ตอนที่ 85 หลุมพราง (FREE)

ไม่ไกลเกินไปภายใต้ศาลา เหยียน ซิว ผู้อยู่ในชุดผ้าไหมอันสง่างาม กำลังมองฉากที่ขึ้นข้างหน้าบึงน้ำแห่งความสงบ แต่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา

“เพื่อนของนายน้อยช่างเป็นคนมีชีวิตชีวาเสียจริง เสียดายที่เขาดันไปเป็นศัตรูกับคนที่ไม่ควรเข้า!” ชายรูปร่างแข็งแกร่งใบหน้าเต็มไปด้วยหนวด ยืนอยู่ข้างๆ เหยียน ซิว ถอนหายใจออกมาเบาๆ

เหยียน ซิว ไม่พูดอะไร เดินออกไปเงียบๆ

“นายน้อย ต้องการจะช่วยเขางั้นหรือ?” เขามองไปยัง เหยียน ซิว เผยความตกใจออกมา แต่เขาก็ไม่สามารถห้ามได้ทันแล้ว

“ท่านผู่ของข้ากล่าวเสมอว่า เราควรช่วยเหลือสหาย ยามเขายากลำบาก!” เหยียน ซิว ไม่ได้ตอบออกมาตรง แต่คำตอบนั้นก็บอกเจตนาของเขาได้อย่างชัดเจน

 

"แต่คนที่เขาเป็นศัตรูคือ ฉือ กูเหยียน!" ชายรูปร่างแข็งแกร่งใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราเตือน

คนทั้งอณาจักรต่างรู้กันดีว่า ฉือ กูเหยียน นั้นเป็นตัวแทนของอะไร ความเก่งกาจของนาง แม้แต่จักพรรดิยังมิกล้าบีบบังคับ

"แล้วไงล่ะ?" เหยียน ซิว โต้กลับ

ชายรูปร่างแข็งแกร่งใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครา ผงะไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมา นายน้อยของเขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้ว

เขารู้สึกว่านายน้อยของเขาได้เติบโตขึ้นแล้ว อย่างน้อยก็รู้จักมิตรภาพระหว่างเพื่อน

...

ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดที่จะไปจากที่นี่ตั้งแต่เนิ่นๆ ในเมื่อเขาคิดจะโผล่มาที่นี่ เขาก็ไม่คิดจะจากไปอยู่แล้ว

คัง ซิงปิง ที่ผมและร่างกายของเขาเปียกไปด้วยน้ำจากบึง ยืนขวางหน้าเขาอยู่ ภาพลักษณ์อันหล่อเหลาในตอนแรกของเขาได้หายไปอย่างสมบูรณ์

ที่เห็นคือ..

ราวกับหนูสกปรกตัวหนึ่งที่พึ่งหลุดออกมาจากท่อ

 

“วันนี้ ข้าอยากเห็นเหลือเกิน ว่าเจ้าจะกล้าหัวเราะไปอีกนานแค่ไหน!” คัง ซิงปิง ไม่สามารควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้

ในความเป็นจริง ใครก็ตามที่กำลังดื่มด่ำกับรรยากาศอยู่ดีๆดันถูกผลักตกน้ำไป ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทนได้

ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นคนที่อยู่ในทำเนียบมังกซ่อน แสดงว่าเขานั้นเป็นผู้มีพรสวรรค์ท่ามกลางผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์คนอื่นๆในอณาจักร

 

“พี่จาย!” เสียงดังขึ้นที่ด้านหลังของ คัง ซิงปิง จากนั้นชายคนหนึ่งที่สวมชุดผ้าไหมสีม่วง ดวงตาราวกับเป็นขีดเล็กๆขีดหนึ่ง ก็โผล่ออกมาข้าง คัง ซิงปิง

“นั่น จาย หยงเฟิง!”

“อันดับ 56 บนทำเนียบมังกรซ่อน จาย หยงเฟิง!”

"ข้าเคยได้ยินมาว่าตอนนี้ความสามารถของเขาอยู่ในระดับประทับศักดิสิทธิ์ขั้นปลายแล้วด้วย!”

เมื่อนักปราชญ์คนอื่นๆเห็นชายหนุ่มในชุดผ้าไหมสีม่วงปรากฎตัวออกมา พวกเขาต่างให้ความสนใจในทันที เพราะมันต้องเป็นฉากที่หาชมได้ยากแน่นอน

อย่าบอกนะว่าพวกเขาคิดจะสู้กัน ก่อนที่การทดสอบกฎแห่งเต๋าจะเริ่มเสียอีก?

 

“ถ้าพี่จายคิดจะมาที่นี่เพื่อชมเฉยๆละก็ข้าก็ยินดี แต่ถ้ามาช่วยละก็ ข้าเชื่อว่าไม่จำเป็นเลยแม้แต่น้อย!” คัง ซิงปิง มองไปยัง จาย หยงเฟิง ท่าทีของเขาดูไม่ได้ยินดีเท่าไหร่

 

ใบประกาศจับ ทำให้เหล่านักปราชญ์ต่างมารวมตัวกันที่แม่น้ำแห่งความสัตย์

ดังนั้นใครที่สามารถจัดการกับ ฟาง เจิ้งจือ ได้เป็นคนแรก ต้องมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาแน่นอน

และแน่นอน ต้องทำให้ ฉือ กูเหยียน สังเกตุเห็นเขาในสายตาแน่นอน

คัง ซิงปิง ไม่ยอมปล่อยให้โอกาสดีๆเช่นนี้หลุดมือไปอย่างแน่นอน นอกจากนี้เพราะเขาถูกผลักตกน้ำโดย ฟาง เจิ้งจือ การปรากฎตัวของ จาง หยงเฟิง จึงไม่ใช่เรื่องดีแม้แต่น้อย

ทำให้ ฟาง เจิ้งจือ ได้ลิ้มรสความพ่ายแพ้ และในเวลาเดียวกันชื่อเสียงของเขาต้องโด่งดังและเอาชนะใจสาวงาม ฉือ กูเหยียน ได้แน่นอน

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า...น้องคังเข้าใจผิดแล้ว ข้ามาที่นี่เพื่อหยุดการต่อสู้ต่างหาก การทดสอบกฎแห่งเต๋าต่างหากคือการต่อสู้ที่แท้จริง!” จาย หยงเฟิง หัวเราะออกมาด้วยท่าทีอันสง่างาม

ตามปกติแล้วความสามารถของเขานั้นพอๆกับ คัง ซิงปิง แต่เรื่องผู้หญิงเขาเทียบไม่ติด ถ้า คัง ซิงปิง โด่งดังขึ้นมา มันไม่ใช่เรื่องดีกับเขาแน่ เขาจึงคิดจะหยุดการต่อสู้นี้ และฉวยโอกาสจับตัว ฟาง เจิ้งจือ ไปเอง

เป้าหมายของทั้งสองคนคือ ฟาง เจิ้งจือ แต่ทั้งสองคนก็มีเป้าหมายต่างกัน

เหมือนที่คนโบราณมักจะพูดกันว่า บนโลกนั้นมีผู้มีพรสวรรค์มากมายราวกับเม็ดทรายที่ทับถมกันอยู่ ไม่มีทางรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้...

คัง ซิงปิง ก็เขาใจถึงเจตนาร้ายของ จาย หยงเฟิง เขาหงุดหงิดมาก แต่เขาไม่มีทางเลือก ถ้าเขาไม่ได้แก้แค้นให้กับความอับอายขายขี้หน้าของเขาก่อนหน้านี้ จะพอใจได้อย่างไร?

 

“ถ้าข้าเป็นนายน้อยคัง ข้าต้องทำให้ จาย หยางปิง รู้ถึงความรู้สึกที่ต้องตกลงไปในบึงน้ำ หลังจากนั้นถึงค่อยมาคุยว่าหยุดการต่อสู้ดี หรือช่วยต่อสู้ดี!” ฟาง เจิ้งจือ ยืนอยู่หน้าทั้งสองคน พูดขัดขึเนมา

ดวงตาของ คัง ซิงปิง สว่างขึ้นอย่างฉับพลัน จาย หยงเฟิง ขยับตัวออกห่างทันที

ถ้าเขาตกลงไปในบึงด้วยละ?

คัง ซังปิง คิดว่าเป็นเรื่องที่ แต่คนที่แนะนำเขาคือ ฟาง เจิ้งจือ จึงอดรู้สึกแปลกๆไม่ได้

จาย หยงเฟิง จ้องมองไปทาง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความเย็นชา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงบ ก่อนจะค่อยๆยิ้มออกมา

ถ้า ฟาง เจิ้งจือ คิดจะทำให้เขาผิดใจกับ คัง ซิงปิง แล้วละก็ ฟาง เจิ้งจือ ประเมิณเขาต่ำไปแล้ว

 

“น้องคังเจ้าจะตกหลุมพรางไม่ได้นะ เจ้าต้องคิดดีๆ ฟาง เจิ้งจือ เป็นคนลักเจ้าลงไปในบึง ข้าอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเท่านั้น ได้โปรดน้องคังไตร่ตรองให้ดี!” จาย หยงเฟิง กล่าวเตือน

คัว ซิงปิง นิ่งไปทันที เมื่อเขามองไปทาง ฟาง เจิ้งจือ อีกครั้ง เหงื่อค่อยๆไหลออกมาจากแผ่นหลัง ถ้าไม่ใช่เพราะ จาย หยงเฟิง เตือนละก็ เขาคงตกหลุมพรางไปแล้ว

ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ทั้งสองคน ก่อนจะยิ้มออกมา ถอยหายใจในความคิดเบาๆ ดูเหมือนการจะถูกจัดอันดับอยู่ในทำเนียบมังกรซ่อน ต้องพอมีสมองอยู่บ้างเหมือนกันนะ เปรียบเทียบกับพวกชาวบ้านแล้วพวกเขาดูแข็งแกร่งกว่าอย่างชัดเจน

ดูเหมือนเขาหลอกล่อไม่สำเร็จสินะ?

ฟาง เจิ้งจือ เหม่อมองไปบนท้องฟ้ากว้าง

 

“ถ้านายน้อยคัง ไม่เชื่อคำพูดข้าละก็ ให้ข้าพนันไหมละ ตอนที่ จาย หยงเฟิง ปรากฎตัวออกมา เขาบอกว่าจะหยุดการต่อสู้ แต่ตอนนี้เขากลับบอกจะช่วยนายน้อยคัง มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล เรามาดูกันว่าถ้าข้าจากไปแล้ว เขายังจะคิดช่วยนายน้อยอยู่อีกหรือไม่?” เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ พูดเจาเขาหันหลังและเดินจากไป

คัง ซิงปิง ปากเดี๋ยวเปิด เดี๋ยวปิด เขาไม่ต้องการที่จะมาต่อล้อต่อเถียงกับ ฟาง เจิ้งจือ แต่ปล่อยให้ ฟาง เจิ้งจือ เดินจากไปอย่างนี้ เป็นเรื่องที่เขาไม่ต้องการให้เกิดขึ้น

เขาจึงเริ่มขยับตัว

 

“น้องคัง อย่าปล่อยให้เขาเข้าร่วมการทดสอบแห่งเต๋า...” เมื่อ จาย หยงเฟิง เห็น คัง ซิงปิง จะพุ่งตัวออกไป เขารีบเข้าไปหยุดทันที เพราะเขาต้องการเป็นคนแรกที่จับ ฟาง เจิ้งจือ ได้

สำหรับ คัง ซิงปิง?

ถึงแม้อันดับของเขาจะสูงกว่าแล้วยัง

ความสามารถของพวกเขานั้นแตกต่างกัน จาย หยงเฟิง เด่นด้านป้องกัน เขาจึงไม่จำเป็นต้องกลัว คัง ซิงปิง และเดินไปขวางทางไว้

คัง ซิงปิง เริ่มโกรธในทันที

คิดถึงคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ ก่อนหน้านี้

ดูเหมือนเจ้านั่นจะพูดถูก

ฟาง เจิ้งจือ หันหน้ามาดูอย่างฉับพลัน ก่อนจะพุ่งตัวไปหาทั้งสองคนในทันที

“นายน้อยคัง ให้ข้าช่วย!” ในตอนที่ ฟาง เจิ้งจือ ตะโกนออกมา เขาพุ่งตัวมาใกล้ถึงจุดที่ทั้งสองคนยืนอยู่

ขณะที่เขาเห็น ฟาง เจิ้งจือ กำลังพุ่งเข้ามา จาย หยงเฟิง ตื่นตระหนกทันที แย่แล้ว! ฟาง เจิ้งจือ จะโจมตีเขา เขาลังเล ก่อนจะตั้งท่าป้องกันทันที

 

เมื่อ คัง ซิงปิง เห็น ถึงแม้เขาจะไม่พอใจเท่าไหร่ แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ จาย หยงเฟิง ทำ เขาตัดสินใจจะยืนดูเฉยๆ

อย่างแรกให้ ฟาง เจิ้งจือ ต่อสู้กับ จาย หยงเฟิง จากนั้นเขาค่อยเข้าไปเอาผลประโยชน์ที่หลัง!

เมื่อคิดถึงตรงนี้รอยยิ้มค่อยๆปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขา

แต่ทันใดนั้นรอยยิ้มของเขาแข็งค้างไปทันที เพราะรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ส่งตรงมายังท้องของเขา

 

มองลงไปที่ท้อง เขาเห็นเท้าทั้งสองข้างกระทบเข้ากับหน้าท้องของเขา

“เจ้า..” คัง ซิงปิง ไม่เคยคิดฝันว่า ฟาง เจิ้งจือ จะลอบทำร้ายเขาแทน ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาพึ่งคิดจะร่วมมือกันจัดการ จาย หยงเฟิง กันอยู่หยกๆ

ไร้ยางอาย...

ไร้ยางอายเกินไปแล้ว!

 

แต่ไม่ว่า คัง ซิงปิง จะไม่พอใจขนาดไหน ร่างกายของเขาตอนนี้กำลังลอยอยู่บนอากาศด้วยแรงเตะของ ฟาง เจิ้งจือ ราวกับปืนใหญ่

 

“ตูม!”

เขาตกลงไปในบึงน้ำอีกครั้ง

ทุกอย่างเปลี่ยนไปรวดเร็วจน จาย หยงเฟิง ผงะไป เขาไม่เข้าใจ ทำไม ฟาง เจิ้งจือ อยู่ๆถึงเปลี่ยน้ป้าหมาย

อย่าบอกนะว่าเขาไม่ต้องการให้ข้าตกลงไปในน้ำ?

 

 

“ขอบคุณพี่จายมาก เราร่วมมือได้เข้าขากันดี นอกจากนี้พี่จาย ยังใจดีให้โอกาสข้าล้างแค้นอีกด้วย! คืนนี้เจอกันที่ถัตตาคารชมจันทร์!” ฟาง เจิ้งจือ โบกมือให้กับ จาย หยงเฟิง ก่อนจะเดินจากไปอย่างสง่ามงาม

....

....

ทิ้ง จาย หยงเฟิง ยืนอ้าปากค้างอยู่ริมยึงน้ำแห่งความสัตย์

 

เพจหลัก : Double gate TH