ตอนที่แล้วบทที่ 57: เหตุผลง่าย ๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 59: สู่ตำแหน่งผู้นำวัด

บทที่ 58: ถูกเนรเทศ


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

====================

บทที่ 58: ถูกเนรเทศ

“เหอะ!” ฉิงเฟิงซีรู้สึกโกรธจัดทันทีเมื่อได้ยินว่าเรื่องราวนั้นเป็นมาอย่างไร พร้อมกับกล่าวว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้น ไอ้ตัวบัดซบนั่นมันสมควรแล้วที่ต้องไปลงนรก!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจ้าอ้วนพลันรู้สึกอิ่มเอม แต่หวังฉีหวู่ที่ยืนอยู่ด้านข้างได้แต่มึนงงและไร้คำพูด! เขารีบตะโกนออกมาทันที “ท่านอาจารย์ บิดาแห่งจักรพรรดิคือแขกของข้า! แม้ว่าเขาจะทำผิด แต่เขาไม่ควรจะถูกฆ่าในวัดเสวียนเทียนมิใช่หรือ?”

“อา ถูกของเจ้า!” ฉิงเฟิงซีตอบกลับพร้อมกล่าวต่อ “ซ่งน้อย มิผิดหรอกหากเจ้าจะแก้แค้น แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม วัดเสวียนเทียนเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบ เจ้ายินยอมทำให้ผู้อื่นถูกทำร้ายในวัดได้อย่างไร? อีกทั้งปัญหาในการทำความสะอาด ในตอนนี้เจ้าสร้างปัญหามากมายให้กับศิษย์พี่ของเจ้า!”

“ขอรับ ข้ายอมรับว่าเป็นความผิดของข้าเอง ในช่วงเวลาที่ข้าโกรธทำให้ข้าขาดสติ นับจากวันนี้ไปข้าจะไม่ลงมือในวัดเสวียนเทียนอีกเด็ดขาด! ข้าจะรอให้พวกเขากลับออกไปเสียก่อนแล้วค่อยลงมือสังหาร!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาอย่างน้อบน้อม

“ฮ่า ถูกต้องแล้ว!” ฉิงเฟิงซีกล่าวเสริม “ไม่ว่าอย่างไร เขาคือแขกอาวุโสของศิษย์พี่เจ้า เจ้าไม่ควรสร้างปัญหาให้กับเขา!”

“ขอรับ!” เจ้าอ้วนรีบตอบ

“ในตอนนี้เจ้ารับรู้ความผิดของตนเองแล้ว รีบลุกขึ้นมาขอโทษศิษย์พี่ของเจ้าซะ เรื่องนี้จะได้จบลงเสียที!” ฉิงเฟิงซีกล่าว

“ขอรับ!” เจ้าอ้วนโค้งตัวแล้วมองไปที่หวังฉีหวู่พร้อมกับยิ้มและกล่าวว่า “ศิษย์พี่โปรดรับฟัง ศิษย์น้องผู้นี้ใจร้อนจนเกินไปและสร้างปัญหาให้กับท่าน ข้าหวังว่าท่านจะยกโทษให้กับข้า!”

หวังฉีหวู่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดต่อ เขาอยู่ในสภาวะมึนงงไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นไม่นานเขาได้สติกลับมาพร้อมกับถามออกไปว่า “ท่านอาจารย์ เขาสังหารเครือญาติของราชวงศ์ในวัดเสวียนเทียน เรื่องนี้จะตัดสินเช่นนี้งั้นหรือ?”

“แน่นอน ข้าตัดสินมันแล้ว!” ฉิงเฟิงซีกล่าวอย่างอ่อนใจ “ผู้ฝึกตนแห่งวัดเสวียนเทียนนั้นฝึกตนเพื่อเดินทางตามกฎแห่งสวรรค์ อย่าบอกข้านะว่าเจ้าต้องการให้น้องชายเจ้าชดใช้ด้วยชีวิตเพราะเจ้าบัดซบพวกนั้น!”

“ข้าไม่ได้คาดหวังให้เขาชดใช้ด้วยชีวิต แต่ปัญหาคือเขา! เขาทำเกินไปแล้ว! ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วัน ทั้งราชครู ฉงตู เครือญาติของราชวงศ์ล้วนถูกสังหารโดยเขาทั้งสิ้น! ทั่วทั้งแคว้นหลานเย่ว์ตั้งแต่พลเรือนล่างสุดไปถึงจักรพรรดิล้วนรู้ข่าว! ผู้คนมากมายกำลังหวาดกลัวเรื่องเหล่านี้อยู่!” หวังฉีหวู่กล่าวออกมาอย่างขมขื่น “หากท่านไม่ให้คำตอบข้า ข้าเกรงว่าข้าก็คงตอบไม่ได้เช่นนั้น!”

“อืม เรื่องนั้น…” เมื่อฉิงเฟิงซีได้ยินเช่นนั้น เขาเริ่มลังเลใจ เขาคิดว่าหวังฉีหวู่กล่าวถูกต้องแล้ว หลังจากที่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เจ้าอ้วนไม่เคยได้รับโทษสักครั้ง แต่ถ้าหากจะลงโทษเขา มันก็ไม่เป็นธรรมกับเส้นทางที่เขาเลือกจะเดิน ฉิงเฟิงซีตกอยู่ในภวังค์คำถามนี้พักหนึ่ง

เมื่อเห็นว่าอาจารย์เริ่มลังเล หวังฉีหวู่รีบกล่าวออกมา “ท่านอาจารย์ ศิษย์น้องซ่งคือผู้ที่ไม่มีความอดกลั้น เขาสามารถสังหารราชครู ฉงตู และเครือญาติของราชวงศ์ในวันนี้ เราไม่อาจรู้ได้ว่าในวันพรุ่งนี้เขาจะลอบเข้าไปในพระราชวังแล้วสังหารจักรพรรดิหรือไม่! อย่าบอกข้าว่าท่านจะรอจนถึงวันนั้นก่อนแล้วจึงจะลงโทษเขาได้?”

“ฆ่าจักรพรรดิ?” ฉิงเฟิงซีหันศีรษะพร้อมกับมองไปที่เจ้าอ้วน “เจ้าจะทำเช่นนั้นหรือเปล่า?”

“เรื่องนั้น… ฮี่ฮี่ ข้าต้องดูสถานการณ์ก่อน!” เจ้าอ้วนตอบกลับ

“นั้นหมายความว่าเจ้าอาจจะทำเช่นนั้นได้!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉิงเฟิงซีหัวเราะอย่างขมขื่น เขายอมแพ้และส่ายหัวเบา ๆ พร้อมกล่าวว่า “เฮ้อ ดูเหมือนว่าข้าจะให้เจ้าอยู่ในวัดเสวียนเทียนไม่ได้อีกต่อไป ถ้าในวันหนึ่งเจ้าสังหารจักรพรรดิ มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่!”

“เช่นนั้น ข้าควรกลับไปที่ภูเขางั้นหรือ?” เจ้าอ้วนถามออกมาอย่างอ้อนวอน

“เจ้าไม่สามารถกลับไปที่ภูเขาได้เช่นนั้น เพราะเจ้ามีภารกิจ หากเจ้ากลับไปในตอนนี้ นิกายจะถือว่าเจ้าทำภารกิจล้มเหลว กฏของนิกายซึ่งเราก็รู้ดีว่ามันรอที่จะลงโทษเจ้าอยู่!” ฉิงเฟิงซีส่ายหน้าขณะกล่าวออกมา

“แล้วสิ่งใดที่ข้าควรจะทำ?” เจ้าอ้วนกล่าวอย่างมีอารมณ์

“เฮ้อ ลืมมันไป คงได้แต่คิดว่าชาติภพก่อนข้าไปติดหนี้บุญคุณอะไรเจ้าเอาไว้ก็แล้วกัน!” ฉิงเฟิงซีหัวเราะออกมาเบา ๆ พร้อมกล่าวว่า “จงออกไปอยู่ที่วัดชิงเฟิงเพื่อบรรเทาความใจร้อนของเจ้าเถิด! และให้ศิษย์พี่ของเจ้าหาผู้อื่นมาช่วยงานในวัดแทน!”

“อะไรกัน? ท่านจะส่งเขาไปวัดชิงเฟิงในเทือกเขานั่น?” เมื่อหวังฉีหวู่ได้ยินเช่นนั้น เขาร้องตะโกนออกมาแทบระเบิด “อาจารย์ ท่านกำลังจะทำสิ่งใด?”

“ถ้าข้ากล่าวว่าข้าทำได้ นั่นแปลว่าข้าทำได้!” ฉิงเฟิงซีกล่าวอย่างภูมิใจ “เลิกกล่าวสิ่งใดให้มากความ ทำตามที่ข้าสั่ง!”

เมื่อสิ้นสุดประโยคนั้น ฉิงเฟิงซีโยนหยกเครื่องรางให้เจ้าอ้วนอย่างลวก ๆ พร้อมกับเดินเข้าไปในถ้ำ จากนั้นเขาปิดปากถ้ำด้วยประตูหินเพราะไม่อยากเห็นหน้าทั้งสองคนนี้อีก

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ หวังฉีหวู่รู้ได้ทันทีว่าเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้อีกแล้ว เขาถอนหายใจพร้อมกับมองไปที่เจ้าอ้วนและมองเครื่องรางอย่างขุ่นเคือง

หวังฉีหวู่จ้องมองเจ้าอ้วนอย่างไม่สบอารมณ์ เจ้าอ้วนหัวเราะอย่างขื่นขมพร้อมกับถามออกมา “ศิษย์พี่ เหตุใดท่านจึงจ้องข้าเช่นนั้น?”

หวังฉีหวู่ไม่ได้ตอบคำถามเจ้าอ้วน แต่เขาถามกลับ “เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าอยากทำสิ่งใด?”

“ข้าจะไปรู้ความคิดท่านได้อย่างไร?” เจ้าอ้วนส่ายหัวเบาๆขณะกล่าวออกมา

“ข้าคิดว่าข้าควรไปที่พระราชวังและสังหารจักรพรรดิเสีย!” หวังฉีหวู่กล่าวอย่างจริงจัง

“ศิษย์พี่ ท่านล้อข้าเล่นอีกแล้ว!” เจ้าอ้วนแสร้งทำเป็นหดหู่

“ข้าไม่ได้ล้อเจ้าเล่น ข้าจริงจัง!” หวังฉีหวู่พูดออกมาอีกครั้ง “ณ ตอนนั้น เหล่าพี่น้องของเราต่อสู้กันแทบตายกว่าจะผ่านพ้นเรื่องราวต่าง ๆ มาได้แต่มีผู้อื่นกลับถูกลงโทษโดยการให้ออกไปสงบสติอารมณ์! ปัญหาที่เจ้าสร้างไว้นั้นมากมายเหลือเกิน เจ้ากลับได้รับอนุญาตให้ไปยังวัดชิงเฟิง! สวรรค์! ถ้าข้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ข้าจะออกจากวัดมุ่งหน้าไปสังหารราชครูและฉงตูซะ พร้อมกับเหล่าราชวงศ์พวกนั้นด้วย!”

“ท่านเอาจริง?” เจ้าอ้วนหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมกล่าวอย่างขมขื่น “การถูกไล่ให้ออกไปสงบสติอารมณ์เป็นเรื่องที่ดีงั้นหรือ?”

“แน่นอน!” หวังฉีหวู่กล่าว “ศิษย์น้อง เกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าจะมุ่งหน้าไปสังหารจักรพรรดิในวันนี้ และข้าจะมอบตำแหน่งของข้าให้กับเจ้า และเจ้าจงมอบภารกิจวัดชิงเฟิงให้กับข้า ได้หรือไม่?”

“โอ้…” เจ้าอ้วนไม่โง่ที่จะตอบ ตอนนี้เขาสรุปได้แล้วว่าการออกไปวัดชิงเฟิงมันคือเรื่องที่ดี เหตุใดเขาจึงต้องตกลง? เขารีบกล่าวออกไปอย่างเร่งรีบ “มีแต่ท่านอาจารย์ลุงเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้ ท่านต้องลองวิ่งไปสังหารจักรพรรดิเสียก่อน!”

“ฆ่าเจ้าก่อนดีไหม!” หวังฉีหวู่ไม่อาจทำสิ่งใดได้ ได้แต่คร่ำครวญ “ถ้าหากเจ้าฆ่าจักรพรรดิ ข้าคิดว่าท่านอาจารย์คงเพียงตำหนิเจ้าเล็กน้อย แต่ถ้าหากข้ากระทำเช่นนั้น ท่านอาจารย์ต้องจับข้าส่งไปให้ทางการ เขาจะหั่นข้าเป็นพันชิ้นเพื่อปลอบใจเหล่าปลาโลมา! เราก็เป็นคนเหมือนกัน เหตุใดสถานการณ์ของเราช่างแตกต่างกันถึงเพียงนี้? ท่านอาจารย์ต้องมีขีดจำกัดในการลำเอียงเช่นนี้บ้าง เจ้าสร้างปัญหามากมาย สังหารราชครู ตงฉู ราชวงศ์ แทนที่จะถูกลงโทษ เจ้ากลับได้รับรางวัล ควรอธิบายเรื่องนี้อย่างไรดี?”

เจ้าอ้วนรู้สึกอับอาย เขารีบกล่าวออกไปทันที “ไม่ใช่อย่างนั้นศิษย์พี่! เห็นได้ชัดว่าข้าถูกไล่ออกจากวัดเสวียนเทียน! แล้วเช่นนั้นมันจะเป็นรางวัลได้อย่างไร?”

“เจ้าจะไปรู้อะไร!” หวังฉีหวู่ตะโกน “เมื่อเจ้าไปถึงวัดชิงเฟิง เจ้าจะรู้ว่ามันคือรางวัล!” หลังจากกล่าวจบ หวังฉีหวู่เดินออกไปพร้อมความขุ่นเคืองอัดแน่นเต็มอยู่ในท้อง ไม่ว่าเขาจะรู้สึกแย่แค่ไหน เขายังคงต้องทำหน้าที่ของตนเองต่อไปนั่นคือชำระล้างเรื่องที่เจ้าอ้วนได้กระทำไว้!

เมื่อเห็นว่าเขาออกไปแล้ว เจ้าอ้วนไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป เขาเดินไปที่ห้องโถงใหญ่และพบคนไม่กี่คน เขามองหาคนที่จะบอกเขาได้ว่าวัดชิงเฟิงมันอยู่ที่ไหน หลังจากเขาได้คำตอบว่าวัดชิงเฟิงเป็นสถานที่แบบใด เขาจึงเข้าใจว่าทำไมหวังฉีหวู่จึงอิจฉาเขา แท้จริงแล้วทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน การไปยังวัดชิงเฟิงมิได้เป็นการลงโทษ แต่เป็นรางวัลต่างหาก!

วัดชิงเฟิงอยู่ภายใต้ชื่อของวัดเสวียนเทียน อยู่ห่างจากแคว้นหลานเย่ว์ไปพันลี้ ภายในหุบเขาลึกและพ้นจากเขตแดนของแคว้นหลานเย่ว์

วัดชิงเฟิงตั้งอยู่ในเทือกเขาและไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่ที่นั่น หมู่บ้านที่อยู่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากวัดไปห้าร้อยลี้ซึ่งยากลำบากมากในการดำรงชีวิตที่นั่น สถานที่แห่งนั้นมีเพียงนักบวชวัยเยาว์เพียงไม่กี่คน และกฎเกณฑ์เป็นเรื่องที่สถานที่แห่งนั้นไม่ต้องการ

แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่ทำไมวัดชิงเฟิงถึงเป็นสถานที่ที่นักบวชทุกคนใฝ่ฝัน? เพราะว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษซ่อนอยู่ในวัดชิงเฟิง…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด