ตอนที่แล้วบทที่ 16: เจ้าเล่ห์เพทุบาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 18: ราตรีแห่งรัก

บทที่ 17: การต่อสู้อันยิ่งใหญ่


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

บทที่ 17: การต่อสู้อันยิ่งใหญ่

ขณะที่หวางซุงและพี่ใหญ่จางได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น ความโกรธถาโถมพวกเขาในทันที เขารู้สึกว่าคงช่วยไม่ได้เสียแล้ว จึงทำได้แต่เค้นเสียงหัวเราะอย่างเย็นชาออกมา “เจ้านั้นคงไก่อ่อนจนไม่รู้ว่าความตายคืออันใด ข้าจะสั่งสอนให้เจ้าทราบเดี๋ยวนี้!” หลังจากที่พูดจบ เขาทั้งสองยกดาบในท่าพร้อมสู้ขนาบข้างเจ้าอ้วนทั้งสองฝั่ง ดาบที่เต็มไปด้วยพลังของพวกเขานั้นพร้อมแล้วสำหรับการต่อสู้ตอนนี้ เสียงดาบผ่านอากาศคล้ายกับเสียงหวีดของแตร ต้นไม้โดยรอบเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง สายลมเชี่ยวกรากถึงขนาดดึงเอารากไม้ทั้งหมดโดยรอบออกจากพสุธา จิตสังหารที่ถูกปล่อยออกมานั้นสามารถทำให้คนขี้ขลาดตายตกได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อได้เผชิญหน้ากับการโจมตีที่น่าหวาดหวั่น เจ้าอ้วนไม่แสดงความกลัวออกมาแม้แต่น้อย เขาเพียงนำยันต์ออกมาด้วยท่าทีที่สงบ หลังจากนั้นจึงเกิดการกระเบิดขึ้นเป็นแสงสีเหลืองฟุ้งกระจายขึ้นพร้อมหายไปอย่างรวดเร็ว ปรากฏโล่กำบังสูงสองเมตรปกป้องเจ้าอ้วนไว้อย่างสมบูรณ์

ขณะที่หวางซุงและพี่ใหญ่จางโจมตีเข้าไปที่โล่ของเจ้าอ้วน การโจมตีของพวกเขานั้นถูกกระแทกกลับ ทำให้กระเด็นออกไป และเกิดเพียงแค่คลื่นเล็ก ๆ บนโล่เท่านั้น โดยไม่อาจสร้างรอยใดบนโล่ของเจ้าอ้วนได้

“อา” เมื่อหวางซุงเห็นดังนั้นแล้ว เขาตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนก “คาถาพสุธาอารักษ์! ยันต์นี้เขียนโดยผู้มีพลังระดับพื้นฐาน ราคาของมันเพียงชิ้นเดียวคือหินจิตวิญญาณถึงหนึ่งร้อยก้อน!”

“เหตุใดกันเจ้าตัวบัดซบนี่จึงมีความร่ำรวยถึงเพียงนี้?” หานหลิงเฟิงนั้นอยู่ในอาการสติหลุด สิ่งที่ทุกคนทราบดีคือหินจิตวิญญาณหนึ่งร้อยก้อนนั้นเป็นมูลค่าที่มหาศาล ไม่มีผู้ใดที่ใช้จ่ายมันออกไปเพื่อสิ่งของเพียงชิ้นเดียว

แต่พี่ใหญ่จางยังคงอยู่ในอาการสงบ เขาเห็นแล้วว่าเจ้าอ้วนนั้นใช้ยันต์ออกมา ซึ่งไม่ได้ทำให้เขาแปลกใจอันใด เขายกยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นเยียบพร้อมกล่าวว่า “ยิ่งมันรวยมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็ไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับผลตอบแทนเพียงเล็กน้อย! ไม่เพียงแต่ยันต์ป้องกันเท่านั้น มันไม่สามารถที่จะดื้อด้านต่อไปได้เพียงเพราะยันต์ชิ้นเดียวหรอก! นี่คือความจริงที่สุด บุกเข้าไปพร้อมกันทั้งหมดนี่แหละ ข้าไม่เชื่อว่าโล่นี่จะไม่สามารถทำลายได้!”

“ข้าเห็นด้วย!” หวางซุงและหานหลิงเฟิงตอบรับอย่างรวดเร็ว ท่าทีของพวกเขาในตอนนี้ไม่มีสิ่งใดจะต้องเกรงกลัว เพราะถ้าหากว่าการพนันในครานี้ชนะขึ้นมา พวกเขาคือผู้ที่โชคดีที่สุด อีกทั้งยันต์ป้องกันระดับกลางสามารถทำลายลงได้ ที่แห่งนี้มีดาบสามเล่ม มีอุปกรณ์วิเศษสามชิ้น ถ้าหากว่าพวกเขาโจมตีพร้อมกันอย่างสุดกำลัง ใช้เวลาเพียงไม่นานโล่ป้องกันของฝ่ายตรงข้ามจะต้องถูกทำลายอย่างแน่นอน

หลังจากที่พวกเขาได้ตกลงกันเสร็จสิ้น พวกเขาทั้งหมดได้ประเคนดาบในมือให้เจ้าอ้วนอย่างหนักหน่วง สิ่งเดียวที่สามารถมองเห็นได้ในตอนนี้คือดาบนั้นโจมตีเข้ากับโล่อย่างต่อเนื่อง แต่ว่าโล่นั้นก็ฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว ดาบหยกบินของหวางซุงมีพิษที่น่ารังเกียจอยู่บนผิวดาบ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันมีอำนาจมากไปกว่าดาบบิน โล่จึงรับการโจมตีของมันไว้อย่างง่ายดาย

หลังจากนั้นก็เป็นมีดบินไร้เงาของหานหลิงเฟิง มันถูกสร้างมาเพื่อทำลายเกราะป้องกันซึ่งเป็นจุดอ่อนของคาถาพสุธาอารักษ์ที่เจ้าอ้วนครอบครอง สิ่งที่สัมผัสได้คือเกิดการปะทะกันเพียงเล็กน้อย ใช้ออกไปถึงสิบสามอันจึงจะเกิดรอยแตกจนสามารถแทงทะลุไปถึงตัวเจ้าอ้วนได้

เมื่อเห็นดังนั้นหานหลิงเฟิงตะโกนออกมาอย่างมีความสุข “ฮ่าฮ่า ข้าแทงมันได้แล้ว เสร็จแน่เจ้าอ้วน!”

อย่างไรก็ตามเมื่อพินิจดูแล้วหานหลิงเฟิงจะเห็นได้ทันทีว่าเจ้าอ้วนไม่ได้รับอันตรายแม้แต่น้อย มีดทั้งสิบสามอันนั้นเจาะเพียงชุดของเขา ไม่ได้ทิ่มแทงเนื้อหนังของเขาแต่อย่างใด เหตุผลเพราะเขาสวมเกราะใยแมงมุมอยู่ด้านใน มันเป็นชุดเกราะวิญญาณที่สร้างมาจากเนื้อหนังของสัตว์เดรัจฉาน อีกทั้งยังถูกสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญระดับพื้นฐาน นั่นจึงทำให้เขาไม่ได้รับแรงโจมตีที่หนักหนาอันใดนัก แต่ถ้าหากเทียบกับอาวุธที่แข็งแกร่งกว่านี้ก็คงจะเห็นได้ชัด นี่คือเกราะระดับสาม ที่ราคาทัดเทียมได้กับหินจิตวิญญาณนับหมื่นก้อน ซึ่งสามารถป้องกันมีดไร้เงานั้นได้อย่างง่ายดาย

แม้ว่าเจ้าอ้วนจะสามารถป้องกันการโจมตีได้ แต่เขาก็ตกใจยิ่ง เขาไม่ได้คิดมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะมีอุปกรณ์วิเศษเอาไว้ทำลายโล่ป้องกัน สิ่งนั้นหาพบได้ยากยิ่งแต่เขากลับเจอมันในครานี้ เมื่อหวนนึกถึงความโชคร้ายต่าง ๆ เมื่อครั้งก่อนยิ่งทำให้เขาโกรธหานหลิงเฟิงมากขึ้นเท่านั้น เขาดึงมีดออกมาอย่างรุนแรงพร้อมตะโกนว่า “นังผู้หญิงต่ำช้า ชื่นชมนักที่หาญกล้ายั่วยุข้า อีกไม่นานเจ้าได้โดนทวงหนี้ครั้งนี้คืนแน่!”

“เจ้า!” หานหลิงเฟิงรู้สึกโกรธจนไม่มีถ้อยคำตอบกลับ

ขณะนั้นเอง พี่ใหญ่จางได้เตรียมอิฐทองของเขาไว้เสร็จสิ้นแล้ว อิฐทองนี้มีวิธีใช้อยู่สองแบบ แบบแรกคือโยนมันออกไปให้ขยายใหญ่สามสิบฟุต สำหรับทับเป้าหมาย ขณะนั้นเองน้ำหนักของมันนั้นมากถึงหนึ่งหมื่นจิน ผู้มีพลังระดับทั่วไปนั้นสามารถถูกบดขยี้ได้อย่างง่ายดาย แบบที่สองคือการอวตาร มันเป็นการส่งจิตวิญญาณเข้าไปรวมร่าง จะทำให้เกิดพลังมากมายแก่ผู้ที่ยอมกระทำการอวตาร

เมื่อหวางซุงและหานหลิงเฟิงกำลังโจมตี พี่ใหญ่จางนั้นเริ่มเปิดใช้เคล็ดอวตาร อิฐนั้นเปลี่ยนรูปร่างยาวเจ็ดสิบถึงแปดสิบฟุตและมีน้ำหนักหนึ่งแสนจิน คล้ายกับภูเขาลูกเล็กที่กำลังรอการบดขยี้ใครบางคน

ทุกคนตกใจความใหญ่โตของอิฐทอง หวางซุงและหานหลิงเฟิงนั้นรำคาญที่จะทะเลาะกับเจ้าอ้วนต่อไป ในตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงจ้องมองและรอดูฉากที่อิฐทองจะบดขยี้เจ้าอ้วนให้แหลกสลาย

เจ้าอ้วนก็ตกใจอย่างมากเช่นกันเมื่อมองเห็นอิฐทอง และเขาก็ไม่คิดเข้าข้างตัวเองว่าคาถาพสุธาอารักษ์กับเกราะใยแมงมุมจะช่วยอะไรเขาได้ เขาจึงเข้าไปยังมิติลึกลับของตนและหยิบเอาระฆังทองแดงออกมา!

รวดเร็วดั่งใจนึก ระฆังทองแดงนั้นใหญ่ราวสามสิบฟุตปรากฏออกมาเหนือศรีษะของเจ้าอ้วน ระฆังนี้ไม่ได้ตกแต่งใด ๆ เพื่อเพิ่มความสวยงามให้มัน รวมกับบรรยากาศโดยรอบราวกับว่ามันคือภูเขาที่สามารถสูงเทียมฟ้าได้ ความกดดันในตอนนี้ทำให้ทุกคนไม่สามารถหายใจอย่างโล่งอก การแกะสลักบนพื้นผิวของระฆังทองแดงนั้นเต็มไปด้วยเหล่าปีศาจ สัตว์ร้ายในตำนาน เมฆา และอีกมากมาย ซึ่งบางคราก็ปรากฏตัวออกมาพรวดพราด ทำให้ทุกคนที่จ้องมองอยู่นั้นอกสั่นขวัญหาย

ขณะนั้นเอง อิฐสีทองขนาดใหญ่ก็ได้กระแทกลงมาบนระฆังทองแดงยักษ์ คนรอบ ๆ ได้ยินเพียงเสียง ‘เป้ง’ เท่านั้น ก่อนที่จะเห็นอิฐทองที่กระเด็นหล่นลงมาที่พื้น ขนาดของมันเหลือเพียงไม่กี่นิ้วพร้อมกับปรากฏรอยแตกเป็นรอยเท่ากับเส้นผม เห็นได้ชัดเจนว่ามันได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง แต่ระฆังทองแดงนั้นไม่ได้ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย อีกทั้งยังไม่ส่งเสียงใด ๆ ออกมา ราวกับว่าที่กระแทกกันเมื่อครู่นี้ไม่ใช่ภูเขาเล็ก ๆ แต่กลับเป็นเพียงขนนกเท่านั้น

หวางซุงและหานหลิงเฟิงนั้นสติหลุดไปเสียแล้ว พวกเขาไม่อาจยอมรับความจริงในสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะตกตะลึงเพียงใด แต่เจ้าอ้วนกลับไม่รู้สึก เมื่อระฆังทองแดงถูกทุบตีลงมา ปราณจิตวิญญาณของเขานั้นก็ได้รับแรงกระแทกนั้นเช่นกัน แม้ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ แต่เจ้าอ้วนนั้นได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง แม้ว่าระฆังทองแดงจะมีความแข็งแกร่ง แต่ถ้าหากว่าผู้ที่เชื่อมต่อทางจิตใจนั้นอ่อนแอ เมื่อได้รับแรงกระแทกมากเกินไป เจ้าระฆังนั่นอาจจะไม่มีรอยขีดข่วน แต่ว่าเขาอาจจะตายตกไปจากอาการหัวใจล่มสลาย

เจ้าอ้วนไม่ต้องการเช่นนั้น ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจว่าจะไม่มายุ่มย่ามกับเจ้าพวกนี้อีกต่อไป เขาดึงยันต์ออกมาสามชิ้น พร้อมฉีกมันและชี้ไปยังสามคนที่อยู่เบื้องหน้า

ทั้งสามคนนั้นมองเห็นว่าเจ้าอ้วนหยิบยันต์ออกมาสามอัน ความหนาของมันเท่ากับเหรียญทองแดง พวกเขารับรู้ได้ทันทีว่ามันคือยันต์ระดับกลาง พวกเขายังเป็นแค่ระดับเซียนเทียนเท่านั้น ยังไม่มีความสามารถในการสะกดยันต์ขั้นพื้นฐานได้ นั่นทำให้พวกเขาหวาดกลัวพร้อมถอยกลับไปตั้งรับอีกครา หวางซุงและหานหลิงเฟิงรีบวางแนวป้องกัน พร้อมกับเรียกดาบบินออกมาเพื่อปกป้องตนเอง แต่พี่ใหญ่จางนั้นรู้สึกว่าโชคคงไม่เข้าข้าง หลังจากอุปกรณ์วิเศษของเขาถูกทุบตีด้วยระฆังทองแดงจนสิ้น สภาพจิตใจของเขาเรียกได้ว่าย่ำแย่ พร้อมทั้งโลหิตที่พยายามไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ด ในตอนนี้ราวกับว่ามีใครกำลังพยายามใช้ค้อนทุบสมองของเขาอยู่ เขารู้สึกล่องลอยอยู่ภายในหัว ไม่สามารถแม้แต่จะคิดได้ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้

แต่ในไม่ช้าพวกเขาทั้งสามก็ตระหนักว่าพวกเขานั้นสามารถจะชนะการเดิมพันนี้ได้หรือไม่ ขณะนั้นเองเจ้าอ้วนก็งอนิ้วของเขา จากนั้นจึงเกิดริ้วสีเขียวคล้ายกับงูนั้นติดพันอยู่กับร่างกายของพวกเขา

“คาถาสายลมพันธนาการ!!!” ทั้งสามทราบอย่างรวดเร็วว่านี้ไม่ใช่คาถาระดับสูงแต่อย่างใด แต่หากจะกำจัดมันนั้นทำได้ยากยิ่งนัก หากว่าเป็นผู้ฝึกตนพลังระดับอื่น มันสามารถดักจับฝ่ายตรงข้ามได้ไม่ยากนัก แต่ถ้าหากเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงนำมาจับผู้ที่อ่อนแอกว่า จะสามารถควบคุมได้ถึงสองสามวัน เนื่องจากยันต์ที่เจ้าอ้วนใช้นั้นเป็นการเขียนขึ้นมาโดยผู้ที่มีระดับพลังขั้นปฐมภูมิ คาถาที่ถูกสะกดไว้ภายในนั้นก็นับได้ว่าถูกใช้โดยผู้มีพลังขั้นปฐมภูมิ และสามคนที่ถูกสะกดก็คล้ายกับถูกเหล็กหนารัดร่างกายอยู่ นั่นจึงส่งผลให้ไม่สามารถที่จะเคลื่อนที่ได้โดยสมบูรณ์ และถ้าหากพวกเขาจะต่อสู้โดยใช้พลังทั้งหมดที่มี ก็ต้องใช้เวลายาวนานกว่าหนึ่งชั่วโมง

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วก็นึกได้ว่าเจ้าอ้วนน่ะหรือที่จะปล่อยให้พวกเขามีโอกาสหลบหนี ? ตอนนี้พวกเขาทั้งสามถูกจับกุมตัวโดยสมบูรณ์ หน้าของพวกเขาซีดขาวราวกับศพที่ตายมาหลายวัน พี่ใหญ่จางที่เพิ่งหลุดจากอาการวิงเวียนศีรษะได้นั้นตะโกนออกมาทันทีว่า “ศิษย์น้อง ศิษย์น้อง ข้าผิดไปแล้ว ข้าผู้นี้ดวงตามืดบอดเพราะพวกเขา ได้โปรดมีเมตตาต่อข้าเถิด ข้ายินดีที่จะ..”

“ไปตายซะ!” เจ้าอ้วนไม่เปิดโอกาสอันใดให้เขาได้อ้อนวอน เขาหยิบเอาดาบอสนีวายุออกมาพร้อมกับแทงเข้าไปในตันเถียนของพี่ใหญ่จางและได้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าฝ่าขึ้นมาโดยรอบ ทำให้เกิดช่องว่างบนตัวของเขาอย่างสมบูรณ์

หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว พี่ใหญ่จางได้กลายเป็นง่อยพร้อมกับกลายเป็นมนุษย์ธรรมดาโดยสมบูรณ์ เว้นเสียแต่ว่าเขาจะสามารถหาสมบัติที่มีไว้แหกกฎของฟ้าดินได้ เขาไม่จำเป็นจะต้องคิดเรื่องการฝึกฝนพลังอีกแล้วในชีวิตที่เหลือนี้ อย่างไรก็ตามสมบัตินั้นหากมีอยู่จริง คนที่จะสามารถรับได้คือผู้มีพลังอยู่ในระดับจินตัน แล้วใครกันเล่าจะยินดียกมันให้แก่เขา?

หลังจากได้รับความเจ็บปวดไปอย่างสาสม พี่ใหญ่จางได้กรีดร้องออกมาพร้อมกับเลือนหายไปทันที เมื่อเห็นสภาพของเขาเช่นนั้น หวางซุงจึงรนลานอย่างถึงที่สุด ใบหน้าของเขากลายเป็นสีเขียวพร้อมกับเร่งร้อนที่จะกล่าวขออภัย “ซ่งจง พี่น้องข้าได้โปรดเมตตา! ข้ากระทำผิดพลาดไปแล้ว!”

“แม้ว่าเจ้าจะทราบข้อผิดพลาดของตนแล้ว แต่สุดท้ายเจ้าก็ต้องตาย!” เจ้าอ้วนทำให้เขากลายเป็นขยะทันทีด้วยการพุ่งไปราวกับลูกปืนใหญ่ หลังจากนั้นหวางซุงจึงถูกฟ้าผ่าและสลบไป เจ้าอ้วนหันหน้ามาหาหลิงหานเฟิงด้วยใบหน้าที่ยิ้มกว้าง

แน่นอนว่าองหญิงนั้นก็ยังคงเป็นคนและกลัวความตาย จึงมาฝึกตนเป็นผู้ฝึกตนเพราะพวกเขารู้ว่าอาจจะมีชีวิตอยู่ได้หนึ่งร้อยปีหรืออาจจะหนึ่งพันปี ใครเล่าจักยอมรับความอับอายด้วยการตายตอนอายุยี่สิบ?

อย่างไรก็ตาม หานหลิงเฟิงนั้นยังไม่คิดจะตายตอนนี้อย่างแน่นอน ดวงตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตาที่หลั่งไหลออกมา นางพยายามอ้อนวอนซ่งจง “น้องซ่งจง ได้โปรดอย่าฆ่าข้าเลย ข้าผิดไปแล้ว!”

“แม่นกน้อย ยินดีนักที่เจ้ารู้ว่าตนนั้นผิดพลาด” ซ่งจงเดินมาหาหานหลิงเฟิงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขาบีบหน้าของนางให้เงยขึ้นอย่างรุนแรง พร้อมกล่าวว่า “เปิดปากของเจ้าซะ! ถ้าหากว่าเจ้ายังไม่อยากตาย!”

หานหลิงเฟิงตกใจพร้อมกับดิ้นรนนิดหน่อย แต่เจ้าอ้วนคุกคามนางอย่างรวดเร็วทำให้นางไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หลังจากที่นางเปิดปากของนางแล้ว นางรู้สึกว่าเจ้าอ้วนใส่ยาลงไปในปากของนาง

“เจ้าให้ข้ากินอะไร?” หานหลิงเฟิงถามด้วยความตกใจ

“เจ้าไม่รู้สึกอะไรเลยงั้นหรือ?” อ้วนเผยยิ้มพลางเก็บดาบ จากนั้นและมือก็เริ่มอยู่ไม่สุขจับเข้าที่ยอดปลายปทุมถันของนางและเริ่มลูบคลำ

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด