ตอนที่แล้ว[KotB] บทที่ 79: ดวงดาวแห่งความสมบูรณ์แบบ (4)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[KotB] บทที่ 81: ดวงดาวแห่งความสมบูรณ์แบบ (6)

[KotB] บทที่ 80: ดวงดาวแห่งความสมบูรณ์แบบ (5)


บทที่ 80: ดาวแห่งความสมบูรณ์แบบ (5)

<โทษสำหรับการแทรกแซง คุณสูญเสียครึ่งหนึ่งของออนซ์ที่มีในปัจจุบัน>

<เมื่อลีฟวิ่งอาร์เมอร์มาถึง คุณจะถูกคุมขังเป็นเวลา 3 วัน>

การเข้าแทรกแซงการต่อสู้ถือว่าขัดต่อกฎ

หากไม่มีการลงโทษใดๆเกิดขึ้น บนสังเวียนจะปราศจากการต่อสู้ที่ยุติธรรม

ดูเหมือนว่านี่เป็นโทษสถานเบาแล้วเนื่องเป็นการกระทำผิดครั้งแรก

อย่างไรก็ตามมันไม่สามารถช่วยได้

'หากต้องการมั่นใจในชัยชนะ ฉันต้องช่วยพวกเขา'

มูยองพบวิธีเอาชนะโอโลเนส

บัคและเพื่อนร่วมทีมคือกุญแจสำคัญในการชนะ

'วิธีการต่อสู้ พฤติกรรม ทุกสิ่งทุกอย่างของมันคล้ายกับฉัน  '

ช่วยไม่ได้ที่มูยองต้องประหลาดใจเมื่อเห็นการต่อสู้รุนแรงขึ้น

หลายๆอย่างของโอโลเนสมีความคล้ายคลึงกับมูยองมาก โดยเฉพาะในแง่ของการต่อสู้

เขามีความรอบคอบ และสามารถค้นหาเส้นทางที่ดีที่สุดในการโจมตี

นอกจากนั้นทั้งคู่ยังใช้ทักษะประเภทวิญญาณเหมือนกันอีกด้วย

‘น่าประหลาดใจจริงๆ’

ความรู้สึกต่างๆ ทักษะการตัดสินใจ ฯลฯ

มันคล้ายกับเขาได้อย่างไร!?

ยิ่งมองมันมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งเหมือนมองตัวเองในกระจกเงา

แต่ยังไงพลังโจมตีของโอโลเนสก็สูงกว่ามูยอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันใช้ "เนตรที่สาม" นั่นเป็นสิ่งที่มูยองต้องระมัดระวัง

อัตราส่วนการชนะมี 50%

ก่อนที่จะปรากฎเนตรที่สามโอกาสชนะของมูยองสูงกว่านี้ แต่ด้วยการมีอยู่ของมันสมดุลที่มีจึงเปลี่ยนไปจากเดิม

นั่นคือเหตุผลที่ความแตกต่างเพียงเล็กน้อยจะมีผลต่อชัยชนะ

และเพื่อการณ์นั้น มูยองถึงต้องช่วยเหลือพวกของบัค

"โดเกบิทำไมแกถึงช่วยมนุษย์?"

โอโลเนสกัดฟัน ด้วยความโมโห

ดวงตาทั้งสามของมันถูกย้อมด้วยสีแดง มูยองพยายามอย่างสุดความสามารถในการขัดขวางการโจมตีนั้น

"เพื่อชัยชนะของฉัน"

มูยองไม่ได้ซ่อนความจริง

โอโลเนสก็เหมือนกันกับมูยอง

มันไม่สามารถเชื่อได้อย่างหมดใจ แต่ก็เป็นความจริง

นั่นเป็นเหตุผลที่เขารู้สึกว่า ไม่จำเป็นต้องซ่อนความตั้งใจที่แท้จริง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการโกหกต่อหน้าเนตรที่สามของโอโลเนส

"สถานที่สำหรับการต่อสู้ของเราไม่ได้อยู่ที่นี่"

"นั่นไม่ใช่สิ่งที่แกเป็นผู้ตัดสินใจ"

มูยองกระชับดาบแห่งความโกรธเกรี้ยว และดาบมารเทพไว้ในมือ

เขาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะดำเนินการต่อ หากโอโลเนสไม่เต็มใจที่จะหยุดยั้ง

ขณะที่ทำเช่นนี้ เขาก็หันหน้าไปมองบัค

บัคเข้าใจความหมายนั้น และรีบลุกขึ้นไปช่วยเพื่อนนักรบของเขาโดยไม่ลืมเก็บแขนที่ปลิวขาดกลับมาด้วย จากนั้นก็ออกไปจากสังเวียนอย่างรวดเร็ว

"ขอบคุณ หนี้หนนี้ฉันจะต้องตอบแทนอย่างแน่นอน "

บัคและเพื่อนร่วมทีมของเขาหนีออกไปเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ไม่นานหลังจากนั้นลีฟวิ่งอาร์เมอร์นับสิบก็ปรากฏจากระยะไกล

ขณะหันไปมองพวกมัน โอเลเนสก็หันกลับมามองมูยองด้วยท่าทางกวนประสาท

"สมแล้วที่เป็นการเคลื่อนไหวของผู้ที่มีกลิ่นของ เกรโมรี่ "

คิ้วของมูยองขมวดขึ้นเมื่อได้ยินชื่อที่ไม่คาดคิด

เกรโมรี!

ผู้ถือครองที่นั่งลำดับ 56 ของ 72 เทพปีศาจ เทพธิดาปีศาจตนเดียวที่เป็นผู้ครอบครอง 26 กองทัพอสูร

และปัจจุบันมูยองมีคุณสมบัติที่จะเป็นราชาปีศาจตนที่ 27 ภายใต้เกรโมรี

โอโลเนสมองไปที่ดาบแห่งความโกรธเกรี้ยว หลังจากอ่านการแสดงออกของมูยอง

"ข้ารู้ว่านั่นเป็นดาบที่ดี ข้ายังรู้อีกว่าใครเป็นเจ้าของกลิ่นที่แกปล่อยออกมา ในฐานะที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนังคนทรยศนั่น การเข้าข้างมนุษย์ช่างเป็นวิธีที่เหมาะสมกับแกจริงๆ "

ทรยศ?

เขามองไม่เห็นความเคารพต่อเทพปีศาจในคำพูดนั้น

อย่างไรก็ตาม มูยองแกล้งทำเป็นว่าเขาไม่รู้อะไรเลย

"ฉันไม่รู้ว่าแกพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไรอยู่"

"แกเป็นคนแรกที่ข้าไม่สามารถอ่านความคิดด้วยตานี้ได้ แต่ไม่ว่าแกจะรู้จริงๆหรือไม่ ยังไงก็ตามชัดเจนว่าแกมีความสัมพันธ์กับนังสารเลวนั่น "

มันแสยะยิ้มจนเห็นไรฟัน

"พลังอันน้อยนิดของคนทรยศ แกได้เริ่มต้นการต่อสู้ที่ไม่มีวันชนะเข้าแล้ว ไม่ว่าจะมีคนที่พยายามดิ้นรนเหมือนแกสักกี่คนมันก็ไร้ประโยชน์ และเมื่อทุกอย่างถูกจัดการแล้ว มนุษย์ทุกคนที่แกปกป้องจะต้องตาย "

มูยองรู้สึกถูกกระตุ้นเล็กน้อยขณะที่มันพูด แต่เขาก็ยังสงบ

แม้ว่าจะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่มันจะเป็นอันตรายหากเขาทำตัวเหมือนกับรู้เรื่องราวทั้งหมดจากคำพูดของโอโลเนส

ในขณะที่มูยองยังคงไม่ตอบสนอง โอโลเนสหันร่างของเขากลับราวกับว่าหมดความสนใจ

"ยังไงก็ตาม ตราบใดที่แกยังมุ่งเป้าไปยังสถานที่ที่เซอเบอรัสปกป้องอยู่ ข้าทำเพื่อเกียรติของข้า ส่วนแกก็ทำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง เราต่างกำลังตามหาไอเทมนั้น และนั่นจะเป็นสถานที่ที่เราจะใช้ต่อสู้กัน "

หลังจากนั้นโอโลเนสก็ทิ้งสังเวียนไว้ราวกับว่าเขาไม่รู้สึกติดค้างอะไร

ในขณะที่มูยองมองมันจากไป ลีฟวิ่งอาร์เมอร์กว่า 10 ตัวก็รุมล้อมมูยอง

ทุกอย่างถูกกั้นไว้ในกรงขัง

มันคับแคบมากจนยากที่จะหายใจ

เนื่องจากมันถูกสร้างมาจากวัสดุที่ไม่รู้จักจึงเป็นเรื่องยากที่จะทำลาย

ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะออกไปจากสถานที่แห่งนี้ แต่เขาก็ไม่เห็นว่ามันจำเป็นต้องทำอย่างนั้น

'เมื่อทุกสิ่งถูกจัดการแล้ว เทพปีศาจจะเริ่มเคลื่อนไหว ไม่ว่ามันจะเกี่ยวข้องกับพลังของเกรโมรีหรือไม่? '

*

ไม่ว่าจะเป็นที่แคบและอึดอัดแค่ไหนก็ตาม มูยองก็ไม่ได้ถูกจำกัดได้ด้วยสถานที่

หากมอนสเตอร์ปกติถูกขังอยู่ในสถานที่เช่นนี้ พวกมันคงกลายเป็นบ้าหรือไม่ก็แสดงอาการทางจิต แต่มูยองได้เอาชนะสิ่งเหล่านั้นไปในอดีตแล้ว

ในทางกลับกันเขามีเวลาที่จะคิดถึงสิ่งต่างๆอย่างช้าๆ

'ในอก 10 ปี เมื่อภัยพิบัติครั้งใหญ่เริ่มขึ้นเทพปีศาจจะโจมตีเหล่ามนุษย์ อย่างไรก็ตามเทพปีศาจไม่ได้เข้าร่วมทั้งหมด เทพปีศาจเกรโมรีก็เป็นหนึ่งที่ไม่ได้เข้าร่วม'

เขายังไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องของ 10 ปีข้างหน้า

เมื่อมนุษย์เข้ามาในอันเดอร์เวิล์ดครั้งแรก เทพปีศาจไม่ได้โจมตีพวกเขาอย่างจริงจัง

ส่วนใหญ่เป็นเพียงราชาปีศาจที่เคลื่อนไหว

อย่างไรก็ตาม ถ้าสมมุติว่านั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเทพปีศาจไม่สามารถออกจากอาณาเขตของตนได้?

'มีความขัดแย้งภายในหรือไม่?'

ความขัดแย้งดังกล่าวเกิดขึ้นภายใน 10 ปี?

บางทีพวกมันเคลื่อนไหวหลังจากความขัดแย้งได้รับการแก้ไข ซึ่งนำไปสู่การเริ่มต้นของ 'ภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่'

หัวใจของมูยองเริ่มเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย

'เทพปีศาจยังแบ่งเป็นฝ่ายต่างๆ ... '

ไม่มีใครรู้ แน่นอน พวกเขาไม่ทราบ

ไม่มีทางที่มนุษย์จะรู้ว่าปัญหาในกลุ่มเทพปีศาจได้รับการแก้ไขก่อนที่พวกมันจะเริ่มเคลื่อนไหว

เขาไม่แน่ใจ อย่างไรก็ตามความเป็นไปได้ทั้งหมดต้องถูกเฉลย

'ฉันต้องถามโอโลเนสโดยตรง'

มูยองพยักหน้า

เขามั่นใจว่าสามารถถามโอโลเนสได้หลังจากได้รับชัยชนะ

มูยองรู้วิธีหาสิ่งของที่จำเป็นต่อการเข้าไปยังประตูที่เซอเบอรัสกำลังปกป้องอยู่

มูยองนั่งอย่างสงบ

เขานิ่งเงียบและจดจ่อกับการวาดภาพในใจ

‘การเคลื่อนไหวร่างกายไม่ใช่ทางเดียวในการฝึกฝน’

จินตนาการมักเหนือล้ำกว่าความเป็นจริง

มูยองเตรียมพร้อมการเคลื่อนไหวทั้งหมดขณะที่เขาต่อสู้กับโอโลเนสในใจของเขา

*

หลังจากนั้น 3 วันเขาก็จับคู่การต่อสู้ทันทีที่ออกจากห้องขัง

<การต่อสู้ระหว่าง โดเกบิมูยอง กับ อาร์คโทรล กำลังจะเริ่ม>

มูยองวอร์มอัพก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสังเวียน

"ขอบคุณ"

ระหว่างทางบัคกำลังรอเขาอยู่

เขาอยู่กับเพื่อนของเขาและทุกคนก็ลดศีรษะลง

พวกเขาดูสิ้นหวังและอับอาย แต่มันเป็นความจริงที่พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากมูยอง

พวกเขาไม่รู้จะทำตัวยังไง จึงได้แต่ลดศีรษะลง

จริงๆแล้วมูยองไม่ได้ช่วยพวกเขาเพื่อให้ได้รับคำขอบคุณ

เขาช่วยเพราะต้องการบางอย่าง

"ราคาสำหรับการประมาทคือความตาย ครั้งนี้ถือว่านายยังโชคดี "

"…พวกเรารู้ ถ้าไม่ใช่เพราะนาย เราคงตายกันหมด "

พลั่ก

ในขณะที่บัคตบไหล่เพื่อนสนิทของเขา พวกนั้นก็รีบกล่าวคำขอบคุณมูยอง

นักรบที่แบกโล่ขนาดใหญ่ที่แขนซ้ายถูกตัดขาดมีสีหน้าซีดเซียว

แม้ว่าพวกเขาจะมีพรของนักบวช แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลสักเท่าไหร่

นี่เป็นเพราะพลังปีศาจของโอโลเนสมีระดับสูงกว่า

อย่างไรก็ตามพวกเขารู้สึกถึงอะไรที่มากกว่าความเจ็บปวดหรือการพ่ายแพ้

"นายต้องการแก้แค้นเหรอ?"

รูม่านตาของบัคขยายตัวขึ้น

เขาเข้าใจพอสังเขปว่ามูยองอยากจะพูดอะไร

"นายจะทำงานร่วมกับเราใช่มั้ย... "

"ไม่ผมจะสู้คนเดียว  แต่ผมจะให้โอกาสคุณ "

อย่างไรก็ตามมูยองส่ายหัว

แทนคำพูดเขาหยิบยันต์มาจากด้านข้าง และหลังจากที่ยันต์ถูกสะบัด อันเดธ 2 ตนก็ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา

นักรบสุริยันอันธการในชุดเกราะเต็มตัว และไฮเดกเกอร์ที่ยืนแข็งทื่อคุกเข่าลง

“อันเดธ!”

เชร้ง!

ทุกคนตื่นตัวในขณะที่อันเดธปรากฏตัวขึ้น

พวกเขาถืออาวุธและเตรียมตัวต่อสู้

เนื่องจากเป็นมนุษย์สิ่งมีชีวิต ดังนั้นนี่จึงเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติ

มูยองพูดอย่างใจเย็น

"เสริมความแข็งแกร่งของทั้งสองโดยใช้ พรแห่งหมอก และภาษาวิญญาณ คุณรู้วิธีการใช้ 'พรบัญชาการ' ใช่มั้ย? "

พรบัญชาการเป็นพรระดับสูง

พลังที่ทำให้เกิดการสะท้อนกลับที่รุนแรงต่อต้านเหล่าภูติผีและอันเดธ

นักบวชส่ายหัว

"ด้วยทักษะของผม  มันเป็นไปไม่ได้"

พรบัญชาการเป็นพรที่สามารถใช้ได้ก็ต่อเมื่อมีนักบวช 2-3 คนรวมพลังกัน

มันไม่สามารถทำได้เพียงตัวคนเดียว หากคุณไม่ใช่นักบวชชั้นสูง

มูยองหัวเราะเบา ๆ

"คุณน่าจะใช้มันร่วมกับภาษาวิญญาณของบัคได้ ภาษาวิญญาณของเขาดูเหมือนจะแตกต่างจากปกติ พลังอำนาจที่แข็งแกร่ง ผมรู้สึกได้ถึงพลังของดราเคน "

"นายรู้ได้ยังไง?"

ดวงตาของบัคเบิกกว้างขึ้น

ดราเคนเป็นลูกครึ่งมังกร ดราเคนเกิดจากมังกรและอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ใช้ภาษาของมังกร

พวกมันปรับปรุงระดับภาษาจิตวิญญาณจนเหนือกว่าปกติ

ตอนแรกเขาก็ไม่รู้หรอก

มันเป็นข้อเท็จจริงที่เขาค้นพบหลังจากพลังความบริสุทธิ์ถูกปลุกขึ้น

ถ้าไม่ได้ค้นพบสิ่งนี้ มูยองคงไม่ช่วยพวกเขา

"แม้แต่ชื่อของคุณ บัค ก็เป็นเรื่องโกหก เนื่องจากภาษามังกรมีความแข็งแกรง่มากจนผู้ใช้จำเป็นต้องซ่อนชื่อจริง ความแตกต่างที่ผมรู้สึกตลอดเป็นเพราะเรื่องนี้ "

ริมฝีปากของมูยองค่อยๆขยับขึ้นช้าๆ

ตั้งแต่ได้ยินชื่อตอนครั้งแรกที่ได้พบกัน มูยองก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ

ผู้ใช้ภาษาวิญญาณส่วนใหญ่มีชื่อเสียง แต่แปลกที่เขาไม่เคยได้ยินชื่อของบัคมาก่อน

อย่างไรก็ตามหากเป็นผู้ใช้ภาษามังกรเรื่องราวย่อมต่างออกไป

การแสดงออกของบัคดูประหลาดใจมาก ราวกับว่าดวงวิญญาณของเขาค่อยๆไหลออกมาจากร่าง

"คุณยังจะบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้อยู่ไหม?"

ด้วยพลังของภาษามังกรมันก็เป็นไปได้สำหรับการช่วยเสริมคำอธิษฐานของนักบวช

นักบวชจะสามารถสร้างพลังได้ในระดับที่แข็งแกร่งกว่าเดิม

ไม่นานบัคก็ต้องยอมจำนน

"มัน ... เป็นไปได้  อย่างไรก็ตามแม้ว่าเราจะใช้พรบัญชาการได้ แต่มันก็ไม่ส่งผลดีอันใดกับอันเดธ "

"ยังไม่ใช่สำหรับตอนนี้"

มูยองหันศีรษะและมองไปที่สังเวียน

มอนสเตอร์สีขาวตัวหนึ่งที่เรียกว่า อาร์ค โทรล์ กำลังรอเขาอยู่

อาร์ค หมายความว่ามันมีคุณสมบัติความต้านทานความมืดและแสงสว่างสูง และถ้าเขาปลูกถ่ายหัวใจของมันลงในตัวไฮเดกเกอร์ก็จะสามารถรับผลของพรบัญชาการได้

ส่วนนักรบสุริยันอันธการมีค่าความต้านทานต่อแสงที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว

เหนือสิ่งอื่นใด ตอนนี้มูยองคงปราศจากความลังเลใจที่จะใช้พลังแห่งเปลวไฟที่ถูกเพิ่มเข้ามาแล้ว

“รอฉันก่อนเถอะ”

มูยองเดินขึ้นไปบนสังเวียน

ดวงตาของเขาส่องประกาย

'ฉันรู้ว่าเราเหมือนกัน ดังนั้นมันไม่มีประโยชน์ที่จะซ่อนอะไรไว้'

เนตรที่สามของโอโลเนสครอบครองทักษะในการทำความเข้าใจความแข็งแกร่งทั้งหมดของศัตรู

มูยองเองก็เข้าใจถึงพลังที่แท้จริงของโอโลเนส

เนื่องจากมันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะซ่อน ดังนั้นเขาจะพยายามทุกอย่างสุดความสามารถ

พรึ่บบบบ!

ปีกแห่งเปลวเพลิงลุกขึ้นจากหลังของมูยอง

เสียงเรียกของเปลวเพลิง!

เป็นทักษะของพลทหารหอกเพลิงซึ่งมูยองได้มันมาจากการใช้ทักษะอุทิศจิตวิญญาณ

อย่างไรก็ตามเปลวไฟนั้นรุนแรงยิ่งกว่าตอนที่พลทหารหอกเพลิงใช้

' รวดเร็วและขาดลอย '

ถ้าก่อนหน้านี้เป็นการอุ่นเครื่อง ตอนนี้เขาก็เปรียบเสมือนพายุไต้ฝุ่นที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขัดขวางเส้นทางของเขา

ถ้ามันไร้ประโยชน์ที่จะซ่อนพลังจากโอโลเนส เขาก็จะทำให้มันต้องตื่นตัวจากการแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริง

ในขณะที่โอโลเนสมัวแต่พะวงกับมูยองทำให้มองทุกอย่างแคบลง แต่มูยองกลับรู้วิธีต่อสู้ที่หลากหลายกว่า

ความแตกต่างเล็กๆแต่สำคัญเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด