ตอนที่แล้วบทที่ 42 ร้องเพลงกับสาวงาม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 44 ลูกพี่ใหญ่ ! นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด !

บทที่ 43 ฉันคือคนน่ากลัวคนนั้น


บทที่ 43 ฉันคือคนน่ากลัวคนนั้น

แปล Tarhai

กลุ่ม https://www.facebook.com/groups/1743836472377756/

ลงตอนที่ 1-200 ราคา 200 ลงทุกวัน วันละ 6-7 ตอน

ติดต่อที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100002039138559

 

“พี่ใหญ่ลี่ พี่ร้องเพลงได้เพราะมาก ขออีกๆ!”

ภายใต้การร้องขอที่รุนแรงของจางเซี่ยวหยู่ ฉิงเฟิงร้องเพลงอีกมากกว่าสิบเพลง

จางเซี่ยวหยู่เมามายไปกับเสียงของเขา จนคอของฉิงเฟิงแห้งผากในที่สุด

"ไม่ไหวแล้ว ฉันจะไปพักหน่อย เจ้าอ้วนมาร้องแทนที"

ฉิงเฟิงส่งไมโครโฟนให้ลั่วเฮาและนั่งพัก

หลังจากร้องเพลงเป็นเวลานาน ลำคอของเขาแห้งผาก

"โอเคจัดให้ ฉันจะให้พวกคุณได้ยินเสียงของฉัน" ลั่วเฮาคว้าไมโครโฟนและเริ่มร้อง

แต่เขาร้องเพียงแค่ประโยคเดียว เขาก็ถูกหยุดโดยจางเซี่ยวหยู่เสียงของเจ้าอ้วนน่าเกลียดน่ากลัวเกินไป มันเลวร้ายยิ่งกว่าเสียงของหมูถูกเฉือด

"เจ้าอ้วนหยุดร้อง ฉันกลัวจะฝันร้ายตอนกลางคืน" จางเซี่ยวหยู่กลอกตาของเธอและส่งสายตาที่ดุร้ายไปที่เจ้าอ้วน

เจ้าหญิงสองคนปิดปากและแอบหัวเราะ พวกเธอเคยทำงานที่ KTVมาหลายปีแล้ว

(KTV คือชื่อเรียกสถานบันเทิงในจีนก็คือเด็กคาราโอเกะนั่นแหละ)

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินเสียงร้องที่แย่ขนาดนี้ มันฟังเหมือนเสียงเห่าหอนของผีและหมาป่า

"ลูกพี่ ฉันร้องเพลงได้เลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ ?" ลั่วเฮาคอตกและถามฉิงเฟิง

"ใช่ ชาตินี้นายอย่าร้องเพลงอีกเลย" ฉิงเฟิงพยักหน้าด้วยความเห็นอกเห็นใจ เสียงของเจ้าอ้วนนั้นเลวร้ายมาก เขาไม่สามารถทนต่อได้อีกต่อไป

ลั่วเฮาคอตกและวางไมโครโฟนลง

"สุดหล่อ , มาผ่อนคลายหลังจากร้องเพลงสักหน่อยไหม มาเล่นเกมกันเถอะคนแพ้จะต้องดื่ม" สาวสวยผมยาวเหม่ยน้อยหยิบชามขนาดเล็กขึ้นมา  เธอนั่งข้างฉิงเฟิงและพูดอย่างยั่วยวน

งานของเจ้าหญิงคือการร้องเพลงกับลูกค้าและให้ความบันเทิงกับพวกเขา พวกเธอสามารถให้ลูกค้าได้รับประโยชน์เล็กๆน้อยๆเช่นการแตะเนื้อต้องตัว แต่เป้าหมายหลักของพวกเธอคือทำให้ลูกค้าใช้จ่ายเงินมากขึ้น ซื้อเหล้าอื่นๆที่ KTV แห่งนี้ถ้าลูกค้าจ่ายเงินมากพอพวกเขาก็สามารถหิ้วพวกเธอเข้าโรงแรมได้

แน่นอน ผู้หญิงอย่างว่าที่หลับนอนกับแขกนั้นเปิดกว้างมาก ถ้าพวกเธอไปโรงแรมกับลูกค้าพวกเขาจะต้องป้องกันและซื้อถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรค

"บอกฉันสิว่ามันเล่นอย่างไร?"

ฉิงเฟิงถามด้วยความสนใจด้วยรอยยิ้มเมื่อเขาเห็นภาพลักษณ์ที่เย้ายวนใจของเหม่ยน้อย "เราจะต้องว่าเดาเล็กหรือใหญ่ หนึ่งสามหรือห้าเรียกว่าเล็ก สองสี่หรือหกจะเรียกว่าใหญ่ใครแพ้ต้องดื่มเบียร์"

เหม่ยน้อยพูดอย่างร่าเริงด้วยใบหน้าที่งดงามของเธอ

"โอเคฉันจะเล่นกับคุณสักหน่อย แต่ฉายาของฉันคือ 7 ครั้ง 1 คืน ฉันไม่เคยแพ้ใคร" ฉิงเฟิงยิ้มด้วยความมั่นใจและภาคภูมิใจ

"เจ็ดครั้งหนึ่งคืน ? ทำไมคุณไม่พูดว่าสิบสามครั้งหนึ่งคืนซะเลยละ ?"

เจ้าหญิงทั้งสองคนเหม่ยน้อยและหวานน้อยทั้งคู่กลอกตาขึ้น

แกร๊กๆๆ ...

เหม่ยน้อยวางลูกเต๋าลงในชามเขย่ามันสองสามครั้งแล้วถามว่า "ใหญ่หรือเล็ก?"

"เล็ก"

หูของฉิงเฟิงขยับเล็กน้อยและให้ความสนใจกับลูกเต๋าในชาม

ขนตาของเหม่ยน้อยกระพริบ เธอเปิดฝาขึ้น แสงแห่งความประหลาดใจปรากฏบนดวงตาของเธอ

สุดหล่อคนนี้โชคดีมาก เขาเดาได้ถูกต้องในครั้งแรกเหม่ยน้อยพึมพำในใจ

ผู้แพ้จะต้องยอมรับความพ่ายแพ้ เธอคว้าขวดเบียร์และรีบกระดกหมดขวด

พนักงานทั้งหมดที่ KTV ส่วนมากจะดื่มเก่ง

เธอวางลูกเต๋าลงในชามและเริ่มเขย่าอีกครั้ง

"สุดหล่อใหญ่หรือเล็ก?"

"เล็กเหมือนเดิม"

"คุณถูกอีกแล้ว ฉันดื่ม"

"สุดหล่อ ใหญ่หรือเล็ก?"

"ครั้งนี้ใหญ่"

"เวร ! คุณเป็นราชาการพนันหรือเปล่าเนี่ย คุณมีชนะทุกครั้งเลย" เหม่ยน้อยสบถด้วยความตกใจ

ฉิงเฟิงเดาได้ถูกต้องหลายครั้งติดต่อกัน จนเธอต้องดื่มเบียร์หลายขวดแล้วรู้สึกไม่สบายตัว

"น้องเหม่ย ฉันเอง”

หวานน้อยพูดขึ้นมาหลังจากที่เห็นเหม่ยน้อยดื่มหนักไปแล้ว เธอหยิบลูกเต๋ามาและเริ่มเล่นกับฉิงเฟิง

หลังจากสิบนาทีผ่านไป ...

หวานน้อยตะลึงฉิงเฟิงสามารถคาดเดาได้อย่างถูกต้องเหมือนเดิม เขาทายไม่ผิดแม้แต่เพียงครั้งเดียว หวานน้อยดื่มเบียร์เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับเหม่ยน้อยและรู้สึกเมา

"สุดหล่อ คุณเก่งมาก เราจะเล่นกันต่อได้ยังไง?"

เหม่ยน้อยและหวานน้อยทั้งคู่ต่างมองไปที่ฉิงเฟิงอย่างขุ่นเคือง พวกเธอวางแผนที่จะมอมเหล้าฉิงเฟิงแต่กลับกลายเป็นพวกเธอต้องดื่มทุกรอบ มันน่าอับอายมาก

เมื่อเธอเห็นว่าทั้งสองคนแพ้ฉิงเฟิง  จางเซี่ยวหยู่ก็เริ่มสนใจและเริ่มเล่นกับฉิงเฟิง

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอก็ต้องประสบกับความพ่ายแพ้อีกคน หลังจากดื่มเบียร์ไปสองสามขวดเธอก็ไม่อยากเล่นกับฉิงเฟิงอีก

"ลูกพี่เฟิง ฉันอยากลองเล่นกับพี่มั่ง"

เจ้าอ้วนไม่เชื่อและต้องการที่จะเล่นกับฉิงเฟิง แต่เขาก็แพ้พ่ายอย่างอดสูไปอีกคน

ฉิงเฟิงเป็นเหมือนพระเจ้าแห่งการพนันกลับชาติมาเกิดเขามอบความพ่ายแพ้ให้แก่ทุกคนในห้อง

เขาถอนหายใจยาวซึ่งทำให้คนอื่นๆยิ่งหดหู่มากขึ้น

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

หลังจากร้องเพลงฉิงเฟิง ลั่วเฮาและจางเซี่ยวหยู่ ก็ออกจาก Silver Diamond KTV ด้วยกัน

"ขอบคุณสำหรับวันนี้  มันเป็นวันที่มีความสุขมากที่สุดในชีวิตฉัน"

จางเซี่ยวหยู่มองไปที่ฉิงเฟิงด้วยแววตาที่พร่ามัว สายตาของเธอจ้องมองเขาด้วยแววตาแปลกๆ

"แค่เธอมีความสุขก็ดีแล้ว"

ฉิงเฟิงจับจางเซี่ยวหยู่และยิ้มเล็กน้อย เขาสามารถบอกได้ว่าจางเซี่ยวมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจและต้องการระบายออกวันนี้

ลั่วเฮาหันศีรษะอย่างเศร้าๆไปด้านข้างเมื่อเห็นการกระทำที่สนิทสนมของทั้งสองคน

สำหรับคนโสด มันเป็นความรู้สึกที่แย่ที่ไม่มีความรักกับเขา.....

"เพื่อน  หยุดอยู่ตรงนั้น! "

ฉิงเฟิงและจางเซี่ยวหยู่ เพิ่งเดินได้เพียงแค่ 50 เมตรเท่านั้นก่อนที่พวกเขาจะถูกกลุ่มอันธพาลขวางไว้

พวกอันธพาลย้อมผมหลากสีสันและถือไม้กอล์ฟอยู่ในมือ พวกเขาดูเหมือนจะเป็นคนอันตรายอย่างร้ายแรง

ผู้นำคือชายวัยกลางคนตัวสูง เขามีความสูงอย่างน้อย 1.9 เมตรเขามีกล้ามเนื้อและดูเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง

เขาคือคิงคองหัวหน้าแก๊งสามหยวน

ทำไมพวกคุณถึงอยู่ที่นี่?

เมื่อเธอเห็นพวกอันธพาลจางเซี่ยวหยู่ก็กลายเป็นเงียบขรึม ใบหน้าที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสาของเธอเต็มไปด้วยความกลัว

เธอรู้ว่าพวกอันธพาลเหล่านี้เป็นคนเลวและมักจะทำเรื่องไม่ดี

"สาวงาม นี่ไม่ใช่เรื่องของเธอ ถอยไปยืนห่างๆ มีบางคนจ่ายเงินให้เรามาหักขาคนที่ชื่อ ลี่ฉิงเฟิง"

คิงคองโบกมือและบอกให้จางเซี่ยวหยู่ถอยออกไป พวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อสั่งสอนฉิงเฟิง

"หวังโบ บอกให้พวกคุณมาใช่ไหม?"

จางเซี่ยวหยู่ฉลาดมาก เธอรู้ได้ในทันทีว่าเป็นหวังโบ หลังจากเรื่องทั้งหมดหวังโบ

ถูกไล่ออกจากบริษัท Ice Snow เนื่องจากฉิงเฟิง หวังโบเป็นคนเลวทรามและจะต้องมาแก้แค้นอย่างแน่นอน

"ถูกต้อง คนที่กล้าที่จะทำให้หวังโบโกรธต้องเจ็บปวดทรมานและรับผลที่ตามมา"

คิงคองยิ้มเยาะและยอมรับว่าพวกเขาถูกเรียกใช้โดยหวังโบ

"พี่ใหญ่ลี่ ฉันขอโทษ ฉันนำเรื่องยุ่งยากมาให้พี่อีกแล้ว วิ่งเร็ว!"

ขนตาของจางเซี่ยวหยู่กระพริบ ใบหน้าไร้เดียงสาของเธอเต็มไปด้วยคำขอโทษ

เธอรู้ดีว่าเหตุผลที่หวังโบพยายามสร้างปัญหากับฉิงเฟิงเป็นเพราะเธอ เธอผลักฉิงเฟิงและต้องการให้เขาหนี แต่เขาไม่ขยับตัว

"อย่ากังวลน้องสาวเซี่ยวหยู่ คนเหล่านี้เป็นแค่ไก่ป่วยๆ พวกเขาทำอะไรฉันไม่ได้"

ฉิงเฟิงแตะไหล่จางเซี่ยวหยู่และมองเธออย่างนุ่มนวล

"เพื่อน นายยโสเกินไปมั้งฉันจะสั่งสอนแก! "

เมื่อเขาได้ยินฉิงเฟิงเรียกพวกเขาว่าพวกอ่อนแอการ แสดงออกของคิงคองก็มืดครึ้มลงและเขาก็เดินไปหาฉิงเฟิงด้วยความโกรธ

"เหี้ยแล้ว !!  เป็นแก ?"

คิงคองโห่ร้องเสียงดังด้วยความสยดสยอง

มันเป็นช่วงกลางคืนที่มีแค่แสงไฟสลัวๆ พวกเขาอยู่ไกลกัน ทำให้ไม่สามารถมองเห็นฉิงเฟิงได้

แต่ตอนนี้เมื่อเขาเดินใกล้เข้ามา คิงคองก็สามารถเห็นหน้าของฉิงเฟิง ใบหน้าของเขากลายเป็นสีขาวซีดและเขาก็ร้องอุทานออกมา

ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นคนเดียวกับคนที่หักแขนของเขาที่ Lone Hill

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด