ตอนที่แล้ว[KotB] บทที่ 69: คลาสที่สอง (5)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[KotB] บทที่ 71: การปลุกพลัง (1)

[KotB] บทที่ 70 : คลาสที่สอง (ตอนจบ)


บทที่ 70 : คลาสที่สอง (ตอนจบ)

<การประเมินเสร็จสิ้นแล้ว>

<สำหรับการสำเร็จภารกิจที่เหลือเชื่อ! ตามกฎของซาโลมอน คุณจะได้รับรางวัลพิเศษ>

<จ้าวแห่งความมืด 'คิงสเลเยอร์' เลือกคุณ >

<คุณยินดีที่จะยอมรับหรือไม่?>

มูยองขมวดคิ้ว

จ้าวแห่งความมืด ผู้พิทักษ์กฏทั้งหมด 11 คน

ก่อนหน้าเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของคนเหล่านี้ผ่านเมอร์ลินขณะที่อยู่อารามสีคราม

และเมื่อเดธลอร์ดเลือกมูยอง เขาก็สามารถรู้สึกได้ถึงตัวตนอันเยี่ยมยอด

กระทั่งมูยองสามารถได้รับคลาสระดับสูงอีกครั้ง

'คราวนี้ มันคือคิงสเลเยอร์ ... '

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รู้เป็นเพียงแค่ชื่อ เขาอยากจะตรวจสอบมันว่าเป็นระดับชั้นประเภทไหนหลังจากที่เขายอมรับมันแล้ว

แน่นอนว่า คิงสเลเยอร์ เป็นระดับชั้นลอร์ด

จากชื่อ เขาสันนิษฐานว่าจะต้องมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับราชา

'คราวนี้มันแตกต่างกัน'

มูยองหัวเราะเบาๆ

เดธลอร์ดเป็นระดับชั้นที่เขาถูกบังคับรับมาโดยที่ไม่มีโอกาสตัดสินใจใดๆ

แต่ตอนนี้พวกเขากำลังรอคำตอบของมูยอง

ตัวตนจ้าวแห่งความมืดเป็นยังไงกันแน่?

'ฉันยอมรับ'

มูยองตัดสินใจ

อะไรก็ตามตราบเท่าที่มันเป็นประโยชน์ มันย่อมส่งผลดี

มันเป็นความท้าทายที่ควรค่าแก่การลอง

หลังจากนั้น ข้อความก็ปรากฏขึ้นช้าๆด้านหน้า

<เพชฌฆาตของเหล่าราชา ผู้ซึ่งสังหารราชาทั้งปวง>

<คุณได้รับอาชีพระดับชั้นลอร์ด 'คิงสเลเยอร์'>

ในขณะเดียวกัน.

วิสัยทัศน์ของเขาพลิกกลับ และชายคนหนึ่งก็ปรากฎสะท้อนอยู่ในดวงตาของเขา

ยุคมาโดที่นักเวทย์มีอำนาจเหนือผู้ใดในขณะที่เหล่าอัศวินเริ่มสาบสูญ

ชายผู้ที่เป็นอัศวินที่แท้จริง

เขาบรรลุจุดสูงสุดในวิถีดาบด้วยการฝึกฝนจากประสบการณ์มากมายของตัวเอง

ขณะที่ทุกคนนำอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆเข้าร่วมในสนามรบ ชายคนนั้นเชื่อเพียงวิถีดาบของเขาและใช้มันบั่นคอเหล่าศัตรู

อัศวินแห่งราชอาณาจักรคนสุดท้ายของจักวรรดิ

แม้กระทั่งนักเวทย์ผู้ซึ่งใช้พลังเหนือธรรมชาติก็ไม่อาจเทียบชั้นกับเขาได้

เขาก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ และในที่สุดก็สามารถคว้าพลังอำนาจจุดสูงสุดเท่าที่มนุษย์จะสามารถครอบครอง

เมื่อตระหนักถึงความแข็งแกร่งที่เกินไปนั้นจักรพรรดิจึงบีบเขาให้เข้าไปสู่สนามรบที่อันตรายยิ่ง

-สงครามอัสบอร์น? การปราบมังกรทองคำอเลเซีย? แต่ทว่าเขากลับทำทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยตัวเอง

-เขาไม่ใช่มนุษย์  มนุษย์จะสามารถทำสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเองได้ยังไง?

ผู้คนต่างลำลือไปต่างๆนาๆเกี่ยวกับตัวเขา

อย่างไรก็ตามคำพูดเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในวงแค่คนหรือสองคนเท่านั้น

เหล่าผู้มีอำนาจเริ่มหวาดระแวงว่าชีวิตของตัวเองอาจตกอยู่ในอันตราย และพยายามผลักใสคนที่พวกเขาอิจฉาออก

ถึงอย่างนั้นชายผู้นี้ก็ยืนหยัดอย่างมั่นคง และทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ทว่าด้วยความหวาดระแวงและอิจฉาของผู้คนก็ส่งผลให้เกิดหายนะ

เขาไม่ได้สร้างความกระวนกระวายให้แก่เหล่าจักรพรรดิเท่านั้น

ราชาทั้งหลายในโลกล้วนแต่ต้องการให้เขาตาย

นักเวทย์ระดับสูง และนักรบมากฝีมือถูกรวบรวมเพื่อล้อมตัวเขา

-พระราชา! ทำไมท่านถึงทำแบบนี้?

- เจ้าเข้มแข็งเกินไป อันตรายเกินไป  ใช้เพียงความแข็งแกร่งของมนุษย์ผ่านสมรภูมิต่างๆมาได้ ด้วยความสุจริต ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะทำมันสำเร็จ

- ท่านจะบอกว่าไม่เชื่อในความภักดีของข้า?

- ถ้าเจ้าอยากจะแสดงความภักดีจริงๆ ก็จงฆ่าตัวตายที่นี่ซะ

ชายผู้นั้นโห่ร้องด้วยความเสียใจ

เขาต่อสู้มาอย่างยาวนาน แม้ว่ามันจะมีความเป็นไปได้น้อยขนาดไหน เขาก็สามารถนำชัยชนะกลับมาถึงบางครั้งจะได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ตาม

ทั้งหมดเป็นเพราะรับสั่งของจักรพรรดิ

ด้วยความไม่ชอบธรรมนี่เอง ความอาฆาตพยาบาทได้ถาโถมจิตของชายผู้นี้ให้ตกสู่ความมืดมิด

-ได้ ถ้าท่านต้องการให้ข้ากลายเป็นปีศาจ ข้าก็จะเป็นปีศาจ

นั้นเป็นตอนที่ชายคนนี้ปลดเปลื้องธรรมชาติความเป็นมนุษย์ของเขาออก

เขากลายเป็นปีศาจร้ายสังหารราชาทุกคนที่มีส่วนร่วมในการทรยศเขา

หลังจากนั้นเขาต้องการทำให้โลกนี้เป็นอิสระจากการถูกจองจำ แต่ทุกคนต่างเต็มไปด้วยความหลงผิดและหวาดระแวง

ผู้คนไม่สามารถไว้ใจซึ่งกันและกัน และกำลังเดินไปสู่ความหายนะ

ในที่สุด เมื่อโลกใกล้จะถึงจุดจบ ชายคนนั้นเดินทางไปยังที่รกร้างว่างเปล่าอย่างเดียวดาย

เขาเหนื่อยล้า

- ข้าล้มเหลว

จากนั้นเขาก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นและมองไปที่มูยอง

เขากล่าวชัดเจนในทิศทางที่มูยองจะต้องก้าวไป

- เจ้าสามารถรับมือกับความแข็งแกร่งนี้ได้หรือไม่? ผู้คนจะผลักไสไล่ส่งเจ้า ทุกคนจะต้องการให้เจ้าตาย  เจ้าจะสามารถฟันฝ่ามันไป?

ที่ประโยคสุดท้ายเขาพูดในขณะที่กำหมัดเอาไว้แน่น

- เจ้าจะไม่ล้มเหลวใช่ไหม?

อะไรบางอย่างอาจถูกกำหนดให้ล้มเหลวไว้แล้ว?

เหมือนชายผู้นั้นกำลังถามเขาว่าจะยอมรับการทดสอบนี้ทั้งหมดได้หรือไม่

มูยองตอบ

"ผมไม่ใช่คุณ"

อย่างไรก็ตาม คำพูดแค่นั้นเหมือนจะยังไม่พอ

"ผมจะไม่มีทางถูกสยบแน่นอน"

เขาสังหารวีรบุรุษมานับไม่ถ้วน

เขาเผาความหวัง ทำลายความฝันของผู้คน และได้รับการประณามมามากมาย

แต่กระนั้นมูยองก็ไม่เคยเหนื่อยล้า และพ่ายแพ้

เขาไม่เคยเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเอง

เพียงแค่ยิ้ม และเผชิญหน้า

คิงสเลเยอร์เป็นคนที่ซื่อตรง เขาเป็นชายที่มีจุดยืนตรงข้ามกับมูยองอย่างสิ้นเชิง

- ถ้างั้น รับมันไว้ ข้าจะออกจากสวนลับนี้แล้วไปกับเจ้า

คิงสเลเยอร์ยิ้มให้

จากนั้นยามสนธยาก็มาเยือนและปกคลุมโลกไว้ในความมืด

*

แสงสว่างสีจางกลืนร่างมูยองอย่างช้าๆ

ร่างกายของมูยองค่อยๆลอยขึ้นไปในอากาศ โดยที่แสงทั้งหมดถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของมูยอง

มูยองลืมตาขึ้น

"ขอทำความเคารพโอม"

"ทำความเคารพโอม!"

โดเกบิโค้งคำนับ

โอม คือผู้ปกครองที่แท้จริงของเหล่าโดเกบิ

เป็นเพราะเขามีคุณสมบัติพอ

ยังไงก็ตามโดเกบิทั้งหมดก็ตกอยู่ในความสับสนอยู่ในใจ

ไม่เคยมีประวัติว่านอกจากด๊อกซินี จะมีโดเกบิใดๆกลายเป็นโอม

หากไม่ใช้ด๊อกซินี เหรียญตราแห่งโอมจะปฏิเสธพวกมัน

แต่มันกลับยอมรับเขา

มูยองมองไปรอบ ๆ

ที่โดเกบิกว่า 20,000 คน กำลังโค้งคำนับอยู่

'หน้าต่างสถานะ'

เพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของเขา มูยองได้เปิดดูสถานะของตัวเอง

ผลของความสำเร็จ ->

โอม (A +, Str +10. ผู้ปกครองเหล่าโดเกบิ)

ความเจ็บปวดของเกรโมรี (A, ความสามารถทั้งหมด +3 )

ผู้รับใช้อาชูร่า (A, พลังในการจัดการกับวิญญาณและปีศาจ, ความสามารถทางวิญญาณเพิ่มขึ้นจาก '10')

ความสนิทสนม (B + นับจากนี้ไปถ้าคุณติดต่อกับอันเดธ สถิติของมันจะเพิ่มขึ้นอย่างถาวรเล็กน้อย)

ผู้สืบทอดแห่งเมอร์รอค (B + อัตราการเติบโตของเมอร์รอคเพิ่มขึ้น)

พรของนางฟ้า (B, ช่วยให้นางฟ้ารู้สึกคุ้นเคยกับผู้ใช้)

ผลกระทบจากคลาส ->

เดธลอร์ด (คลาสลอร์ด, ผู้ปกครองแห่งความตาย)

คิงสเลเยอร์ (คลาสลอร์ด, เพชฌฆาตเหล่าราชา)

สถานะ ->

Str. 140 (104 + 36)             Agi. 137 (100 + 37)

Stamina.124 (96 + 28)       Int.81 (59 + 22)

Wis. 77 (55 + 22)               ออร่าการต่อสู้ 81 (59 + 22)

ต้านทานเวทย์ 65 (47 + 18)  ความสามารถทางจิตวิญญาณ 61 (33 + 28)

หมายเหตุ: จิตวิญาณการต่อสู้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นแล้ว. เสร็จสิ้นการเปลี่ยนแปลงขั้นที่ 1

อุปกรณ์ที่สวมใส่ และอุปกรณ์เรียกใช้:

- ดาบแห่งความโกรธเกรี้ยว (Str +14, ความเหี้ยมโหดของโอเกอร์),

- ชุดเซ็ทกษัตริย์คลั่ง (All Stats +15, Sta +10) - เกราะเงา (ช่วยให้คุณสามารถหายตัวผ่านไปยังเงาภายในวิสัยทัศน์ของคุณได้ 3 ครั้งต่อวัน),

- เข็มขัดแห่งความชั่ว (Int และ Wis +4, อันเดธทั้งหมดมีความแข็งแกร่งขึ้น 5%)

- รองเท้าบูทของเฮอมีส (Agi +15, สามารถเร่งความเร็วได้ 3 วินาที)

เขากลายเป็นโอมคนต่อไป และมีคลาสใหม่ถูกเพิ่มเข้ามา

นอกจากนั้นสถานะของเขาได้เพิ่มขึ้นมาก

"การเปลี่ยนแปลงระดับขั้น"

มูยองไม่แน่ใจว่าเขาจะได้รับการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหรือไม่ และคงจะรู้ได้เองเมื่อเวลานั้นมาถึง

อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาได้รับอาชีพเพิ่มแล้ว ทักษะของมันควรติดมาด้วย

มูยองตรวจสอบทักษะใหม่ของเขา

ชื่อสกิล: เพชฌฆาตราชา (None)

คำอธิบาย - ผู้มีอำนาจในการสังหารราชาใดๆ คุณจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อทำตามเงื่อนไขของอำนาจที่ได้รับ ทุกครั้งที่คุณฆ่าคนที่ได้ยอมรับว่าเป็น 'ราชา' คุณจะได้รับค่าสเตตัสที่เหมาะสม คุณจะไม่ถูกข้าทาสบริวารครอบงำ

ชื่อสกิล: ปรมาจารย์ดาบ (F)

คำอธิบาย - ผู้ที่เดินตามวิถีของดาบ พลังรูปแบบเฉพาะที่มอบให้กับคิงสเยอร์ผู้ซึ่งสามารถก้าวผ่านทุกสิ่ง ด้วยการเพิ่มความชำนาญในการใช้ดาบ

*ความเข้าใจในดาบเพิ่มขึ้นอย่างมาก

*คุณสามารถค้นหาความลับที่ซ่อนอยู่ของดาบได้

*สามารถดึงพลังงานที่บริสุทธิ์ของดาบ

ทักษะติดตัว 2 แบบ

เป็นทักษะอัตโนมัติ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดใช้งานใดๆ

มูยองพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

'ฉันจะต้องไม่ทำพลาดอีก'

และเขาก็ได้ตัดสินใจอีกครั้ง

คิงสเลเยอร์

เขาจะเดินไปตามเส้นทางที่แตกต่างไปจากชายผู้นั้นอย่างสิ้นเชิง!

"ขอแสดงความยินดีด้วยที่เคลียร์คลื่นที่ 32 ได้ วูฮีฮี”

ปรุ ปรุ…. ตูม….ตูม

แสงสีฟ้าพุ่งออกไปจากดอกไม้ไฟ และข้างๆเขา ภูติตัวน้อยก็ปรากฏตัวขึ้น

เป็นภูติที่เขาเคยพบมาก่อน

นั่นคือวูฮี ที่เคยเจอในสมรภูมิไร้จุดจบ

"ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่?"

"เอ๋ ~ นายพูดแบบนี้เพราะกำลังเขิลอยู่ใช่ไหมล่ะ? ฉันรู้แต่ไม่จำเป็นต้องอายไปหรอกน่า"

"ฉันไม่เข้าใจว่าเธอพูดเรื่องอะไร"

"เอ๋? ฉันสัญญาว่านายจะได้ตัววูฮี หากสามารถเคลียร์คลื่นมากกว่า 30 ลูกในสมรภูมิไร้จุดจบ"

"ฉันไม่เคยสัญญาแบบนั้น"

เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาไม่ได้ตกลงทำสัญญาด้วย

ในขณะที่มูยองพูดอย่างเย็นชา วูฮีทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

"ฮือ ฮือ นี่สินะที่เค้าพูดกันว่าถูกเขี่ยทิ้งเมื่อหมดประโยชน์ วูฮีถูกทิ้งแล้ว "

"หยุดพูดเรื่องเหลวไหลสักที"

"หรือนายจะยอมรับวูฮีแล้ว?"

มูยองขมวดคิ้ว

ในทางตรงกันข้าม โดเกบิที่กำลังเฝ้าดูพวกเขาเบิกตากว้าง

"คำทำนายเป็นความจริงงั้นเหรอ?"

ความวุ่นวายเล็กๆ เริ่มขึ้น

การทดสอบของฮูม คำพยากรณ์เกี่ยวกับเหรียญตราแห่งโอม

นักบวชชั้นสูงผู้ล่วงรู้ความลับของจักรวาลได้กล่าวว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นในหุบเขาวิญญาณแห่งนี้

และภายในคำทำนายบางส่วนระบุว่า "จะมีผู้หนึ่งซึ่งมีภูติติดตาม คนผู้นั้นจะพาเราไปสู่ดินแดนสุขาวดี '

อย่างไรก็ตามมันยากมากที่จะได้เจอพวกภูติ และยังไม่เคยได้ยินเรื่องที่ว่าเหล่าภูติจะติดตามผู้ใด

"เงียบหน่อย"

ทันทีที่ได้ยินคำพูดของมูยอง พวกเขาก็เงียบไป

มูยองเริ่มมีอิทธิพลต่อพวกเขา และไม่นานนักเซฮุนก็เป็นคนแรกที่แสดงท่าที

"ท่านโอมโปรดพาพวกเราไปสู่แดนสุขาวดี"

"แดนสุขาวดี?"

มีเรื่องไร้สาระอะไรแบบนี้ด้วยหรือ?

อย่างไรก็ตาม เซฮุนดูจริงจัง

ผู้ปกครองของโดเกบิน้ำแข็ง พูดกับเขาอย่างสุภาพ

"พวกเขากล่าวว่าถ้าโอมที่แท้จริงปรากฏตัว เขาจะนำพาโดเกบิไปสู่แดนสุขาวดีได้ เราเหล่าโดเกบิทั้งหมดต่างแบ่งแยกออกเป็นหลายเผ่า และในดินแดนที่ยิ่งใหญ่นี้ เราแทบจะไม่สามารถที่จะมีอายุยืนยาวได้ ได้โปรดนำทางพวกเราด้วย "

โดเกบิไม่ใช่มอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง

ถึงตอนนี้ มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะมีชีวิตอยู่ในดินแดนเทพปีศาจแห่งนี้ได้ตลอดไป

มูยองสูดลมหายใจเข้าลึก

"ถ้าเจ้าต้องการจะติดตามข้า ก็ตามใจ"

มูยองกล่าวกับโดเกบิทั้ง 20,000 คน

"อย่างไรก็ตามข้าจะไม่รับประกันว่าสถานที่ที่ข้าจะไปนั้นเป็นแดนสุขาวดี ที่นั่นไม่มีอะไรทั้งนั้น และทุกสิ่งทุกอย่างก็เกิดขึ้นมาจากพื้นดิน "

ที่นั่น มีคนน้อยกว่า 100 คน

มูยองกำลังวางแผนที่จะพาโดเกบิ ไปยังอาณาเขตของเขา

เขาไม่แน่ใจว่ามนุษย์และโดเกบิสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุขหรือไม่ แต่ผู้ที่มีอิทธิพลต่อจิตใจของพวกเขาต่างก็เป็นมูยอง ดังนั้นมันจึงไม่น่าจะกลายเป็นการต่อสู้

มูยองมองไปที่วูฮีและพูดอีกครั้ง

"ส่วนเธอตัดสินใจ...."

"ฉันจะไป! ฉันจะไป!"

วูฮี ชูมือขึ้นไปในอากาศ

เธอพูดทันทีโดยที่แทบไม่ได้คิด

มันถูกต้องแล้วที่ถามถึงการตัดสินใจของพวกเขา เพราะหากใช้กำลังก็รังแต่จะมีผู้ต่อต้าน

มูยองเริ่มออกเดินทาง....โดยที่มีโดเกบิจำนวน 20,000 คน ติดตามเขาอยู่เบื้องหลัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด