ตอนที่แล้วเล่ม 2 ตอนที่ 9 : งานชุมนุมผู้กล้า (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 2 ตอนที่ 9 : งานชุมนุมผู้กล้า (3)

เล่ม 2 ตอนที่ 9 : งานชุมนุมผู้กล้า (2)


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

==========

เล่ม 2 ตอนที่ 9 : งานชุมนุมผู้กล้า (2)

ขณะที่อาร์คตัดสินใจครั้งใหญ่จึงเริ่มลงมือเขียนราคาเอาไว้บนแผ่นกระดาษ อีกมือหนึ่งพลันยื่นเข้ามาในเวลาพร้อมกันจนต้องหยุดชะงัก ไม่อาจคิดได้เลยว่าจะมีผู้เล่นอื่นที่คิดเสนอราคามากกว่า 100 เหรียญทองกับไอเทมแบบนี้ด้วย

ด้วยสีหน้าประหลาดใจ อาร์คจ้องมองผู้เล่นอาชีพพ่อค้าที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ผู้เล่นคนนี้กำลังขมวดคิ้วเล็กน้อยมองมาทางอาร์ค

“หรือว่าคุณจะเป็นอาร์คนิม?”

“งั้นนายก็คือดานิล?”

พ่อค้าพยักหน้ารับและพูดกล่าว “ผมไม่ทราบว่าทำไมคุณถึงพยายามชนะการประมูลสิ่งนี้ แต่ผมต้องการไอเทมชิ้นนี้จริง ๆ พอจะยอมให้ได้ไหมครับ?”

‘ไอ้หมอนี่ต้องเป็นมือใหม่แน่’

ดวงตาของอาร์คทอประกายแสงวูบหนึ่ง งานประมูลคือสมรภูมิ สมรภูมิที่ซึ่งได้รับชัยชนะเพราะปัญญาและช่วงเวลาเสียยิ่งกว่าการใช้ดาบและโล่!

สำหรับดานิลที่เผยความรู้สึกเช่นนี้ออกมา นี่มันออกจะ...

หลังจากที่อาร์คเห็นดานิลตอบสนองเช่นนั้นออกมา เขาจึงได้รู้ว่ามูลค่าที่ดานิลเสนอราคาเอาไว้นั้นไม่ใช่การตกเหยื่อ ด้วยท่าทีไม่เป็นสุขของอีกฝ่าย มันชัดเจนว่าต้องมีเหตุผลที่ต้องชนะการประมูลของชิ้นนี้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม หรือก็คือ ไอเทมชิ้นนี้สามารถรับประกันได้ว่าสามารถทำกำไรได้คุ้มค่ากับจำนวนเงินที่เขาเสนอราคาไป!

‘ถ้าแพ้การประมูลไอเทมชิ้นนี้เราคงกลายเป็นไอ้งั่ง’

โดยไม่พูดกล่าวคำใด อาร์คเพิ่มราคาเข้าไปเป็น 110 เหรียญทอง

ดานิลแทบพ่นโทสะออกมาพร้อมเสนอราคาเป็น 120 เหรียญทอง ทว่า โดยไม่ต้องสบตาแต่อย่างใด อาร์คเพิ่มราคาขึ้นไปอีกจำนวนหนึ่ง สีหน้าดานิลเริ่มซีดเผือด เมื่อราคาสุดท้ายพุ่งสูงเกินกว่า 200 เหรียญทอง สีหน้ากระอักกระอ่วนเริ่มปรากฏบนใบหน้าของดานิลแล้ว

“นาย มันจะมากเกินไปแล้วนะ”

“ก็ไม่ได้มากมายอะไร งานประมูลก็เป็นสถานที่แบบนี้อยู่แล้ว ถ้าหากนายต้องการสิ่งใด ที่ต้องทำไม่ใช่ไปขอให้อีกฝ่ายยอม นายเพียงแค่ต้องจัดการคู่ต่อสู้ให้อยู่หมัดเท่านั้น นี่นายไม่รู้เลยเหรอว่าการขอให้อีกฝ่ายยอมโอนอ่อนให้เป็นการกระทำที่ผิดพลาดตั้งแต่คิดแล้ว? ถ้าหากนายไม่มีเงินมากพอจะเสนอราคาอีก งั้นก็หลีกทางไป”

ขณะนั้นเอง ชายอีกคนได้เข้ามาใกล้พร้อมพูดสิ่งที่อาร์คคิดอยากจะพูดกล่าวออกมา ชายคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไวดัส ผู้ซึ่งสิงอาศัยอยู่ภายในสถานที่จัดงานประมูลมาเป็นเวลานานยิ่ง

ไวดัสจ้องมองดานิลด้วยสายตาดูหมิ่น ดานิลเผยสีหน้าเดือดดาลออกมา ทว่าเขาก็ทำได้เพียงแค่เดินจากไปราวกับไม่มีอะไรจะพูดได้อีก

จากนั้น ไวดัสจึงจ้องมองมายังอาร์ค

“นายยังอยู่ที่นี่อีกเหรอ?”

“มันไม่มีไอเทมชิ้นอื่นที่ดูคุ้มค่าแล้วแหละนะ”

“อืม ดูเหมือนนายจะซื้อไอเทมไปจำนวนมากเอาการเลย พอมาพิจารณาคำนวณดูแล้ว นายคงทำเงินได้หลายร้อยเหรียญทองเลยทีเดียว”

“แต่ฉันไม่ได้ตามติดนายนะ ไวดัสนิม”

“ฉันรู้น่า ฉันเห็นว่านายกระทั่งซื้อไอเทมที่ฉันยอมปล่อยไปแล้วด้วยซ้ำ” ไวดัสเริ่มศึกษาอาร์คโดยการประเมินทางสายตา “แต่นี่น่าประทับใจมาก นี่นายเรียนวิธีการดูไอเทมว่าดีหรือแย่ในไม่กี่วันได้ยังไงกันเนี่ย? ฉันเพียงแค่บอกใบ้ไปเล็กน้อย แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะช่วยให้อะไรง่ายขึ้น อีกทั้ง มองดูจากราคาที่นายเสนอแล้ว สายตาของนายราวกับคาดเดาราคาสูงสุดของไอเทมได้ดีเสียยิ่งกว่าฉันอีก กระทั่งว่าตัดสินไอเทมชิ้นนั้นได้ในหลักเหรียญทองแดงเลยทีเดียว... หรือมันจะมีวิธีการที่ฉันยังไม่รู้อยู่อีกกัน?”

มันเป็นผลจากความแน่วแน่ของเขาว่ากระทั่งประหยัดได้สักหนึ่งเหรียญทองแดงก็ต้องทำ

“ก็ไม่รู้สินะ บางทีอาจเป็นเพราะสายตาฉันดีละมั้ง” อาร์คตอบขณะยกยิ้มให้ ไวดัสจึงพยักหน้ารับ

“จะบอกว่านายตาดีขนาดที่วิเคราะห์ไอเทมได้เพียงแค่มอง? ถ้างั้นฉันคงทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องยอมแล้ว ในเมื่อรายได้ไม่ดีเหมือนเมื่อก่อนเพราะนายเข้ามาป่วน ฉันเลยคิดว่าจะใช้โอกาสนี้ขอแก้ตัวเสียหน่อย”

“นี่นายจะบอกว่าอยากทำสงครามประมูลราคา?”

“ถูกต้อง”

ไวดัสหัวเราะออกราวกับขบขันท่าทีของอาร์ค “แต่ว่า ในเมื่อนายคนนั้นยอมวางมือไปก็ต้องขอบคุณนายแหละนะ มันคงไม่จำเป็นต้องเพิ่มราคาให้เกินเลยหรอกใช่ไหม? มันคงไร้สาระนะถ้าผู้เชี่ยวชาญอย่างนายกับฉันจะมาแข่งขันราคากันแบบคนบ้าน่ะ ถ้าต่างฝ่ายต่างต้องเลือดออกมันก็คงไม่ดี เพราะงั้น ฉันมีข้อเสนอ”

“ว่าต่อได้เลย”

“เหลือเวลาไม่มากก่อนการประมูลจะจบลง เพราะแบบนี้ก็เลยลากถ่วงออกไปไม่ได้ พวกเราจะเขียนราคาเต็มที่ที่สามารถรับได้ไหว จากนั้นใครที่ให้ราคามากกว่าก็รับมันไป คิดว่าไง?”

“ฟังดูเข้าท่า” อาร์คตอบกลับไปอย่างไม่ลังเล

อย่างไรเสีย ถ้าหากพวกเขาจำเป็นต้องเปิดสงครามราคากันจริง อาร์คไม่มีทางชนะแน่ ไวดัสที่ได้รับเงินสะสมจากงานประมูลมายาวนาน ย่อมสมควรมีทุนทรัพย์เยอะกว่าอาร์คมากมาย

ที่จริง อาร์คค่อนข้างมั่นใจว่าไวดัสคือผู้เล่นที่ซื้อเอาไอเทมระดับอีปิคไป และยังคงเดินเตร่ไปมาในสถานที่จัดงานประมูลแห่งนี้ มันไม่มีทางเลยที่เขาจะเอาชนะทางด้านการเงินกับผู้เล่นระดับนี้ได้ กระทั่งว่าเขาทำได้ เขาก็คงหมดหวังที่จะฟื้นคืนการสูญเสียจากการที่ต้องเสนอราคาเพิ่มในสงครามประชันราคา

‘อืม เราจะเขียนราคาลงไปเท่าไหร่ดีนะ? ทางไวดัสล่ะ สมควรให้ราคาเท่าไหร่?’

ตอนนี้การประชันเริ่มขึ้นแล้ว เขาคิดว่านี่ออกจะยากอยู่บ้าง อาร์คครุ่นคิดไปชั่วครู่จึงคิดอะไรบางอย่างออก จากนั้นเขาจึงเร่งร้อนเขียนราคาลงไป

“เอาล่ะ นับถึงสามนะ พวกเราจะเปิดมันพร้อมกัน”

ขณะเดียวกัน ทั้งสองได้แสดงราคาที่เขียนเอาไว้ออกมา

ไวดัสเขียนราคาเอาไว้ 220 เหรียญทอง หลังจากที่เห็นราคาดังนั้นแล้ว รอยยิ้มจึงปรากฏขึ้นบนหน้าของอาร์ค

“ฉันชนะสินะ”

“...บ้าจริง นี่นายรู้ได้ยังไงว่าฉันจะเขียนราคาเท่าไหร่?”

“ฉันนึกถึงช่วงที่ตามติดนายน่ะ ไวดัสนิม นายมักจะเพิ่มราคาขึ้นอีกประมาณ 10% เมื่อตัดสินใจที่จะเสนอราคา”

ไวดัสถึงกับสะดุ้งตัว จากนั้นจึงถอนหายใจออกขณะส่ายศีรษะ

“ฉันแพ้แล้ว แพ้แล้วจริง ๆ”

“งั้นฉันรับมันไปล่ะนะ”

อาร์คเขียนราคาเอาไว้ 220 เหรียญทองกับอีก 1 เหรียญทองแดงบนกระดาษเสนอราคา เมื่ออาร์คเขียนลงไป เสียงจบสิ้นการประมูลจึงดังขึ้นพร้อมกับเอ็นพีซีผู้จัดการงานประมูลที่เข้ามานำไอเทมไปเก็บ เมื่อเขาไปยังสำนักงานส่วนกลางและจ่ายเงิน ในที่สุดก็ถึงเวลาจากลากับงานประมูลมืดบอดนี้แล้ว

“วันนี้ฉันก็จะไปแล้ว เพราะงั้นไม่ต้องกังวลและหาเงินให้ได้มาก ๆ ล่ะ”

“ดูพูดเข้า นายกวาดเอาของทำกำไรได้ไปหมดในช่วงเวลาครึ่งเดือน นายมันน่ากลัวเกินไปแล้ว” ขณะที่มองอาร์คเดินจากไปพร้อมกับกระเป๋าที่มีเสียงกรุ๊งกริ๊ง ไวดัสอดไม่ได้ที่จะต้องเดาะลิ้นออกมา

เสนอราคาเพิ่มขึ้น 10% เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะซื้อหาของชิ้นนั้น มันติดเป็นนิสัยของเขาตั้งแต่ที่จัดการงานประมูลในโลกจริงแล้ว แต่ใครจะคิดว่าหน้าใหม่เช่นนี้จะถึงกับตระหนักถึงนิสัยของเขาที่กระทั่งเจ้าตัวยังลืมเลือน

“ด้วยความสามารถของสายตาระดับนั้น หลังจากนี้หากเขาจะเข้าประมูลอะไรก็คงไม่มีอะไรน่าห่วง เราควรถามหมอนั่นดีไหมนะว่าอยู่ที่ไหน? ดูจากความรวดเร็วที่เขาตัดสินใจแล้ว คิดว่าคงทำงานสายงานนี้อยู่แล้วมั้ง น่าอายชะมัด”

ขณะที่ไวดัสหันกลับเตรียมจากไปขณะบ่นพึมพำ มีอีกคนที่วิ่งเข้ามาด้วยความเร่งร้อนจนพบว่าไอเทมหายไปแล้ว

“การประมูลจบแล้ว!”

ไวดัสชะงักเท้าและหันกลับ เป็นผู้เล่นเด็กหนุ่มที่สวมใส่ชุดหนังสีดำ ผู้เล่นที่ยืนอยู่ข้างกันคือดานิลที่เผยสีหน้าเกินจะกล่าวออกมา เขามองไปรอบขณะเร่งร้อนพูดคำแก้ตัวและขออภัยออกมา

“ขออภัยด้วยครับแชมบาร่านิม เป็นเพราะมีผู้เล่นอีกคนเสนอราคาเกินกว่า 200 เหรียญทอง ผมเลยไม่อาจชนะการประมูลไอเทมมาได้ ในเมื่อมันเกินกว่าจำนวนที่ตกลงกันเอาไว้... ผมจะคืนเงินที่ได้รับมาให้นะครับ”

“วะ-ว่าอะไร? นี่นายพูดอะไรนะ? 200 เหรียญทองมันสมควรเพียงพอด้วยซ้ำ...”

ขณะที่ดานิลส่งกระเป๋าเงินคืนกลับ ผู้เล่นอีกคนที่ชื่อแชมบาร่าถึงกับเผยใบหน้าที่บิดเบี้ยว

แท้จริงแล้วผู้เล่นที่ต้องการไอเทมไม่ใช่ดานิล แต่เป็นแชมบาร่า เป็นเพราะภารกิจที่เร่งด่วน เขาจึงต้องจ่ายเงินและทำสัญญาจ้างให้พ่อค้ามาเข้าประมูลแทน

ไวดัสที่เริ่มเข้าใจสถานการณ์จึงเดาะลิ้นออกมา “ชิ ชิ นี่นายทำสัญญากับหมอนี่เหรอเนี่ย?”

“ชะ-ใช่ แล้วมันยังไง?”

“ก็ออกจะน่าอายอยู่บ้างนะ แต่ไอเทมที่นายต้องการโดนคนอื่นเอาไปแล้ว”

“คะ-ใครกัน? ใครเอามันไป?”

“เขาชื่อว่าอาร์ค ซื้อไปด้วยราคา 220 เหรียญทองกับอีก 1 เหรียญทองแดง นายคนนั้นแน่วแน่มากเลยล่ะ ดังนั้นแล้วถ้าหากนายต้องการจะซื้อหามันจริง นายอาจต้องจ่ายเพิ่มอีกอย่างน้อย 100 เหรียญทองจากราคานั้นก็เป็นได้ ถ้าหากนายยังอยากจะซื้อมัน ก็ยังพอจะเร่งตามไปทันอยู่นะ เขาน่าจะไปร้านประเมินราคาแหละ”

ก่อนที่ไวดัสจะพูดจบคำ แชมบาร่าก็วิ่งออกไปจากสถานที่จัดงานประมูลแล้ว

“เจ้าอาร์คนั่น คงโดนเรื่องยุ่งยากเข้าซะละมั้ง”

* * *

โชคร้ายนัก ขณะที่แชมบาร่ามุ่งหน้าไปยังร้านประเมินราคา อาร์คกลับเดินเตร่อยู่ในเขตพื้นที่ซื้อขายแล้ว ไอเทมชิ้นนี้มีการป้องกันระดับต่ำ ดังนั้นแล้วเขาที่มีทักษะเนตรหยั่งรู้ จึงไม่จำเป็นต้องนำมันไปร้านประเมินราคาแต่อย่างใด

“ดีล่ะ ไหนมาดูกันหน่อย? เนตรหยั่งรู้!”

พร้อมเสียงความยินดี หน้าต่างข้อมูลไอเทมเด้งขึ้นมา

=====

กริชแห่งป่าดำ (โบราณวัตถุ)

มันเป็นกริชประหลาดที่สร้างขึ้นจากโลหะ อักษรรูนโบราณลึกลับถูกสลักเอาไว้บนพื้นผิวของมัน ซึ่งภาษาที่จารึกเอาไว้เป็นภาษาเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกลืมเลือนไปนานแล้ว

ทว่า ความเย็นเยือกที่ตัวกริชปลดปล่อยออกมานั้นมันมีความมืดมนกระหายเลือดปนมาด้วย อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ที่สลักเอาไว้จึงถูกปกคลุมด้วยออร่าชั่วร้าย ด้วยสภาพในตอนนี้จึงไม่อาจวิเคราะห์ได้ว่ามันสามารถใช้งานได้ที่ไหน และเอาไว้ใช้ทำอะไร

มูลค่า : -

=====

โบนัสจากการเรียนรู้โบราณวัตถุ กริชแห่งป่าดำ

ภูมิความรู้โบราณวัตถุ +10, ความฉลาด +5, ชื่อเสียง +5

=====

“อะ-อะไรเนี่ย?” อาร์คโพล่งความสับสนออกมา

รายละเอียดที่เขียนเอาไว้มันก็เหมือนจะดี แต่ปัญหาอยู่ที่ไม่มีมูลค่า นี่หมายความว่ามันไม่อาจขายให้ร้านค้าได้! ไอเทมชิ้นนี้ที่เขาลงทุนไปถึง 220 เหรียญทองกับอีก 1 เหรียญทองแดงกลับเป็นได้แค่ของตกแต่ง?

นี่เป็นครั้งแรกในช่วงที่ผ่านมา ที่อาร์ครู้สึกคล้ายจะเป็นลม

‘บ้าจริง ดังคำโบราณว่าเอาไว้ การพนันไม่เคยได้อะไรที่ดีคืนกลับมา... พอคิดว่าจะเก็บออมเงินเอาไว้สักหน่อย กลับต้องมาเสียเปล่าในท้ายที่สุดเหรอเนี่ย!’

อาร์คแทบคิดโยนกริชนี่ทิ้งลงคูน้ำด้วยความโมโห แต่ไม่ช้าเขาก็ต้องเปลี่ยนใจ หลังอ่านรายละเอียดของไอเทมแล้ว ดูเหมือนว่าไอเทมนี้จะมีอะไรอีก ถ้าหากเขาโชคดีพอ บางทีอาจเป็นเหมือนกระดานชนวนลึกลับนั่นก็เป็นได้ มันสามารถเป็นไอเทมที่นำไปสู่ภารกิจ หรือกระทั่งเปลี่ยนเป็นมีประโยชน์ได้เมื่อนำไปรวมกับไอเทมชิ้นอื่น

‘ถ้าเราซื้อด้ามหรือไม่ก็ปลอก ถ้าลองดู มันอาจเป็นดาบที่สามารถใช้การได้’

โอกาสมีเพียงน้อยนิด แต่ก็ดีกว่าถือเอาไว้โดยมีความหวังลม ๆ แล้ง ๆ จนกระทั่งเกิดความรู้สึกอยากขว้างมันทิ้งไป

จนกระทั่งถึงตอนนี้ โบราณวัตถุที่เขาได้รับมาจากงานประมูลเพียงแค่เพิ่มภูมิความรู้โบราณวัตถุครั้งละ 1 หน่วยเท่านั้น แต่แล้วกริชแห่งป่าดำอันนี้ถึงกับเพิ่มให้ 10 หน่วย! ค่าสถานะจะเพิ่มขึ้นขนาดนี้ก็ต่อเมื่อเขาพบโบราณสถานที่ถูกซ่อนเอาไว้

ถ้านับเพียงแค่เรื่องนี้ ก็อาจกล่าวได้ว่ามันไม่ใช่ไอเทมทั่วไป

‘เอาเถอะ เก็บมันเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน’

“เจ้างู ขอเศษศิลาหน่อย”

เจ้างูน้อยที่กำลังเคลิ้มหลับพลันตื่นขึ้นพร้อมกับคายเศษศิลาออกมา อาร์คที่พลาดการทำกำไรไป แต่ก็ได้รับมาซึ่งภูมิความรู้โบราณวัตถุถึง 10 หน่วย ดังนั้นแล้วรวมเข้ากับภูมิความรู้โบราณวัตถุอีก 8 หน่วยที่ได้จากงานประมูล ต้องขอบคุณพวกมันเหล่านี้จึงทำให้ค่าสถานะภูมิความรู้โบราณวัตถุของเขาในตอนนี้มีถึง 53 หน่วย

‘ในที่สุดก็จะได้ตรวจสอบไอเทมนี้เสียที’

ขณะที่อาร์คถือเศษศิลาเอาไว้ภายในมือ มันเริ่มสั่นพร้อมกับหน้าต่างข้อมูลที่เด้งขึ้นมา

=====

ด้วยภูมิความรู้โบราณวัตถุของท่าน ท่านได้ยืนยันถึงเศษศิลาที่ประจุเอาไว้ซึ่งพลังอำนาจโบราณ

=====

เศษศิลาแห่งพลังอำนาจโบราณ (ชิ้นส่วนดวงดาว)

หินก้อนนี้เป็นหนึ่งในความลึกลับอย่างถึงที่สุดพร้อมกับพลังอำนาจมหาศาล มันถูกสร้างขึ้นจากพลังแห่งความมืด แต่กลับมีคุณสมบัติของแสง

ภูมิความรู้โบราณวัตถุได้ยืนยันว่าของสิ่งนี้เป็นหนึ่งในสามสิ่งมหัศจรรย์ของผู้กล้ามาบันจากยุคร้อยปีแห่งความมืดมิดเมื่อนานมาแล้ว ผู้กล้ามาบันได้หลงเหลือชิ้นส่วนพลังของเขาเอาไว้ในสิ่งมหัศจรรย์เหล่านี้ส่งต่อมายังอนาคต ถ้าหากผู้ค้นหาความจริงสามารถได้รับมาซึ่งสิ่งมหัศจรรย์นี้ พวกเขาจะสามารถได้รับภูมิความรู้ส่วนหนึ่งของผู้กล้ามาบัน

*ข้อจำกัดที่เคยมีต่อเจ้าของจะไม่มีอีกต่อไป

*ผู้ครอบครองชิ้นส่วนดวงดาวจะสามารถรู้ถึงเคล็ดวิชาของผู้กล้ามาบัน

ค่าประสบการณ์ +30,000 หน่วย, ภูมิความรู้โบราณวัตถุ +15, ความฉลาด+10, ชื่อเสียง +20

=====

ท่านได้เรียนรู้ทักษะใหม่เฉพาะอาชีพ

ของขวัญแห่งความมืด (มีผลต่อเนื่อง) : ทุกความสามารถของผู้เดินทางแห่งความมืดที่มีผลในความมืดจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ค่าสถานะจะเพิ่มขึ้น 30% ระยะเวลาส่งผลของ ‘ลอบเร้น’ เพิ่มขึ้นเป็น 15 นาที ทว่า ทักษะนี้ไม่สามารถเพิ่มระดับขึ้นได้

=====

ท่านได้เรียนรู้ทักษะใหม่เฉพาะอาชีพ

คมดาบวายุ (เรียกใช้งาน, ขั้นต้น) : เคล็ดวิชาลับอันดับแรกของผู้กล้ามาบัน มันจะสะบั้นดาบออกเป็นชิ้นเล็กน้อยก่อเกิดเป็นพายุโหมกระหน่ำโจมตีกรีดเฉือนเข้าใส่ศัตรูจนแหลกเป็นเสี่ยง ดาบที่ใช้งานจะถูกทำลายโดยสมบูรณ์

พลังมานาเรียกใช้ : 400

=====

ไม่ใช่ว่าพอใช้แล้วท้ายที่สุดต้องรับความสูญเสียเองหรือไงกัน?

เขาเสียเงินที่ได้จากการทำงานแทบตายตลอดครึ่งเดือนไป แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็นับว่าดีเยี่ยม เขาสามารถตรวจสอบเศษศิลาลึกลับได้ อีกทั้งมันยังเป็นดังคาด มันคือเศษศิลาของผู้กล้ามาบันที่เป็นหนึ่งในสามสิ่งมหัศจรรย์ เป็นไอเทมในตำนานที่ผนึกพลังอำนาจของผู้กล้ามาบันเอาไว้ ชิ้นส่วนดวงดาว!

ผลตอบแทนที่ได้ก็มหาศาล ยากจะพูดว่าคมดาบวายุเป็นอย่างไรเพราะเขายังไม่เคยทดลองใช้งาน แต่ของขวัญแห่งความมืดนับว่าดีเสียยิ่งกว่าการที่ได้เลเวลเพิ่มขึ้นหลายครั้งเสียอีก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด