ตอนที่แล้วTWO Chapter 105 เปิดเผย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 107 การแก้แค้น ตอนที่ 1

TWO Chapter 106 ซุ่มโจมตี


TWO Chapter 106 ซุ่มโจมตี

ในวันที่ 1 เมษายน เฟิงฉิวฮวงได้ซื้อเงินเพิ่มอีก 500 เหรียญทอง ผ่านส่วนการแลกเปลี่ยน แล้วเธอก็รีบส่งมันไปให้โอหยางโชว พร้อมกับจดหมายแสดงความขอบคุณ

เมื่อได้รับเงินพร้อมจดหมาย โอหยางโชวก็เรียกขุ่ยหยิงหยู และผู้จัดการห้องโถงธนาคาร 4 สมุทร หยางหยุน เขาเก็บเงินไว้ 500 เหรียญทอง เผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน ส่วนที่เหลือทั้งหมด เขาได้มอบมันให้กับธนาคาร 4 สมุทร

โอหยางโชวมองไปที่ขุ่ยหยิงหยู แล้วกล่าวว่า “กรมการเงินจะต้องจัดการเงินก้อนนี้ในการทำ 2 สิ่ง 1 จัดตั้งธนาคารสาขาในเมืองสาขาทั้ง 3 คือ เมืองเป่ยไห่ เมืองฉิวซุ่ย และเมืองมิตรภาพ เพื่อให้ชาวเมืองที่อยู่ในเมืองเหล่านั้น เข้าถึงเงินกู้ได้ง่ายขึ้น, 2 สนับสนุน และเตรียมนโยบายที่ดีแก่ ร้านค้า โรงผลิต และอุตสาหกรรมหัถกรรมต่างๆในดินแดน กระตุ้นให้พวกเขาขยายขอบเขตของธุรกิจของพวกเขา มันจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของดินแดนได้”

ขุ่ยหยิงหยูพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวว่า “ขอให้พี่ใหญ่มั่นใจได้ ด้วยเงินทุนก้อนนี้ กรมการเงินจะไม่มีข้อจำกัดด้านการเงินอีกต่อไป พวกเราไม่จำเป็นต้องระงับและสามารถสร้างสิ่งที่ยอดเยี่ยมได้ในครั้งนี้ จริงๆแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว ภายใต้การนำของหัวหน้าฝ่ายธุรกิจ ผู้อาวุโสสู่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขาดเงินทุน แผนดังกล่าวจึงล่าช้ามาจนถึงตอนนี้”

“ดีมาก” โอหยางโชวพยักหน้า แล้วหันไปหาหยางหยุน “ข้ามั่นใจในความสามารถของเจ้า ดังนั้น ตอนนี้ข้าจะเพิ่มความรับผิดชอบให้เจ้า ออกไปยังเมืองเป่ยไห่ ซึ่งเป็นเมืองสาขา อีกไม่นานที่นั่นจะอัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 2 ดังนั้น ข้าจึงตั้งใจจะย้ายเจ้าไปเป็นผู้จัดการธนาคาร 4 สมุทรที่นั่น เจ้ามั่นใจว่าจะทำมันได้หรือไม่?”

“ขอบคุณสำหรับความเชื่อมั่นในตัวข้า ข้าจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวัง!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น หยางหยุนก็มีความสุขและตื่นเต้น

“ดี นี่เป็นความเชื่อมั่นที่เจ้าควรจะมี” โอหยางโชวชมเขา หลังจากนั้นเขาก็หันไปกล่าวกับขุ่ยหยิงหยู “ส่วนผู้จัดการธนาคารสาขาในเมืองฉิวซุ่ย และเมืองมิตรภาพ ข้าจะฝากเรื่องนี้ให้เจ้าจัดการ ข้าจะให้อำนาจเจ้าในการแต่งตั้งผู้จัดการสาขาได้โดยตรง”

“มั่นใจได้เลยพี่ใหญ่!” ขุ่ยหยิงหยูยังคงเป็นสาวมั่นเช่นเคย

………………………………………………………………………………………………………

ในอีก 10 วันมานี้ กองทัพได้มุ่งเน้นการฝึกอบรม ในขณะเดียวกันก็ได้ทำการบุกโจมตีค่ายโจรที่อยู่ในดินแดน เพื่อเพิ่มประสบการณ์ไปด้วย

หลังจากที่ผ่านการรบที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดไม่กี่ครั้ง นายทหารทั้ง 8 คน กฌได้เลื่อนไปนายทหารขั้นต้นอย่างเป็นทางการ ตอนนี้ผู้บัญชาการกองร้อยทั้งหมดของซานไห่ ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการทั้งหมดแล้ว พวกเขาถูกนำคำว่ารักษาการณ์ออกจากตำแหน่งของพวกเขา จากผลการโจมตีที่ผ่านมา โอหยางโชวได้เก็บเงินไว้ 1,500 เหรียญทอง ส่วนเงินที่เหลือและทรัพยากรอื่นๆ เขามอบให้กรมการเงิน และกรมคลังวัสดุจัดการ

หลังจากการกวาดล้างครั้งใหญ่ 2 ครั้ง พื้นที่ 1,000 ตารางกิโลเมตร ก็ปราศจากสิ่งมีชีวิต ไม่มีโจรหรือสัตว์ร้ายใดๆเหลืออยู่อีกต่อไป พวกเขาถูกกวาดล้างอย่างเลือดเย็นโดยทหาร อย่างไรก็ตาม ภัยคุกคามและเป้าหมายที่ถูกกำจัด ก็ทำให้ปฏิบัติการการโจมตีในฤดูใบไม้ผลิสิ้นสุดลง

ในขณะที่กองทัพได้รายงานข่าวดีนี้กับรัฐบาล 1 เดือนที่ผ่านมา การอัพเกรดโครงสร้างของสิ่งก่อสร้างทั้งหมด ก็ได้สิ้นสุดลงเช่นกัน ถนนกว้างขึ้น และถูกปูด้วยหิน(แกรนิต)ทั่วทั้งเมือง สิ่งก่อสร้างใหม่ถูกสร้างขึ้นโดยมีหิน(แกรนิต)เป็นโครงสร้างหลัก และมุงหลังคาด้วยแผ่นกระเบื้องสีแดง ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งด้านในและด้านนอก รวมถุงจตุรัสของเมือง เต็มไปด้วยความงดงามและยิ่งใหญ่ ให้ความรู้สึกว่า นี่คือความเจริญรุ่งเรืองของเมืองซานไห่

หลังจากที่อัพเกรดอู่ต่อเรือขั้นสูงเสร็จสิ้น พวกเขาก็ได้เริ่มก่อสร้างเรือรบเมิ่งชงในทันที จนถึงปัจจบัน มีเรือรบที่ส่งไปยังกองทัพเรือแล้ว 2 ลำ โดยเฉลี่ยแล้ว อู่ต่อเรือสามารถส่งมอบให้กับกองทัพเรือได้ 1 ลำ/สัปดาห์ ความจุของเรือรบเมิ่งชงคือ กองร้อยทหารเรือ 1 กอง ดังนั้น กองทัพเรือต้องจึงต้องการเรือรบเมิ่งชงอีก 3 ลำ จึงจะตอบสนองความต้องการของกองทัพเรือได้ทั้งหมด

นอกจากนี้ เมืองสาขาทั้ง 3 ยังมีข่าวดีอีกด้วย ตอนนี้เมืองเป่ยไห่ได้อัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 2 แล้ว พวกเขามีประชากรสูงสุดที่ 5,000 คน โอหยางโชวได้ใช้เงิน 1,000 เหรียญทอง ในการซื้อแบบแปลนท่าเรือขั้นสูง และสั่งให้เริ่มโครงการท่าเรือเป่ยไห่ เนื่องจากมันเป็นโครงการขนาดใหญ่ แม้ว่าเมืองเป่ยไห่จะเร่งอย่างเต็มที่ พวกเขาก็ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน จึงจะเสร็จสิ้นโครงการ

ท่าเรือก็เหมือนกับท่าเทียบเรือ อู่ต่อเรือ และท่าเรือข้ามฟาก พวกมันทั้งหมดถูกจัดเป็นสิ่งก่อสร้างพิเศษ โดยราคาแบบแปลนท่าเรือขั้นต้น มีราคาอยู่ที่ 10 เหรียญทอง ดังนั้น ราคาแบบแปลนท่าเรือขั้นสูงจึงมีราคาสูงถึง 1,000 เหรียญทอง หรือเป็น 2 เท่าของอู่ต่อเรือขั้นสูง

สำหรับเมืองฉิวซุ่ย พวกเขาจะได้อัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 2 ในอีกครึ่งเดือน

ข่าวดีคือ การพบชาขาวป่าในภูเขาหนานเฟิง มันกลายเป็นไร่ชาขนาด 5,000 หมู่ ภายใต้การดูแลของเมืองฉิวซุ่ย, ระหว่างช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายน เป็นช่วงเป็นเกี่ยวชาขาว แน่นอน เจ้าเต๋อเสี้ยนจะไม่ปล่อยให้โอกาสเช่นนี้หลุดมือไปเด็ดขาด เขาได้สั่งเกษตรกรผู้ปลูกชา ให้ไปเก็บเกี่ยวชาขาว และตอนนี้ พวกเขาเกือบจะเสร็จสิ้นการเก็บเกี่ยวแล้ว

ไม่น่าแปลกใจเลย ที่ชาขาวจะได้รับการยอมรับเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นพิเศษของดินแดนโดยระบบ โอหยางโชวได้มอบไร่ชาให้อยู่ภายใต้เมืองฉิวซุ่ย ผลกำไรที่เกิดจากการขายชาขาวผ่านร้านขายของชำ จะถูกส่งให้กับเมืองฉิวซุ่ย มันจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองฉิวซุ่ยได้

เจ้าเต๋อเสี้ยนได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่า เขาเป็นคนมีเซนส์ เขาได้ระมัดระวังในการเก็บเกี่ยวชาขาวบางส่วนที่อยู่ในเกรดสูงสุด เขาเก็บมันไว้เป็นชาบรรณาการ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่มันจะไม่ถูกขายออกไป พวกมันจะถูกส่งมาเป็นเครื่องบรรณาการให้กับโอหยางโชวโดยเฉพาะ

สำหรับเมืองมิตรภาพ ล่าสุด สิ่งก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานได้ถูกก่อสร้างแล้ว ในขณะนี้ พวกเขากำลังมุ่งเน้นในการขุดคูน้ำ แต่เนื่องจากมันเป็นโครงการขนาดใหญ่ จึงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะเสร็จ ณ ตอนนี้ เมืองมิตรภาพยังไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ พวกเขาจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุน ทั้งเรื่องทรัพยากรและการเงินจากเมืองหลัก

………………………………………………………………………………………………………

ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 4 วันที่ 15 เหมืองแร่หลางซานได้ส่งข่าวด่วนมา

เผ่าจีเฟิงได้ลอบโจมตีเหมืองแร่หลางซาน มันได้ทำลายสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่าง ในขณะที่ปะทะกับกองทหารรักษาการณ์ เมื่อการปะทะสิ้นสุดลง มีจำนวนผูดบาดเจ็บล้มตายมากกว่า 40 คน

เวลา 14.00 น. ณ ห้องโถงประชุมเมืองซานไห่

โอหยางโชวได้เรียกกรมกิจการทหาร และนายพันทั้ง 3 เพื่อจัดการประชุมฉุกเฉิน เขาเหลือบไปมองรอบๆอย่างเคร่งขรึม แล้วกล่าวว่า “ข้ารู้ว่าทุกคนทราบข่าวแล้ว เมืองแร่หลางซานของเราถูกซุ่มโจมตี นี่เป็นการยั่วยุซานไห่อย่างชัดเจน และข้าจะทำให้พวกเขาต้องจ่ายค่าเสียหายด้วยเลือดของพวกเขา”

“นายท่านโปรดออกคำสั่ง พวกเราจะสังหารพวกเขา และทำลายฐานที่มั่นของพวกเขาในทันที!” ขุนพลซีเป็นคนแรกที่เรียกร้องให้ทำสงคราม

“ถูกต้องแล้วนายท่าน กองพันป้องกันเมืองจะทำหน้าที่เป็นแนวหน้าเอง!” เจ้าซีฮูลุกขึ้นกล่าวเป็นคนต่อมา

เฉพาะนายพันหลินยี่เท่านั้น ที่กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่เต็มใจว่า “นายท่าน กองพันทหารม้าจะเป็นหอกให้กับท่าน”

โอหยางโชวส่ายหัว แล้วตอบหลินยี่ว่า “สงครามในครั้งนี้จะอยู่ใกล้ภูเขา และลึกเข้าไปในป่า ภูมิประเทศเช่นนี้ไม่เหมาะกับการขี่ม้า เจ้าจงอยู่ที่นี่ คอยปกป้องดินแดนของเรา กองพันทหารม้าจะทำหน้าที่แทนกองพันป้องกันเมืองชั่วคราว เราได้กวาดล้างพวกโจรไปเป็นจำนวนมาก ความเป็นศัตรูระหว่างพวกเราและพวกมันสามารถลบล้างได้ด้วยเลือดเท่านั้น ข้าไม่ต้องการให้ดินแดนของเราถูกปล้นหรือถูกยึดครองโดยพวกมัน นายพันหลินยี่ เจ้าต้องมีความรับผิดชอบอย่างมาก อย่าให้ทหารของเจ้าต้องหย่อนยานการปฏิบัติหน้าที่เด็ดขาด!”

“ขอรับนายท่าน!” เห็นได้ชัดว่าหลินยี่คาดการไว้แล้วว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้ แต่เขาก็ลองพยายามดูว่า กองพันทหารม้าของเขาจะมีโอหาสได้เข้าร่วมสงครามนี้หรือไม่

โอหยางโชวไม่สนใจขุนพลซีและเจ้าซีฮู เขาหันไปทางฝ่ายข่าวกรอง แล้วกล่าวว่า “ฝ่ายข่าวกรองมีข้อมูลเกี่ยวกับเผ่าจีเฟิงหรือไม่?”

ตอนนี้สานโก่วฉีได้เปลี่ยนชื่อเป็นซ่งสาน(Song San) ซ่งสานได้ยืนขึ้น แล้วกล่าวว่า “มีขอรับนายท่าน นับตั้งแต่ที่พวกเขาปฏิเสธที่จะร่วมมือกับเรา ฝ่ายข่าวกรองก็ได้เริ่มรวบรวมข้อมูลของเผ่าจีเฟิงในทันที”

“ดีมาก ทุกคนตั้งใจฟังให้ดี” โอหยางโชวชื่นชมเขา

ซ่งสานเริ่มรายงาน “ระหว่างพรมแดนของเหลียงโจวและหลิงหนาน ส่วนใหญ่จะเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน และเป็นที่อยู่ของชนเผ่าป่าเถื่อนภูเขา กระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ พวกเขาแบ่งเป็นเผ่าทางเหนือ และเผ่าทางใต้ ทั้ง 2 ส่วน จะนำโดยเผ่าทีมีประชากรมากกว่า 10,000 คน ที่เราพบในตอนนี้ คือ เผ่าทางใต้”

“เผ่าทางใต้ประกอบไปด้วย 40 เผ่า และอ่อนแอกว่าเผ่าทางเหนือเล็กน้อย เผ่าผู้นำ คือ เผ่าเทียนโกว(Tainguo) ตามด้วยเผ่าขนาดใหญ่ 4 เผ่า มีประชากร 5,000-10,000 คน, เผ่าขนาดกลาง 10 เผ่า มีประชากร 3,000-5,000 คน และเผ่าขนาดเล็ก 25 เผ่า แต่ละเผ่ามีประชากรน้อยกว่า 3,000 คน ดังนั้น ในฐานะที่เป็นเผ่าใหญ่ เผ่าจีเฟิงจึงไม่รับฟังเผ่าซวนเหนียว”

“เผ่าจีเฟิงมีประชากรประมาณ 5400 คน ใช้ ‘พายุลม’ เป็นสัญลักษณ์ของเผ่า ‘ฮวน’ เป็นแซ่ของพวกเขา ผู้นำของพวกเขาชื่อว่า ฮวนไท่ เขาเพิ่งได้เป็นผู้นำเผ่าเมื่อไม่นานมากนี้ อายุของเขายังไม่ถึง 30 ปี นักรบของเผ่ามีประมาณ 800 คน ตามการคาดเดาของข้า พวกเขาคือคนที่โจมตีเหมืองแร่หลางซาน”

โอหยางโชวพอใจกับรายงานของฝ่ายข่าวกรองในครั้งนี้มาก เนื่องจากพวกเขาสามารถมองเห็นภาพที่ใหญ่ขึ้นได้ และยังได้สืบค้นเบื้องหลังเหตุการณ์ที่เหมืองแร่หลางซานไห้ในทันที

“สภาพภูมิศาสตร์ของเผ่าจีเฟิงเป็นเช่นไร? และระบบการป้องกันของเผ่าเป็นอย่างไร?” เก่อหงเหลียงกังวลอย่างถามกับคำถามของเขา

ซ่งสานพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “เผ่าจีเฟิงตั้งอยู่ทางตะวันออกของเผ่าซวนเหนียว ห่างออไปปรรมาณ 20 กิโลเมตร ตำแหน่งที่ตั้งของพวกเขาอยู่ในหุบเขา ล้อมรอบด้วยภูเขาทั้ง 3 ด้าน เป็นกำแพงธรรมชาติ มีทางเข้าเพียงทางเดียว อยู่ทางตะวันตกของเผ่า และพวกเขาได้สร้างกำแพงป้องกันไว้ ดังนั้น ถ้าหากเราจะบุกเข้าไป เราต้องทะลวงผ่านกำแพงไปให้ได้ก่อน”

เก่อหงเหลียงขุ่นเคือง ภูมิประเทศแบบนี้ง่ายต่อการป้องกัน และยากต่อการโจมตีมาก แต่เขายังไม่ยอมแพ้ และถามอีกครั้ง “ภูเขาสูงมากขนาดไหน เราพิจะใช้เส้นทางบนเขาได้หรือไม่?”

ซ่งสานส่ายหัว แล้วกล่าวอย่างมั่นใจว่า “เป็นไปไม่ได้ แม้ว่าภูเขาพวกนันจะไม่สูงเท่าภูเขาด้านหลังของเรา แต่มันก้ยังคงสูงถึง 500-600 เมตร นอกจากนี้ บนภูเขาย้งเต็มไปด้วยพุ่มไม้และต้นไม้ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องอยากที่จะใช้เส้นทางบนเขาได้”

“ในกรณีนี้ เราคงเหลือทางเลือกเพียงอย่างเดียว นั่นคือการโจมตีตรงๆ ตราบที่เราผ่านกำแพงไปได้ เผ่าที่เหมือนเต่านี้ ก็จะกลายเป็นตุ๊กตาของเล่นของพวกเรา” โอหยางโชวเปิดปากกล่าวอย่างกระทันหัน

เก่อหงเหลียงพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “นายท่าน ในสงครามครั้งนี้ ใครจะมีส่วนร่วมบ้าง?” ทันใด้นั้นทุกคนก็หันไม่มองโอหยางโชว

โอหยางโชวไม่ได้ทำให้พวกเขาผิดหวัง เขากล่าวว่า “สงครามครั้งนี้จะนำโดย กองพันทหารราบ กองพันป้องกันเมือง และกองทหารรักษาการณ์เมืองหลางซาน ส่วนกองทหารรักษาการณ์เมืองฉิวซุ่ยและเมืองมิตรภาพ ยังคงทำหน้าที่รักษาการณ์เมืองของตัวเองเช่นเดิม”

ขุนพลซีและเจ้าซีฮูเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ในขณะที่หลินยี่รู้สึกเศร้าใจ

 

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด