ตอนที่แล้ว[KotB] บทที่ 65: คลาสที่สอง (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[KotB] บทที่ 67: คลาสที่สอง (3)

[KotB] บทที่ 66 : คลาสที่สอง (2)


บทที่ 66 : คลาสที่สอง (2)

เซฮุนถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง แต่เหตุการณ์ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ

ออร์คลอร์ดยังคงกวัดแกว่งดาบอย่างไม่หยุดยั้ง ยิ่งเขาเสียเวลามากเท่าไหร่ก็ยิ่งเกิดความสูญเสียมากขึ้น

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาต้องตัดสินใจ

ถ้าเขาเชื่อคำพูดของโดเกบิตรงหน้าและเปลี่ยนวิธีการต่อสู้

ความเชื่อมั่นและศักดิ์ศรีของเขาจะถูกทำลาย อาร์โลผู้ปกครองโดเกบิเพลิงก็คงคิดเห็นไม่ต่างกัน และในการจะทำเช่นนี้พวกเขาจำเป็นต้องมีความเชื่อใจกันจริงๆ

อย่างไรก็ตาม ด้วยสัญชาตญาณ เขาไม่สามารถละเลยคำพูดของโดเกบิตนนั้นได้

มีโดเกบิหลายตนที่มีความสามารถพิเศษ

ด๊อกซินีที่ได้รับการพัฒนามาจากโดเกบิ สามารถมองเห็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตได้

พวกเขาสามารถแยกความแตกต่างระหว่างความจริงกับภาพลวงตาได้ในระดับหนึ่ง

'ข้าไม่เห็นหรือรู้สึกอะไรเลย เขาเป็นโดเกบิจริงหรือ? '

อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยมีประสบการณ์กับคนแบบนี้มาก่อน

ธรรมชาติของผู้ชายคนนี้ คือความว่างเปล่า

เขาเป็นเหมือนฝุ่นละอองที่ถูกพัดเข้ามา และปลิวหายไปเหมือนสายลม

อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวของเขาไม่สามารถเทียบกับฝุ่นละอองได้

คำพูดทั้งหมดที่เขาพูด ดูเหมือนจะเป็นความจริง

"เจ้าชื่ออะไร"

“มูยอง”

ตามที่คาดไว้ มันเป็นชื่อของราชาโดเกบิที่เขาไม่เคยได้ยิน

เซฮุน เริ่มขยับอีกครั้ง

เขาหายใจเข้าอย่างแรงในขณะที่ร่างกายเหนื่อยหอบ

ถ้าสิ่งที่โดเกบิคนนั้นบอกเป็นจริง เขาจะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ในขณะที่ถ้ามันไม่เป็นเช่นนั้น เขาจะต้องทนทุกข์ทรมานจากการโดนประณาม

"ชื่อนั้น ข้าจะจำไว้"

"เจ้าไม่จำเป็นต้องจำมันหรอก"

"....?"

เซฮุนตกใจไม่น้อย

สำหรับเขาที่จะจำชื่อของโดเกบิน้ำแข็งสักคน ถือเป็นเกียรติอย่างสูงต่อคนนั้น

เขาเป็นผู้ปกครองของโดเกบิน้ำแข็ง และนี่เป็นสงครามที่กำลังแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่ง 'โอม'

อย่างไรก็ตาม มูยองพูดอย่างไม่แยแสเหมือนกับว่าไม่สนใจเรื่องดังกล่าว

"จากนี้ไปข้าจะบอกให้เจ้าทราบผ่านกาออน"

เขาหันหลังกลับทันทีโดยไม่ลังเลใดๆ

'เขาเป็นโดเกบิประเภทไหนกันนะ ... '

ช่างเป็นคนที่หยาบคายนัก

เท่าที่จำได้เขาไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้ แม้กระทั่งจากโดเกบิเพลิงที่เป็นปรปักษ์ต่อกัน

ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่คาดคิดเลยว่าจะได้รับความรู้สึกแบบนี้จากโดเกบิฝ่ายเดียวกัน

เซฮุนส่ายหน้าก่อนจะกลับมาอยู่ในความสงบอีกครั้ง

เวลามีไม่มาก

วูมมมมมม.

หอกยาวสร้างขึ้นจากน้ำแข็งปรากฎอยูในมือขวาของเซฮุน

'จากการร่วมมือกัน '

ตูมมมม!

เซฮุนกระทืบเท้าไปบนพื้น และโจมตีด้านข้างของลอร์ดออร์คอย่างรวดเร็ว

จากระยะไกล มูยองมองไป เห็นหัวของออร์คลอร์ดลอยละลิ่วไป

ผู้ปกครองโดเกบิน้ำแข็ง เซฮุน

โชคดีที่คนที่ปลิดชีพมันคือเขา อย่างน้อยก็ช่วยกู้หน้าเขาได้บ้าง

“เซฮุน! เซฮุน! เซฮุน!

“อาาอุม! อาาอุม! อาาอุม! อาาอุม!”

โดเกบิน้ำแข็งเริ่มส่งเสียงเชียร์

กระบวนการไม่สำคัญ ผลลัพธ์ที่ได้คือทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้

ออร์คลอร์ดถูกสังหารโดยเซฮุน สามารถพูดได้ว่าผลงานส่วนใหญ่เป็นของเขา

'ไม่ใช่เวลานี้หรอกหรือ ที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นแนวหน้า'

จากเบื้องหลัง มูยองกำลังสังเกตเห็นพวกมัน

ขณะที่พวกเขาผ่านคลื่นที่ 20 ไปได้ ก็ไม่น่าจะมีอุปสรรคสำคัญใดๆสำหรับคลื่นอย่างน้อยสักสองสามคลื่นถัดไป

และมูยองยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ

เมื่อเขาตัดสินใจที่จะเข้าร่วมแนวหน้าแล้ว เขาจำเป็นต้องทิ้งเหมืองทองคำนี้

ยิ่งไปกว่านั้นมีโอกาสที่มูยองจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยจากเฮดลี่คาว

แม้แต่คำแนะนำที่เขามอบให้กับ เซฮุนก็นับว่ามีความเสี่ยงเล็กน้อย

' เหลือผู้ท้าชิง 5 คน'

แน่นอนว่ามูยองไม่ใช่แค่สร้างอันเดธและภูติผี

เขายังค้นหาเฮดลี่คาวด้วยสายตาที่กระตือรือร้น

และจากพวกโดเกบิเพลิง เขาพบว่ามี 5 คนที่น่าสงสัยมากที่สุด

หนึ่งในผู้ท้าชิงเป็นราชาโดเกบิที่เพิ่งเข้าร่วม และไม่มีเผ่าเช่นเดียวกับมูยองซึ่งทำหน้าที่แตกต่างจากโดเกบิทั่วไป

มูยองคิดว่าถ้าเฮดลี่คาวอยู่ที่นี่ก็ต้องเป็นหนึ่งในโดเกบิเหล่านั้น

“มูยอง! ได้ยินหรือเปล่า เมื่อกี้เซฮุนชมข้าด้วยแหละ อาจเป็นเพราะข้าต่อสู้ได้ดีในแนวหน้า”

กาออนเข้าประชิดมูยองเมื่อความอันตรายลดลง

มันเป็นแค่การคุยโม้

"โอ้ ยินดีด้วยนะ."

มูยองแสดงความยินดีกับเขาอย่างผ่านๆ

ก็ไม่เลวร้ายนักในการสนทนากับเขา ในขณะที่กาออนจะช่วยเป็นคนส่งข่าวต่างๆไปบอกเซฮุน

ขณะที่มูยองตอบ กาออนพยักหน้าและเชิดจมูกขึ้นไปในอากาศ

"มูยอง ถ้าเจ้ารบกับแนวหน้า เจ้าก็จะได้รับเกียรตินี้ด้วย"

"ข้าไม่ได้ต้องการคำเยินยอเหล่านี้"

"จิ๊ จิ๊ สามารถพูดแบบนี้ได้เพราะเจ้ามาจากพื้นที่ห่างไกล เลยไม่รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของเซฮุนงั้นสินะ หากติดตามดูเซฮุนต่อไปเรื่อยๆ รับรองว่าในไม่ช้าเจ้าจะต้องนับถือเขาอย่างแน่นอน "

เขาเป็นแฟนคลับตัวยงของเซฮุน

ดูเหมือนว่าเซฮุนตระหนักได้ว่า มูยองไม่อยากเป็นจุดสนใจ

เป็นเรื่องดีที่เขารู้สึกเบื่อหน่าย

มูยองเลิกให้ความสนใจกับกาออน

'ภูตผี 2,000 ตนถูกสร้างขึ้น'

และ เขาได้สร้างอันเดธมากกว่า 500 ตนแล้ว

โดยปกติเขาไม่ค่อยชอบที่จะเพิ่มจำนวนมันให้มากขนาดนี้

คนที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง สามารถทำงานได้โดยใชัอันเดธจำนวนไม่กี่พัน หรือแค่ไม่กี่หมื่นเท่านั้น หมายความว่าคุณภาพย่อมดีกว่าจำนวน

อย่างไรก็ตาม มูยอง มี 'เข็มขัดแห่งความชั่ว' ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอันเดธ และสมรภูมิรบนี้คือสถานที่ที่เขาสามารถสู้โดยใช้จำนวนเท่าที่มีเท่านั้น

ถ้าเขาใช้พวกอันเดธ ความแข็งแกร่งทางกองกำลังของเขาจะเพิ่มเป็นสองเท่า

แน่นอนว่าการคำนวณของเขาไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ยังไงเขาเชื่อว่า มันก็ไม่ได้แย่นัก หากจะมุ่งเน้นไปที่ปริมาณ เนื่องจากสถานการณ์แบบนี้ค่อนข้างหายาก

'ฉันอาจจะได้ครอบครองมากกว่าครึ่งหนึ่งของเส้นทางแหงอาชูร่าแล้วก็ได้'

เมอร์รอคกษัตริย์แห่งเมอร์ดูดัน ผู้นำเหล่าภูติผี 2,000 ตน กำลังพยายามเอาชนะเส้นทางของอาชูร่าอยู่

อัตราการพิชิต 22%!

และทุกครั้งที่อัตราการพิชิตเพิ่มขึ้น จะมีบางสิ่งบางอย่างในร่างกายของมูยองที่เปลี่ยนไปด้วย

เขาไม่อาจจะมั่นใจได้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร แต่เขารู้ว่าจะเข้าใจได้เองเมื่อมันมาถึง

"ข้าบอกด้วยความหวังดีนะ แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังเมื่อเซฮุนได้ตำแหน่งโอมหละมูยอง "

ในขณะที่มูยองไม่ได้แสดงความสนใจ กาออนให้คำแนะนำเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไป

คลื่นต่อไปกำลังจะเริ่มขึ้น

'มันไม่สายเกินไปที่จะเคลื่อนไหวหลังจากที่ฉันแน่ใจว่าใครคือเฮดลี่คาวแล้ว'

ถ้าเขาเข้าร่วมกับแนวหน้า เขาจะเสียโอกาสในการสังเกตรอบๆไปด้วย

มูยองมองดูผู้ท้าชิงทั้ง 5 คนอย่างเงียบ ๆ

สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว

แน่นอนคุณสามารถพูดได้ว่าเซฮุนยอมรับคำแนะนำของมูยอง

หลังจากตัดศีรษะของออร์คลอร์ดได้ อิทธิพลของเซฮุนก็มากขึ้น และด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถออกคำสั่งปล่อยให้มอนสเตอร์ตัวหนึ่งมีชีวิตอยู่ เพื่อชะลอการเริ่มต้นของคลื่นต่อไปได้

โดเกบิเพลิงขบฟันแน่น

อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างระหว่างพวกเขาเริ่มลดลงเมื่อเวลาผ่านไป

เซฮุนกำลังหมดแรงในทางกลับกันอาร์โลไม่ได้เป็นอย่างนั้น

'สัดส่วนของผลงาน'

ด็อกซินีทั้ง 2 สนใจเกี่ยวกับสัดส่วนของผลงานเท่านั้น

คนที่มีสัดส่วนสูงกว่าจะได้ตำแหน่งโอม

ด้วยเหตุนี้สัดส่วนมูยองจึงใกล้เคียงกับ 0%

'สัดส่วนของผลงานไม่มีความหมายมากมายในคลื่นระดับต่ำ'

และ มูยองไม่ได้สนใจมัน

การได้รับสัดส่วนผลงานในคลื่นที่สูงกว่า ย่อมดีกว่าได้รับจากคลื่นระดับต่ำ

ดังนั้นตอนนี้จึงเป็นเวลาที่จะเพิ่มความแข็งแรงของเขา และรอคอยโอกาส

เมื่อพวกเขาเผชิญกับคลื่นลูกที่ 25 เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นเล็กน้อยกับมูยอง

<จำนวนภูติผีทั้งหมดเกิน 5,000.>

<อัตราการพิชิตของเมอร์ดูดันเร่งความเร็วขึ้น>

<อัตราการพิชิต 48%>

ขณะที่มันเข้าใกล้ 50% รูม่านตาของเขาเปลี่ยนไปกลายเป็นสีแดงขึ้น

ตอนแรก เขายังไม่รู้

แต่เมื่อเห็นแสงสีแดงที่สะท้อนผ่านดาบของซากศพ เขาจึงเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้

เส้นทางของอาชูร่าอยู่ท่ามกลางของการเปลี่ยนแปลง

จากนั้นจิตวิญญาณของเมอร์ดูดันก็โผล่ขึ้นมาจากในร่างของมูยอง

ไม่เหมือนก่อนหน้า ตอนนี้เขาสวมเกราะสีทองสวยงาม และสวมหมวกของนักรบเอาไว้

-แม้ว่าข้าจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังมีขีดจำกัดในการพิชิตร่วมกับเหล่าภูติวิญญาณระดับต่ำแบบนี้ กับเจ้าตัวที่มีสองเขา การเพิ่มจำนวณไม่มีประโยชน์ในการจะเอาชนะมันได้!

"ใครคือผู้มีสองเขา?"

-มันเป็นผู้ครอบครองเส้นทางของอาชูร่า มีลักษณะคล้ายกับเจ้าแต่ก็มีส่วนแตกต่างกันเล็กน้อย ดูแล้วมันน่าจะแข็งแกร่งและดูลึกลับกว่า ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้มันถูกปิดผนึกอยู่ในขณะนี้ แต่มันเริ่มมีการตอบสนองต่ออัตราการพิชิตของข้า

มูยองขมวดคิ้วของเขา

ผู้ที่ครอบครองเส้นทางของอาชูร่า และมีลักษณะคล้ายกันกับเขา

ส่วนที่แตกต่างที่สุดคือมันมีสองเขา และถูกผนึกไว้

"แล้วเจ้าไม่สามารถพิชิตใดๆเพิ่มเติมเลยหรือ?"

อย่างไรก็ตามเขากำลังจะถึง 50%

สัญชาตญาณของมูยองร่ำร้องออกมา ถ้าหากเขาเติมเต็มส่วนที่เหลืออีก 2% การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน

เมอร์ดูดันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะส่ายหัว

- ข้าคิดว่าอีกสักนิดอาจเป็นไปได้ ยังไงก็ตามเจ้าไม่ควรจะโลภมาก มีโอกาสที่เจ้าจะสูญเสียทั้งหมดหากชายผู้นั้นตื่นขึ้น ตอนนี้เราต้องการภูติผีที่แข็งแกร่งมากกว่าการเพิ่มจำนวน

เมอร์ดูดันได้บอกชัดเจนในสิ่งที่เขาต้องการจะพูด

ถึงแม้ว่าเขาจะเพิ่มจำนวนภูติผีจากโดเกบิได้ แต่มันก็มาถึงขีดจำกัดแล้ว

มูยองเชื่อตามนั้น

และ.....

<กองทัพของเมอร์ดูดันได้รับการยอมรับเป็นส่วนที่เหลือในเส้นทางของอาชูร่าแล้ว>

<อัตราการพิชิต 50%>

<ความสามารถในการสร้างภูติผีเพิ่มขึ้นอย่างมาก>

<การควบคุมคนตายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก>

<'ดวงตาแห่งอาชูร่า' ได้ตื่นขึ้นแล้ว.>

เหมือนความเป็นไปของโลกได้พลิกกลับ

ตำแหน่งของความตายและสิ่งมีชีวิตถูกสับเปลี่ยน

สิ่งมีชีวิตต่างไม่สนใจ แต่เหล่าความตายกลับกำลังมองหามูยองอยู่

ใครบางคนผู้ซึ่งอยู่ที่นี่ตั้งแต่อดีต

ไม่ใช่แค่พวกโดเกบิ แต่เขายังสามารถเห็นวิญญาณที่ตายก่อนหน้านี้ได้

นอกจากนี้ยังมีด็อกซินีเหมือนกับเซฮุนและอาร์โล

บรรพบุรุษ  ผู้ซึ่งเสียชีวิตอยู่ที่นี่โดยไม่สามารถกลายเป็นโอมได้

'มันเป็นแบบนี้นี่เอง'

ดวงตาแห่งอาชูร่ามองเห็นโลกหลังความตาย

มันอนุญาตให้เขายืนอยู่บนเขตแดนนี้

อย่างไรก็ตามพวกที่ดำรงอยู่อย่างแข็งแกร่งเช่น ด๊อกซินี ไม่ได้สนใจในตัวมูยอง

"ดูเหมือนว่าเป็นเพราะความสามารถในการสร้างภูติผีของฉันอยู่ในระดับต่ำ"

ถ้าเขาสามารถรวบรวมวิญญาณพวกที่ตายมาก่อนนี้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะรวบรวมมันจากโดเกบิ อีกต่อไป

เพื่อควบคุมการดำรงอยู่ทั้งหมด เขาต้องการความสามารถในการสร้างภูติผีที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ถ้าเขาสามารถควบคุมวิญญาณที่แข็งแกร่งได้ ก็จะสามารถเพิ่มพวกมันลงในเส้นทางของอาชูร่า และใช้พวกมันสำหรับหลายๆสิ่งได้เช่นกัน

ตัวอย่างเช่น มูยองที่มีวิญญาณของมิโนทอร์อยู่ในมือ

<ชั่วขณะที่ได้ครอบครองวิญญาณของมิโนทอร์รัส >

<ความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้น 20 ในเวลา 30 นาที >

อย่างนี้เป็นต้น

'ตอนนี้มีเพียงตนเดียวเท่านั้นที่เพิ่มความสามารถได้'

เขาไม่สามารถใช้วิญญาณทับซ้อนพร้อมกันได้คราวละมากๆ อย่างไรก็ตามมีความชัดเจนที่จะต้องปรับปรุงมัน

มูยองยิ้มด้วยความพึงพอใจ

ตามที่คาดไว้ สถานที่แห่งนี้เป็นดั่งขุมทรัพย์สำหรับมูยอง

<คลื่นที่ 29 เริ่มขึ้นแล้ว>

<โอเกอร์ 30 ตัว>

ตึง! ตึง!

เพียงแค่ยักษ์ตัวเขียวปรากฏตัวเท่านั้น เหล่าโดเกบิต่างพากันตัวแข็งทื่อเป็นหิน

ผ่านเวลาเนิ่นนานจนถึงตอนนี้ โดเกบิประมาณครึ่งหนึ่งได้ตกตายลง แต่บรรยากาศก็ยังไม่ถึงขั้นเลวร้าย

อย่างไรก็ตามความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อโอเกอร์ปรากฏตัว

โอเกอร์เป็นมอนสเตอร์ระดับสูง

อันดับของพวกมันอยู่ต่ำกว่าไฟทาร์เพียงเล็กน้อย แต่หากมองที่นิสัยชอบการทำลายล้าง พวกมันกลับเหนือกว่าพวกไฟทาร์

พวกมันเป็นเหมือนฝันร้ายสำหรับโดเกบิ

เซฮุนใช้กำลังไปหมดแล้ว ส่วนอาร์โลนั้นถึงขีดจำกัดเช่นกันเมื่อต้องต่อสู้กับโอเกอร์หนึ่งหรือสองตัว

แม้ว่าพวกเขาจะใช้กำลังด้วยจำนวนทั้งหมดที่มีก็ไม่สามารถล้มโอเกอร์ทั้งหมด 30 ตัวลงได้

“ย๊ากก!”

“อ๊าคคคค!”

ตูมมมม! ตึงง!

ทุกครั้งที่โอเกอร์เคลื่อนไหว จะมีโดเกบิจำนวนไม่น้อยที่ต้องตาย

พวกมันแสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ

โดเกบิทั้งหมดต่างพากันกัดฟันด้วยความกลัว

เซฮุนก็เช่นกัน

ร่างกายของเซฮุนชุ่มโชกไปด้วยเลือด เขาแทบไม่มีแรงต่อกรกับโอเกอร์ และไม่รู้ว่าจะทนได้อีกนานแค่ไหน

'ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ ... '

เซฮุนแสดงออกอย่างสิ้นหวังในขณะที่เขาดันไหล่ที่หลุดของตัวเองให้เข้าที่

ถ้าเขาตายในตอนนี้ สิ่งที่ผ่านมาก็ไม่มีความหมายอะไรเลย

เช่นนั้น อาร์โลผู้ปกครองแห่งโดเกบิเพลิงจะเป็นผู้ชนะ

เซฮุนเตรียมพร้อมจะสู้ต่อ

"หลีกไป"

ก่อนที่เขาจะได้ทันตระหนักถึงมัน มูยองก็ยืนอยู่ข้างๆเขาแล้ว

อย่างไรก็ตามมูยองที่เซฮุนเห็น แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้

"นี่มันอะไรกัน—!

ดวงตาของเซฮุนเบิกกว้างขึ้น

เบื้องหลังของมูยอง ออร่าสีดำจากภูติผีจำนวนกว่า 2-3 พันตนได้ปรากฎตัวขึ้นราวกับพยุหะแห่งความตาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด