ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSOJ บทที่ 1 โลกใบใหม่ /ตอนที่ 2 สังเวียนแห่งการเกิดใหม่ (2)

SOJ บทที่ 1 โลกใบใหม่ /ตอนที่ 1 สังเวียนแห่งการเกิดใหม่ (1)


เด็กหนุ่มคนนี้เป็นอัจฉริยะด้านการต่อสู้

 

เขารู้ว่าจุดตายอยู่ตรงไหน ต่อยแบบไหน ต้องต่อยหรือผลัก จะคว่ำศัตรูตรงหน้าได้อย่างไร เขารู้ได้ด้วยสัญชาตญาณ ไม่ได้ผ่านการฝึกใดๆ

 

แม้แต่ในตอนอายุยังน้อย ส่วนสูงที่จัดว่าเตี้ยและการไร้พละกำลังไม่ได้ส่งผลใดๆต่อพรสวรรค์ของเขา

 

เขาเป็นอัจฉริยะโดยกำเนิด

 

ตอนอายุ 5 ขวบ เขาสู้ชนะ เด็ก 8 ขวบ ในสนามเด็กเล่น

 

ตอนปอสอง เขาสู้ชนะเด็กปอสี่

 

นั่นทำให้แม่เขาเป็นห่วงมาก เธอกลัวว่าเขาจะบาดเจ็บ จากการต่อยตีกับคนอายุมากกว่า

 

นี่เป็นการเข้าใจผิด

 

ตอนปอหก เขาสู้กับเด็กอายุ 16 ถึง 5 คน พวกนั้นพยายามจะไถเงินเขาที่ร้านเกม ผลที่ได้คือ หนังตาเขาฉีกขาด เลือดไหลเป็นทาง แต่ฝั่งที่บาดเจ็บสาหัสกลับเป็นฝั่งของเด็กอายุ 16 มีเด็กคนหนึ่งต้องตาบอด และเด็กอีกคนหนึ่งที่ตายในที่เกิดเหตุ

 

ในเมื่อเขายังเป็นผู้เยาว์โทษที่ได้รับจึงไม่หนักหนามาก

 

เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดความกลัวในจิตใจคนเป็นแม่

 

เด็กอายุ 13 ทำร้ายเด็กอายุมากกว่าจนตาย แถมเขาไม่ได้ดีแต่ใช้กำลัง

 

หลังจากการสืบสวน พบว่าเด็กที่ตายมีสาเหตุการตายมากจากการโดนจับทุ่ม

 

เขาสามารถจับคนๆหนึ่งทุ่มได้โดยไม่ต้องเรียนยูโดมาก่อน

 

นั่นทำให้แม่ของเขารู้ว่าความสามารถในการต่อสู้ของลูกชายเธอนั้นไม่ธรรมดา

 

ถ้าเขาโตขึ้น จะกลายเป็นคนที่อันตรายแค่ไหนนะ? เขาจะฆ่าใครอีกหรือเปล่า? เขาอาจต้องใช้ชีวิตเป็นอาชญากรก็ได้

 

แม่ของเขาอ้อนวอนเขาทั้งน้ำตา

 

ได้โปรด

 

อย่าทำร้ายใครอีกเลย อย่าไปสู้กับใคร

 

ถ้ามีใครมาตีลูก ก็ปล่อยให้เขาตีไป

 

ถ้าเจออะไรไม่ยุติธรรมกับตนเอง ก็แค่ยอมรับมันไว้ คิดเกี่ยวกับผลของการฆ่าใครคนหนึ่ง

อย่าทำร้ายใคร

 

ตัวลูกเป็นเหมือนอาวุธร้ายแรง

 

จากนั้นแม่ของเขาก็ไม่ให้เขาเข้าร่วมกิจกรรมที่เสริมความสามารถทางกายภาพใดๆ

 

เขาดูรายการกีฬาไม่ได้เสียด้วยซ้ำ

 

ในเมื่อแม่เป็นทุกอย่างสำหรับเขา เพราะเขาไม่มีพ่อ ดังนั้นเขาจึงทำตามคำขอของเธอแต่โดยดี

 

หลังจากนั้น เด็กชายที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในความสามารถทางกายภาพของตนเอง ก็ไม่แสดงความสามารถของตนออกมาอีกเลย ในระหว่างการเรียนพละ เขาจะโกหกว่าตนเองป่วยและนั่งอยู่เฉยๆ

 

ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังตัวสูงใหญ่และเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ

 

ตอนนี้ ชอ ฮโย เรียนอยู่ชั้นมอห้า เขาไม่ได้เรียนเก่งหรือมีเพื่อนมากมาย

 

เขาสูง 181 เซนติเมตร ร่างกายเขาแข็งแรงและมีกล้ามเนื้อให้เห็น แม้เขาจะไม่เคยออกกำลังกาย

 

เขาไม่ได้แสดงความสามารถใดๆของตนเองออกมาเลย

 

เขามักจะนั่งอยู่เงียบๆคนเดียวและมองออกไปนอกหน้าต่างและก็มักจะส่ายหัวไปมาเหมือนเป็นโรคชักกระตุก

 

เขาดูไม่ต่างจากคนโง่ ถ้ามีใครมาหาเรื่องเขา  เขาจะยิ้มแห้งๆและพูดว่า ขอโทษ

 

มันทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายของพวกขี้รังแก

 

เขาย้ายมาเรียนที่โรงเรียนนี้ในช่วงต้นการศึกษาของมอห้า

 

ครั้งแรกที่พวกขี้รังแกเห็นร่างกายใหญ่โตของเขา พวกนี้ยังเกรงกลัวอยู่

 

แต่เมื่อเห็นว่าเขาไม่ตอบโต้ไม่ว่าจะทำอะไรพวกมันก็เริ่มจะกลั่นแกล้งเขาเหมือนเขาไปติดเงินมันไว้อย่างนั้นแหละ

 

มีพวกขี้รังแกอยู่สามคนในชั้นเรียนของ ชอ ฮโย

 

"เฮ้! ไอ้ฮโย!"

 

คนแรกชื่อว่า ไอ้รู้มาก ลี มิงจี

 

คัง มินโฮ เรียกมันว่า "ไอ้รู้มาก" ด้วยความที่มันรู้ไปทุกเรื่องแต่ไม่ได้เก่งอะไรในด้านการต่อยตี

 

มันสูง 170 เซนติเมตร ร่างกายผอมบาง มันมักจะมาทักทาย ชอ ฮโย ด้วยการต่อย ทุกครั้งที่มันเห็นเขา มันมักจะบอกว่า ชอ ฮโย ตัวใหญ่ ทำให้ต่อยสนุก

 

ผัวะ!

 

"โอ้ย!"

 

 

เมื่อ ชอ ฮโย ย่อตัวลง เพราะความเจ็บจากการโดนต่อย ลี มิงจี ก็ล็อคหัวเขาไว้ใต้วงแขนตนเอง

 

"ไอ้ฮโย กินข้าวเช้ากับอะไรมาหื้ม?"

 

มันถามอย่างรักใคร่ ในขณะที่ต่อยหัวเขาไปด้วย

 

"วันนี้ไม่ได้กินน่ะ ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ ฮ่าฮ่า"

 

ชอ ฮโย เจอแบบนี้ทุกๆวัน แต่เขาก็ยิ้มรับมาตลอด

 

"ฉันเห็น ฮโย แอบมอง มินจี ตอนที่เธอเดินเข้าห้องเรียนมานะ คิดจะทำอะไรกับเธอหรือเปล่า? ฉันควรอนุญาติให้แกทำไหมนะ?"

 

จง มินจี เธอสูง 170 เซนติเมตร เธอเป็นที่รู้จักเพราะหุ่นที่ดีและใบหน้าไร้เดียงสา

 

เธอเป็นนักเรียนหญิงเพียงคนเดียวที่คุยกับ ชอ ฮโย

 

เธอเป็นนักเรียนอันดับต้นๆ และเป็นหัวหน้าชั้น

 

มินจี เป็นเพียงคนเดียวที่หยิบยกหัวข้อการกลั่นแกล้งที่ ฮโย โดน มาถกเถียงเพื่อหาทางแก้

 

แต่สุดท้ายเมื่อเห็นว่าไม่เป็นผลเธอก็ทอดทิ้งเขาเหมือนกับคนอื่นๆอยู่ดี

 

"ฮ่าฮ่า เปล่าหรอก ไม่ใช่แบบนั้น"

 

"อะไรไม่ใช่แบบนั้น? หื้ม? อะไรไม่ใช่แบบนั้น? หือ? ไอ้ ฮโย? ว่าไงหื้ม? เขินจนตัวสั่นไปหมดแล้วสิท่า?"

 

ลี มิงจี ต่อยไปที่ท้องของ ชอ ฮโย

 

ชอ ฮโย ไม่มีเพื่อน จึงไม่มีเพื่อนร่วมชั้นคนไหนคิดจะทำอะไรกับเหตุการนี้

 

ชอ ฮโย ติดอยู่ใต้วงแขนของ ไอ้รู้มาก ไปจนกระทั่งเริ่มคาบเรียนแรก

 

หลังจากเริ่มคาบเรียนแรก คัง มินโฮ เรียก ชอ ฮโย ไปหา

 

"เฮ้ มานี่"

 

คัง มินโฮ สูง 190 เซนติเมตร กระดูกหนา กล้ามใหญ่

 

เขาเป็นนักสู้ที่เก่งที่สุดรองจาก ชอ จุนซัง เขาต้องการเฉลยการบ้านวิชาเลขของวันนี้จาก ชอ ฮโย

 

"อ๋อ เอาไปสิ ฮ่าฮ่า"

 

ชอ ฮโย หัวเราะแบบพิลึกๆ เขาส่งการบ้านวิชาเลขให้ คัง มินโฮ ไป

 

"รอบนี้แสดงวิธีทำได้ชัดเจนหรือเปล่า?"

 

รอบที่แล้วที่มินโฮลอกการบ้านไป เขาถูกครูทำโทษ รอบนั้น ชอ ฮโย ถูกเรียกไปต่อยท้อง ถึง 3 ครั้ง

 

"อ๋อ จัดการให้เรียบร้อยเลยล่ะ ฮ่าฮ่า"

 

"ดีมาก"

 

คัง มินโฮ พูด ก่อนจะหันไปทางอื่น ปกติแล้วเขาไม่ค่อยทำร้าย ชอ ฮโย ด้วยตัวเองหรอก

 

เมื่อคาบเรียนที่สองจบลง เหล่านักเรียนต่างก็หิวกันหมด

 

"กิลโซ! กิลโซ! อยู่ไหนเนี่ย? กิลโซ! ไอ้งั่งนั่นมันหายไปไหน!"

 

ปัง!

 

ทันทีที่ครูออกจากห้องไป ก็มีชายคนหนึ่งเดินมาจากหลังห้องพร้อม เรียกชื่อ กิลโซไปด้วย

 

เขาต่อยไปที่หลังของกิลโซหนึ่งที

 

เขาชื่อ แบ ฮยุนซุง สูง 175 เซนติเมตร ชอบเล่นฟุตบอล และมีความคล่องแคล่วว่องไว เป็นคนพูดจาหยาบคาบ และอารมณ์ร้อน

 

ชายที่ถูกต่อยเข้าที่หลัง ชื่อว่า ยัง กิลโซ เขามีวรรณะต่ำกว่า ชอ ฮโย เสียอีก

 

เขาสูง 162 เซนติเมตร ผิวดำ และผอม มักจะทำมือสั่นบ่อยๆ

 

"ไองั่ง ไปซื้อขนมปังหน้าพิซซ่ามาเดี่ยวนี้!"

 

เมื่อ ฮยุนซุง พูดอย่างนั้น มิงจี ก็เข้ามาร่วมวงด้วย

 

"ซื้อให้ฉันด้วย"

 

มีบางวันที่พวกมันจะให้เงินกิลโซไปซื้อของ แต่จากท่าทีที่ในตอนนี้ของพวกมันก็พอจะเดาได้ง่ายๆว่า กิลโซต้องเป็นคนจ่าย

 

ในช่วงพัก หลังจากคาบเรียนที่สอง จะไม่มีใครยุ่งกับ ชอ ฮโย

 

เขาจึงนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง

 

เขากำลังนึกภาพ ลี มิงจี อยู่ในหัว นึกภาพตอนที่ ลี มิงจี เหวี่ยงหมัดใส่เขา

 

เขาไม่ได้โกรธอะไรเลย

 

'ทำไมหมอนั่นถึงต่อยแบบนั้นล่ะ?'

 

(คำพูดภายใต้เครื่องหมาย ' แทนการคิดในใจของตัวละคร ไม่ได้พูดออกมา)

 

เป็นคำถามที่เรียบง่าย

 

การต่อยของ ลี มิงจี ไม่มีความแรงแม้แต่น้อย นั่นเป็นเพราะท่ายืนของเขามันเหยาะแหยะ

 

เมื่อเขาเหวี่ยงหมัด เขาขยับไหล่ไม่มากพอ

 

แถมการใช้ข้อมือและการเหวี่ยงหมัดที่ตีวงกว้างทำให้มันไม่โดนเป้าหมายอย่างแม่นยำและสิ้นเปลืองพลังงาน นอกจากนั้นยังไม่พอ ข้อมือเขามันยังสั่นไปมาอีกด้วย

 

เอาตามตรง ถึง ชอ ฮโย จะโดนต่อยท้องเข้าเต็มๆ มันก็ไม่ได้เจ็บอะไรมาก

 

เขาก็แค่แกล้งทำว่ามันเจ็บ

 

'อย่างน้อยหมัดของ คัง มินโฮ ก็ค่อนข้างดี'

 

ถึงอย่างนั้นหมัดของ คัง มินโฮ ก็ยังทำตามความคาดหวังที่เขามีไม่ได้

 

ชอ ฮโย วาดภาพการต่อยที่มีประสิทธิภาพที่สุดขึ้นมาในหัว

 

กล้ามเนื้อที่ซ่อนอยู่ในร่างกายเขากระตุก

 

ถึงเขาจะไม่ได้ออกกำลังกายเลย กล้ามเนื้อเขาก็ยังก่อตัวขึ้นมาจากการจินตนาการถึงการต่อสู้ของเขา

 

'ไม่ ฉันทำไม่ได้'

 

ชอ ฮโย ส่ายหัวอย่างช้าๆ

 

'จะคิดอะไรแบบนี้อีกไม่ได้...'

 

เขาจึงนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง เขามองไปที่ท้องฟ้า อย่างสิ้นหวัง

 

แต่ผ่านไปไม่นาน เขาก็จะกลับมาคิดเรื่องการต่อสู้อีก

 

'มันจะออกมาเป็นอย่างที่คิดไหมนะ?'

 

'ถ้าฉันได้ต่อสู้เข้าจริงๆ จะชนะไหม?'

 

พอเขาเริ่มรู้ตัวว่าคิดอะไรอยู่ เขาก็จะเริ่มส่ายหัวอีกครั้ง

 

เขาพยายามจะขจัดความคิดพวกนี้ออกจากหัว

'ไอ้บ้าเอ้ย เป็นบ้าอะไร? แกเป็นฆาตกร จะสู้ไปทำไมอีก? แกต้องชดใช้บาปที่ทำไปตลอดชีวิตนั่นแหละ'

 

ชอ ฮโย ที่ภายนอกกำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง กำลังเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงภายในจิตใจ

 

‘…ถึงอย่างนั้น.. ฉันก็ยังสงสัย....’

 

ชอ ฮโยนั่งเท้าคาง กล้ามเนื้อไหล่ของเขา กระตุก และเคลื่อนไหวไปมา

 

‘…ทำไมคนอื่นๆถึงอ่อนแออย่างนี้’

 

เขามองออกไปนอกหน้าต่าง และเริ่มส่ายหัวอีกครั้ง

 

หัวหน้าห้อง จุง มินจี มองไปที่ ชอ ฮโย ด้วยความสงสาร

 

'ถ้าเขาไม่ส่ายหัวบ่อยขนขาดนี้ เขาคงไม่ถูกรังแกหรอก...'

 

เธอหันกลับมามองหนังสือตรงหน้าตนเอง

 

'น่าโมโหจริง...'

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด