ตอนที่แล้วเล่ม 2 ตอนที่ 8 : กิรัน สมรภูมิการค้า (3) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 2 ตอนที่ 9 : งานชุมนุมผู้กล้า (2) [อ่านฟรี]

เล่ม 2 ตอนที่ 9 : งานชุมนุมผู้กล้า (1) [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

==========

เล่ม 2 ตอนที่ 9 : งานชุมนุมผู้กล้า (1)

“ขนาดให้คำแนะนำไปขนาดนั้นแล้วยังจะกลับมาอีก? นี่มันโง่เง่าเกินกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก” ไวดัสพึมพำออกมาหลังจากที่พบเห็นอาร์คที่ไร้ซึ่งความหวาดกลัวกลับมาเดินเตร่ในงานประมูลอีกครั้ง “เอาเถอะ ไม่ใช่เรื่องของเราแล้ว โดนเราสอนบทเรียนไปรอบคงไม่กล้าตามมาแล้วแหละ ถ้าทำอีกก็คงจะต้องให้บทเรียนที่แรงขึ้นล่ะนะ”

ดังที่ไวดัสคาดการณ์ อาร์คไม่ได้ตามเขาอีกต่อไปแล้ว ที่จริง เขากระทั่งว่าไม่เข้าร่วมการประมูลใดในช่วงหลายวันด้วยซ้ำ อาร์คเพียงแค่เดินไปมารอบงานประมูลเพื่อมองไอเทมทั้งหลายด้วยดวงตาหิวกระหาย ท้ายที่สุดแล้วอาร์คจึงเข้าร่วมการประมูลอีกครั้งก็หลังผ่านไปได้สามวัน เขาซื้อไอเทมชิ้นหนึ่งในราคาที่ไม่แพงมากนักด้วยเหรียญเงินไม่กี่เหรียญ พอนำพวกมันไปวินิจฉัย กว่า 80% ล้วนล้มเหลว ทั้งหมดที่เขาสูญเสียไปตอนนี้เกือบจะ 20 เหรียญทองในเวลาเพียงไม่นาน แต่อาร์คยังคงไม่ยอมแพ้

‘มันต้องได้เรื่องบ้างสิ’ อาร์คยังคงซื้อหาสิ่งของราคาถูกในงานประมูลอยู่เช่นเดิม

สองวันถัดมา เขาเริ่มพบเห็นความเปลี่ยนแปลง อัตราความสำเร็จของเขาเริ่มเพิ่มขึ้นจาก 20% เป็น 30% และในเมื่อมันเพิ่มขึ้นเช่นนี้ ไม่นานผ่านไปมันก็เพิ่มขึ้นไปถึง 40%

‘ในที่สุดเราก็เริ่มจับหลักได้แล้ว นี่มันง่ายกว่าที่คิดเสียอีก’ หลังเสียเงินไปอีกกว่า 50 เหรียญทอง อาร์คเริ่มมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

อาร์คเคยมีประสบการณ์งานพาร์ทไทม์มามากมายตลอดช่วงระยะเวลาห้าปีมานี้ เขาทำทั้งการส่งหนังสือพิมพ์หรือว่านม ทั้งขายตรงและบริหาร ในบรรดางานเหล่านี้ เขาจำได้ว่ามีงานหนึ่งที่จีวอนฮวารังแนะนำมา มันคืองานในร้านขายของเก่า

อาร์คได้มีโอกาสสัมผัสกับสิ่งของจากทั่วโลกเพราะงานนี้ มันมีสิ่งของไม่มากนักที่ร้านขายของเก่ายากจะประเมินมูลค่า สิ่งของที่แพงมหาศาลสามารถเปลี่ยนเป็นไร้ค่าได้ อีกทั้งบางครั้งมันก็ตรงกันข้ามกัน ดังนั้นแล้ว ไม่ว่าจะสูญเสียหรือได้รับเงินมันก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้วินิจฉัย

ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคิดเรียนรู้ ทว่า เขาก็ต้องทำงานที่ต้องอาศัยความสามารถในการคาดเดามูลค่าของเก่าด้วยสายตาและหูควบคู่กันไป ซึ่งก็มีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณาเช่น เงา รูปร่าง การใช้งาน ประโยชน์ โดยผลลัพธ์ทั้งหมดจะรวมเป็นหนึ่งเดียวซึ่งก็คือมูลค่า

ทั้งหัวใจและจิตวิญญาณของผู้สร้างจะถูกใส่เอาไว้ในสิ่งของหากสร้างขึ้นด้วยความตั้งใจ เมื่อผู้สร้างที่เหนือล้ำสร้างสิ่งของสักชิ้นโดยทั้งเอาใจใส่และทุ่มเทจิตวิญญาณ กระทั่งว่ามองครั้งแรกมันอาจน่าเกลียดไปบ้าง แต่บางทีมันก็มีสิ่งที่เรียกว่า ‘เอกลักษณ์’ อยู่ด้วย บางคนอาจไม่ต้องสัมผัสก็สามารถรู้สึกถึงความแตกต่างได้แล้ว

กล่าวได้ว่าการฝึกฝนจะสร้างความสมบูรณ์แบบขึ้น

‘อา ชิ้นนี้ไม่ค่อยดีนัก ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้องอยู่บ้าง’ ในบรรดาสิ่งของทั้งหมดที่พิจารณาส่วนใหญ่แล้วจะดูดีแต่เปลือกนอก

‘หืม? อันนี้ดูเหมือนจะดูดีกว่าสภาพภายนอกนี่’ มูลค่าของของเก่าบางทีก็อาจมากถึงแสนวอน

‘ที่แห่งนี้คือเสมือนจริง รายละเอียดของสิ่งของย่อมเหมือนดังเช่นชีวิตจริง’ เพื่อยืนยันเรื่องนี้ อาร์คใช้เวลาหลายวันเดินรอบสำรวจสิ่งของในงานประมูล นี่ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ แต่นิวเวิร์ลด์นั้นใช้กฎเกณฑ์เช่นเดียวกับโลกแห่งความเป็นจริง นี่หมายความว่า มันมีความเป็นไปได้ที่จะรับรู้ถึงมูลค่าแท้จริง แม้ว่าเขาจะไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลพวกมันได้ก็ตาม

หลังประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว เขาก็เริ่มที่จะซื้อหาไอเทมมา พอไอเทมผ่านการวินิจฉัยแล้ว เขาจะตรวจสอบความต่างของความรู้สึกที่มีต่อมันพร้อมกับเริ่มแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ มันค่อนข้างต้องใช้ความพยายามเอาเรื่องเลยทีเดียว

หลังใช้เวลากว่าหลายวันผ่านไปเช่นนี้ ความสูญเสียที่เกิดขึ้นก็เริ่มที่จะหยุดลงแล้ว

แต่มันไม่ใช่เพียงเท่านั้น ขณะที่เขาตรวจสอบสิ่งของจำนวนนับไม่ถ้วน มันกลับได้รับโบนัสที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน

 

=====

เหรียญเก่า (วัตถุโบราณ)

เป็นเหรียญเก่าที่เคยใช้เมื่อหลายร้อยปีก่อน การใช้ชีวิตในช่วงเวลานั้นจำเป็นต้องออกแบบให้มีความโค้งบนพื้นผิวของเหรียญ เหรียญนี้เป็นโบราณวัตถุที่ได้รับความนิยมในหมู่นักสะสม ดังนั้นแล้วจึงขายได้ในราคาค่อนข้างสูง

มูลค่า : 10 เหรียญทอง

=====

โบนัสจากการได้รับข้อมูลเรื่องโบราณวัตถุ เหรียญเก่า

ภูมิความรู้โบราณวัตถุ +1, ความฉลาด +1, ชื่อเสียง +5

=====

 

ในบรรดาที่ไอเทมที่ยังไม่ผ่านการวินิจฉัย บางครั้งก็จะมีโบราณวัตถุปะปนมาด้วย ถ้าหากเขาทำการวินิจฉัยไอเทมและถือครองมันเอาไว้ เขาจะได้รับโบนัสค่าสถานะภูมิความรู้โบราณวัตถุ

‘พอมาคิดดูแล้ว เศษศิลาลึกลับที่อยู่ในท้องของแกลลิคจำเป็นต้องใช้ภูมิความรู้โบราณวัตถุสูงถึง 50 เพื่อตรวจสอบมัน กำลังกังวลอยู่พอดีว่าจะเพิ่มค่าสถานะนี้ยังไงดี มันถึงกับมีวิธีแบบนี้อยู่ด้วย’

ตอนนี้ค่าสถานะคือ 36 แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นทีละ 1 แต่มันก็ยังมีการประมูลสิ่งของอีกมากมาย มันคงไม่ยากเกินไปที่จะเพิ่มขึ้นถึง 50 ถ้าหากเขายังลงมือต่อไปเรื่อยเช่นนี้ ดังนั้นแล้วค่าความฉลาดที่เพิ่มขึ้นมาพร้อมกับภูมิความรู้โบราณวัตถุ มันจึงเป็นประโยชน์ต่ออาร์คที่จำเป็นต้องอัญเชิญสมุนปีศาจเป็นอย่างยิ่ง

‘ได้อีกเหตุผลที่จะอยู่ในงานประมูลแล้ว ดีล่ะ เราต้องตั้งใจให้มากกว่านี้’

เมื่ออาร์คกำหนดความตั้งใจได้แล้ว ความบากบั่นของเขาออกจะน่ากลัวอยู่บ้าง นอกจากเวลาที่ต้องนอนหลับ อาร์คจะใช้ชีวิตโดยอยู่ในงานประมูล ทีละน้อย เขาเริ่มจับทางได้แล้วว่าควรเสนอราคาไอเทมแต่ละชิ้นเท่าไหร่ดี ในขณะที่อัตราความสำเร็จของเขาเพิ่มขึ้นทีละน้อย เงินของเขาก็เริ่มที่จะมีมากขึ้นแม้ว่าจะเล็กน้อยก็ตาม

เมื่อเขาทำเงินจนได้มาเป็นทุนทรัพย์ส่วนหนึ่ง เขาจึงลากซิดมายังการประมูล

“ซิดนิม นับจากนี้ฉันจะชี้บอกไอเทมที่ต้องการ ดังนั้นแล้วโปรดช่วยเสนอราคาพวกมันในช่วงใกล้ปิดการประมูลด้วย แน่นอนว่าให้ปล่อยไปถ้าหากราคามันเกินกว่าที่แจ้งเอาไว้ หลังจากนั้นก็ให้ไปเล็งชิ้นอื่นแทน”

“ว่าอะไร? แต่นี่ผมต้องออกไปทำการค้า...”

“ช่วยหน่อยเถอะน่า ไม่ใช่ว่าพวกเราข้ามสันเขาสีเทามาด้วยกันหรือไง?” อาร์คคว้าไหล่ของซิดเข้ามาขณะกดดันเรื่องสันเขาสีเทา

‘นี่ไม่ใช่ขอให้ช่วยแล้ว นี่มันมัดมือชักเลยต่างหาก’

ท้ายที่สุด กระทั่งซิดก็ยังต้องกลายเป็นซอมบี้เดินเร่ร่อนไปทั่วสถานที่จัดงานประมูล

ซิดที่โดนอาร์คจับตัวมาถอนหายใจเฮือก ทว่า มันก็ทำกำไรให้เขาดีเอาเรื่องเหมือนกัน อาร์คที่สะสมไอเทมจากงานประมูลเอาไว้จึงฝากซิดขายพวกมัน ต้องขอบคุณเรื่องนี้จึงทำให้อาร์คได้รับกำไร และซิดก็ได้ค่าประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น แน่นอนว่า ไม่ว่าซิดจะน่าเชื่อถือถึงเพียงไหน หนังสือสัญญาก็ยังจำเป็นต้องร่างทุกครั้งไป

ต้องขอบคุณซิด อาร์คจึงพอมีเวลาว่างไปเริ่มทำงานอื่นได้ เขานำไอเทมที่ได้รับมาในราคาถูกไปออกประมูลอีกครั้งหนึ่ง

‘ชิ้นนี้มากสุดก็ขายได้ 13 เหรียญทอง ในเมื่อมันมีการป้องกันระดับกลางอยู่ เราจำเป็นต้องจ่ายถึง 10 เหรียญทองเพื่อวินิจฉัย งั้นมันก็จะเหลือเพียงแค่ 3 เหรียญทองสินะ’ อาร์คที่นำไอเทมกลับมาประมูลอีกครั้งเริ่มเปิดการเสนอราคาที่ 3 เหรียญทอง ทว่า อาร์คก็หาได้ไร้เดียงสาขนาดที่จะรอคอยให้ไอเทมมันขายออกด้วยตัวของมันเอง

ผู้ส่งไอเทมเข้าประมูลไม่อาจเสนอราคาไอเทมที่ตนเองนำเข้าประมูลได้ แต่เอ็นพีซีทำได้

อาร์คใช้เรื่องดังกล่าวอัญเชิญเดดริคออกมา และให้เดดริคไปเข้าร่วมการประมูล อาร์คต้องจ่ายออกหากเดดริคชนะการประมูล แต่ในเมื่อเดดริคไม่ใช่คนส่งไอเทมเข้าประมูล มันก็จึงไม่ใช่การแหกกฎ ค่าธรรมเนียมเล็กน้อยที่เขาต้องจ่ายเพื่อส่งไอเทมเข้าประมูลก็ไม่ใช่ความสูญเสียที่มากมายอะไร

เขาเริ่มหาประโยชน์จากงานประมูลด้วยจุดบอดนี้

อาร์คที่มีทั้งเดดริคและซิดช่วยเสนอราคาไอเทมให้สูงขึ้น ราคาจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นจึงทำให้มันค่อนข้างน่าสนใจในบรรดาผู้คนที่ไม่รู้อะไร หลังทำแบบนี้มาได้หลายชั่วโมง พวกเขาก็ตกปลาที่ไร้ซึ่งแววตามาได้หนึ่งหรือสองตัว พอถึงจุดนั้น เมื่อทั้งสองต่างเพิ่มราคากันไปเรื่อยก็นับว่าติดกับแล้ว

กระทั่งว่าไม่เห็น เขายังนึกถึงสภาพสีหน้าของเหล่าผู้เล่นที่ประมูลไอเทมเหล่านั้นไปยามที่อยู่ในร้านวินิจฉัยได้

“อะ-อาร์คนิม นี่มันโกงนะครับ”

“แน่นอนว่าไม่ ความไม่รู้นั้นเป็นบาป นี่แหละโลกแห่งการประมูล”

“แบบนี้ก็ได้เหรอครับ?”

“แหงอยู่แล้ว” อาร์คเกลี้ยกล่อมด้วยสีหน้าไร้ซึ่งความปราณี สิ่งที่เขากล่าวไปนั้นไม่ผิด อย่างไรเสียอาร์คก็ได้เรียนรู้เรื่องนี้มาจากไวดัส

อาร์คใช้เวลาไปกว่าสิบวัน นอกจากการประเมินราคาและขายสิ่งของในการประมูลแล้ว เขาแทบใช้ชีวิตอยู่กับสถานที่จัดงานประมูล

เงินทองเริ่มไหลมาเทมาจนเขาไม่อาจพูดได้ว่าเขานั้นเสียเงินไปเท่าไหร่กับทำเงินไปได้เท่าไหร่ สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ เขาหาเงินได้! ไม่ มันแน่นอนอยู่แล้วว่าเขาสามารถหาเงินได้

‘ตอนนี้ ในที่สุดเราก็ฟื้นคืน 400 เหรียญทองที่เสียในตอนเริ่มได้แล้ว’

ขณะที่อาร์คครุ่นคิดและมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดงานประมูลอีกครั้ง หน้าต่างข้อความก็เด้งขึ้นพร้อมเสียงแสดงความยินดี

 

=====

ท่านได้เรียนรู้ทักษะใหม่

เนตรหยั่งรู้ (พิเศษ, เรียกใช้งาน, ขั้นต้น) : ท่านได้ทำการวินิจฉัยไอเทมไปจำนวนนับไม่ถ้วนเป็นเวลานาน ผลลัพธ์ที่ได้คือท่านได้รับดวงตาที่เหนือล้ำสำหรับการแยกแยะไอเทม

พลังมานาเรียกใช้ : 20

*ตอนนี้ท่านสามารถปลดการป้องกันระดับต่ำของไอเทมที่ยังไม่ผ่านการวินิจฉัยได้

*ตอนนี้ท่านสามารถประเมินมูลค่าของไอเทมโดยอ้างอิงราคาตลาดที่เคยตรวจสอบมาก่อนได้โดยทันที

=====

 

‘อะ-อะไรกันเนี่ย?’ ปากของอาร์คอ้ากว้าง

ทักษะการวินิจฉัยสมควรได้รับก็ต่อเมื่ออยู่ในสายอาชีพการผลิตที่มีค่าสติปัญญาเกิน 300 หน่วย หรือไม่ก็เป็นนักเวทที่มีค่าความฉลาดเกิน 500 หน่วย

จะมีอีกกรณีก็คือการใช้หนังสือทักษะหายาก ทว่า อาร์คที่เป็นผู้เดินทางแห่งความมืด กลับสามารถเรียนทักษะที่มีผลลัพธ์เช่นเดียวกันได้โดยไม่ต้องใช้จ่ายเงินเลยสักเหรียญทองแดง นอกจากนี้ เขายังได้รับความสามารถในการประเมินมูลค่าของไอเทมโดยทันทีเสียด้วย ความสามารถนี้จะมีก็แต่ในร้านวินิจฉัยไอเทมเท่านั้น

มันไม่อาจเกิดขึ้นได้ถ้าหากว่าเขาไม่ได้มีสายตาที่เฉียบคมจากเมื่อครั้งที่อยู่ในร้านขายของเก่า

“ใช่แล้วล่ะ ในเกมนี้ ถ้าหากเพ่งสมาธิอย่างเต็มที่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ทักษะที่เกี่ยวข้องก็จะถูกสร้างขึ้น ทว่า เรากลับได้เรียนทักษะการประเมินราคาทั้งที่อาชีพไม่ได้เกี่ยวข้องกับสายการผลิตหรือว่านักเวทเลย”

นี่เป็นผลประโยชน์ของการทุ่มเทเวลากว่าสิบวันในสถานที่จัดงานประมูล ทักษะใหม่ได้ถูกสร้างขึ้นจนทำให้รายรับของอาร์คเพิ่มขึ้น แม้มันจะเป็นแค่ระดับต่ำ แต่การวินิจฉัยถึงสิบครั้งก็เป็นเงินมากถึง 50 เหรียญทอง ในอีกห้าวันถัดมา กระทั่งว่าขายเหรียญทองไป 300 เหรียญเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาลแล้ว เขาก็ยังคงมีกองเหรียญทองคงเหลืออยู่อีกถึง 900 เหรียญ

ท้ายที่สุดแล้ว มันก็มาถึงขีดจำกัดจำนวนเงินที่จะทำได้จากสถานที่จัดงานประมูล

“ตอนนี้ไม่เหลือไอเทมที่พอทำกำไรได้อีกแล้ว” อาร์คมองไปรอบงานประมูลด้วยสายตาเสียดาย

นี่ก็ผ่านไปครึ่งเดือนแล้วตั้งแต่ที่เขาเริ่มใช้ชีวิตอยู่กับสถานที่จัดงานประมูล ตอนนี้ อัตราความสำเร็จของอาร์คสูงจนเกินกว่า 70% แล้ว ในเมื่อเขาซื้อหาทุกสิ่งที่ดูใช้งานได้มาราวคนบ้า มันจึงเหลืออยู่เพียงแค่สิ่งของที่ดูไม่มีราคาค่างวดอะไร

งานประมูลนี้ ไอเทมที่เข้าประมูลล้วนเป็นผู้เล่นส่งเข้ามา ดังนั้นแล้วจึงไม่มีทางที่สิ่งของเข้าร่วมประมูลจะไหลมาอย่างไม่ขาดสาย

‘คงถึงเวลาต้องไปจากที่แห่งนี้แล้วสินะ?’

แม้ว่ามันจะไม่เหลือไอเทมที่คุ้มค่าจะประมูลแล้วก็ตาม แต่มันก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่รบกวนใจเขา ไอเทมที่ถูกส่งเข้าประมูลเบื้องหน้าเขานั่นเอง

มันเป็นดาบที่มีเขม่าดำจับและไม่มีด้ามจับ ดูผิวเผินแล้วไม่ต่างอะไรไปจากขยะ ถ้าหากสำรวจมองดูให้ดี มันมีออร่าแปลกประหลาดกำลังรั่วไหลออกมาจากตัวคมดาบ ปัญหาอยู่ที่ ความรู้สึกของเขามันบอกว่ามันไม่สมควรทำเงินได้

‘ไม่ว่ามันจะดูเป็นยังไงก็ตาม แต่นี่มันไม่เหมือนจะทำรายได้ให้ได้เลยสักนิด แม้ว่าจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างจากมันด้วยก็ตามเถอะ’

ตามปกติแล้ว เขาก็แค่ลองซื้อหามันมา แต่ว่า สถานการณ์ครั้งนี้ออกจะแตกต่างไปบ้าง

‘ใครกันที่ชื่อดานิล?’

ไอเทมชิ้นนี้เริ่มราคาประมูลที่ 10 เหรียญทอง กระนั้น ก็ไม่มีใครเสนอราคาไอเทมชิ้นนี้หลังผ่านไปชั่วโมง เห็นได้ชัดว่าเพราะสภาพที่ไม่ค่อยดีของมัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่อาร์คคิดว่าสมควรได้รับมาโดยง่าย โดยการเพิ่มราคาเป็น 10 เหรียญทอง กับอีก 1 เหรียญทองแดง แต่แล้วในขณะที่เขาละสายตาไป ผู้เล่นชื่อดานิลกลับมาเสนอราคาใหม่เป็น 15 เหรียญทอง

เป็นเพราะตัวเขาเอง ความที่อาร์คไม่อยากยอมแพ้จึงทำให้เขาเริ่มเพิ่มราคาให้สูงขึ้น ก่อนที่จะรู้ตัว ราคาก็พุ่งไปถึง 40 เหรียญทองแล้ว

‘นี่มันบ้าอะไรกัน? ทำไมไอ้คนที่ชื่อดานิลถึงดูอยากได้ไอเทมนี้นัก? ไม่เคยเห็นชื่อของมันในงานประมูลมาก่อนด้วยซ้ำ...’

เมื่อเห็นว่าราคามันสูงกว่าที่คาดคิดเอาไว้ อาร์คจึงเสนอราคาเป็น 40 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดงเพื่อเป็นการทดสอบ บางทีอาจเป็นเพราะจิตวิญญาณการแข่งขันของดานิลได้ลุกโชนขึ้น เขาถึงกับเสนอราคา 100 เหรียญทอง ตอนนี้เขาเพียงคิดได้ว่าอีกฝ่ายบ้าไปแล้ว

‘ถ้าไอ้หมอนี่ไม่ได้บ้า งั้นมันก็ต้องมีอะไรแล้ว นี่มันวิธีการตกเหยื่อชัด ๆ’

หลังจากที่อาร์คใช้วิธีการปล่อยราคาสินค้าให้เฟ้อ นี่ก็เป็นอีกวิธีการที่ผู้เล่นอื่นใช้เช่นเดียวกัน ด้วยวิธีการนี้ เขาเรียกมันว่าตกเหยื่อ ซึ่งการจะใช้มันได้ก็ต้องเป็นสถานการณ์ที่ต้องระมัดระวังอย่างรัดกุม ถ้าหากเขาเพิ่มราคาขึ้นไปสูงถึง 100 เหรียญทองในครั้งเดียว แล้วมันจะมีไอ้บ้าที่ไหนมาติดกับที่เด่นชัดขนาดนี้กัน?

มันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมอาร์คถึงเริ่มระแวง นี่มันเหมือนวิธีการตกเหยื่อเกินไป มันทำให้เขาคิดได้ว่าที่จริงแล้วอาจไม่ใช่การตกเหยื่อ นอกจากนี้ ดานิลยังเป็นชื่อที่อาร์คไม่เคยพบเห็นในสถานที่จัดงานประมูลมาก่อน 100 เหรียญทองไม่ใช่จำนวนเงินที่พวกไร้น้ำยาในงานประมูลจะโยนทิ้งเล่นได้โดยไม่คิด

‘การใช้จ่ายมากถึง 100 เหรียญทองนี่มัน... ไร้สาระสิ้นดี’ ราคาที่สูงขนาดนี้ กระทั่งว่าเป็นดาบและชุดเกราะที่ดูดีหน่อยยังได้เพียงแค่ 50 เหรียญทองเอง

‘ทำไงดีนะ? หรือเราควรปล่อยหมัดสุดท้ายไป หลับหูหลับตาแล้วกินเหยื่อเข้าไป?’

กระทั่งว่าหลังจากฟื้นคืนที่เขาเสียทุนไป เขาก็ยังมีเงินที่ได้รับมาเพิ่มอยู่อีก 250 เหรียญทอง รวมเข้ากับเหรียญทองที่ขายไปเพื่อนำไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล รวมทั้งหมดแล้วคือเขาได้กำไรมา 550 เหรียญทอง! ทว่า สำหรับอาร์ค 100 เหรียญทองไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย

การลงทุนจนเขาได้รับเงินมาถึงขนาดนี้ เป็นเพราะการวิ่งไปทั่วสถานที่จัดงานประมูลราวคนบ้าตลอดครึ่งเดือน มันไม่ใช่อะไรที่เขาจะตัดสินใจได้โดยง่าย

‘เอาเถอะ ในเมื่อเราได้เรียนทักษะเนตรหยั่งรู้มา แม้จะไม่ได้รับเงินอื่นใดจากที่นี่อีก เราก็ยังได้รับมาอย่างใหญ่หลวง เราได้ทุกสิ่งที่สามารถจะได้รับจากสถานที่จัดงานประมูลแล้ว ครั้งนี้ถือเป็นที่ระลึกการจบชีวิตสายงานประมูลก็แล้วกัน เชื่อมั่นในสายตาตนเอง! ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เราก็ต้องประมูลเจ้าสิ่งนี้มา!’

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด