ตอนที่แล้วเล่ม 1 ตอนที่ 4 : วิวาทกับปีศาจหนู (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 1 ตอนที่ 5 : การแก้แค้นของไวเคานต์ฮาเวิดสเตน (1)

เล่ม 1 ตอนที่ 4 : วิวาทกับปีศาจหนู (3)


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

เล่ม 1 ตอนที่ 4 : วิวาทกับปีศาจหนู (3)

“ผู้สมัครทุกคนมีรายงานกลับมาหมดแล้ว?”

“ครับ ตอนนี้พวกเรากำลังอ่านกันอยู่”

“มีใครที่น่าสนใจบ้างไหม?”

“ก็มีบ้างครับ”

คิมกวอนแทส่งรายงานไม่กี่หน้าไปให้ฮามย็องอู

ผู้ที่สมัครงานกับโกลบอลเอ็กซอร์ทนั้นจะต้องผ่านการทดสอบโดยการส่งรายงานตามกำหนดการ ซึ่งจะทำให้สามารถประเมินผลและติดตามความคืบหน้าของผู้สมัครได้

ขณะที่เขามองไปยังรายงาน ฮามย็องอูก็เผยสีหน้าประหลาดใจออกมา “โฮ่โฮ่ ผ่านไปแค่ยี่สิบวันเท่านั้น แต่ผู้เล่นกว่ายี่สิบคนก็เข้าถึงเลเวล 50 กันแล้ว?”

หากเทียบกับเกมอื่น เกมนี้นับได้ว่ายากกว่าสามหรือสี่เท่าในการที่จะเพิ่มเลเวล

กล่าวก็คือ ถ้าหากพวกเขาไปเล่นเกมอื่น เพียงแค่ยี่สิบวันนี้ก็สมควรที่จะเลเวล 150 ถึง 200 กันไปแล้ว นั่นนับเป็นความเร็วที่เคยมีการบันทึกเอาไว้

“ตามปกติแล้ว ด้วยความเร็วนี้นับได้ว่าค่อนข้างแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยหากเล่นเกมตามปกติ แม้ว่าพวกเขาจะเขียนรายงานมาว่ากระทำโดยลำแข้งของตน แต่ดูเหมือนจะมีคนจำนวนหนึ่งคอยช่วยหนุนเสริม แต่นี่ไม่ใช่วิธีการที่เราต้องการ ท่านคิดว่านี่จะเป็นปัญหาอะไรหรือไม่ครับ?”

“ไม่ใช่ว่าคาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่เริ่มงานแล้วหรือไง?” ฮามย็องอูตอบกลับอย่างเริงร่า ราวกับว่านี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร

ในเมื่อช่วงเริ่มแรกนั้น แผนการของพวกเขาคือคัดเลือกเอาพนักงานจำนวนหนึ่งจากผลลัพธ์ที่ได้จากเกม พวกเขาก็คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าปัญหาการร่วมมือกันจะต้องเกิดขึ้น

นี่คือการรทดสอบที่จะได้เข้าสู่บริษัทระดับโลกอย่างโกลบอลเอ็กซอร์ทเชียวนะ

ด้วยขอบเขตที่สามารถกระทำ ย่อมมีบางคนที่ยอมใช้จ่ายเงินเพื่อเกมนี้ อีกทั้งพวกเขาสามารถขอให้คนในครอบครัวช่วยได้ หรือกระทั่งคนที่สนิทกัน กระทั่งว่าให้เพื่อนคอยช่วยสนับสนุน ท้ายที่สุดแล้ว ผู้สมัครที่ถูกจับตามองเหล่านี้จนกระทั่งถึงตอนนี้ก็ใช้วิธีการที่คล้ายคลึงกัน ถ้าหากผู้สมัครมีความกระตือรือร้นที่จะกระทำ มันก็ไม่ได้แย่อะไรนักสำหรับฮามย็องอู

“ใช้จ่ายเงินเพื่อสร้างสัมพันธ์บุคคลก็เป็นทักษะหนึ่งเช่นกัน นี่คือเหตุผลที่เรายอมให้คนพวกนั้นปลอมแปลงเอกสารการสมัคร ถ้าหากพวกครึ่ง ๆ กลาง ๆ เช่นพวกเขาจะยึดมั่นขนาดนั้น การทดสอบทั่วไปก็จะยิ่งยกระดับขึ้น ในสถานการณ์นี้ที่พวกเราไม่ได้มีส่วนร่วมกับระบบโดยตรง มันไม่มีวิธีการอื่นที่จะดีกว่านี้แล้ว”

“ท่านจะพิจารณารับพวกเขา?”

“บางทีนะ” ฮามย็องอูหัวเราะออกราวกับที่พูดนั้นเขาเอาจริง “พวกเราต่างก็ต้องการผู้เล่นที่พวกเราจะควบคุมได้ แล้วมีอะไรอื่นอีกไหม?”

“ส่วนใหญ่ก็จะมีเลเวลเฉลี่ยที่ 30 ถึง 40 ครับ ก็มีบ้างที่น้อยกว่านี้เพราะพวกเขาใช้วิธีการปกติธรรมดา”

“แล้วใครกันที่เธอสนใจล่ะ?” ฮามย็องอูดึงรายงานออกมาจากกองที่วางอยู่บนโต๊ะ

“อา นั่นเป็นผู้เล่นที่เล่นเกมด้วยวิธีการอันมีเอกลักษณ์น่ะครับ”

“วิธีการที่มีเอกลักษณ์?”

“ครับ หรือจะบอกว่าพวกเขาโง่เง่าดี หรือไม่บางทีก็อาจพูดได้ว่าปราดเปรื่อง... พวกเขาส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นเลเวลต่ำ แต่ในความรู้สึกนั้น พวกเขาสามารถใช้ความได้เปรียบของระบบได้อย่างเต็มที่ กระทั่งว่าในหมู่พวกเขายังมีคนที่ผมจับตามอง ท่านอยากดูไหมครับ?”

คิมกวอนแทยื่นรายงานมาสองฉบับ หนึ่งในนั้นคือผู้สมัครนาม ‘แชมบาร่า’ กับอีกหนึ่งคือ ‘อาร์ค’ ซึ่งก็คือรายงานของคิมฮยอนอูนั่นเอง

ขณะที่เขาอ่านรายงานนั้น คิมมย็องอูได้ส่ายศีรษะพลางหัวเราะออก ทั้งสองยังคงเป็นผู้เล่นที่เลเวลต่ำกว่า 20

“สิ่งที่พวกเราต้องการไม่ใช่คนที่สนุกไปกับเกม พวกเราต้องการคนที่สามารถจะขับเคลื่อนเกมไปข้างหน้าได้ต่างหาก”

“ไม่ใช่ว่าเลเวลจะเป็นทุกอย่างของนิวเวิร์ลด์เสียหน่อยนี่ครับ?”

“แน่นอน แต่ด้วยเลเวลของพวกเขาสามารถชี้ชัดได้ถึงระดับทักษะที่มี”

“ครับ นั่นก็จริง”

“หากคุณต้องการอยู่ในเกมนี้ต่อไป เช่นนั้นคุณก็ต้องฉลาดขึ้นเสียหน่อย มันคงจะยากที่จะบอกว่าคนที่เลเวลยังไม่ถึงกระทั่ง 20 ภายในยี่สิบวันนั้นจะมีดีได้ ลบพวกเขาออกจากรายชื่อเข้าพิจารณา พวกนี้ไม่ใช่เอกสารสมัครงานปลอมอีกใช่ไหม?”

“ไม่ว่ายังไงเขาก็จะโดนเขี่ยทิ้งหรือครับ?”

“ยังไงก็ไม่มีทางที่พวกเราจะอ่านรายงานถึงสองพันฉบับได้ทุกครั้งที่ส่งเข้ามาหรอกนะ พวกเราต้องคัดออกเพื่อดำเนินแผนการต่อไป ตอนนี้ พวกเราไม่ต้องแจ้งพวกเขาว่าหมดคุณสมบัติหรอก ระหว่างที่พวกเรายังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบ พวกเราต้อง ‘ยุติธรรม’ มันคงไม่ดีที่จะไปทำให้พวกเขาหมดกำลังใจและเตะส่งออก”

“เข้าใจแล้วครับ”

รายงานของกวองยองและคิมฮยอนอูต่างถูกโยนเข้าเครื่องย่อยเอกสาร บนรายชื่อผู้เข้าสมัคร ‘ไร้คุณสมบัติ’ ได้ถูกเขียนทับเอาไว้ด้วยตัวอักษรสีแดงบนชื่อพวกเขา

* * *

 

“หลายวันมานี้แก้มลูกดูซูบลงคล้ายคนนอนไม่พอนะ มีเรื่องแย่เกิดขึ้นหรือเปล่า? ไม่สิ ทำไมมันถึงจะไม่มีเรื่องแย่กันล่ะ...” แม่ของเขากำลังมองมาที่เขาด้วยความสงสารพร้อมถอนหายใจ

แม่ของเขากำลังกังวลเรื่องตัวเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง สีหน้าของเธอซีดขาว ร่างกายก็ซูบผอม ที่แขนเองก็มีเข็มทิ่มเอาไว้ถึงสามหรือสี่เข็ม เรื่องนี้ทำฮยอนอูเจ็บปวดใจมาก

ที่จริงแล้ว ความกังวลของแม่นั้นก็ไม่ผิดไปนัก หลังฮยอนอูเกี่ยวพันกับนิวเวิร์ลด์ เขาก็ไม่ได้นอนอย่างที่ควรจะเป็น

‘เกมนี้มันสำคัญมากสำหรับชีวิตเรา เรากำลังตามหลังพวกผู้สมัครคนอื่นอยู่ อีกทั้งเรายังไม่มีเวลามากพอที่จะทุ่มลงทั้งหมดให้กับเกม ก็รู้อยู่แต่แรกแล้วแหละนะว่ามันยาก เอาเถอะ ก็เหมือนที่หัวหน้าทีมบอกเอาไว้ เลเวลไม่ใช่ทุกสิ่งที่จะตัดสินว่าการทดสอบนี้สำเร็จหรือล้มเหลว กระทั่งว่าเรามีโอกาส ตราบเท่าที่ยังมีความหวัง เราจะไม่มีทางยอมแพ้อย่างเด็ดขาด’

ด้วยความแน่วแน่ที่มี ฮยอนอูได้นอนเพียงแค่สามชั่วโมงต่อวันและทุ่มทั้งหมดที่มีให้เกม

และในช่วงไม่กี่วันมานี้ หลังจากที่เขาได้เริ่มสู้กับปีศาจหนู ในช่วงเวลากลางคืนเขาได้หลับไปเพียงแค่น้อยนิด กระทั่งว่าในช่วงเช้า เขายังเผลอหลับไปก่อนที่นาฬิกาปลุกจะดังจนเขาต้องเร่งร้อนสวมชุดออกไปข้างนอก

ด้วยใบหน้าและเสื้อผ้าที่ออกจะสกปรกไปบ้าง แน่นอนว่ามันทำเอาภาพลักษณ์เขาดูแย่ลง ทว่า ฮยอนอูกลับตอบรับด้วยใบหน้าแจ่มใส “ไม่มีอะไรลำบากหรอกครับ”

“แม่ขอโทษนะ แม่เป็นแม่แท้ ๆ แต่กลับต้องเป็นภาระให้ลูก...”

“ผมบอกแล้วไงว่าพูดแบบนี้ ก็แค่เผลอเล่นกับเพื่อนเพลินไปหน่อยจนข้ามคืนและทำให้นอนไม่พอเอง”

“แต่ถ้าหากแม่ยังเป็นแบบนี้ กระทั่งว่ามหาวิทยาลัยในตอนนี้ก็ยัง...”

“แม่ครับ” ฮยอนอูกล่าวตัดบทพร้อมกุมมือแม่ไว้ด้วยรอยยิ้ม

“ผมสบายดี พูดตามตรงนะ ผมชอบที่จะทำงานเยอะขึ้นมากกว่าไปมหาวิทยาลัยอีก งานก็สนุกดีนะ เพื่อนร่วมงานก็ดีด้วย อีกทั้งยังมีคนคอยช่วยเหลือผมอีก ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่แม่จะต้องเป็นห่วง อา แต่ก็มีเรื่องนึงที่ลำบากอยู่แหละนะครับ”

“อะไรกันล่ะ?”

“ผมไม่ได้กินบิบิมบับฝีมือแม่น่ะสิ”

“โธ่... พูดอะไรไร้สาระจริงเชียว”

“จริงนี่ครับ นั่นเป็นอาหารอย่างเดียวที่ผมอยากกินเลยนะ ถึงจะลองทำเองแต่รสชาติก็ยังไม่ใช่ เพราะงั้นหายเร็ว ๆ แล้วมาทำให้ผมกินนะครับ ตกลงนะ?”

“ได้จ้ะ แน่นอน”

ฮยอนอูขยิบตาให้พลางพูดคุยต่อ ท้ายที่สุดแม่ของเขาก็หัวเราะออกมา

แม้ว่าบุคลิกของเขาจะไม่ได้มีเสน่ห์อะไร เมื่อก่อนนั้นเขาไม่เคยคิดว่าจะต้องมาพูดอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง เมื่อเส้นทางของเขาบิดเบี้ยวไป คำพูดเหล่านี้ท้ายที่สุดก็ถูกพูดออกมาจากปากของเขา

บางทีนี่อาจเป็นหนึ่งในผลกระทบจากการเล่นนิวเวิร์ลด์ก็เป็นได้

‘หรือนี่จะเป็นประสบการณ์จากการที่เราไปดูแลคุณยายโจแฮนสันกันนะ’

ครั้งที่ฮยอนอูไปดูแลโจแฮนสันในหมู่บ้านฮารัน สิ่งเหล่านี้เป็นเขาได้เรียนรู้มา

ในตอนแรก มันก็แค่ภารกิจที่เขาทำไปแทบจะร้องไห้กับตัวเองไปจนเสร็จ แต่เมื่อทำภารกิจไปหลายครั้งเข้า เขาก็ตระหนักได้ถึงสิ่งหนึ่ง รางวัลจากการที่ฮยอนอูดูแลเธอเป็นอย่างดีนั้น มันดียิ่งกว่าที่เขาคิด มันเป็นรางวัลที่มากเอาการเลยทีเดียว

รางวัลตามปกติคือ 1 เหรียญเงิน แต่ในครั้งนั้นเขากลับได้รับความเชื่อใจจากเธอที่เขาคอยอยู่เคียงข้างเอาใจใส่ เวลาที่ใช้ไปก็เท่าเดิม แต่ผลลัพธ์คือเขาได้รับมามากกว่า 1 เหรียญเงิน

หลังจากพบเรื่องราวนี้ ฮยอนอูก็ยิ่งจมดิ่งไปกับทุกคำพูดและการกระทำของโจแฮนสันที่เคยแนะนำเขาเอาไว้

นี่เป็นความสนุกที่เขาได้เรียนรู้มันจากเกมและนำมาสู่ชีวิตจริง แม้ว่าเขาจะไม่สามารถนำเอาทักษะเยียวยาจากเกมมาเพิ่มขวัญและกำลังใจได้ แต่มันก็ช่วยทำให้แม่ของเขารู้สึกดีขึ้นได้

แม้มันจะเล็กน้อย เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจตระหนัก แต่มันก็ทำให้แม่ของเขาเผยสีหน้าที่ดีขึ้น

‘ทำไมแต่ก่อนเราถึงไม่ทำเรื่องง่ายดายแบบนี้ให้แม่กันนะ?’ ลำพังแค่เรื่องนี้ ฮยอนอูก็คิดว่าคุ้มค่าแล้วที่ได้เล่นเกมนิวเวิร์ลด์

“ไว้วันมะรืนผมมาใหม่นะครับ แล้วก็นี่ผลไม้ครับ กินได้ทุกเมื่อที่อยากกินเลยนะครับ”

ฮยอนอูวางตะกร้าผลไม้เอาไว้และหันกลับ หลังได้ยินจากหมอมาว่าผลไม้ช่วยบำรุงร่างกายได้ดี ฮยอนอูก็มักจะซื้อตะกร้าผลไม้มาให้แม่สัปดาห์ละครั้ง กระทั่งว่าฮยอนอูยอมอดกินบะหมี่ แต่หากมันช่วยให้แม่เขาหายดีขึ้นมาได้ เขาไม่ได้ซื้อเพียงแค่ผลไม้มาให้แม่ กระทั่งโสมก็ด้วยเช่นกัน

ฮยอนอูลากร่างกายที่หมดแรงของตนกลับไปนอนที่ร้านสะดวกซ้อ

หลังทำงานหนักกว่าหกชั่วโมงต่อวันก็ต้องลากร่างกายหนักอึ้งมาที่นี่เพื่อจัดวางลังสินค้า รายได้ต่อเดือนที่เขาได้รับคือ 1,500,000 วอน นอกจากนี้ เขายังได้รับอีก 2,000,000 วอนจากงานพาร์ทไทม์สามที่โดยทำงานอีกที่ละสามชั่วโมง

โกลบอลเอ็กซอร์ทจ่ายค่าจ้างให้ 1,500,000 วอนต่อเดือน ทำให้จำนวนเงินที่ฮยอนอูลงแรงทำงานถึงสิบห้าชั่วโมงต่อวันกลายเป็นรายได้เดือนละ 5,000,000 วอน

ด้วยรายได้เท่านี้ เขาสามารถจัดการค่ารักษาพยาบาลของแม่ได้และยังพอเหลือไว้ใช้ชีวิตประจำวัน ส่วนหนี้สินที่หยิบยืมมา เขาก็ต้องจ่ายคืนเพื่อลดหนี้ ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ยังคงต้องรัดเข็มขัดให้แน่นอยู่ดี เขาจึงใช้ชีวิตต่อไปด้วยสภาพเช่นเดิม ไม่ว่ามันจะยากลำบากแค่ไหน หรือว่าร่างกายจะต้องเหน็ดเหนื่อยขนาดไหน เขาไม่อาจหยุดทำงานได้

ฮยอนอูส่ายศีรษะไปมา

‘แม่เจ็บปวดยิ่งกว่าเราหลายเท่านัก เราไม่อาจพูดอะไรที่อ่อนแอออกมาได้’

หลังเสร็จงาน ฮยอนอูจึงเบียดเข้าไประหว่างกล่องและหลับตาลงพักหนึ่ง

เหตุผลที่เขาสามารถอดทนนอนเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงได้ก็เพราะเขานอนหลับระหว่างนั่งรถไฟใต้ดิน หรือไม่ก็งีบหลับช่วงเวลาที่งานว่าง แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องขอบคุณที่เพื่อนร่วมงานอย่างฮเยซอนที่คอยช่วยเหลือ...

“พี่ชาย พี่ชาย!”

เสียงใครบางคนดังขึ้นพร้อมเขย่าตัวให้เขาตื่น ฮยอนอูลืมตาอย่างยากลำบาก

ฮเยซอนเขย่าตัวเขาด้วยสีหน้าร้อนรน

“หือ? เกิดอะไรขึ้น? มีสินค้าเข้ามาอีกเหรอ?”

“อะไรประมาณนั้นแหละ เจ้านายกำลังจะลงมาแล้ว”

“เอาล่ะ งั้นพี่คงต้องตื่นแล้วสินะถ้าไม่อยากโดนว่าน่ะ” ฮยอนอูพึมพำขณะยืดกล้ามเนื้อ

ฮเยซอนถามด้วยความกังวลที่เผยในดวงตา “พี่ชาย นี่รับงานพาร์ทไทม์เพิ่มอีกแล้วใช่ไหม?”

“หา? เปล่าซะหน่อย กลับกันเป็นพี่เลิกต่างหาก”

“ถ้างั้นแล้วทำไมพี่ถึงสัปหงกบ่อยจังล่ะ?”

“ใช่ เรื่องนี้...” ฮยอนอูเกาศีรษะพร้อมเผยท่าทางเขินอาย “ที่จริงแล้ว ไม่นานมานี้พี่เล่นเกมอยู่บ้านน่ะ”

“พี่ชายก็เล่นเกมด้วย?”

“อะไรกันล่ะนั่น? แต่ก่อนพี่ก็เล่นเกมราวคนบ้าเหมือนกันนะ ถ้าเป็นช่วงสุดสัปดาห์ล่ะก็ ถ้ามือพี่วางลงบนเมาส์เมื่อไหร่ก็หายไปหมดคืนนั่นแหละ ราวกับคีย์บอร์ดมันดูดวิญญาณพี่จนถึงเช้า นี่ก็มีเกมออนไลน์หลายเกมนะที่พี่เล่นจนเลเวลตันน่ะ”

ช่วงวันคืนเหล่านั้น เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าเวลาที่เล่นเกมวันคืนจะหายไปอย่างรวดเร็ว พ่อกับแม่ของเขาก็ยอมให้กับเรื่องพวกนี้ เช่นนั้นเขาจึงไม่เคยโดนดุด่าว่ากล่าวที่เล่นเกมเลย ถ้าหากชีวิตเขาไม่พลิกผันล่ะก็ ชีวิตของเขาตอนนี้ก็คงยังหาสาระไม่ได้

ไม่ว่าเขาอยากจะเล่นเกมมากแค่ไหน ความเป็นจริงที่เขามีภาระในตอนนี้ มันจึงไม่มีเกมใดที่ดึงดูดเขาพอที่จะทำให้ลืมความเป็นจริงไปได้

‘เราคงไม่ได้เล่นเกมด้วยความสนุกแบบนั้นอีกแล้ว’

นั่นเป็นสิ่งที่เขาคิด แต่ภายหลังคำพูดเหล่านั้นได้กลับคืนมาโดยฮยอนอูเอง

เขาที่จมดิ่งไปกับนิวเวิร์ลด์จนลืมเป้าหมายอย่างการเล่นเกมเพื่อให้ได้รับการจ้างงานจากโกลบอลเอ็กซอร์ท นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เวลานอนของเขาลดน้อยลง อีกทั้งยังทำให้เขาหมดแรงทั้งกายและใจจนอาจพูดได้ว่า ‘ทำงานด้วยความว่างเปล่า’

มันไปถึงจุดที่เขาลืมเรื่องที่ต้องทำรายงานไป เขาเพิ่งนึกได้เมื่อสองวันก่อนกำหนดส่งจึงต้องเร่งร้อนเขียนมันส่งไป

กระทั่งว่าเป็นแบบนั้น เวลาที่เขาใช้เล่นไปกับเกมนั้นมันสนุกอย่างแท้จริง อีกทั้งเขายังอยากที่จะทำงานร่วมกับโกลบอลเอ็กซอร์ทที่สร้างเกมเช่นนี้ออกมา หวังเอาไว้สูงก็ดีอยู่ แต่ฮยอนอูก็ได้รู้มาไม่น้อยว่าตัวเองไม่มีอะไรเลยหากเทียบกับผู้สมัครคนอื่น อีกทั้งเขายังไม่มีเวลามากพอ

แม้ว่าอัตราการรับเข้าทำงานคือหนึ่งในสองร้อยแต่ความจริงคือฮยอนอูต้องต่อสู้กับคนถึงหนึ่งพันเก้าร้อยคน เขาสรุปด้วยตัวเองว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะโดนปฏิเสธ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าฮยอนอูอยากที่จะสนุกไปกับนิวเวิร์ลด์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อยเขาก็ยังได้รับ 10,000,000 วอนมาตอนที่การทดสอบเสร็จสิ้น

‘ถ้าเราต้องคืนเครื่องเล่น ด้วยรายได้เท่านี้ เราไม่มีทางเลยที่จะได้เล่นมันอีกครั้ง กระทั่งว่าเพื่อได้เล่นนิวเวิร์ลด์ เราก็อยากได้รับการยอมรับ ไม่สิ เราต้องเชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้’

ความหวาดหวั่นของเขาต่อเอกสารการสมัครที่ปลอมแปลงขึ้นยังคงมีอยู่ แต่เมื่อได้เห็นแล้วว่าโกลบอลเอ็กซอร์ทไม่พบเห็นมันตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาจะหลอกพวกเขาต่อไปได้จนถึงท้ายที่สุด? เขาอยากที่จะเชื่อมั่นอย่างนั้นอยู่หรอก

ขณะที่ฮเยซอนมองฮยอนอูเหม่ออยู่นั้น ดวงตาของเธอฉับพลันได้เบิกกว้างขึ้น

“แล้วช่วงนี้พี่ชายเล่นเกมอะไรอยู่เหรอคะ?”

“ทำไมถึงถามขึ้นมาล่ะ?”

“แหม ถ้ามันสนุกหนูก็อยากเล่นด้วยค่ะ”

“เราเคยเล่นเกมมาก่อนด้วยเหรอ?”

“แหงอยู่แล้ว”

“เกมอะไรเหรอ?”

“อืม ก็อย่าง... อย่างพวก... เกมเต้นอะไรพวกนี้...” ฮเยซอนกล่าวพึมพำพลางคิ้วขมวด

“เกมนี้แตกต่างจากเกมพวกนั้น ถึงจะรู้ว่ามันคืออะไร แต่มันก็คงเกินไปที่เธอจะเล่น”

“ชิ อะไรกันที่ทำให้พี่พูดแบบนั้นล่ะ?”

“มันเรียกว่านิวเวิร์ลด์ เพิ่งออกมาเมื่อไม่นานนี้เอง”

“นะ-นิวเวิร์ลด์?” ฮเยซอนเบิกตากว้าง

“รู้จักเหรอ?”

“แน่นอนค่ะ นั่น... พี่พูดถูก หนูเห็นในหน้าหนังสือพิมพ์ ไม่ใช่ว่ามันต้องจ่ายไปมากเพื่อเล่นเกมนี้หรอกเหรอ? เพราะมันมีค่าเครื่องเล่นอะไรพวกนั้นด้วย”

“ก็นะ พี่ได้เล่นฟรีน่ะ”

“ก็นะ?”

“พี่บอกรายละเอียดกับเราไม่ได้ อา ได้ยินมาว่ามีร้านเกมที่ลงเครื่องเล่นเอาไว้ด้วยนี่นะ แต่ค่าเล่นก็ออกจะแพงอยู่บ้าง แต่ก็มีโอกาสได้เล่นอยู่นะ ลองดูสิ ลองเข้าไปเล่นดูจะดีกว่าให้พี่อธิบายเป็นร้อยเท่า”

จากนั้น รถบรรทุกก็เข้ามาในห้องเก็บของ ฮยอนอูจึงเร่งร้อนวิ่งไปรับพัสดุลงรถเข็น

ฮเยซอนมองแผ่นหลังของฮยอนอูพลางผงกศีรษะราวกับเธอมีความแน่วแน่

“พี่เขาพูดว่านิวเวิร์ลด์ใช่ไหมนะ?”

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด