ตอนที่แล้ว[KotB] บทที่ 68: คลาสที่สอง (4)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[KotB] บทที่ 70 : คลาสที่สอง (ตอนจบ)

[KotB] บทที่ 69: คลาสที่สอง (5)


บทที่ 69: คลาสที่สอง (5)

อาชานรกที่หายตัวไปนานจู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมาราวกับสายลม

นั่นเป็นเพราะมูยองหมดทางเลือกอื่นนอกแล้ว สำหรับการวางแผนที่จะจับเฮดลี่คาวด้วยตัวเอง

อาชานรกรู้สึกสุขใจเล็กน้อย เนื่องจากนี่เป็นโอกาสทองที่จะทำให้มูยองใช้พรหนึ่งในสามข้อเสียที

มูยองไม่อาจเสียเวลาคิดมากอีกต่อไป

"ฆ่ามันซะ"

มีความแตกต่างกันมากระหว่าง "จับมัน" และ "ฆ่ามัน"!

อาชานรกกู่ร้องเสียงดังก้อง

ฮี้ๆๆ.....!

มันพ่นลมหายใจออกมาอย่างรุนแรง ราวกับพยายามจะบอกว่าสามารถไว้ใจมันได้

มูยองดึงดาบแห่งความโกรธเกรี้ยวที่ฝังในตัวของเฮดลี่คาวออก ก่อนจะค่อยๆกระโดดลงมา

ภูติผีนับพันตนปรากฏตัวขึ้นสร้างเมฆหมอกเพื่อชะะลอความเร็วในการร่วงหล่นของเขา

มูยองเงยหน้าขึ้นมองไปบนฟ้า หลังจากที่ลงสู่พื้นอย่างปลอดภัย

'มันจะต้องสำเร็จ'

หากล้มเหลว เขาจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแผนการใหม่ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม อาชานรกยังมีท่าทีสงบราวกับกำลังเดินเล่นอยู่บนทุ่งหญ้า

มันค่อยๆเข้าใกล้เฮดลี่คาวด้วยท่าทีหยอกล้อโดยการวิ่งไปรอบๆเป็นวงกลม ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางไปตามทางที่เฮดลี่คาวบินต่อไป

เปรี้ยง!

สายฟ้าสีดำผ่าลงกลางเขาของอาชานรก

เขาของมันเริ่มส่องสว่าง และบาร์เรียสีดำก็ถูกสร้างขึ้นล้อมพื้นที่รอบๆ

เฮดลี่คาวถูกขังอยู่ภายในบาร์เรียนั้น แม้แต่ร่างฟีนิกซ์ก็ไม่สามารถขยับได้อย่างง่ายดาย

แรงดึงดูดทวีความรุนแรงขึ้นจนความเร็วของมันลดลงอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะร่วงลงสู่พื้น

ฮี้.... ~!

เวทมนตร์จำนวนมหาศาลเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างหนาแน่นบนเขาของอาชานรก

เมื่อวงเวทย์สีดำถูกสร้างอย่างสมบรูณ์ มันแพร่กระจายสายฟ้าโจมตีออกไปอย่างต่อเนื่อง

เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยงงงงงง!

ด้วยความรุนแรงของมันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญแขวน

ขณะที่อาชานรกเหวี่ยงเขาอีกครั้ง วงเวทย์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 1 เมตร พุ่งตรงไปที่เฮดลี่คาวอย่างรวดเร็ว

ตูมมมมมมมมมม!

ระเบิดรุนแรงดังสนั่นหวั่นไหวในอากาศ และในขณะเดียวกัน 'ความมืด' ก็ได้กลืนกินเฮดลี่คาว

ขณะที่วงเวทย์สัมผัสถูกตัวเฮดลี่คาว พื้นที่รอบๆตัวของมันก็ถูกความมืดทำลายกว้างกว่าร้อยเมตร

มูยองยกมือขึ้นเพื่อป้องกันโดยอัตโนมัติ ลมที่เกิดจากแรงระเบิดพัดกวาดต้นไม้โดยรอบหายไปจนสิ้น

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้หยุดมองไปยังทิศทางของฟีนิกซ์

ภาพที่เห็นเป็นเฮดลี่คาวกำลังร่วงลงสู่พื้นอย่างช้าๆ

ไม่น่าเชื่อว่าฟีนิกซ์จะมีความอึดมากมายได้ถึงขนาดนี้ มันสามารถป้องกันร่างกายของตัวเองหลังจากโดนระเบิดอย่างรุนแรง

อย่างไรก็ตาม เปลวไฟรอบตัวของมันอ่อนแอลง เนื่องจากมันใช้กำลังมากเกินไปเพื่อป้องกันตัวเอง

ฮี้ ?

ดูเหมือนอาชานรกก็แปลกใจเช่นกัน

มันไม่คิดว่าฟีนิกซ์จะมีชีวิตรอดอยู่ได้

อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้เข้าโจมตีซ้ำ

อาชานรกจ้องไปที่มูยอง

<อาชานรกเสนอให้คุณฆ่าเฮดลี่คาวด้วยตัวเอง แม้ว่ามันจะสามารถทำได้เองก็ตาม>

<และหากคุณเปลี่ยนใจไม่รับข้อเสนอในการใช้ความช่วยเหลือ สาบานด้วยเจตจำนงค์อันแรงกล้ามันจะย่างสดคุณให้มอดไหม้เหมือนกับเฮดลี่คาว>

'แกบอกว่านี่เป็นข้อเสนองั้นเหรอ?'

มูยองเค่นหัวเราะ

ข้าจะปล่อยให้เจ้าปลิดชีพมัน ในทางกลับกันเจ้าจะไม่สามารถเปลี่ยนใจได้

นัยน์ตาของอาชานรกดูเหมือนจะแสดงออกถึงถ้อยคำเหล่านี้

และสำหรับมูยองมันเป็นข้อดีสำหรับเขาที่จะปลิดชีพฟินิกซ์

แต่เดิมเขาบอกอาชานรกฆ่ามัน แต่หากคิดถึงผลงานและรางวัล การลงมือด้วยตนเองจะได้รับประโยชน์มากกว่า

มูยองขยับตัวขณะที่กระชับมือจับดาบแห่งความโกรธเกรี้ยวไว้

เขาเดินไปยังทิศทางที่ฟีนิกซ์ร่วงลง และหยุดมองภาพตรงหน้า

นกขนาดมหึมา หายใจรวยรินในขณะที่มันกำลังนอนกองอยู่บนพื้น

กีซซซซซซ

มันส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสารมองมาที่เขาเพื่อขอความเห็นใจ ทว่าการแสดงออกของมูยองไม่ได้ดูเหมือนคนที่เห็นใจเลยสักนิด

วูซ

เขายกดาบแห่งความโกรธเกรี้ยวขึ้น และพุ่งเป้าตรงไปที่คอของนกฟีนิกซ์

"มันจบแล้ว"

ฉัวะ !

หัวขนาดประมาณท่อนแขนถูกตัดออก

จากนั้นเปลวไฟที่ปกคลุมร่างกายของมันก็มอดดับลง

เขาไม่รู้สึกถึงสัญญาณชีพจรใดๆอีก

มูยองหั่นร่างของมัน และเอาหัวใจที่เต็มไปด้วยเปลวไฟออกมา

'หัวใจฟีนิกซ์'

มูยองเปิดใช้งานทักษะ "เนตรนภา" เพื่อดูเกี่ยวกับรายละเอียดของมัน

หัวใจของนกฟีนิกซ์: หัวใจที่ทำให้ฟีนิกซ์เป็นมอนสเตอร์ที่ได้รับการยอมรับในฐานะมิราจ (mirage) พลังที่ไร้ที่สิ้นสุด ว่ากันว่าหัวใจของมันปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ และไม่อนุญาตุให้สิ่งแปลกปลอมใดๆเข้ามาได้ พูดได้ว่ามันเป็นสิ่งที่หายากมากๆ คุณภาพวัสดุจัดอยู่ในระดับสูงสุด อุปกรณ์ใดๆที่สร้างขึ้นมาจากมัน จะมีระดับไม่ต่ำกว่า 'มาสเตอร์'

* หากคุณกินมันเข้าไป ค่าสติปัญญา(Int) และภูมิปัญญา(Wis) จะเพิ่มขึ้นอย่างสูง และค่าความต้านทานต่อเปลวไฟจะเพิ่มขึ้นอย่างสูงเช่นกัน

ถ้ามีคำว่า 'อย่างสูง' ปกติจะหมายความว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 10 ~ 20 หน่วย

ถึงมันจะดูน่ากินแต่มูยองกลับส่ายหน้า

เขาตั้งใจแต่แรกแล้วว่าจะสร้างอุปกรณ์จากหัวใจฟีนิกซ์

มูยองเก็บหัวใจไว้ในกระเป๋ามิติ

ร่างกายของฟีนิกซ์ที่สูญเสียหัวใจไม่มีประโยชน์อะไรอีกต่อไป

เป็นเพราะพลังงานของมันทั้งหมดมาจากหัวใจดวงนี้

หลังจากฟีนิกซ์สูญเสียหัวใจร่างของมันก็หดเล็กลงจนเหี่ยวแห้ง

ฮี้ !

อาชานรกโน้มตัวลงมาข้างๆเขา

ทำท่าทางสง่างาม มันเดินวนไปรอบๆซากฟินิกซ์

มูยองเดาะลิ้นของเขา ขณะที่เห็น

'มันต้องการคำชมจากฉัน'

เขามองเห็นความตั้งใจของมันได้ชัดเจน

เขาไม่คาดคิดว่าอาชานรกจะมีการแสดงออกแบบนี้

พลังที่สามารถข่มสะกดฟีนิกซ์

สำหรับม้าตัวโปรดของจ้าวแห่งความมืด มันมีค่าต่อการโอ้อวดอย่างแท้จริง

"ขอบใจจริงๆ แกน่าทึ่งมาก "

อาชานรกเชิดหัวขึ้นสูง

สามารถพูดได้ว่ามันเป็นม้าที่คาดเดาได้ยากมาก

เมื่อแผนสิ้นสุดลง แต่ทุกอย่างยังไม่เสร็จสมบูรณ์

'การทดสอบของฮูม เหรียญตราแห่งโอม '

เขานำเหรียญที่สร้างขึ้นจากหินอ่อนออกจากปากของฟีนิกซ์

เพียงครึ่งเดียว ...

การพิจารณาฮูมแบ่งออกเป็นสอง (ดาวตกฮูมมี 2ลูก)

โดเกบิที่พิชิตการทดสอบได้ในอีกพื้นที่ กำลังครอบครองอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือ

ซึ่งเขาสามารถรับรู้ในทันทีได้ว่า การทดสอบนั้นได้จบลงแล้วตั้งแต่ตอนที่เขายังลอยอยู่กลางอากาศ

มูยองหายใจเข้าลึกๆ ก่อนเดินกลับไป

อาชานรกวิ่งเหยาะๆอยู่ข้างเขาตลอดทาง

ราวกับว่ามันยังทำให้เขาประหลาดใจไม่พอกับความยอดเยี่ยมของมัน

โดเกิบิถูกทำให้ตื่นเต้น

จากการทดสอบของฮูมที่มีถึง 2 แห่ง

ท่ามกลางโดเกบิจำนวน 30,000 คนที่เข้าสู่สมรภูมิไร้จุดจุด เหลือจำนวนเพียงไม่ถึง 300 ที่รอดชีวิตออกมาได้

ตรงกันข้ามกับการทดสอบอีกด้าน มีโดเกบิกว่า 20,000 คนที่เดินออกมา

"อีกครึ่งหนึ่งของตราอยู่ที่ไหน"

เซฮุนขมวดคิ้ว

เขาพึ่งสังหารโดเกบิเพลิงอาร์โลได้สำเร็จ แต่ตอนนี้โดเกบิทองคำกลับเป็นตัวปัญหาใหม่

โดเกบิทองคำปลดปล่อยแรงกดดันออกมาเพื่อแสดงพลังของพวกเขา และดูเหมือนว่าพวกมันจะเป็นผู้ชนะในการทดสอบสุดท้ายอีกด้วย

'ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต่อสู้ ฉะนั้นอยู่เฉยๆและเชื่อมือข้า'

ถือว่าเป็นการพูดเป็นนัยๆ ชัดเจนว่าใครเป็นผู้เหนือนกว่า

แต่...เซฮุนไม่ได้เป้นผู้ครอบครองเหรียญตรานั้น

"มันอยู่นั่น"

เซฮุนยกมือขึ้นและชี้ไปบนท้องฟ้า

กี๊ซซซซซซซซซ!

ฟีนิกซ์กรีดร้องอย่างโหยหวน

เปรี้ยง! เปรี้ยงงงงงงง!

เสียงสายฟ้าฟาดดังสนั่นหวั่นไหวไปรอบโดยมีอาชานรกเป็นจุดศูนย์กลาง

ฉากสะกดใจที่เห็นราวกับเป็นภาพของการสร้างโลก เปลวไฟที่เกิดจากสายฟ้าปกคลุมไปทั่ว แม้แต่ไฟทาร์ก็ไม่สามารถสร้างเปลวไฟได้มากขนาดนี้

หรือว่านี่เป็นการต่อสู้ของพวกมังกร ใช่มีเพียงการต่อสู้ของเหล่ามังกรเท่านั้นที่ส่งผลกระทบได้ขนาดนี้

อย่างไรก็ตาม แม้แต่ในอันเดอร์เวิล์ดอันยิ่งใหญ่เผ่าพันธุ์มังกรนับว่ามีจำนวนน้อยมาก

"มีฟีนิกซ์อยู่ในการทดสอบของเราได้ยังไง?"

"ข้าไม่แน่ใจ ตอนแรกมันไม่ได้เป็นฟีนิกซ์หรอก แต่จู่ๆมันก็เปลี่ยนไปเป็นแบบนั้น "

"คำพูดล้อเล่นแบบนี้คืออะไร?"

"ทุกอย่างล้วนเป็นความจริง"

เซฮุนผิดหวัง

เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในขณะนี้

สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือการที่ฟีนิกซ์ฉกชิงเหรียญตรา และมูยองก็ไล่ตามมันไป

'มูยอง'

เขาเป็นโดเกบิน้ำแข็งจริงๆ หรือ?

ตูมมมมมม!

จากนั้นก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นในอากาศ

พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

"นี่มันพลังอะไรกัน"

"เราไม่ควรตามฟีนิกซ์ไปตอนนี้หรือ?"

"ฟีนิกซ์และมอนสเตอร์ตัวนั้นแข็งแกร่งพอๆกับมังกร เป็นไปได้เหรอที่เราจะขัดขวางมันทั้งสองเพื่อนำเหรียญตราคืนมา? "

เหล่าโดเกบิตกอยู่ในความสับสน

มันเป็นเรื่องไม่คาดฝันสำหรับการที่จะมีใครบางคนโผล่พรวดพราดเข้ามาในการทดสอบของมันได้

หลังจากเวลาล่วงเลยไปสักพัก ใครบางคนกำลังเดินมาจากที่ไกลๆ

เขาเดินผ่านเซฮุนทันที และหันไปพูดกับกลุ่มอื่นๆที่เหลือ

"อีกครึ่งหนึ่งของเหรียญตราอยู่ที่ไหน?"

เซฮุนรู้สึกแย่คูณสองเมื่อได้ยินมัน

เป็นคำพูดเดียวกันกับตอนผู้ปกครองโดเกบิทองคำถามเขา

เขามีหินอ่อนอีกครึ่งหนึ่งอยู่ในมือ

"เหรียญตราแห่งโอม!"

"เจ้ามีมัน"

มูยองพูดอย่างห้วนๆในขณะที่มองไปยังผู้ปกครองของโดเกบิทองคำ

มันคือการกระทำของผู้ที่หยิ่งยะโส

อย่างไรก็ตามไม่มีใครสามารถตอบสนองเขาได้

กั่บ กั่บ กั่บ กั่บ

เสียงฝีเท้าที่ดังกว่าคนปกติ

และเจ้าของเสียงฝีเท้าที่ยืนเคียงข้างมูยอง เป็นมอนสเตอร์ที่ทุกคนรู้จักดี

อาชานรก!

ทุกคนต่างตกใจเมื่อเห็นมันยืนอยู่ข้างๆมูยอง

'ไม่มีทาง ไม่มีใครที่จะสามารถควบคุมมันได้?'

มีเสียงเตือนดังขึ้นภายในหัวของเซฮุน

อาชานรกที่แข็งแกร่งพอๆกับมังกร

มังกรส่วนใหญ่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ และมีความทรนงในตนเอง และปกติพวกมันชอบอยู่อาศัยตามลำพังเท่านั้น

ถึงไม่มีทางที่ราชาปีศาจหรือเทพปีศาจจะดูอ่อนโยน

แต่เขาสามารถทำให้มอนสเตอร์ที่ใกล้เคียงกับมังกรเชื่องได้?

เซฮุนไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกประหลาดใจ

"ส่งมันมาให้ข้า"

"......."

มูยองค่อยๆ แบมือออก

เขาต้องการเหรียญตรานี้แม้ว่าจะต้องขอความช่วยเหลือจากอาชานรกอีกครั้งก็ตาม

ผู้ปกครองโดเกบิทองคำยืนตัวแข็งทื่อ ก่อนจะค่อยๆส่งหินอ่อนให้ด้วยความตระหนักดีถึงสถานการณ์

ถ้าเขาไม่ได้เห็นอาชานรกวิ่งไปรอบๆ พวกเขาอาจต่อสู้ได้อย่างกล้าหาญ แต่ทุกคนต่างหวาดกลัวกับการปรากฏตัวของมัน

พวกเขาไม่ได้เรียกมันว่ามอนสเตอร์ระดับสูงสุดอย่างเรื่อยเปื่อย

ในอันเดอร์เวิร์ล ผู้แข็งแกร่งย่อมชนะเสมอ ถึงจะมีมอนสเตอร์ระดับสูงสุดเพียงไม่กี่ตัว แต่พวกมันก็มีพลังขนาดที่สามารถทำลายโลกทั้งใบให้แตกเป็นเสี่ยงๆได้

ช่องว่างระหว่างระดับสูงกับระดับท๊อปมันเกินกว่าจะจินตนาการได้

ถ้าเขาต้องการที่จะปกป้องโดเกบิทั้ง 20,000 คนที่เหลือก็ไม่มีทางเลือกอื่น

มูยองประกบหินอ่อนทั้งคู่เข้าด้วยกัน

วิ้งงงงง!

หินอ่อนเริ่มเปล่งแสง

แสงที่ส่องออกมาค่อยๆซึมซับเข้าสู่ตัวเขา

<คุณได้บรรลุเงื่อนไขในการเป็นผู้ปกครองที่แท้จริงของเหล่าโดเกบิ>

<คุณได้เสร็จสิ้นการทดสอบต่อเนื่องกันทั้ง 3 เงื่อนไขแล้ว>

<สมรภูมิไร้จุดจบ, การจุติของโอม ;และการกำจัดนกฟีนิกซ์ >

<จ้าวแห่งความมืดกำลังเริ่มประเมินผล >

อีกฟากหนึ่งของท้องฟ้า

- สุดยอดจริงๆ เขาเยี่ยมเกินกว่าที่เราคาดไว้

- ถึงเขาจะใช้อาชานรก แต่ ยังไงมันก็คือพลังของเขาแหละนะ

- เราจำเป็นต้องเลือกรางวัลที่เหมาะสมกับการพิชิตเป้าหมายเหล่านี้

- อืมม เห็นจะมีแค่เขาเท่านั้น เขาเหมาะที่จะสร้างสวนแห่งความลับของเรา

- สวนแห่งความลับงั้นเหรอ ไม่ ฉันยังไม่ไว้ใจเขา มีคนอีกเยอะที่มีความสามารถเหมือนไม่ต่างจากนี้

- งั้นเราควรจะให้อะไรกับเขาดีล่ะ?

- ใครมีความเห็นอะไรบ้างไหม?

- ฉันคิดว่าเขามีคุณสมบัติที่จะรับช่วงต่อจากฉันนะ

- คิงสเลเยอร์งั้นเหรอ? คุณไม่เคยแสดงความเห็นมาก่อนเลยนี่นา?

- ยังไงก็เถอะเขามีคลาสอื่นอยู่แล้วนะ?

- ยังมีที่ว่างอีกหลายแห่งในดวงวิญญาณของเขา อาจจะมากกว่าสองหรือสาม

- ถ้าคุณกำลังวางแผนที่จะยกระดับเขา คุณต้องคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการครอบครองในสองอาชีพ ในขณะที่เดธลอร์ดกำลังขาดแคลนและคิงสเลเยอร์นั้นระดับความยากของมันสูงเกินไป นอกจากนี้หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกลนักหากเราต้องการที่จะยืนหยัดบรรลุชัยชนะเป็นคนสุดท้าย

- ในอีกแง่หนึ่ง มันชัดเจนว่าผู้คนจะเป็นยังไงหากได้รับพลังอำนาจมาอย่างง่ายดาย เราต้องการใครสักคนที่จะก้าวไปข้างหน้าเป็นระยะเวลานานโดยไม่คิดหยุดพัก

และฉันเชื่อว่าทุกคนก็คิดแบบเดียวกันในส่วนนี้

ถ้าเขาเดินไปตามเส้นทางที่แสนลำบากยากเข็ญ เขาก็จะได้รับความแข็งแกร่งและประสบการณ์มากมาย

หากเทียบกับผลไม้ เมื่อเขาเก็บเกี่ยวมันในตอนท้ายของเส้นทาง เขาจะได้รับผลลัพธ์ที่สุกงอมเต็มที่

หลังจากนั้นจ้าวแห่งความมืดทั้หมดก็เสร็จสิ้นการประเมินผล

มีผู้อนุมัติ 8 ราย และผู้ปฎิเสธ 3 ราย

ขณะที่พวกเขาตัดสินใจเสร็จ บริเวณโดยรอบก็มืดมิดลง

ตอนนี้ ที่เหลือขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด