ตอนที่แล้วReincarnation Of The Strongest Sword God ตอนที่ 40 – วิหารตะวัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReincarnation Of The Strongest Sword God ตอนที่ 42 – การปรับแต่งธาตุ

Reincarnation Of The Strongest Sword God ตอนที่ 41 – ความปั่นป่วนในเมือง


Chapter 41 – ความปั่นป่วนในเมือง

 

เมืองใบสีแดง ลานน้ำพุ (เปลี่ยนจากย่านเป็นเมืองนะครับ ส่วนถ้าเมืองอื่นใช้คำว่า City ก็จะใช้คำว่านครนะครับ)

 

ทั่วทั้งลานที่ถูกย้อมไปด้วยสีแดงชาดโดยพระอาทิตย์ตกดิน มีผู้เล่นไลฟ์สไตล์[1]จำนวนมากตั้งแผงลอยร้านอาหารและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของ God's Domain

 

ขนมขบเคี้ยวเหล่านี้ลิ้มรสแล้วอร่อยและพวกมันก็อร่อยดีกว่ายิ่งกว่าในชีวิตจริงอย่างมาก นอกจากนี้ราคาขายของพวกมันก็แค่ 2 หรือ 3 ทองแดง มันเป็นการต่อรองราคาอย่างแท้จริง

 

ผู้เล่นจำนวนมากมาที่นี่เพื่อพักผ่อนและลิ้มรสอาหารรสเลิศใน God's Domain หลังจากที่คุ้มค่ากับวันนี้ในการต่อสู้ที่สู้อย่างยากลำบาก ไม่ว่าอย่างไรก็ตามพวกเขาได้รับเพียงแค่สิบทองแดงในวันเดียวเท่านั้น และหลังจากหักลบค่าเงินที่ใช้จ่ายแล้ว พวกเขาจะเหลือเงินน้อยกว่าสิบทองแดงเล็กน้อย ดังนั้นการที่พวกเขาปฏิบัติรักษาแบบนี้ก็ไม่ควรจะเป็นปัญหา

 

มีคู่รักค่อนข้างน้อยนั่งอยู่บนม้านั่งหินแล้พูดคุยกัน พวกเขาทานอาหารที่ซื้อมาขณะที่พวกเขา

เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาแห่งความรัก

 

ทันใดนั้น ผู้เล่นทุกคนในเมืองใบสีแดงก็ได้รับการประกาศจากระบบ

 

ระบบ : มีผู้เล่นได้กระตุ้นเนื้อเรื่องพิเศษ ‘การจลาจลของลิตเติ้ลฟิชแมน’ ได้รับการเปิดใช้งาน เควสแบบหมู่ได้รับการเปิดใช้งานในเมืองใบสีแดง ผู้เล่นสามารถรับเควสแบบหมู่ได้จากกิลด์นักผจญภัย การสำเร็จเควสแบบหมู่จะช่วยให้ผู้เล่นได้รับรางวัลมากมายและค่าชื่อเสียงกิลด์

 

ผู้เล่นทั้งหมดได้ตกใจ ในเมืองใบสีแดงซึ่งเป็นสถานที่ที่เควสนั้นหากยากอย่างยิ่ง แต่มันมีเควสแบบหมู่จริงๆ ยิ่งกว่านั้นรางวัลยังยอดเยี่ยมอีกด้วย มันเป็นไปไม่ได้อย่างแท้จริง

 

“ใครมันเป็นคนดีที่ไปกระตุ้นเนื้อเรื่องพิเศษกัน?”

 

ผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จนี้จะทำการดึงดูดความสนใจของผู้เล่นทุกคนในย่านใบสีแดง ทุกคนต่างก็สงสัยว่ารางวัลที่ยอดเยี่ยมนี้ที่ผู้เล่นที่ได้มาสำหรับการเปิดใช้งานเนื้อเรื่อง ไม่อย่างไรก็ตาม การได้รับเนื้อเรื่องแน่นอนว่าเป็นเหตุการณ์ที่หาได้ยาก ดังนั้นจะได้รับรางวัลน้อยๆได้อย่างไร?

 

ผู้เล่นจำนวนมากเริ่มมีความคิดชั่วร้ายกับตัวพวกเขาเอง พวกเขาต้องการที่ฆ่าผู้เล่นที่เปิดใช้งานเควสเนื้อเรื่องทิ้งซะ แต่น่าเสียดายที่ประกาศจากระบบไม่ได้เปิดเผยชื่อผู้เล่นคนนั้น เมื่อเทียบกับผู้เล่นปกติแล้วกิลด์ใหญ่ต่างๆตกอยู่ในสภาพความวุ่นวาย ในช่วงนี้ของเกม นอกเหนือจากการเคลียดันเจี้ยนแล้ว ก็ไม่มีแม้แต่เควสเดียวที่สามารถเพิ่มค่าชื่อเสียงกิลด์ได้

 

กิลด์ต้องการค่าชื่อเสียงกิลด์เพื่อเพิ่มเลเวล ตราบเท่าที่กิลด์ของพวกเขาสามารถไปถึงเลเวล 2 ได้ก่อนก้าวหนึ่ง พวกเขาจะสามารถได้รับผลประโยชน์ของกิลด์ที่สอดคล้องกัน คือการสร้างความได้เปรียบที่เหนือกว่ากิลด์อื่นๆ

 

ปัจจุบัน เมืองอื่นๆรอบๆทะเลสาบสการ์เล็ตก็ได้รับประกาศจากระบบแบบเดียวกัน มันไม่ใช่แค่เมืองใบวีแดงเท่านั้น แต่กิลด์ใหญ่ทั้งหมดวางแผนกลยุทธ์สำหรับการต่อต้านลิตเติ้ลฟิชแมนของพวกเขา

 

ขณะเดียวกัน ซือเฟิงผู้ที่สาเหตุของความวุ่นวายนี้ ปัจจุบันกำลังนั่งอยู่ในบ้านประมูล

 

บ้านประมูลเป็นสถานที่สะดวกมาก ไอเทมที่วางอยู่ในการประมูลโดยผู้เล่นไม่ได้จำกัดแค่เมืองใบสีแดง พวกเขาสามารถเห็นและซื้อได้ในเมืองนับร้อยและนครเล็กๆภายใต้อิทธิผลของนครแม่น้ำสีขาว(ไวท์ริเวอร์ซิตี้ กลัวจำไม่ได้ครับ) อย่างไรก็ตาม บ้านประมูลเป็นพวกฉลาดแกมโกงอย่างมาก พวกเขาเรียกเก็บเงิน 5% เป็นค่าธรรมเนียมการค้าขายสำหรับไอเทมทั้งหมดที่ประมูลออกไป ดังนั้นไอเทมต่างๆจึงมีราคาแพงมาก

 

อย่างไรก็ตาม บ้านประมูลก็เป็นสถานที่ดีที่สุดไม่ต้องสงสัยสำหรับผู้เล่นที่จะขายไอเทมบางอย่างโดยไม่อยากระบุชื่อ นอกจากนี้มันยังมีเวลาอีกพอสมควรตั้งแต่ God's Domain เริ่มเปิด มีผู้เล่นสะสมเหรียญเป็นจำนวนมาก และกิลด์ขนาดใหญ่ก็หมักหมมเงินทุนไว้เป็นจำนวนมาก ถ้าซือเฟิงตั้งแผงลอยในเมืองใบสีแดง ไม่ใชเพียงแค่จะดึงดูดความสนใจเท่านั้น เขาอาจจะกลายเป็นเป้าหมายโดยคนแบบเฟลมมิ้งไทเกอร์(เสือช่วงโชติ)อีกด้วย

 

ที่สำคัญที่สุด เหตุผลที่ซือเฟิงเลือกบ้านประมูลก็คือมีผู้เล่นจำนวนน้อยเกินไปในเมืองใบสีแดงที่มีกำลังพอจะจ่ายไอเทมที่เขาวางแผนจะขาย อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่แตกต่างกันถ้ามีเมืองนับร้อยแข่งกันเพื่อพวกมัน

 

ดังนั้นซือเฟิงจึงได้ว่าเกราะนักรบโบราณเหล็กลี้ลับลงบนบ้านประมูล กำหนดราคาพื้นฐานของมันไว้ที่ 25 เหรียญเงิน จากนั้น เขาก็วางอุปกรณ์สัมฤทธิ์ไปอีกห้าชิ้น ด้วยราคาพื้นฐานของเกราะนักรบโบราณ 3 เหรียญเงินและชิ้นอื่นๆอีก 2 เหรียญเงิน ส่วนดาบใหญ่ทองวิจิตรนั้น ผลที่ได้มาจากการประมูลน่ากลัวเกินไปที่จะจินตนาการ อาวุธนี้มีค่าอย่างน้อย 2 เหรียญทอง ซึ่งมีค่าเท่ากับ 200 เหรียญเงิน ปัจจุบัน แม้กระทั่ง 1 เหรียญเงินก็ล้ำค่าอย่างสุดซึ้งแล้ว ดังนั้นใครจะสามารถซือเฟิงอาวุธนั้นได้บ้าง?

 

หลังจากนั้น ซือเฟิงได้ค้นในกระเป๋าของเขาผ่านทางหน้าจอครึ่งโปร่งใส แรกเริ่ม ผู้เล่นจะได้รับเป็นกระเป๋าที่มี 100 ช่อง อย่างไรก็ตามมันยังห่างไกลจากความเพียงพอของซือเฟิง ผู้เล่นทุกคนสวมใส่กระเป๋ามากที่สุดคือเจ็ดใบ ดังนั้น ซือเฟิงได้ซื้อกระเป๋าที่ใหญ่ที่สุดหกใบที่หาได้ในปัจจุบันทันที กระเป๋าแต่ละใบมี 25 ช่อง และแต่ละอันขาย 40 เหรียญทองแดง หกใบนั้นก็หมายถึง 240 เหรียญทองแดง จำนวนเงินดังกล่าวแน่นอนว่าไม่สามารถจ่ายได้สำหรับผู้เล่นธรรมดา

 

พื้นที่จัดเก็บของซือเฟิงก็เพิ่งขึ้นอย่างมากหลังจากสวมใส่กระเป๋าหกใบ หลังจากนั้น ซือเฟิงได้ออกไปจากบ้านประมูลและตั้งแผงลอยไม่ไกลจากมัน เขาสนใจไม่น้อยในเควสแบบหมู่ที่เขาได้กระตุ้น

 

เขาจะไม่ต่อสู้เพื่อรางวัลกับคนอื่น เขาได้เติมเต็มตัวเองไปแล้ว ดังนั้นมันจึงเหมาะสมที่จะให้คนอื่นต่อสู้เพื่อของเหลือ

 

“รับซื้อแก่นเวทมนตร์และหินปริมาณมาก กอง[1]แก่นเวทมนตร์สำหรับ 6 ทองแดง กองหินสำหรับ 10 ทองแดง” ซือเฟิงตะโกนเสียงดัง

 

สำหรับช่วงนี้ของเกม แก่นเวทมนตร์เป็นวัสดุที่จำเป็นสำหรับการฝึกการเอ็นชาน แต่ทว่าหินเป็นหนึ่งในวัสดุก่อสร้างที่จำเป็นของวิศวกร อย่างไรก็ตาม มอนสเตอร์เลเวล 0 ถึง เลเวล 3 จำนวนมากจะดรอบวัสดุเหล่านี้เมื่อถูกสังหาร ดังนั้นพวกมันแทบจะไม่มีค่าอะไรเลย วัสดุที่กิลด์จำนวนมากได้รับก็เพียงพอที่จะจัดหาให้กับผู้เล่นไลฟ์สไตล์ของพวกเขาแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เคยซื้อของเหล่านี้เลย สำหรับผู้เล่นธรรมดา พวกเขาซื้อวัสดุเหล่านี้เป็นครั้งคราวเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงมีผู้เล่นเยอะเป็นมหาสมุทรที่ยังไม่รู้ถึงวิธีจัดการวัสดุเหล่านี้ พวกเขามักจะขายวัสดุเหล่านี้ให้กับ NPCs ในราคาที่ต่ำ กอง 20 ขวดของแก่นเวทมนตร์ขายแค่ 5 ทองแดง และกองของหิน 100 ก้อนขาย 9 ทองแดง แต่ซือเฟิงซื้อพวกมันในราคา 1 เหรียญทองแดงที่สูงขึ้น ดังนั้นจึงมีผู้เล่นค่อนข้างมากที่เต็มใจจะขายวัสดุของพวกเขาให้ซือเฟิง ทองแดงเพิ่มเติมต่อกองก็ยังเป็นรายได้ที่ค่อนข้างสำคัญ

 

แก่นเวทมนตร์เป็นหนึ่งในวัสดุจำเป็นในการสร้าง เกราะกองทหารรักษาการณ์ นอกจากนี้ยังต้องการแร่ทองแดงจำนวนมากและแร่สัมฤทธิ์ก็ยังจำเป็นด้วย แร่เหล่านี้แทบจะไม่มีอยู่เลย และกิลด์ใหญ่ทั้งหมดก็ซื้อพวกมันเป็นปริมาณมาก น่าเสียดาย มันยากเกินไปที่จะได้รับการสนับสนุนจากพวกเขา

 

ซือเฟิงมีวางแผนที่ฟาร์มแร่ไว้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขามีศิลานักปราชญ์แล้ว ดังนั้นแร่มันก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ศิลานักปราชญ์สามารถปรับแต่งธาตุได้ นั้นหมายความว่ามันสามารถปรับแต่งหินได้ มันมีโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่จะได้รับแร่ แม้กระทั่งแร่หายาก มันก็ไม่มีความจำเป็นอีกแล้วสำหรับซือเฟิงที่ไปฟาร์มพวกมันด้วยตัวเอง เขาก็แค่ซื้อพวกในราคาที่ต่ำสุดๆ ด้วยเหตุนี้ผู้เล่นนับหมื่นที่มีประสิทธิภาพก็ได้กลายมาเป็นแรงงานของซือเฟิง

 

อย่างรวดเร็วโคตรๆ ฝูงผู้เล่นกลุ่มใหญ่ได้รวมตัวกันหน้าซือเฟิง

 

“พี่ใหญ่ ผมมีแก่นเวทมนตร์ 6 กองอยู่ พี่จะเอามันได้ป่ะ?”

 

“ฉันมีหิน 3 กอง คุณต้องการมันไหม?”

 

ผู้เล่นจำนวนมากเริ่มถามซือเฟิงด้วยความกังวลว่ากระเป๋าของเขาจะเต็ม เพราะว่าพวกเขามีแก่นเวทมนตร์และหินมากเกินไป ไม่มีผู้เล่นคนไหนที่เต็มใจจะซื้อวัสดุเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม มันยังคงเป็นเรื่องน่าอับอายที่แค่จะขายพวกมันให้กับ NPCs ดังนั้นพวกเขาถึงเก็บวัสดุไว้ในกระเป๋าของพวกเขา

 

“ฉันจะเอาพวกมันหมด ขอแค่แลกเปลี่ยนมาเลย” ซือเฟิงกล่าว

 

ก่อนหน้านี้ ซือเฟิงสะสมทรัพย์สมบัติไว้ไม่น้อย รวมทั้งธุรกิจของเขากับหิมะผู้อ่อนโยน เขาก็ครอบครองเหรียญไว้เป็นจำนวนมาก ซือเฟิงสามารถซือเฟิงแก่นเวทมนตร์และหินได้เป็นจำนวนมหาศาลแน่นอน

 

ผู้เล่นขายแก่นเวทมนตร์สามกอง ... ผู้เล่นขายหินห้ากอง ... ภายในชั่วครู่ ซือเฟิงได้ซื้อแก่นเวทมนตร์ 60 กองและกองหิน 85 กอง เงินที่เหลืออยู่ในกระเป๋าของเขามีน้อยกว่า 10 ทองแดงในตอนนี้ (กลัวลืม ซือเฟิงยังไม่ได้เงินที่เหลือหิมะผู้อ่อนโยนเลยนะครับ ทรัพย์ของมหาเทพซือเฟิงเลยเบาบางอยู่)

 

“โทษทีแต่กระเป๋าฉันเต็มแล้ว” ซือเฟิงเก็บแผงลอยของเขาหลังจากอธิบาย

 

ทันใดนั้น ใบหน้าของผู้เล่นที่เหลือจำนวนมากที่มาขายแก่นเวทมนตร์และหินก็เต็มไปด้วยความผิดหวัง

 

“พี่ใหญ่ พี่จะมาซื้อพวกมันอีกไหมในอนาคต?” ผู้เล่นถาม

 

“ฉันจะมา อย่างไรก็ตาม มันน่าจะยังสักพักนู้นแหละกว่าฉันจะมาซื้อพวกมัน พวกนายทั้งหมดสามารถเก็บพวกมันในตอนนี้ไว้ได้เลย” ซือเฟิงกล่าวอย่างเฉียบขาด จำนวนของแก่นเวทมนตร์และหินที่ซือเฟิงเพิ่งซื้อไปนั้นห่างไหลจากคำเพียงพอสำหรับเขาที่จะกลายเป็นเด็กฝึกการตีขั้นรูปขั้นสูง[3]

 

หลังออกจากถนนธุรกิจ ซือเฟิงก็มาถึงสมาคมตีขึ้นรูป เขาจ่าย 5 ทองแดงเพื่อเช่าห้องตีขึ้นรูปพื้นฐานสำหรับหนึ่งชั่วโมง

 

ด้านในของห้องตีขึ้นรูปพื้นฐานมันมีอุปกรณ์ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการเตรียมตีขึ้นรูป ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ของตัวเอง ส่วนห้องตีขึ้นรูประดับกลางนั้นดีกว่ามาก มันสามารถเพิ่มอัตราประสบความสำเร็จการตีขึ้นรูปได้ 3% อย่างไรก็ตามมันต้องใช้ 1 เหรียญเงินต่อชั่วโมงเพื่อใช้ห้องนั้น สำหรับห้องตีขึ้นรูประดับสูงพวกมันไม่มีอยู่ในเมืองเล็กๆ พวกมันมีหาได้เฉพาะแค่ในนครเท่านั้น อย่างไรก็ตามราคาของพวกมันก็ทำให้ลังเลอย่างยิ่ง

 

TL Notes:

[1]ผู้เล่นไลฟ์สไตล์ : เป็นผู้เล่นที่เน้นอาชีพเสริมของเขาเช่นนักตีขึ้นรูป , นักเล่นแปรธาตุ/ผู้สร้างโพชั่น ฯลฯ

[2]กอง : เป็นคำศัพท์ที่ใช้ในการเล่นเกมซึ่งใช้อ้างถึงกลุ่มของไอเทมเดียวกัน ซึ่งจะใช้ช่องว่าง/พื้นที่เพียงแค่ที่เดียวเท่านั้นในกระเป๋าของผู้เล่น กองของไอเทมที่เก็บได้สูงสุดที่สามารถถือไว้ได้ภายในช่อง เช่น กองของแก่นเวทมนตร์จะเต็มที่ 20 ขวดของไอเทมนี้ ถ้าผู้เล่นมีแก่นเวทมนตร์ 21 ขวด กองถัดไปจะถูกสร้างขึ้นในกระเป๋าของผู้เล่น

[3]เด็กฝึกการตีขั้นรูปขั้นสูง : นักตีขึ้นรูปสามารถแบ่งออกได้หลายขั้นซึ่งเรียงตั้งแต่ เด็กฝึกการตีขั้นรูป  -> นักตี้ขึ้นรูป  -> มาสเตอร์นักตีขึ้นรูป  -> แกรนด์มาสเตอร์นักตีขึ้นรูป ขั้นพวกนี้จะแบ่งออกเป็นอีกระดับต่างกันคือ ขั้นพื้นฐาน -> ขั้นปานกลาง  -> ขั้นสูง

 

จากผู้เล่นแปล

เจ้าแห่งบลาๆ ถ้าใช้คำว่า Master ทับศัพท์นะครับผม

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด