ตอนที่แล้วเล่ม 2 ตอนที่ 5 : วงกตแห่งวาฬขาว (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 2 ตอนที่ 6 : ผู้เยียวยาดวงวิญญาณ (2)

เล่ม 2 ตอนที่ 6 : ผู้เยียวยาดวงวิญญาณ (1)


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

==========

เล่ม 2 ตอนที่ 6 : ผู้เยียวยาดวงวิญญาณ (1)

“เจ้างู เก็บพวกมัน”

ขณะที่อาร์คชี้นิ้วไปยังไอเทมที่กองรวมอยู่ที่เท้า เจ้างูได้ยื่นลิ้นของมันออกมาและกลืนกินทั้งหมดเข้าไป กองขยะเหล่านี้เป็นคลื่นน้ำซัดนำพามา มันมีทั้งสาหร่ายทะเลหลายชนิด ไอเทมของชาวเงือก โพชั่นฟื้นฟู ไข่มุก รวมถึงของสิ่งอื่นอีกมากมาย ต้องขอบคุณสิ่งเหล่านี้ ทำให้กระเป๋าที่ว่างเปล่าของเขาจากโนเดเลสกลับกลายเป็นล่ำซำขึ้นมาได้

มันมีมอนสเตอร์จำนวนหนึ่งเฝ้าคุ้มครองกองขยะนี้อยู่ ทว่าตอนนี้ กระทั่งว่าเป็นมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนหกตัวดาหน้าเข้ามา เขาก็สามารถจัดการพวกมันลงได้อย่างง่ายดาย

ข้อได้เปรียบของผู้เดินทางแห่งความมืดคือ ในความมืดค่าสถานะจะเพิ่มขึ้น นั่นจึงทำให้เขาสามารถมีเลเวลเกินกว่าที่ตนเองเป็นอยู่ได้ ต้องขอบคุณสิ่งนี้จึงทำให้เขาสามารถได้รับค่าประสบการณ์จากการฆ่ามอนสเตอร์ที่เลเวลสูงกว่าตนเอง 5 ระดับได้จนได้รับผลประโยชน์มหาศาล อีกทั้งยังมีผลค่าประสบการณ์เพิ่มอีก 10% ทุก 5 เลเวลที่สูงกว่า มอนสเตอร์ส่วนใหญ่ที่เขาพบเจอในท้องของแกลลิคนี้เฉลี่ยแล้วล้วนสูงกว่าเขาถึง 10 เลเวลทั้งนั้น

เท่ากับว่าค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นถึง 20%! ด้วยผลลัพธ์วิเศษเช่นนี้ อาร์คใช้เวลาเพียงแค่สองชั่วโมงต่อวันพยายามอย่างหนักก็เลเวลเพิ่มขึ้นมาได้ ต้องขอบคุณสิ่งนี้จึงทำให้อาร์คสามารถเพิ่มเลเวลได้อีกนับ 10 ระดับภายในสัปดาห์

“หน้าต่างสถานะ”

=====

ชื่อตัวละคร : อาร์ค

เผ่าพันธุ์ : มนุษย์

แนวโน้ม : ความดี +50

ชื่อเสียง : 520

เลเวล : 62

อาชีพ : ผู้เดินทางแห่งความมืด

ฉายา : อัศวินแห่งแมว, ผู้เยียวยา

พลังชีวิต : 1,305

พลังมานา : 730 (+100)

พลังจิตวิญญาณ : 100

พละกำลัง : 176

ความคล่องตัว : 196 (+17)

ความอดทน : 249

สติปัญญา : 25

ความฉลาด : 141

โชค : 41

ความยืดหยุ่น : 14

ศาสตร์แห่งการสื่อสาร : 18

เสน่หา : 18

ค่าสถานะพิเศษ ภูมิความรู้โบราณวัตถุ : 35

ผลจากอุปกรณ์สวมใส่

ชุดเกราะหนังหนูหมีสีดำ : ความคล่องตัว +2, ภูมิต้านทานความหนาว +20

อุ้งตีนแมว : ความเร็วโจมตี +10%, ความคล่องตัว +15, อัตราการโจมตีคริติคอล +10%

หมวกโกเลมคริสตัล : พลังมานา +100

*ทุกความสามารถเพิ่มขึ้น 20% เมื่ออยู่ในความมืด

*ท่านสามารถหลบซ่อนในความมืดได้ ระยะเวลาส่งผล 10 นาที ยกเลิกเมื่อเข้าสู่สภาวะการต่อสู้

*ภูมิต้านทานความหวาดกลัว ความมืด ตาบอด และคาถาเสน่ห์เพิ่มขึ้น 50%

*ท่านสามารถนำเอาความสามารถแท้จริงของอุปกรณ์ทุกชนิดออกมาได้

=====

ต้องขอบคุณที่เขานั้นเพิ่มค่าความอดทนเสมอมา พลังชีวิตตอนนี้เกินกว่า 1,300 เข้าไปแล้ว ด้วยค่าพลังมานาอีก 100 จากหมวกโกเลมคริสตัล ทำให้พลังมานาของเขามีมากถึง 830! มันเพียงพอที่จะใช้คมดาบแห่งความมืดได้ถึงแปดครั้งหากเขาไม่เรียกใช้งานสมุนปีศาจ

ในเมื่อเลเวลของเขาผ่าน 60 มาแล้ว ประสิทธิภาพในการล่าจึงลดลงเพราะไม่มีค่าประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น 10% อีกต่อไป

“ตอนที่ยังมีโบนัสอยู่ยังไม่รู้เลย แต่พอมันหายไปก็ดูเหมือนค่าประสบการณ์แทบไม่กระเตื้อง เอาเถอะ ในเมื่อเลเวลเราเพิ่มขึ้นมามากพอแล้ว กระเป๋าเองก็เกือบเต็ม สมควรได้เวลาไปจบภารกิจนี้แล้ว”

เขายังคงไม่พบเจอเบาะแสของภารกิจ

ในท้องของวาฬขาวตัวนี้มันซับซ้อนกว่าที่เขาคาดคิด เส้นทางอันยาวไกลเป็นเส้นตรงนั้นมีมากที่สุด ทว่าถ้าหากเขาหลงไปเพียงแค่เล็กน้อยจะต้องประสบกับสภาพพื้นที่เขาวงกต ด้วยเซลล์ของผนังที่บิดไปมาและพันกัน อีกทั้งยังมีสถานที่ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหนอย่างที่เขาอยู่ในตอนนี้ บางพื้นที่ก็คล้ายมีกับดักที่เป็นกรดของกระเพาะอาหาร

ทีแรกทุกสิ่งมันก็ดูน่าสนใจ แต่หลังผ่านไปสัปดาห์ ดันเจี้ยนแห่งนี้ที่เต็มไปด้วยเลือดเนื้อสีแดงคล้ำ พวกมันกลับเริ่มน่าขยะแขยงอยู่บ้าง

‘ไม่ว่าจะยังไง เราก็ต้องหาสถานที่ที่จะสามารถจบภารกิจนี้ให้ได้’

อาร์คมุ่งเดินออกไป

อาร์คพอที่จะคาดเดาถึงสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจนี้ได้คร่าว ๆ แล้ว

เขาแหวกว่ายไปมาในนี้ตลอดทั้งสัปดาห์ แต่มันมีที่เดียวที่เขาไม่เคยกลับไปนั่นก็คือสถานที่ที่เคยเจอกับหนอนยักษ์

อาร์คหลบเลี่ยงการสู้กับหนอนเหล่านี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะห่างได้ ทว่าตอนนี้ อาร์คเลเวล 62 แล้ว ด้วยโบนัสที่เสริมเข้ามาของธาตุมืด ด้วยเลเวลเท่านี้ของเขาก็พอที่จะสมควรสู้กลับอะไรพวกมันได้บ้าง

อาร์คผ่านเส้นทางหูรูดจนเข้ามายังพื้นที่กว้างใหญ่ ภายในลานกว้างแห่งนี้มันเต็มไปด้วยเนื้อเยื่อสีแดง รวมทั้งหนอนที่กำลังแหวกว่ายไปมา

อาร์คนำเอาหม้อออกมาขณะต้มซุปและดื่มมันเข้าไป

=====

ซุปเครื่องเทศทะเล

พลังชีวิต +100, พลังโจมตีและป้องกันเพิ่มขึ้น 20% เป็นเวลา 30 นาที

=====

ซุปทะเลนี้เป็นสิ่งเดียวที่เขาทำได้หลังจากที่ทักษะทำอาหารเพื่ออยู่รอดเลื่อนระดับขึ้นเป็นขั้นกลาง นี่คือผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากอาหารทั้งหมดที่อาร์คมี นอกจากนี้ มันยังไม่มีผลข้างเคียงอะไรมีแต่ผลลัพธ์ที่ดี ทว่ามันกลับต้องใช้ทั้งสาหร่ายทะเลหายากและหอยทะเล ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่อาจกินบ่อยได้

พลังงานเริ่มเดือดพล่านหลังดื่มซุปเข้าไป หลังจากที่ป้อนให้กับเจ้ากะโหลก เขาจึงเริ่มลากหนอนพวกนั้นออกมาทีละตัว

กระทั่งว่าเลเวลของเขาเพิ่มขึ้นรวมถึงได้รับผลลัพธ์จากซุป หนอนพวกนี้ก็ยังแข็งแกร่งตึงมืออยู่บ้าง

ถ้าหากเดดริคแปลงร่างเป็นค้างคาวไปเบนความสนใจได้ก็คงง่ายขึ้นเยอะ หลังต่อสู้กับศัตรูที่ยากลำบากโดยไม่มีมัน อาร์คจึงได้รู้ว่าเดดริคมีส่วนช่วยมากแค่ไหน แต่ไม่ว่าจะเสียดายเพียงใด เขาก็ไม่คาดหวังกับสมุนปีศาจที่ไม่เชื่อฟัง เดดริคยังคงต้องโดนเขาปรับทัศนคติเสียใหม่

‘แม้ว่าค่าสถานะจะเพิ่มขึ้นมากในช่วงที่เดดริคโดนลงโทษอยู่...’

เจ้ากะโหลกได้เติบโตขึ้นทัดเทียมเลเวล 20 แต่ประโยชน์ที่มันสามารถกระทำได้ก็ยังน้อยกว่าหากเทียบกับเดดริค การเคลื่อนไหวของมันก็ช้ากว่าเดดริค อีกทั้งบ่อยครั้งที่มันจะวิ่งอย่างสับสนขณะที่การต่อสู้เริ่มขึ้นเพราะไม่ฉลาดพอ นอกจากนี้ ค่าสถานะของมันยังค่อนข้างเพิ่มขึ้นอย่างผิดที่ผิดทาง ไม่ว่าจะสติปัญญาหรือว่าโชค แต่แล้วค่าความอดทนของมันกลับค่อนข้างต่ำ ถ้าหากศัตรูเป็นหนอนยักษ์ มันก็คงเป็นเรื่องยากที่เจ้ากะโหลกจะยืนหยัดรับการโจมตีได้สักหนึ่งหรือสองครั้ง

ทว่า ความภักดีของเจ้ากะโหลกนั้นไร้ที่สิ้นสุดจริง

เมื่ออาร์คตกอยู่ในอันตราย เจ้ากะโหลกจะยอมตายเพื่อเขาโดยไม่ลังเล ผู้เล่นไม่รู้สึกเจ็บปวดยามโดนโจมตี ทว่าพวกมันที่เป็นเอ็นพีซีหรือมอนสเตอร์นั้นต้องรับความเจ็บปวดเสมือนจริงจนอาจกระทั่งหวาดกลัวต่อความตาย

มันจึงเป็นเหตุผลเดียวกันว่าทำไมเดดริคถึงต่อต้านอาร์คจนต้องเป็นเช่นนี้ ทว่าไม่ว่าจะฝึกฝนสมุนปีศาจหรือสัตว์เลี้ยงได้ดีเยี่ยมยังไง มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้ที่พวกมันจะยอมตายแทนเจ้านาย

เหตุผลเดียวที่เป็นไปได้ก็เพราะเจ้ากะโหลกมีค่าความภักดีอย่างถึงที่สุด

‘เจ้ากะโหลกคือพลังชีวิตสำรองของเรา’

หน้าที่แท้จริงของเจ้ากะโหลกคือตายแทนอาร์คในสถานการณ์อันตราย

เจ้ากะโหลกเองก็เข้าใจหน้าที่นี้ดี ถ้าหากพลังชีวิตของอาร์คลดเหลือน้อยกว่า 10% เจ้ากะโหลกจะพุ่งเข้ามาขวางเบื้องหน้าโดยไม่ต้องออกคำสั่ง จากนั้น ด้วยค่าสถานะของเขาที่เพิ่มขึ้นเพราะผลของความไม่ย่อท้อและร่างทรหด อาร์คจะสามารถสวนกลับการโจมตีหรือใช้คมดาบแห่งความมืดจัดการหนอนยักษ์ฆ่าพวกมันลงได้

เจ้ากะโหลกทำได้เพียงแค่ทนต่อการโจมตีหนึ่งหรือสองครั้งเพียงเท่านั้น

ถ้าหากการโจมตีคริติคอลหรือคมดาบแห่งความมืดพลาดเป้าไป เจ้ากะโหลกที่โดนบังคับเรียกตัวกลับคงสูญเปล่า ทว่า ต้องขอบคุณประสบการณ์ของอาร์คที่ได้รับจากใต้น้ำ มันได้ยกระดับเทคนิคของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจนทำให้การใช้ทักษะพลาดเป้านั้นมีโอกาสเกิดขึ้นต่ำมาก

ครั้งแรกมักจะยากเสมอ

‘หนอนพวกนี้มีพลังโจมตีไม่ธรรมดา แต่วิธีการโจมตีของพวกมันกลับเป็นรูปแบบที่เรียบง่าย’

หลังฆ่าหนอนไปได้จำนวนหนึ่ง เขาพัก ช่วงสองตัวแรกนั้นเขาแทบเกือบเอาตัวไม่รอด แต่ยิ่งผ่านการต่อสู้ไปนานขึ้น พลังชีวิตของเขาก็เหลือเยอะมากขึ้น หลังจากนั้น เขาสามารถเอาชนะพวกมันไปได้ด้วยพลังชีวิตที่เหลือมากถึง 30%

‘ถ้าหากหนอนพวกนี้ไม่ใช่มอนสเตอร์ขนาดยักษ์ เราคงสามารถจัดการพวกมันสองตัวได้ในครั้งเดียว’

มอนสเตอร์ขนาดยักษ์มีความสามารถในการลบล้างผลลัพธ์เพิ่มเติมในอัตราที่สูง ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ มันเป็นไปได้ที่เขาจะสามารถสู้กับพวกมันหลายตัวได้โดยการใช้ลูกเตะและดาบเข้าสู้ คล้ายกับครั้งที่เขาทำเมื่อตอนที่ต่อสู้กับปูหรือมนุษย์ฉลาม

ด้วยวิธีการเดียวกัน หนอนทั้งหมดทุกตัวโดนจัดการจนสิ้นภายในเวลาครึ่งวัน

“ทำได้ดี”

ขณะที่อาร์คลูบหัวของมัน เจ้ากะโหลกก็กลิ้งไปมาเผยความสุข ในสายตาของอาร์ค เจ้ากะโหลกยิ่งภาคภูมิใจมากขึ้นเมื่อได้รับคำชม

กระทั่งว่ามันเกือบตายไปหลายครั้ง ถ้าหากอาร์คเพียงแค่ลูบหัวของมันสักครั้งหนึ่ง ทุกอย่างก็กลับกลายเป็นดี ขณะที่อาร์คส่งสายตาชื่นชมเจ้ากะโหลกอยู่นั้น เจ้างูน้อยก็จ้องมองเจ้ากะโหลกด้วยดวงตาอิจฉา มันเป็นอีกสิ่งที่เขาเพิ่งพบเมื่อไม่นานมานี้ ในเมื่อเจ้างูมองว่าอาร์คเป็นครอบครัวของมัน มันก็ยิ่งอิจฉามากยิ่งขึ้นหากเขากล่าวชม ถ้าหากอาร์คชื่นชมสมุนปีศาจตนอื่นสักพักหนึ่ง ไม่ช้ามันจะเริ่มหดหู่และพันรอบตัวเองกับอาร์คแล้วสร้างความรำคาญให้

แต่พอชินแล้วมันก็ไม่ได้สร้างความรำคาญให้กับเขาสักเท่าไหร่...

ไม่ว่าจะอย่างไร หลังจัดการหนอนเหล่านี้เสร็จสิ้นอาร์คจึงเริ่มออกสำรวจ เมื่อเขาเดินออกไปยังอีกฟากหนึ่ง มันมีช่องว่างแห่งหนึ่งกำลังสะท้อนเสียง ตูม ตูม ออกมา

“ดูไปคล้ายเสียงหัวใจเต้นนะ หัวใจของแกลลิคอยู่อีกด้าน?”

ขณะนั้นเอง เจ้างูได้ดิ้นรนเล็กน้อยและคายเอาบางสิ่งออกมา

มันคือเข็มทิศของจ้าวแห่งท้องทะเล

เข็มทิศที่กำลังสั่นได้เรืองแสงออกมาสอดรับการเสียงหัวใจเต้น เป็นเพราะสิ่งนี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นเหตุให้เจ้างูทนไม่ไหวจนต้องคายมันออกมา

“นี่สมควรเป็นสถานที่ที่จะจัดการภารกิจได้สินะ แต่ว่าจะไปได้ยังไงกัน?”

ไม่ว่าจะเป็นทิศทางใดที่เขามองไปพวกมันล้วนถูกปิดกั้นเอาไว้ แต่แล้วในฉับพลัน สิ่งที่บันทึกเอาไว้ภายในเสาคริสตัลพลันผุดขึ้นในใจเขา

หากท่านต้องการเจอข้า เช่นนั้นจงหลับตาทั้งสองลง

‘ถ้าหากตรงนี้จะมีลูกเล่นอะไร ก็คงจะเป็นคำใบ้นี้’

อาร์คยืนนิ่งขณะหลับตาลง

ขณะที่เขากระทำ เสียงหนึ่งได้ดังขึ้นไปทั่วทั้งพื้นที่ ไม่นานจึงค่อยลดเสียงเบาลง จากนั้น เสียงดังกล่าวมันเริ่มที่จะเจาะจงไปยังทิศทางหนึ่ง ราวกับว่าคันฉ่องในมือได้นำพาเขาไปด้วยเสียงของหัวใจเต้นที่กำลังสั่นเทาไปยังอีกด้านหนึ่ง

‘ทางนี้? ไม่ใช่ว่าโดนปิดกั้นเอาไว้หรือไง...’

อาร์ควางมือลงบนผนังและเคลื่อนไหว จากนั้น ผนังจึงเปิดออกราวกับเผยเส้นทางให้ปรากฏขึ้น

ในขณะเดียวกันนับจากนั้น ขณะที่เขาเดินไปยังเส้นทางนั้น เขาได้หลับตาลงอยู่ตลอดขณะมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่เสียงดังมาแม้ว่ามันจะเป็นทางตันก็ตาม ด้วยเส้นทางที่ปรากฏขึ้นด้วยตัวของมันเอง หลังเดินมาได้หลายนาที สถานที่แห่งหนึ่งที่วาบผ่านด้วยแสงสีแดงฉานได้ปรากฏขึ้น

ใจกลางของมันตั้งเอาไว้ซึ่งรูปปั้นหินรูปลักษณ์มนุษย์ มันกำลังถือชิ้นส่วนหินรูปไข่เอาไว้ในมือ ชิ้นส่วนหินนี้คล้ายกับมีรอยแยกอยู่ที่ใดสักที่หนึ่ง มันมีออร่าดำมืดที่เขาสามารถมองเห็นและยืนยันได้ว่ามันกำลังเรืองแสง

“เจอแล้ว มันต้องเป็นไอเทมที่เธอนำมาและหายตัวไปแน่!”

ขณะที่อาร์คเร่งร้อนพุ่งเข้าไปยังเศษชิ้นส่วนหินนั้น...

ดวงตาของรูปปั้นพลันฉายแสงทอวูบขณะที่หันหัวของมันมาพร้อมส่งเสียงกรีดร้องเสียดแทงแก้วหู

“กรี๊ด!”

“อะ-อะไรเนี่ย?”

รอยแยกคล้ายใยแมงมุมได้กระจายอยู่บนตัวรูปปั้น จากนั้น ราวกับมันปะทุออก เศษชิ้นส่วนรูปปั้นกระจายไปทั่วพื้นที่ และร่างหนึ่งที่มีสีดำขลับจึงปรากฏขึ้น ด้วยรูปลักษณ์นี้ มันคล้ายกับยมทูตที่เขาเคยสู้ด้วยในป่าแห่งเงา

มันเป็นร่างขนาดใหญ่ยักษ์ที่ใหญ่มากพอจะเติมเต็มพื้นที่แห่งนี้ มันคือปีศาจที่เผยดวงตาและปกคลุมเอาไว้ซึ่งชุดสีดำและผ้าคลุมสีดำ ด้านหลัง เป็นผมสีดำที่กำลังพลิ้วไหวราวกับอสรพิษ มันดำสนิท กระทั่งผิวของมันที่มีรอยแยกยังคล้ายกับต้นไม้เก่าแก่สีดำ

=====

บอสมอนสเตอร์ อเดเลียน ปรากฏตัว!

=====

ภารกิจได้รับความคืบหน้า

เทพผู้พิทักษ์แห่งชาวเงือก แกลลิค > ความมืดที่รุกราน

ที่สุดทางแห่งการสำรวจวาฬขาวภายในท้องของแกลลิค ในที่สุดท่านก็มาถึงจุดหมายปลายทาง ต้นกำเนิดของพลังที่เติมเต็มอยู่ในท้องของแกลลิค มันคือความมืดที่ปลุกชีพมอนสเตอร์อันเดตขึ้นมาที่ภายในหัวใจ

เป็นเพราะความมืดมิดจึงทำให้แกลลิคสูญเสียสติและจิตใจ ท่านต้องโค่นล้มอเดเลียนแห่งความชั่วร้ายที่ซึ่งเป็นต้นกำเนิดรากเหง้าแห่งความมืด และนำพาแกลลิคกลับคืนสู่สภาพปกติ

ระดับความยาก : E+

=====

ภารกิจได้รับความคืบหน้าพร้อมกับข้อความแจ้งเตือน

ระดับความยากของมันถึงกับเป็น E+!

‘พอคิดแล้ว กระทั่งว่ามีบอสมอนสเตอร์อยู่ภายในท้องวาฬเนี่ยนะ!’

อย่างกะทันหัน เส้นผมที่ยืดขยายออกมาของมันราวกับหนวดเหล่านั้นพลันชิดใกล้และเข้าโจมตีใส่อาร์ค

อาร์คเคลื่อนเท้าของตนออกอย่างรวดเร็วเพื่อหลบหนวดเหล่านั้น เขาปัดป้องพวกมันออกไปเหมือนกับที่เคยทำกับหนวดของแมงกะพรุน

กระแสไฟฟ้าที่แล่นผ่านตัวเขาราวกับเป็นการบ่งบอกถึงความหวาดกลัว กระทั่งว่าเขาปัดป้องมันไปได้ พลังชีวิตยังหายไปถึง 200 หน่วย

“เนตรแห่งแมว!”

พลังชีวิตและเลเวลของอเดเลียนปรากฏขึ้น

มันคือบอสมอนสเตอร์เลเวล 100!

เสียงแจ้งเตือนถึงหายนะกำลังโลดแล่นไปมาภายในศีรษะของอาร์ค

“ไม่น่า ด้วยเลเวลของเราตอนนี้เอาชนะมันไม่ได้หรอก กระทั่งว่าให้ตายแล้วเกิดใหม่อีกครั้งก็ไม่!”

ถ้าหากไม่อยากตาย มันก็ต้องหาทางลดความห่างระหว่างเลเวลและพละกำลังระหว่างตัวคุณและศัตรูให้ได้

เมื่อการต่อสู้กับศัตรูเริ่มขึ้นแล้ว มันไม่ง่ายที่จะหลบหนี อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่จะโดนโจมตีจากทางด้านหลังสองหรือสามครั้งขณะหันหลังแล้วหนี ถ้าหากเขาคิดที่จะหนี มันก็ต้องหนีด้วยเคล็ดลับพลังชีวิตพิเศษที่เขามี

ความต่างของเลเวลนั้นแน่นอน ทว่ามันมีสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า ถ้าหากเขาโดนโจมตีเป็นชุดจากหนวดเหล่านั้น เขาคงอดทนเอาไว้ได้เพียงแค่ไม่กี่วินาที

อาร์คตะโกนออกขณะวิ่งไปรอบ “เจ้ากะโหลก ขวางมันไว้!”

เจ้ากะโหลกที่หาญกล้าพุ่งออกไป ทว่าในทันทีก็ต้องโดนเรียกตัวกลับเมื่อโดนการโจมตีของหนวดทั้งสามเข้า อาร์คเสียพลังชีวิตไป 200 หน่วยเพราะการโจมตีนั่น แต่นี่ก็ช่วยยืดเวลาให้เขาได้อีกหลายวินาที

“ขอโทษนะเจ้ากะโหลก แต่ไม่มีทางอื่นแล้ว”

อาร์คกลั้นน้ำตาเอาไว้ขณะห้อตะบึงวิ่งหนีไปยังทางออก

ตอนนี้มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

อย่างแรกเลยคือเขาต้องหนีออกไปและรอเวลา...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด