ตอนที่แล้ว[KotB] บทที่ 80: ดวงดาวแห่งความสมบูรณ์แบบ (5)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[KotB] บทที่ 82: ดวงดาวแห่งความสมบูรณ์แบบ (7)

[KotB] บทที่ 81: ดวงดาวแห่งความสมบูรณ์แบบ (6)


บทที่ 81: ดวงดาวแห่งความสมบูรณ์แบบ (6)

อาร์คโทรลเป็นพวกกลายพันธุ์

ผิวที่ขาวของพวกมันทำให้นึกถึงคนเผือก

นอกจากนี้ พวกกลายพันธุ์ยังไม่สามารถอยู่ร่วมกับกลุ่มของพวกมันได้

โดยปกติพวกกลายพันธุ์จะถูกทอดทิ้งและตายในป่า ทำให้พวกมันมีโอกาสน้อยมากที่จะรอดชีวิต

แต่พวกกลายพันธุ์ที่รอดชีวิตมาได้มักจะได้รับพลังที่แข็งแกร่งกว่าเผ่าพันธ์ุของพวกมันเอง

เพียงหนึ่งตัวสามารถแสดงพลังได้มากกว่าห้าตัว

นอกเหนือจากนั้นบางครั้งมอนสเตอร์ที่มีคำว่า 'อาร์ค' อยู่ในชื่อจะมีความค่าต้านทานต่อธาตุมืดและธาตุแสงมากกว่าปกติ

และโดยทั่วไปแล้ว โทรลเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีการฟื้นตัวที่โดดเด่น

"สิ่งที่เราเห็นตอนนี้ไม่ใช่ความฝันใช่ไหม?"

บัคอ้าปากของเขาอย่างงงงวย

ด้วยการแสดงออกที่ราวกับว่าไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น

การแสดงออกของเพื่อนที่เหลืออยู่ของเขาก็ไม่ต่างกัน

"... ความสามารถในการฟื้นฟูของเขาเร็วกว่าอาร์คโทรล"

"โดเกบิผู้ที่ไม่ใช่แม้แต่ด๊อกซินี สามารถแข็งแกร่งได้ขนาดนี้เลยเหรอ?"

อาร์คโทรลสามารถฟื้นตัวได้ทันทีหลังจากที่ถูกฟันหรือถูกแทง ถ้ามันถูกเผา มันจะฉีกส่วนนั้นออกและฟื้นตัวต่อไป

มันเป็นความสามารถในการฟื้นตัวที่น่าอัศจรรย์

อย่างไรก็ตาม มูยองที่เผชิญหน้าอยู่กับอาร์คโทรลกลับน่าอัศจรรย์มากกว่า

ในตอนแรก บัคคิดว่าเขาเป็นโดเกบิที่ค่อนข้างพิเศษ

ถึงแม้ว่ามูยองจะมีเขาบนหัวแสดงถึงความเป็นถึงราชาแต่เขาก็ไม่ใช่ด๊อกซินี ความสามารถในการต่อสู้ของเขาก็ไม่ควรจะต่างไปจากปกตินัก

อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจของเขาที่มีต่อมูยองก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆหลังจากที่มูยองเริ่มต่อสู้ในสังเวียน

ชัยชนะซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หลังจากการปรากฏตัวของโอโลเนสแล้ว มูยองก็กลายเป็นดาวดวงใหม่ในสังเวียนทันที

และในตอนนี้เขาก็ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่เหนือชั้นกว่าด๊อกซินีและสร้างความหลงใหลให้กับผู้ชมโดยทั่ว

ฟู่ววววว!

เปลวไฟที่ทะยานออกจากด้านหลังของมูยองทำให้เกิดความเสียหายกับเวทีทั้งหมด

เขาเหวี่ยงดาบทั้งสองเล่มหั่นร่างของอาร์คโทรลราวกับว่าเขากำลังแกะสลักประติมากรรม

นั่นหมายความว่าพลังที่เขาแสดงให้เห็นจนถึงตอนนี้ยังไม่ใช่แม้แต่ปลายยอดของภูเขาน้ำแข็ง

อาร์คโทรลไม่สามารถต้านทานเขาได้แม้แต่น้อย

"หรือว่าอาร์คโทรลนั้นอ่อนแอ?"

นักบวชตอบคำถามของหญิงสาวนักธนู

“ไม่ โดเกบินั่นแข็งแกร่งกว่าที่เราจินตนาการไว้ โดยปกติแล้ว คนทั่วไปกล่าวว่าอาร์คโทรลสามารถแสดงพลังได้เท่ากับโทรลสิบตัว แต่ตอนนี้.. ฉันไม่แน่ใจ”

มันเป็นความจริง อาร์คโทรลไม่ได้อ่อนแอ

เขาแค่แข็งแกร่ง

ร่างกายของบัคสั่นสะท้าน

มูยองมีความเข้าใจลึกซึ้งเกีย่วกับตัวตนที่แท้จริงของเขาเอง ความแข็งแกร่งมากมายที่เก็บงำไว้และแม้แต่ความระมัดระวังในการวางแผนล่วงหน้า

เขาหันหน้าไปดูอันเดธ

'ฉันไม่เคยได้ยินว่าโดเกบิจะสามารถจัดการกับความตายได้'

กรึบ!

บัครู้สึกว่าน้ำลายของตัวเองแห้งผาก

ทั้งดาบ และเวทมนตร์ ยิ่งไปกว่านั้นมูยองยังสามารถจัดการกับความตายได้

เขาไม่เคยได้ยินเรื่องของมอนสเตอร์ที่สามารถใช้ทักษะต่างๆมากมายแบบนี้

ถ้าหากจะมี ..

'มนุษย์.. เพียงแค่มนุษย์เท่านั้นที่สามารถใช้ทักษะได้หลากหลายรูปแบบ

วึงงง!

เมื่อคิดได้ดังนั้นร่างกายของเขาก็สั่นอีกครั้ง

ไม่ใช่โดเกบิ จริงๆแล้วมันเป็นมนุษย์?

มูยองสามารถแสดงตัวเป็นโดเกบิด้วยผลลัพธ์ของทักษะ

บัควิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนแต่ก็กลายเป็นความสับสนที่มากขึ้น

ในขณะนั้นการต่อสู้ก็สิ้นสุดลง

เมื่อการต่อสู้จบลง สังเวียนก็กลายเป็นเงียบงัน

เป็นเพราะเขาจบการต่อสู้โดยการแสดงความแกร่งอยู่ฝ่ายเดียว นี่มันอาจจะเท่ากับหรือมากกว่าโอโลเนสด้วยซ้ำ

ตึก ตึก

ในทางเดินที่คับแคบ มูยองเดินเข้ามาหามัน

เสียงฝีเท้าของเขาดูเหมือนดังมาก

"นาย ...นายเป็นโดเกบิจริงหรือ?"

บัคอดไม่ได้ที่จะถาม

และเมื่อสายตาของมูยองหันมองมา ความหนาวเหน็บที่รู้สึกได้ก็แทบจะวิ่งทะลุผ่านร่างกายของเขา

อย่างไรก็ตามคำถามนี้มีความสำคัญอย่างมาก

มนุษย์หรือโดเกบิ

ถ้าเขาเป็นมนุษย์ เขาก็ต้องสวมบทบาทอย่างระมัดระวังมากขึ้น

ผู้ใช้ภาษาวิญญาณนั้นได้รับความสนใจจากทุกที่ๆพวกเขาไป และเนื่องจากผู้ใช้ภาษามังกรซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าพวกเขา มันจะนำไปสู่ความวุ่นวายที่มากยิ่งขึ้น

โลกไม่ใช่เรื่องง่าย

ผู้คนที่พยายามใช้ประโยชน์จากอื่นมีอยู่มากมาย

อย่างไรก็ตาม ถ้ามีคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนของเขารู้ความจริงนี้?

ในสภาพของบัค มันเป็นเรื่องของชีวิตและความตาย

มูยองค่อยๆเปิดริมฝีปากของเขาขึ้น

"ฉันคือโอม"

“โอม ... ?”

"ผู้ปกครองของเหล่าโดเกบิ และมิตรสหายของดวงวิญญาณ ฉันเป็นแม้แต่ลอร์ดที่ปกครองดินแดนที่ค่อนข้างกว้างใหญ่ "

จากนั้นมูยองก็ใส่หัวใจที่ยังเต้นอยู่ของอาร์คโทรล เข้าไปยังตำแหน่งหัวใจของไฮเดกเกอร์

มันเป็นฉากที่แปลกมาก แต่มูยองก็ไม่ได้กระพริบตา

มุมของริมฝีปากมูยองโค้งขึ้นเล็กน้อย

หลังจากนั้น มูยองก็มองไปที่บัค

"ผมเข้าใจว่าคุณกังวลเรื่องอะไร ยังก็ตาม"

ความระมัดระวังนี้เป็นสิ่งที่นักสำรวจควรมี

ขณะที่บัคมองเขาด้วยความสงสัย เขาก็พูดต่อ

"สิ่งที่คุณกังวลจะไม่เกิดขึ้น ถ้าหาก"

"พิธีกรรมสำหรับพรบัญชาการ... ฉันจะเริ่มมันในทันที"

"คุณฉลาดดีหนิ"

บัคตอบรับอย่างรวดเร็ว เขาเข้าใจได้ว่ามูยองต้องการจะพูดอะไร

เห็นได้ชัดว่าอาวุธหลักของเขาคือคำพูด

"โอโลเนสคือเหยื่อของผม "

มูยองพูดอย่างมั่นใจก่อนที่เขาจะเดินออกไป

*

มูยองลงไปในชั้นถัดไปทันที

เมื่อเขาเดินเข้าไปในชั้นสาม จำนวนของมอนสเตอร์ก็น้อยกว่าที่่ผ่านมา

โดยปกติแล้ว ถ้าพวกเขาจะมาถึงชั้นที่สามได้ มันก็เป็นเพราะว่าพวกเขาเก็บสะสมเงินได้หนึ่งล้านออนซ์และออกมาจากสังเวียน อย่างน้อยที่สุดก็มีมอนสเตอร์จำนวนไม่น้อยที่ใฝ่ฝันการได้รับตั๋วสำหรับการหลบหนี

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีจำนวนที่น้อย แต่พวกเขาก็ไม่ได้ขาดผู้ที่แข็งแกร่งในสังเวียน

มอนสเตอร์ทุกตัวกำลังกระหายที่จะต่อสู้และการต่อสู้ก็เป็นเป้าหมายเดียวของพวกมัน

แน่นอนว่าไม่มีสมรภูมิไหนที่จะดีไปกว่านี้ในการเปิดใช้งาน 'ผู้พิชิต' อีกแล้ว

นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึง

อันเดธสองตัวได้ถูกเพิ่มเข้ามาในฐานะนักรบในสังเวียน

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่ามูยองเป็นเจ้าของของพวกมัน เขาได้ให้พวกมันทำตัวเหมือนกับคนอื่นๆ

'ยอดเยี่ยมที่สุด'

แม้เขามีข้อสงสัยเล็กน้อยแต่แผนการของเขาก็ประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตามแม้ว่าอันเดธจะชนะการต่อสู้ แต่ชัยชนะก็ไม่ได้เป็นของมูยอง

"พวกมันมีบันทึกเป็นของตัวเอง"

มันเป็นวิธีที่ดีกว่า

ถ้าเกิดมีการบันทึกผลร่วมกัน ก็หมายความว่าถ้าพวกเขาชนะหรือแพ้ก็จะส่งผลร่วมกัน

ถ้าพวกมันแพ้แม้แต่ครั้งเดียว สถิติการชนะต่อเนื่องของเขาทั้งหมดก็จะหายไป

อย่างไรก็ตาม มูยองกำลังวางแผนที่จะใช้นักรบสุริยันอันธการและไฮเดกเกอร์ในการถ่วงโอโลเนสไว้

แหล่งที่มาของความแข็งแกร่งของโอโลเนสมีความคล้ายคลึงกับมูยองมาก

แน่นอนว่าความอ่อนแอของพวกเขาก็คล้ายคลึงกัน

"ในขณะที่พรบัญชาการแสดงผล การโจมตีของโลโอเนสจะไม่ทำงาน"

อย่างน้อยที่สุดเขาก็สามารถพูดได้ว่าทักษะประเภทภูติผีจะไร้ผล

มันไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับการโจมตีทางกายภาพได้ และความทนทานของนักรบสุริยันอันธการและไฮเดกเกอร์ก็มากจนน่าสะพรึงกลัวอย่างไม่ต้องสงสัย

การโจมตีทางกายภาพของโอโลเนสไม่แข็งแกร่งนัก

ที่มันดูรุนแรงเพราะได้รับการเสริมพลังจากพวกภูติผี

หากพวกเขาต่อสู้กัน แน่นอนว่าโอโลเนสจะต้องสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงไปอย่างต่อเนื่อง

ฉัวะ ฉัวะ!

มูยองแกว่งดาบทั้งสองเล่มของเขา

ในเวลาเดียวกันหัวของมนุษย์หิมะที่น่ารังเกียจก็ร่วงลงสู่พื้น

ปรมาจารย์ดาบ

เหมือนกับชื่อ มันเป็นทักษะที่อนุญาตให้เขากลายเป็นปรมาจารย์ดาบตามระดับที่เพิ่มขึ้น

มูยองได้รับการฝึกฝนเพื่อให้สามารถใช้อาวุธได้หลากหลายชนิด แต่เขาก็ยังห่างไกลจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งจากพวกมัน

อย่างไรก็ตามหลังจากการเรียนรู้ทักษะปรมาจารย์ดาบ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสามารถตั้งคำถามเกี่ยวกับ'สิ่งที่เป็นดาบ'ได้

นอกจากนี้ ความเข้าใจเกี่ยวกับดาบและทักษะก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

'ฉันจะไม่หยุดยั้ง'

มูยองเริ่มแข็งแกร่งขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ความเร็วในการพัฒนาของเขาเพิ่มขึ้นราวกับเรื่องไร้สาระ อย่างไรก็ตามนั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้ทุ่มเทให้กับพื้นฐาน

มันคงจะเป็นไปไม่ได้ถ้าเขาเป็นตัวเองในอดีต

แม้แต่บุคคลที่แข็งแกร่งที่รู้จักกันในชื่อของอัจฉริยะระดับโลกก็ไม่สามารถพัฒนาได้เร็วเท่ากับมูยอง

อย่างไรก็ตามมูยองไม่สงสัยในการเติบโตของตัวเอง

เป็นเพราะว่าเขารู้ว่าการเติบโตของเขาจะหยุดชะงักลงในตอนที่เริ่มสงสัยมัน

'อีกไม่นานจะถึง 10 ล้านออนซ์'

อัตราส่วนการเดิมพันเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเก็บเงินได้ 10 ล้านออนซ์ เขาก็จะบรรลุเป้าหมายแรก

'เซอร์เบอรัส'

ผู้เฝ้าประตูสุดท้าย

เพื่อโจมตีเซอร์เบอรัส เขาต้องการ 3 สิ่ง

หนึ่งในนั้นคือธูปพิเศษที่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน 10 ล้านออนซ์

เนื่องจากการต่อสู้กับโอโลเนสไม่ใช่ทุกอย่าง เขาต้องเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า

แม้ว่าระดับของสังเวียนจะเพิ่มขึ้น แต่โอโลเนสและมูยองก็ยังเปรียบกับม้าสองตัวที่กำลังพุ่งทะยาน

ไม่มีมอนสเตอร์ตนใดจะสามารถหยุดทั้งสองได้

ราวกับว่าพวกเขาทำสัญญากันไว้ ทั้งสองวิ่งและมองไปแต่เพียงข้างหน้าเท่านั้น

อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้จะสิ้นสุดลงในชั้นถัดไป

ราวกับว่ามูยองรอคอยช่วงเวลานี้ เขาเลือกโอโลเนส

โอโลเนสได้ใช้ความอึดไปมากมายในการต่อสู้กับนักรบสุริยันอันธการ และไฮเดกเกอร์แล้ว

จิตใจและร่างกายของมันเริ่มอ่อนล้า

ตอนนี้เป็นโอกาสของเขา

เพื่อที่จะโจมตีมันจากความเหนื่อยล้า และไม่ทันตั้งตัว

โอโลเนสมีสีหน้าแปลกๆบนใบหน้า ราวกับมันไม่ได้คาดคิดว่าจะได้รับการเลือกมาก่อน

"ข้าคิดว่า ข้าบอกเจ้าแล้ว ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ๆเจ้ากับข้าจะต่อสู้กัน"

"ฉันเลือกสถานที่ๆฉันจะต่อสู้"

ไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะทำตามความตั้งใจของโอโลเนส

และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่มูยองจะเสียโอกาสที่ได้เปรียบมากที่สุดของเขาไป

ในทางตรงกันข้าม โอโลเนสต่อสู้อย่างต่อเนื่องเพราะมันวางแผนจะสู้กับเขาในชั้นที่หนึ่ง

มันไม่ได้คิดเกี่ยวกับการรักษาความอึดของตัวเองไว้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ที่ได้ต่อสู้กับ นักรบสุริยันอันธการ และไฮเดกเกอร์ ความแข็งแกร่งของมันอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด

"เจ้าคิดว่านึ่เป็นสิ่งที่ดี สำหรับผู้ที่เกี่ยวพันกับเกรโมรี่เหรอ"

มูยองหัวเราะเบาๆ

เขาคิดว่าโอโลเนสจะกล่าวโทษเขาว่าเป็นคนขี้ขลาด แต่มันกลับตรงกันข้าม

ในสนามรบที่ซึ่งผู้คนต้องฆ่ากัน ใครก็ตามย่อมต้องทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ

เนื่องจากโอโลเนสก็คิดเช่นนั้น ถึงจะถูกเอาเปรียบแต่ก็ไม่ได้โกรธมูยอง

ปีศาจไม่ใช่แค่มารร้ายที่ไม่มีเหตุผล

'มันไม่ใช่คนที่จะถูกยั่วยุโดยง่าย'

โอโลเนสไม่ใช่ประเภทนั้น

มูยองค่อยๆชักดาบแห่งความโกรธเกรี้ยว และดาบมารเทพออกมา

และในขณะที่กำลังมองไปที่มูยอง โอโลเนสก็พูดอย่างเย็นชา

"ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจกับการตัดสินใจเช่นนี้"

"ฉันไม่เคยเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเอง"

มูยองตอบกลับทันที

โอโลเนสไม่รู้ว่า

มูยองใช้ชีวิตมาแบบไหน

ความสุขอันน่าอัศจรรย์คือการที่เราสามารถเลือกทางเดินของตัวเองได้

เขามาไกลแค่ไหนเมื่อเทียบกับอดีตที่ไม่มีสิทธิเลือกอะไรเลย

แล้วตอนนี้เขาจะเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองได้อย่างไร?

อย่างน้อยตั้งแต่กลับมาจากอดีต มูยองก็ไม่เคยเสียใจกับการตัดสินใจของเขาแม้แต่ครั้งเดียว

เขาพยายามทำให้ดีที่สุดอยู่เสมอ

ตอนนี้ก็เหมือนกัน

วิ้งงงง!

ดาบแห่งความโกรธเกรี้ยว และดาบมารเทพส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างรุนแรง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด