดภัยของทั้งจังหวัดจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ความประสงค์ของเขา แต่ยังเป็นความสำเร็จทางการเมืองที่สำคัญสำหรับเขาด้วย บางทีเขาอาจะได้รับการเลื่อนขั้นเพราะเรื่องนี้ก็ได้!

หัวหน้าจางยังถือว่าเด็กและเขายังอยากได้รับการเลื่อนตำแหน่ง

ซ่งเหล่าซื่อเห็นว่าหัวหน้าจางมีปฏิกิริยาตอบสนองจากการพูดกระตุ้นของเขา เขาจึงแอบรู้สึกดีใจ เมื่อหัวหน้าจางรับปากกับเขาว่าเขาจะปลอดภัย เขาจะเริ่มบอกหลักฐานเกี่ยวกับหัวหน้ามาเฟียคนอื่นๆ โดยเริ่มจากหวังขาเป๋

หากไม่ใช่เพราะหวังขาเป๋ ป่านนี้เขาคงได้ควบคุมทั้งจังหวัดหลงเจียงไปแล้ว และเมื่อปีที่แล้วเขาคงไม่เดือดร้อน เขาสูญเสียผลกำไรไปจำนวนมาก ถ้าเขาไม่เสียผลกำไรพวกนี้ไป เขาก็คงได้บินไปฮ่องกงในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา และป่านนี้เขาคงได้เป็นพลเมืองของฮ่องกงไปแล้ว

.........

หวังขาเป๋ยังคงพยายามที่จะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แม้ว่าตำรวจจะมีหลักฐานมากมายที่เอาผิดกับเขาได้ แต่เขาเชื่อว่าลูกน้องของเขาจะไม่หักหลังเขาและพวกเขาก็จะคอยรับผลตอบแทนให้ มากสุดเขาก็ถูกจำคุกสักสองสามปี หลังจากที่ได้รับการปล่อยตัว เขาก็สามารถกลับไปรวมกลุ่มกับแก๊งของเขาได้เหมือนเดิม

ในขณะที่เขามองตำรวจผู้สอบสวนด้วยความรู้สึกเหมือนมีชัยชนะ หัวหน้าจางเดินเข้ามาในห้องและถามหวังขาเป๋สามคำถาม

สีหน้าของหวังขาเป๋ถอดสีทันที เป็นไปไม่ได้ มีคนไม่มากที่รู้เรื่องนี้ แล้วตำรวจรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? คนที่รู้เรื่องนี้ล้วนเป็นผุ้ติดตามคนสนิทของเขา และพวกเขาไม่มีวันหักหลังเขาแน่นอน ใครกันที่กล้าหักหลังเขา?

หัวหน้าจางไขข้อข้องใจให้เขา คนที่ให้การพาดพิงมาถึงเขาก็คือซ่งเหล่าซื่อ หลักฐานที่ซ่งเหล่าซื่อเก็บรวบรวมได้มีรายละเอียดมากกว่าของตำรวจเสียอีก หวังขาเป๋ไม่จำเป็นต้องให้การรับสารภาพ พวกตำรวจก็สามารถเอาผิดกับเขาได้โดยทันที!

หวังขาเป๋นึกไม่ถึงมาก่อนว่าคนที่ประกาศตัวเองอย่างเป็นทางการว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งจังหวัดหลงเจียงจะให้การพาดพิงมาถึงเขาและไม่ปฏิบัติตามกฎของวงการใต้ดิน ในเมื่อซ่งเหล่าซื่อไม่ปฏิบัติตามกฎก่อน เขาก็จะไม่ทนอีกต่อไป เขาก็มีหลักฐานมากมายพอที่จะเอาผิดซ่งเหล่าซื่อเหมือนกัน!

เมื่อเป็นเช่นนี้ หัวหน้ามาเฟียทั้งสองก็เริ่มขุดเอาหลักฐานมาให้หัวจางเพื่อสู้กันเอง ภายในเวลาไม่นาน ดำรวจก็สามารถรวบรวมหลักฐานที่เป็นรูปธรรมได้จำนวนมาก เมื่อรวมกับหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมมาได้เอง ศาลก็จะสามารถตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิตให้กับหัวหน้ามาเฟียอย่างน้อย 20 คนได้เลย

หัวหน้าจางถอนหายใจ แม้ว่าเรื่องนี้จะถือว่าเป็นความสำเร็จทางการเมืองครั้งยิ่งใหญ่ แต่ก็แสดงให้เห็นว่าในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ตำรวจล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่อย่างมาก มีอาชญากรรมเกิดขึ้นมากมาย และผู้กระทำความผิดก็สามารถลอยนวลมาได้จนถึงทุกวันนี้

แต่อย่างน้อยตอนนี้ผู้กระทำความผิดทั้งหมดก็ถูกจับแล้ว และตำรวจก็สามารถตอบคำถามเรื่องนี้กับประชาชนได้แล้ว

........

หลี่ชุนลี่เดินทางมาถึงสถานีตำรวจ และหัวหน้าจางก็ไม่ให้เขาเข้าพบซ่งเหล่าซื่อ ก่อนที่หัวหน้าจางจะสอบสวนหลี่ชุนลี่ เขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่างผิดปกติ หลี่ชุนลี่อยู่ในสภาพที่ดื่มเหล้ามา เขาจำได้ว่าตอนที่ลูกน้องของเขาเรียกให้หลี่ชุนลี่มาที่นี่ เลขาของเขาบอกว่าหลี่ชุนลี่กำลังออกไปปฏิบัติหน้าที่อยู่

โดยปกติคนที่ออกไปปฏิบัติหน้าที่ในงานราชการไม่ได้รับอนุญาตให้ดื่มเหล้า แล้วคนแบบนี้หรอที่ติดต่อให้ซ่งเหล่าซื่อเป็นสายลับ?

มีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับหลี่ชุนลี่คนนี้! หลังจากที่ตรวจสอบก็พบว่าหลี่ชุนลี่มีทรัพย์สินมูลค่ามากกว่าหนึ่งล้านหยวนที่เป็นชื่อของเขาเอง ซึ่งเงินเดือนตลอดทั้งชีวิตของเขาไม่มีทางถึงจำนวนเงินนี้แน่นอนแม้ว่าเขาจะเก็บเงินแบบไม่ใช้เลยสักหยวนเดียวก็ตาม แล้วเงินพวกนี้มาจากไหนกัน?

................

“ซ่งเหล่าซื่อ คุณไม่ต้องรอแล้วล่ะ หลี่ชุนลี่ไม่สามารถพิสูจน์รับรองได้ว่าคุณทำหน้าที่เป็นสายลับนอกเครื่องแบบ คุณไปติดสินบนเขาไว้หรอ? ไม่ใช่แค่ผมเท่านั้นนะ แต่พวกผู้พิพากษาและคนอื่นๆ ก็ไม่เชื่อว่าคุณเป็นสายลับนอกเครื่องแบบให้กับตำรวจ! คุณไม่รอดแล้วล่ะ!”

ซ่งเหล่าซื่อถึงกับเข่าอ่อน เขาหวังว่าหลี่ชุนลี่จะช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ของเขาได้ และเขาจะได้เดินออกจากสถานีตำรวจไปอย่างอิสระ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นเจ้าพ่อแห่งจังหวัดหลงเจียงอีกต่อไป แต่ศัตรูของเขาทุกคนก็น่าจะตายหมดแล้ว และเขาก็จะได้บินไปฮ่องกงเพื่อใช้ชีวิตหลังจากวางมือได้อย่างมีความสุข! แล้วทำไมเรื่องมันถึงกลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ? แผนการหลบหนีทั้งหมดของเขาไร้ประโยชน์หมดเลยงั้นหรือ?

“เป็นไปไม่ได้ หัวหน้าจาง ลองนึกถึงสิ่งที่ผมทำไปทั้งหมดให้กับเมืองปิงสิครับ ถ้าไม่ใช่เพราะผม เมืองเก่าแก่แห่งนี้จะได้รับการพัฒนาปรับปรุงใหม่จนประสบความสำเร็จได้มากมายขนาดนี้หรอ? ผมช่วยเก็บเงินชดเชยค่าขับไล่ผู้เช่าให้กับรัฐบาลตั้งเท่าไหร่? นอกจากนี้ อัตราอาชญากรรมในจังหวัดในช่วงที่ผ่านมาก็ต่ำลงเพราะว่าผมได้ยึดปืนยาวล่าสัตว์ และผมยัง.....”

ซ่งเหล่าซื่อยังคงตะโกนโวยวายต่อไป แต่หัวหน้าจางหันหลังกลับและเดินออกไปจากห้อง สำหรับหัวหน้าจางแล้ว ซ่งเหล่าซื่อก็แค่คนที่ตายแล้ว! หัวหน้าจางยังต้องสั่งการให้ลูกน้องของเขาไปจับพวกหัวหน้ามาเฟียที่เหลือในจังหวัดมาให้ได้โดยเร็วที่สุด!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด