ตอนที่แล้วตอนที่ 139 ยืมมีดคนอื่น (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 141 การเชื่อมต่อ (FREE)

ตอนที่ 140 เข้าไปยังหอสมบัติสวรรค์ (FREE)


ยามเช้าที่สดใส สายลมพัดผ่านบนท้องฟ้า

ฟาง เจิ้งจือ สวมชุดสีน้ำเงินยืนอยู่กับกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ และมองดูสิ่งที่อยู่ด้านหน้าเขา ท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง

"น...นี่คือหอสมบัติสวรรค์ !?"

"ใช่แล้วนี่ก็คือ หอสมบัติสวรรค์! สวรรค์ได้ประทานมันลงมาให้ เมื่อจักรพรรดิของอาณาจักรเซี่ยได้ขึ้นครองราชย์ เขาก็ได้สร้างที่นี่ขึ้น บรรพบุรุษของข้านั้นเป็นคนฉลาด ดังนั้นจักรพรรดิจึงมอบหมายให้บรรพบุรุษข้าเป็นผู้ปกป้องสถานที่แห่งนี้ จึงได้มีกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ขึ้นในทุกวันนี้! " ฉือ เฮา ชี้ไปยังหอขนากใหญ่และพูดขึ้น

 

ที่ที่ ฉือ เฮา ชี้ไปนั้น...

เป็นเหมือนหินสีดำขนาดใหญ่และมีความสูงหลายเมตร ส่วนล่างมีขนาดกว้าง ส่วนบนสุดมีขนาดแคบ รูปร่างคล้ายเจดีย์ มันเหมือนเอาหินรูปวงกลมมาวางต่อซ้อนกันเป็นชั้นๆ

และถ้าใครมาดูด้านบนสุดของหินนั้น จะพบกับรูปที่แปลกประหลาด

มันดูเหมือนเจดีย์ แต่ไม่ใช่เจดีย์ ดูเหมือนหอคอย แต่ไม่ใช่หอคอย ตรงกลางของภาพมีคำว่า "สมบัติ" เขียนไว้ชัดเจน

"หอเต๋าสวรรค์เป็นแบบนี้เองงั้นหรือ?" ฟาง เจิ้งจือ ตกใจเป็นอย่างมาก ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นกองหินที่สร้างขึ้นมาเพื่อตกแต่งสถานที่เท่านั้น

ทั้งหมดที่เขาเห็นตอนแรก คือเหมือนมีหินวางซ้อนกันหลายๆชั้นบนสวนหลังบ้าน เพราะมันวางๆรวมอยู่กับภูเขาปลอมๆที่ถูกสร้างขึ้นมา

แน่นอน…

ตอนแรกมันถูกทำลายไปแล้ว แต่ก็สร้างขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามเขายังคงจำได้ถึงการเข้าไปยังมิติพิเศษ การที่จะเข้าไปได้ ต้องเข้าผ่านประตูหิน

แต่หอสมบัติสวรรค์นี้จะเข้าไปได้ยังไงกัน?

ฟาง เจิ้งจือ มีความสงสัยเกิดขึ้นในใจ จากนั้นเขาก็มองไปที่ เหยียน ซิว ซึ่งยืนอยู่ข้างๆเขา

การแสดงออกของ เหยียน ซิว ดูสงบนิ่งอย่างมาก เขาไม่มีความวิตกกังวลอะไรเลยแม้แต่น้อย

นอกจาก เหยียน ซิว แล้วเหล่านักปราชญ์คนอื่นๆต่างก็เตรียมตัวเข้าสู่หอสมบัติสวรรค์ด้วยความสงบ ราวกับทุกคนรู้จักสิ่งนี้อยู่แล้ว ไม่มีใครรู้สึกตกใจเลย

 

"เอาล่ะ ... ข้าคงคิดมากเกินไป!" ฟาง เจิ้งจือ หยุดคิดและฟัง ฉือ เฮา ต่อไป

จากนั้น ฉือ เฮา ก็เริ่มอธิบายถึงความเป็นมาของหอสมบัติสวรรค์ ในประวัติศาสตร์ หินสีดำก้อนนี้ก็ถูกวางไว้ที่นี่ ไม่มีใครสามารถเคลื่อนย้ายได้

จากนั้นเขาได้อธิบายเกี่ยวกับการค้นพบ และประวัติต่างๆ

หลังจากเขาพูด ฟาง เจิ้งจือ ก็เข้าใจมากยิ่งขึ้น ภาพที่อยู่ตรงในจุดบนสุดของหินนั้นไม่ได้ถูกวาดขึ้นโดยมนุษย์ แต่มันถูกตราเอาไว้โดยเต๋าสวรรค์ มันจึงถูกเรียกว่าหอสมบัติสวรรค์

 

ชื่อมันทำให้ผู้คนสับสน! ฟาง เจิ้งจือ คิดว่ามันก็เป็นเพียงหินเรียงๆกัน ทำไมต้องไปตั้งชื่อให้มันด้วย

แต่เขาก็เข้าใจ

มิติพิเศษถูกสร้างขึ้นจากมนุษย์ แต่ขณะเดียวกันสวรรค์ก็สร้างมิติคู่ขนานขึ้น นี้เป็นความแตกต่างระหว่าง มิติพิเศษ กับ มิติคู่ขนาน แล้วมิติคู่ขนานที่สร้างขึ้นโดยสรวงสวรรค์มันมีความพิเศษยังไง?

 

ขณะที่ ฟาง เจิงจือ กำลังคิด

เมื่อ ฉือ เฮา พูดจบ เขาก็นำหินสีดำออกมาหินที่เป็นส่วนหนึ่งของ หอสมบัติสวรรค์ รูปร่างของมันราวกับถูกตัดมาจากหอสมบัติสวรรค์

มื่อมองให้ดีๆ เขาสังเกตุเห็นช่องว่างที่มีรูปร่างคล้ายกับหินที่อยู่ในมือ ฉือ เฮา

 

"ตูมมม!"

เมื่อ ฉือ วางหินสีดำลงไปในช่องนั้น ก็เกิดการสั่นสะเทือนขึ้น

หลังจากนั้นก็เกิดรอยแตกขึ้นกลางอากาศตรงหน้าของพวกเขา

รอยแตกที่เป็นเหมือนหลุมดำ ไม่มีใครมองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน เห็นเพียงแต่แสงดาวระยิบระยับเท่านั้น

"ขอบคุณท่านราชัน ที่เปิดหอสมบัติสวรรค์เพื่อพวกเรา!" เมื่อ ลู่ ยู่เฉิน เห็นหลุมดำเกิดขึ้น เขาก็โค้งคำนับ ฉือ เฮา ในทันที แล้วก็ก้าวเข้าไปด้านใน

นักปราชญ์คนอื่นๆ ก็ค่อยๆตามเขาเข้าไป

ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ เหยียน ซิว และตระหนักได้ว่า เหยียน ซิว เองก็มองเขาอยู่เช่นกัน จากนั้นทั้งคู่ก็พยักหน้าให้กันและเดินไปข้างหน้า

 

แต่ ฉือ เฮา ก็ได้เดินมาบังเขาไว้

ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ ฉือ เฮา ด้วยความสับสน เขาไม่เข้าใจเลยว่า ฉือ เฮา เอามือมาปิดทางเขาทำไมกัน

"แม้ว่าข้าจะไม่ชอบเจ้า แต่ข้าก็ต้องเตือนเจ้าถึงบางอย่าง!" การแสดงออกของ ฉือ เฮา เปลี่ยนไปเป็นความจริงจัง

"ได้โปรดบอกข้า" ฟาง เจิ้งจือ คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าอย่างสุภาพ

"หอสมบัติสวรรค์นั้นสร้างขึ้นโดยเต๋าสวรรค์  หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าที่ด้านใน ข้าก็ไม่สามารถช่วยเจ้าได้! " ฉือ เฮา มองไปที่เหล่าคนที่เดินเข้าไปในหอสมบัติสวรรค์และพูดเตือน

"ขอบคุณท่าน..ที่เตือนข้า."

"นอกจากนี้ ภายในหอสมบัติสวรรค์ความสามัคคีสำคัญที่สุด... "

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไร เขาเข้าใจดีว่า การร่วมมือกันนั้นเป็นเรื่องยาก

"สุดท้าย ... " ฉือ เฮา พูดด้วยความลังเล แต่ความลังเลก็หายไปอย่างรวดเร็ว "โชคของเจ้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่เมื่อคืนที่ผ่านมา ลู่ ยู่เฉิน ได้ประสบความสำเร็จบางอย่าง"

ฟาง เจิ้งจือ เงียบลงอีกครั้ง  เขาเข้าใจถึงความหมายที่ ลู่ ยู่เฉิน ได้ประสบความสำเร็จบางอย่าง ความสำเร็จนั้นไม่ได้หมายถึงการเข้าถึงระดับประทับศักดิ์สิทธิ์ และไม่ได้หมายถึงการเข้าถึงระดับผนวกดารา

แต่…

ลู่ ยู่เฉิน ได้เข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์!

ถึงตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ พึ่งเข้าใจว่าทำไม ฉือ เฮา ถึงได้ขวางทางเขา แต่เขาก็สับสนในเวลาเดียวกัน ว่า ฉือ เฮา จะขวางทางเขาทำไม

"ดูเหมือนว่าเจ้าจะสับสน จริงๆแล้วมันง่ายมากที่จะเข้าใจ ถ้าเจ้าไม่สามารถเอาชนะ ฉือ กูเหยียน ได้ ก็จะไม่เกิดอันตรายอะไรกับเจ้า ดีเสียอีกที่นางจะได้ไปหาคนอื่น  แต่ยังไงก็ตาม ถ้าเจ้าเอาชนะนางได้...ก็จะไม่มีอันตรายอะไรเช่นกัน! ถึงข้าจะคิดว่ามันเป็นไปได้ก็เถอะ!"   ฉือ เฮา มองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ พร้อมยิ้มออกมา

"ดูเหมือนคำพูดของ ฉือ กูเหยียน จะวิเศษจริงๆ สามารถเปลี่ยนความคิดของท่านราชันได้เพียงคืนเดียว!" เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ได้ยิน เขาก็เข้าใจได้ในที่สุด

ครั้งนี้ ฉือ เฮา หันมามอง ปากของเข้าอ้าค้างเล็กน้อย

กระทั่ง ฟาง เจิ้งจือ และ เหยียน ซิว เดินจากไป ฉือ เฮา จึงถอนหายใจออกมาเล็กน้อย "อะไรกัน เจ้าเด็กนี่ดูเหมือนจะมองเรื่องทุกอย่างออกอยู่แล้ว ข้าพลาดจริงๆ ... "

...

 

ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่า หอสมบัติสวรรค์นั้นเป็นเหมือนสิ่งที่สวรรค์มอบให้ มันเป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีกฎและการทดสอบของเต๋าแห่งสวรรค์ เช่นตอนที่เขาเข้าไปทดสอบในมิติพิเศษ มีการใช้พื้นที่ฝนอุกกาบาตและหน้าผา เพื่อทดสอบ

แต่เขาไม่คาดคิดว่ามันจะเป็นสิ่งที่สวยงาม สวนในฤดูใบไม้ผลิ

สะพานหิน ถนนโบราณ ลำธาร ...

และดอกไม้ที่บานสะพรั่งไปทั่วสวน ทั่วทุกแห่งถูกแต่งแต้มไปด้วยสีของฤดูใบไม้ผลิ ทำให้ผู้คนรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย ไม่มีอะไรนอกจากฉากของดอไม้ที่กำลังผลิบาน

นี่คือหอสมบัติสวรรค์?

"เวลาภายในหอสมบัติสวรรค์นั้นไม่เท่ากับด้านนอก" เหยียน ซิว พูด

"เร็วขึ้น?"

"ไม่! ช้าลง 1วันในหอสมบัติสวรรค์เท่ากับ 2 ชั่วโมงของโลกภายนอก "

"งั้นถ้าเราฝึกซ้อมในนี้ ความสามารถก็จะพัฒนาได้ไวกว่าเมื่อเทียบกับภายนอก?" ฟาง เจิ้งจือ พลางนึกถึงปัญหาใหญ่นั่นคือถ้า ฉือ กูเหยียน อยู่ในหอสมบัติสวรรค์เป็นเวลา 2 ปี ...

 

แล้วเขาจะสามารถทำอะไรได้อีก?

"ใช่ แต่มิติคู่ขนานสามารถเปิดได้มากสุกแค่ 3 วันต่อ 1 ปี "

"เท่ากับ 6 ชั่วโมงของโลกภายนอก?"

"ใช่"

ฟ้าง เจิ้งจือ พยักหน้า มีกฎมากมายของการสรรค์สร้างต่างๆบนโลก  เช่นกฎเกณฑ์นี้อาจจะดูพิเศษกว่าอย่างอื่น แต่ก็ไม่ได้ทำลายสมดุลของสิ่งอื่นไแต่อย่างใด

...

 

โดยธรรมชาติฝนจะตกมากในฤดูใบไม้ผลิ

ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม หยาดฝนตกลงสู่ดอกไม้ที่กำลังบาน โชคร้ายที่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้พกร่มมาด้วย ทำให้ฝนนั้นตกใส่หน้าเขาเต็มๆ

แน่นอนว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ใช่คนเดียวในหอสมบัติสวรรค์

แน่นอนว่าจ้องมีใครบางคนพกร่มมา คนนั้นคือ เหยียน ซิว

ฟาง เจิ้งจือ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าพัดสีทองของ เหยียน ซิว นั้นมีความสามารถเช่นนี้ มันถูกเปลี่ยนเป็นร่มในทันที ตัวพัดกลายเป็นร่ม ที่จับสีเงินกลายเป็นด้ามร่ม

"เจ้าไม่กลัวมันเปียกหรือไง?"

"มันจะนับเป็น 1 ในสมบัติของตระกูลเหยียนได้ยังไง ถ้าแค่ฝนยังไม่สามารถกันได้?" เหยียน ซิว ยื่นร่มไปบังหัว ฟาง เจิ้งจือ

"มันทำอย่างอื่นได้อีกไหม?"

"ใช่"

"มันสามารถเปลี่ยนเป็นดาบ?"

"ใช่มันสามารถทำได้" เหยียน ซิว ดูกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ค่อยๆหุบร่มเข้ามา กลายเป็นดาบที่แผ่รังสีเยือกเย็นออกมาแทน

"แล้วหอกละ?"

"มันสามารถทำได้" เหยียน ซิว ผลักดันเพดานของร่มทั้งหมดไปข้างหน้า จากนั้นตัวร่มก้กลายเป็นด้ามหอก กระโจมพับเข้าด้วยกันได้อย่างรวดเร็วและกลายเป็นด้ามหอก บนสูดกลายเป็นคมหอก

"..." ฟาง เจิ้งจือ มองไปยัง หอก ที่อยู่ในมือของ เหยียน ซิว พลางถอนหายใจออกมา "ข้าเชื่อแล้วว่าทำไมมันถึงเป็น 1 ใน 5 สมบัติของตระกูลเหยียน!"

หอกถูกเปลี่ยนเป็นร่มอีกครั้ง ทั้งสองเดินข้ามสะพานหิน ผ่านสวนดอกไม้ เดินอยู่ท่ามกลางดอกไม้ที่กำลังผลิบาน

 

อย่างไรก็ตามทั้งสองชมบรรยากาศอันสวยงามได้ไม่นาน

เพราะ ฟาง เจิ้งจือ และ เหยียน ซิว ไม่ได้อยู่ในนี้เพียง 2 คน

ดังนั้นหลังจากที่พวกเขาข้ามสะพานหิน ฟาง เจิ้งจือ และ เหยียน ซิว ก็หยุดเดิน พวกเขามองกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากที่บังทางอยู่ ฟาง เจิ้งจือ เห็นความคิดอันชั่วร้าย จากสายตาของพวกเขา

"พวกเจ้าไม่คิดจะชมบรรยากาศรอบๆ ก่อนต่อสู้กันหน่อยงั้นหรือ?" ฟาง เจิ้งจือ มองไปยัง ลู่ ยู่เฉิน ที่ยืนอยู่หน้าสุดของกลุ่มคนที่ยืนขวางทาง

"แล้วเจ้าคิดว่ายังไงละ?" ลู่ ยู่เฉิน ถามกลับ

"ก่อนหน้านี้ท่านราชันได้บอกว่าพวกเราควรทำงานร่วมกันเมื่อเข้ามายังหอสมบัติสวรรค์"

"แน่นอนข้ารู้ แต่ถ้าหายไปสักคนสองคนจะเป็นไรไป?" เปรียบเทียบกับตอนในงาน การแสดงออกของ ลู่ ยู่เฉิน แตกต่างออกไปอย่างชัดเจน

ตอนนี้การแสดงออกของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ ความเชื่อมั่น

เพราะตอนนี้เขาได้เข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์แล้ว!

 

เพจหลัก : Double gate TH

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด