ตอนที่แล้วเล่ม 2 ตอนที่ 5 : วงกตแห่งวาฬขาว (2) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 2 ตอนที่ 6 : ผู้เยียวยาดวงวิญญาณ (1) [อ่านฟรี]

เล่ม 2 ตอนที่ 5 : วงกตแห่งวาฬขาว (3) [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

==========

เล่ม 2 ตอนที่ 5 : วงกตแห่งวาฬขาว (3)

หลังได้ลิ้มรสความขมขื่นไปครั้งหนึ่ง อาร์คยิ่งมายิ่งระมัดระวัง

ไม่เหมือนดั่งครั้งแรก เขาไม่กล้าที่จะเดินมั่วในดันเจี้ยน เขาเริ่มสำรวจอย่างระมัดระวังไปทีละก้าว เป็นเพราะเจ้าค้างคาวไม่อยู่แล้ว เขาจึงไม่มีหน่วยสอดแนมคอยช่วยเหลือ ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องระมัดระวัง เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงอะไรที่น่าสงสัยและอยู่ห่างออกไป อย่างรวดเร็วเขาจะใช้ ‘ลอบเร้น’ เพื่อหลบซ่อนตัว เขาสามารถเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่ไม่ใช่หนอนได้โดยไม่ยากลำบากแม้ไม่มีสมุนปีศาจคอยช่วย ถ้าหากมันไม่มีหนอนยักษ์อะไรอีก ที่แห่งนี้ก็คงเป็นสุดยอดพื้นที่การล่าให้ค่าประสบการณ์สูงเลยทีเดียว ขณะที่เขาสำรวจดันเจี้ยนเช่นนี้ต่อไป อาร์คจึงตระหนักถึงอีกหลายสิ่งขึ้นมาได้

ในดันเจี้ยน คลื่นยักษ์ที่มีความรุนแรงนั้นจะโผล่ขึ้นทุกสองชั่วโมง อาร์คได้คำนวณเวลา และเมื่อใดที่ถึงเวลาเกิดคลื่นยักษ์ เขาจะสวมใส่ตรวนมนุษย์ฉลาม ด้วยการสวมใส่ตรวนมนุษย์ฉลามจะทำให้เขาไม่โดนกระแสน้ำพัดพา อาร์คจะไม่โดนคลื่นยักษ์นำไป ทว่า ข้อจำกัดมันไม่ใช่เรื่องตลกเลย ในทันทีที่พวกมันพัดผ่านไปเขาถึงกับต้องถอดพวกมันออกโดยทันที

มันออกจะน่ารำคาญอยู่บ้าง แต่คลื่นยักษ์พวกนั้นก็ไม่แย่เสียทีเดียว เมื่อคลื่นยักษ์พัดผ่านไป กองขยะจะเกิดขึ้น เมื่อถึงตอนนั้น เขาจะสามารถค้นหาสิ่งของที่มีประโยชน์จากกองขยะได้ ในหลายความหมาย นี่ก็เป็นดันเจี้ยนที่ดีเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

อาร์คเริ่มสำรวจดันเจี้ยนแห่งนี้จนแทบลืมหลับนอน ยี่สิบสี่ชั่วโมงผ่านพ้นไป

“พวกนายทำได้ดีมาก เอ้ากินนี่ซะสิ” อาร์คกล่าวชมเจ้าค้างคาวและกะโหลกที่ทำได้ดีมากขณะยื่นอาหารที่ทำให้พวกมัน

เมื่อพลังชีวิตของสมุนปีศาจฟื้นคืน เขาจึงถามเจ้าค้างคาวออกไป “เจ้าค้างคาว อยากแก้มือกับดันพิลอีกครั้งไหม?”

“ว่าอะไร? จริงหรือเจ้านาย?” เจ้าค้างคาวถามด้วยความตื่นเต้น

เจ้าค้างคาวไม่ได้แก้มือกับดันพิลหลังแพ้พ่ายไปสองครั้ง แม้ว่าพวกเขาจะยุ่งอยู่กับภารกิจ แต่เหตุผลแท้จริงที่อาร์คคิดคือเจ้าค้างคาวยังขาดทักษะไปบ้าง มันจะเป็นเรื่องน่าเสียดายหากเจ้าค้างคาวแพ้ดันพิลและโดนเรียกกลับไป

แต่ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไปในช่วงเวลาที่ได้อยู่คนเดียวมาพักหนึ่ง

โดยไร้ซึ่งข้อจำกัดทางน้ำ เจ้าค้างคาวนั้นแข็งแกร่งขึ้น ด้วยสภาพของเจ้าค้างคาวในตอนนี้อาจชนะได้ ไม่ ขวัญกำลังใจของมันย่อมเพิ่มมากขึ้นเพราะการเติบโตแบบเห็นได้ชัด นี่นับเป็นโอกาสทอง

‘ถ้าหากเจ้าค้างคาวแพ้ ตราบเท่าที่เรายังหลบเลี่ยงหนอนยักษ์ได้ เจ้ากะโหลกกับเราก็นับว่าเพียงพอ’

“อย่าลืมการฝึกซ้อมที่พวกเราทำมา ใจเย็นลงและหนักแน่นไว้ แกรู้ว่าต้องทำยังไงใช่ไหม? แกไม่ได้แพ้เพราะความสามารถไม่ถึง แต่แกเพราะไม่อาจแสดงความสามารถออกมาได้ดี และฉันจะไม่มอบโอกาสให้แกอีกแล้วนะ”

“เข้าใจแล้วขอรับเจ้านาย ข้าจะทำให้ดีที่สุด”

อาร์ครับคำสัญญานั่นและอัญเชิญดันพิลออกมา

ดันพิล ก็เหมือนเคย มันพูดออกด้วยน้ำเสียงที่อหังการ

“อะไรอีกล่ะ? ยังไม่ยอมแพ้อีกหรือไง?”

“ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนแน่”

“เหอะ จะยังไงค้างคาวก็คือค้างคาว ยิ่งไปกว่านั้น ค้างคาวที่เป็นข้าทาสของแวมไพร์ไม่อาจเอาชนะข้าผู้ซึ่งเป็นชนชั้นสูงแห่งโลกใต้พิภพได้”

เจ้าค้างคาวหาได้โมโหโกรธาเพราะคำพูดยั่วยุของดันพิล มันเพียงแค่จ้องมองด้วยสายตาคมกริบ

อาร์คพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจและกล่าวขึ้น “ดี เจ้าค้างคาว เริ่มได้”

“ระวังเงาหัวแกไว้!” เจ้าค้างคาวร่ำร้องออกและบินเข้าใส่

ดันพิลโบกสะบัดกรงเล็บของตนเราเป็นการเย้ยหยัน ทว่าสถานการณ์ครั้งนี้แตกต่างไปจากครั้งก่อน เจ้าค้างคาวพุ่งเข้าใส่บริเวณแขนของดันพิลราวกับเป็นงูที่ปีนป่ายต้นไม้และเริ่มที่จะโจมตีเข้าใส่ลำคอ

“อั่ก! ปะ-เป็นแบบนี้ได้ยังไง!” ดันพิลเผยความสับสนโพล่งออกมาจากปาก

มันเคยเจอเพียงแต่การเคลื่อนไหวใต้น้ำที่เชื่องช้า ดังนั้นแล้วมันจึงไม่อาจเป็นคู่มือให้เจ้าค้างคาวที่การเคลื่อนไหวรวดเร็วขึ้นหลายเท่าได้

เมื่อเห็นศัตรูเผยความสับสนออกมา จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเจ้าค้างคาวจึงพุ่งสูงขึ้น ขณะที่บินโฉบไปมาทั้งบนและล่าง มันเข้าปะทะเข้ากับคางของดันพิล

นี่เป็นเทคนิคต่อเนื่องที่ได้เรียนรู้มาจากอาร์ค!

เจ้าค้างคาวเผยท่าทีที่แตกต่างไปจากครั้งก่อนอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ นับได้ว่าเป็นเรื่องดีที่อาร์คไม่จำเป็นต้องสอนสั่งมันออก

การโจมตีทุกครั้งจะเชื่อมต่อกัน ดันพิลเริ่มซวนเซ

“แก! นี่คือผลตอบแทนกับสิ่งที่แกกระทำกับข้ามาตลอด!”

“อะ-ไอ้ค้างคาวนี่!”

เมื่อพลังชีวิตลดลงไป 40% ร่างของดันพิลเริ่มปกคลุมไปด้วยควัน ค้างคาวตัวใหญ่พลันปรากฏตัวขึ้นจากกลุ่มควันและพุ่งเข้าใส่เจ้าค้างคาว

‘เปลี่ยนร่าง!’

ดันพิลตัดสินจากสถานการณ์ที่ยากลำบากเพราะความรวดเร็วของเจ้าค้างคาวด้วยร่างมนุษย์ มันจึงเปลี่ยนร่างตัวเองเป็นค้างคาว ดูเหมือนว่าแม้มันจะยังเป็นแวมไพร์เยาว์วัย แต่มันก็ยังสามารถเปลี่ยนร่างเป็นค้างคาวได้เพราะศักดิ์ฐานะแวมไพร์ของมัน

เมื่อดันพิลเปลี่ยนร่าง การต่อสู้กลางอากาศจึงเริ่มปะทุขึ้น

ขณะที่ค้างคาวสองตัวพัวพันกันยุ่งเหยิง พวกมันโจมตีเข้าใส่กันไปมา การต่อสู้เป็นไปอย่างรวดเร็ว อาร์คไม่อาจพูดได้ว่าฝ่ายไหนคือดันพิลหากไม่ใช้เนตรแห่งแมวเข้าช่วย

ขณะที่การต่อสู้ดำเนินต่อไป ดูเหมือนว่าเจ้าค้างคาวจะเป็นฝ่ายโดนผลักดันกลับทีละนิด ความสามารถของพวกมันนับว่าใกล้เคียงกัน แต่ดันพิลได้เปลี่ยนร่างเป็นค้างคาวแล้ว นอกจากนี้ เจ้าค้างคาวยังไม่มีประสบการณ์ต่อสู้ทางอากาศกับมอนสเตอร์ตัวอื่นด้วย

“เจ้าค้างคาว อย่าเพิ่งสับสนไป คิดถึงการต่อสู้ใต้น้ำเข้าไว้ แกหลบเลี่ยงหนวดของแมงกะพรุนได้ ไม่มีเหตุผลเลยที่หลบการโจมตีของดันพิลไม่ได้”

การแนะนำของอาร์คประสบผล

เจ้าค้างคาวที่ไม่เคยต่อสู้ทางอากาศกับมอนสเตอร์อื่นมาก่อน แต่มันเคยต่อสู้กับมอนสเตอร์ใต้น้ำและสามารถเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติใต้น้ำได้ หรือก็คือ พวกมันไม่มีความแตกต่างอะไรไปจากมอนสเตอร์ที่เคลื่อนไหวทางอากาศ นอกจากนี้ ขณะที่สู้กับมอนสเตอร์ใต้น้ำ มันยังคงมีข้อจำกัดของท้องทะเลเข้ามาเกี่ยวข้อง

ไม่ว่าดันพิลจะแข็งแกร่งเพียงใด มันก็ไม่ยากไปกว่าการต้องต่อสู้กับมอนสเตอร์ใต้น้ำโดยมีข้อจำกัดทางน้ำพ่วงมาด้วยเป็นแน่

รูปแบบการโจมตีของเจ้าค้างคาวเปลี่ยนไป ราวกับมันกำลังแหวกว่ายอยู่ในห้วงน้ำ มันเริ่มกางปีกออกให้กว้างขึ้นและเริ่มกรุยกราย ขณะที่มันพบทางออกของสถานการณ์จึงเปรียบดั่งเหยี่ยวที่พร้อมจะลงมาโฉบเข้าใส่ ความเร็วในการโจมตีที่มันได้มานี้เป็นผลพวงจากการที่อาร์คฝึกสอน

“โกง แทรกแซงการต่อสู้!”

“เหอะ แกพูดไม่ใช่เหรอว่ามันไร้ซึ่งการท้าทาย ตอนนี้กลับเปลี่ยนคำพูดแล้ว?”

เมื่อเจ้าค้างคาวใช้เทคนิคออกมาได้ การต่อสู้จึงพลิกผันสถานการณ์ให้กลับเป็นแบบเดิม

พลังชีวิตของเจ้าค้างคาวและดันพิลอยู่ในสภาพใกล้เคียงกันมาโดยตลอด แต่ในเมื่อดันพิลเป็นฝ่ายที่เสียพลังชีวิตเยอะกว่า มันจึงไม่อาจกล่าวเกินเลยไปว่าเป็นเจ้าค้างคาวที่เหนือล้ำกว่า

ห้านาทีผ่านไป ดันพิลเข้าสภาวะวิกฤตเป็นฝ่ายแรกจากการที่พลังชีวิตเหลือเพียงน้อยนิดจนร่างกายแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ดันพิลปล่อยเสียงกรีดร้องออกมาขณะที่รั้งตัวกลับ ขณะเดียวกัน อากาศสีดำพลันระเบิดออกจากปากของมันบดบังทัศนวิสัยของเจ้าค้างคาว ดันพิลพุ่งตัวเข้าใส่ มันพยายามเป็นเฮือกสุดท้าย

ดวงตาของอาร์คทอประกายวูบ

“เจ้าค้างคาว ไม่ต้องหลบ สถานการณ์ศูนย์!”

“เหอะ ตายซะ! แกไอ้ตัวบัดซบ!”

ดันพิลพุ่งตัวเข้าใส่ราวกับมันเป็นลูกศรที่หลุดจากคันธนู

ด้วยความแค้นเคือง เจ้าค้างคาวพลันพุ่งตัวเข้าใส่เช่นเดียวกัน

“ตัดสินกันเท่านี้แหละ!”

เจ้าค้างคาวกัดฟันและพุ่งเข้าใส่ เมื่อค้างคาวทั้งสองโจมตีแบบเดียวกันเข้าหากัน เจ้าค้างคาวเป็นฝ่ายเอี้ยวตัวหลบเลี่ยง ดันพิลที่พุ่งเข้าใส่อย่างสุดแรงเกิดถึงกับต้องดวงตาเบิกกว้างเพราะความแตกตื่น

“อะ-อะไรกัน...?”

ตูม!

ดันพิลพุ่งปะทะเข้ากับผนัง จากนั้นเจ้าค้างคาวจึงรั้งตัวกลางอากาศและโจมตีเข้าใส่แผ่นหลังของดันพิลด้วยศีรษะของมัน

ท้ายที่สุด ดันพิลที่พลังชีวิตหมดสิ้นจึงร่วงลงกับพื้นราวกระดาษที่อ่อนปวกเปียก

“ทำได้ดีมากเจ้าค้างคาว!”

อาร์คพยักหน้ารับขณะเผยรอยยิ้มพึงใจ นี่เป็นชัยชนะอันสมบูรณ์ที่อาร์คเคยสอนมัน สถานการณ์ศูนย์ คือโค้ดลับที่อาร์คใช้บอกทิศทางของศัตรู

“อั่ก นี่ข้าแพ้หรือ...”

ดันพิลคร่ำครวญออกมาขณะตะเกียกตะกายอยู่กับพื้น มันพยายามยิ้มออกส่งไปให้เจ้าค้างคาว

“เหอะ แกแข็งแกร่งขึ้นนะ ที่จริง ข้าจำได้ตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ข้าอยากให้แกแข็งแกร่งขึ้น ข้าจึงจำเป็นต้องเย็นชาใส่...”

ดูเหมือนดันพิลคาดหวังจะใช้ฉากเรียกน้ำตา

ทว่าเจ้าค้างคาวกลับไม่คิดเห็นเช่นนั้น เจ้าค้างคาวที่เร่งเข้ามาใกล้พลันเหยียบเข้าใส่จมูกของดันพิล

ท้ายที่สุดแล้ว ดันพิลร่างหายไปโดยไม่อาจกล่าวคำอื่นใดออกมาได้อีก

ขณะเดียวกัน หน้าต่างข้อความได้เด้งขึ้นมาต่อหน้าอาร์ค

 

=====

สมุนปีศาจของผู้เล่น ค้างคาวผู้เกลียดชัง ได้โค่นล้มดันพิลสำเร็จ

=====

ท่านสามารถผสมผสานสมุนปีศาจเพื่อพัฒนาได้ โปรดเลือกสมุนปีศาจตัวหลัก

สมุนปีศาจที่สร้างขึ้นจากการผสมผสานเพื่อวิวัฒนาการนั้นจำเป็นต้องมีสมุนปีศาจตัวหลัก ค่าสถานะของพวกมันจะถูกประเมินหลังควบรวมกันเรียบร้อยแล้ว

=====

 

แม้ว่าเจ้าค้างคาวจะชนะ และดันพิลก็มีค่าสถานะโดยรวมและเลเวลเหนือกว่าเจ้าค้างคาว แต่อาร์คก็ยังไม่ลังเลที่จะเลือกเจ้าค้างคาว ค่าสถานะไม่ใช่ทุกสิ่ง

เช่นกัน เขาไม่คิดปล่อยให้เจ้าค้างคาวผู้เกลียดชังตัวนี้ที่เขาได้รับมาต้องถูกแทนที่ด้วยดันพิล

“ตัวหลัก ค้างคาวผู้เกลียดชัง ตัวเสริม ดันพิล”

เมื่ออาร์คตัดสินใจได้ แสงสว่างจึงเข้าปกคลุมร่างของเจ้าค้างคาว และร่างของมันก็เริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น มันเริ่มปรากฏขึ้นเป็นร่างมนุษย์

ด้วยผ้าคลุมสีดำและเส้นผมประบ่า เป็นเด็กชายอายุราวสิบปีคนหนึ่ง

คล้ายกับเด็กชายที่สวมใช่ชุดแดรคคูล่าไปงานปาร์ตี้วันฮาโลวีน นี่ทำเอาเขาโดนความรู้สึกว่าน่ารักนั้นเข้าปกคลุม แต่ด้วยคิ้วที่แหลมคมนั้นขมวดทำให้สีหน้าดูจริงจังเกินคาด

 

=====

ผสมสมุนปีศาจและวิวัฒนาการเสร็จสิ้นเป็นผลสำเร็จ

หลังผสมผสานกับดันพิล ค้างคาวผู้เกลียดชังได้รับการยกระดับขึ้นเป็นเผ่าพันธุ์แวมไพร์ชั้นต่ำ ด้วยความปรารถนาที่คิดควบคุมโลกใต้พิภพ เขาจึงได้รับนามว่าเดดริค ดังนั้นแล้ว เดดริคจึงได้รับสถานะขุนนางชั้นต่ำในโลกใต้พิภพและยังได้รับสิทธิ์อันชอบธรรมในการครอบครองอุปกรณ์

ดาบของแลนเซล ณ ปัจจุบัน ผู้ครอบครองคือ เดดริค

ด้วยการใช้ดาบของแลนเซล โบนัสพลังโจมตี 10% จากการโจมตีประสานจะถูกเพิ่มเข้าไป เป็นเพราะการครอบครองอุปกรณ์ ผลลัพธ์เพิ่มเติมจากทักษะได้ผูกติดอยู่กับเดดริค

=====

เดดริค

ประชากรแห่งโลกใต้พิภพที่รวดเร็วประดุจแสงและเป็นแวมไพร์ชั้นต่ำในหมู่แวมไพร์ ด้วยความคุ้นเคย เขาจึงมีความหยิ่งยโสและไม่ชอบความอัปยศอดสู

ด้วยผลลัพธ์จากการเป็นแวมไพร์ หากไม่อยู่ในดันเจี้ยนเขาจะไม่อาจเปลี่ยนร่างเป็นแวมไพร์ในช่วงเวลากลางวันได้ ในร่างค้างคาวนั้นจะถูกลดทอนค่าสถานะ 30% เพราะแสงตะวัน

เผ่าพันธุ์ : ปีศาจ

แนวโน้ม : ความมืด

ชนชั้น : ระดับต่ำ

พลังชีวิต : 250 (+200)

ความภักดี : 43 (-25)

พละกำลัง : 25 (+15)

ความคล่องตัว : 40 (+15)

ความอดทน : 35 (+15)

สติปัญญา : 15 (+15)

ความฉลาด : 55 (+15)

โชค : 15 (+15)

=====

*สามารถเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์หรือค้างคาวได้

*พุ่งชนความมืด สามารถใช้งานได้

สามารถกระจายความมืดชั่วคราวทำให้ศัตรูติดสถานะตาบอดได้ จากนั้นเมื่อใช้การโจมตีธรรมดาจะเพิ่มความเสียหายยิ่งขึ้น

พลังมานาเรียกใช้ : 30

=====

 

‘โอ้ ไม่ใช่ว่ามีประโยชน์ขึ้นเยอะเลยหรือไงกัน?’

ทุกค่าสถานะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

ถ้าหากเขาคำนวณจากค่าสถานะทั่วไปแล้ว เลเวลน่าจะอยู่ราว 27 ตอนที่อยู่โนเดเลสหลังกินอาหารเข้าไปสมควรเลเวลใกล้เคียง 18 ดังนั้นแล้วนี่หมายความว่าเลเวลเพิ่มขึ้นถึง 9 เลเวลในคราวเดียว อีกทั้งยังได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ดูเหมือนนี่จะเป็นการย้ายสิ่งที่ดันพิลเคยมีเข้ามาแทนที่

เป็นเพราะแวมไพร์มีข้อจำกัดเรื่องการปรากฏตัว ดังนั้นแล้วโดยภาพรวมนับได้ว่าเป็นการเติบโตที่น่าพึงพอใจ แต่มีสิ่งหนึ่งที่กวนใจเขาอยู่เหมือนกัน

ทุกค่าสถานะเพิ่มขึ้น แต่ค่าความภักดีลดลงไปถึง 25 ไม่ช้าเขาจึงต้องการยืนยันผลที่เกิดขึ้น

“เจ้าค้างคาว ทำได้ดีมาก”

“ค้างคาว? ใครกัน?”

“ว่าอะไร?”

“เหอะ ฟังให้ดี ข้าไม่ใช่ค้างคาวที่เจ้ารู้จักอีกต่อไป ข้าในตอนนี้คือชนชั้นสูงแห่งโลกใต้พิภพ เดดริค จนถึงตอนนี้ที่เจ้าให้ข้ากินอาหารดังที่ต้องการ ข้าจะไม่ทนกับเรื่องเช่นนั้นอีกต่อไป”

สีหน้าของอาร์คเริ่มบิดเบี้ยว

ฟังจากมันแล้ว ดูเหมือนมันจะยังไม่ลืมช่วงที่ยังเป็นค้างคาว กล่าวก็คือ เป็นเพราะมันแข็งแกร่งขึ้นจึงเริ่มต่อต้านเจ้านาย

อาร์คเริ่มโมโห เขาพยายามอย่างหนักเพื่อป้อนอาหารให้สมุนปีศาจและกระทั่งฝึกซ้อมพวกมัน แล้วยังไงกัน? เขาเลือกเจ้าค้างคาวแทนที่จะเป็นดันพิลที่มีความสามารถดีกว่า แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับเป็นการต่อต้านหรือ

น้ำเสียงของอาร์คเย็นเยียบ “แล้ว?”

“แน่นอน ข้าไม่อาจพูดว่าข้านั้นปฏิเสธตัวตนของเจ้า ด้วยสถานะของข้าที่เพิ่มขึ้น แต่ความเป็นจริงที่เจ้าคือเจ้านายยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ทว่า ข้านั้นไม่ยินดีที่จะเป็นหนูทดลองอาหารให้เจ้าอีกต่อไป แน่นอนว่าข้าต้องการเติบโตขึ้น ดังนั้นแล้วข้าจะกินในสิ่งที่ข้าตัดสินใจแล้วว่ามันเป็นอาหารที่เหมาะสม นี่คือความชอบธรรมของข้า”

“ความชอบธรรมของแก?” อาร์คหัวเราะออก

ดูเหมือนมันจะเริ่มใช้คำที่ยากขึ้นเพราะค่าความฉลาดที่เพิ่มมากขึ้น เขาจะเรียกว่ายังไงดี? นี่มันน่าเสียใจเอาการ

เหตุใดมันผู้นี้ถึงกับลืมไปว่าเจ้านายของตนนั้นชาญฉลาดเพียงใดเมื่อครั้งที่มันยังเป็นค้างคาว? เมื่ออาร์คคิดที่จะก้าวเดินไปพร้อมกับใครสักคน เขาไม่คิดหยุดเพียงเพราะความเหมาะสม

‘ดูเหมือนคงต้องแสดงให้เห็นแล้วว่าสมุนปีศาจก็ยังเป็นแค่ผู้ใต้บัญชาของเรา’

อาร์คยืนขึ้นอย่างรวดเร็วและเริ่มเตะเข้าใส่เดดริคโดยไม่ยั้ง

กระทั่งว่ามันวิวัฒนาการขึ้นมา อย่างไรก็เลเวลแค่ 27 ขณะที่อาร์คปล่อยลูกเตะออกไป พลังชีวิตของมันจึงลดลงฮวบ

เดดริคที่กลิ้งไปกับพื้นกรีดร้องออกมา

“พะ-พูดคุยกันก่อน! นี่มันใช้ความรุนแรง!”

“นี่แกไม่รู้หรือไง? ว่าฉันน่ะชอบความรุนแรง”

“ขะ-ข้าเป็นเด็กนะ! นี่มันทารุนเด็ก!”

“ถึงแบบนั้น แกต้องโดนดีเสียบ้างเพราะทำอะไรไม่ยั้งคิด เด็กไม่ดีจะเติบโตมาเป็นปัญหาสังคม”

อาร์คยังคงก้าวเดินเข้าหาและเริ่มใช้ความรุนแรงที่เกินเลย ท้ายที่สุดแล้ว พลังชีวิตของเดดริคจึงหมดสิ้นและโดนเรียกตัวกลับไป

เจ้ากะโหลกและงูน้อยต่างดวงตาเบิกกว้างกับท่าทีของอาร์คที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

อาร์คพูดออกขณะยังเผยรอยยิ้มอ่อน

“ไม่ต้องห่วง พวกแกไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ไอ้ที่เติบโตขึ้นมานิดหน่อยแล้วต่อต้านฉันน่ะสมควรต้องโดน แน่นอนว่าถ้าพวกแกเป็นเด็กดีเรื่องพวกนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เข้าใจไหม?”

แม้เขาจะพูดด้วยรอยยิ้ม แต่มันกลับทำให้สภาพแวดล้อมเย็นเยียบ

เจ้ากะโหลกและงูน้อยต่างพยักหน้ารับโดยทันที

จากนั้นอาร์คก็ขลุกอยู่กับเจ้ากะโหลกออกล่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ด้วยความน่าสังเวชที่เกิดขึ้นกับเดดริค เจ้ากะโหลกถึงกับลงแรงแข็งขันมากขึ้น ถ้าหากมันรู้ว่าอาร์คตกอยู่ในอันตราย มันจะไม่ลังเลที่จะเข้าเป็นโล่เข้าป้องกันให้ ดูเหมือนเจ้ากะโหลกจะพยายามแสดงให้อาร์คเห็นว่าตนนั้นแตกต่างจากเดดริค

อาร์คส่งมอบอาหารเลิศรสและมีผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมให้เจ้ากะโหลก แต่กับเดดริคนั้นแตกต่างออกไป อาร์คอัญเชิญเดดริคหลังผ่านไปยี่สิบสี่ชั่วโมงและก้าวเดินเข้าหาโดยไม่พูดสิ่งใดแม้ครึ่งคำ

“วะ-เหวอ ยะ-หยุดนะ ข้าผิดไปแล้ว ข้าจะไม่ทำแบบนั้นอีก!”

“เคยทรยศสักครั้งก็จะทรยศอยู่เรื่อยไป”

หลังผ่านพ้นไปสามหรือสี่ครั้ง เดดริคก็เริ่มงอมือคุกเข่าขอร้องโดยทันทีที่โดนอัญเชิญออกมา

“หวา จะ-เจ้านาย ข้าขออภัย! ข้าสูญเสียจิตใจไปวูบหนึ่งและเพียงแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง!”

ทว่าอาร์คกลับไม่ใส่ใจฟังและก้าวเดินเข้าหาโดยไร้ซึ่งความปรานี

ถ้าหากต้องการดัดนิสัยผู้ที่เคยทำผิดสักครั้งและเผลอผ่อนปรนให้ พวกมันย่อมต้องเผยเขี้ยวเล็บลับหลัง เด็กน้อยที่โตขึ้นโดยไม่รู้ซึ่งมารยาทนั้นทั้งมวลล้วนเป็นเพราะครอบครัวไม่สอนสั่ง

เช่นเดียวกันกับสัตว์เลี้ยงที่กัดเจ้านายเพราะไม่สอนสั่งตั้งแต่ยังเล็ก เมื่อสอนมารยาทที่ถูกต้องให้กับมันก็ต้องมั่นใจว่ามันจดจำฝังลึกแน่นเป็นอย่างดีแล้ว

อาร์คคิดที่จะลงมือกระทำเช่นนี้ต่อไป อย่างน้อยก็จนกว่าจะออกไปจากดันเจี้ยนแห่งนี้ได้

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด