ตอนที่แล้วReincarnation Of The Strongest Sword God ตอนที่ 39 – ศิลานักปราชญ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReincarnation Of The Strongest Sword God ตอนที่ 41 – ความปั่นป่วนในเมือง

Reincarnation Of The Strongest Sword God ตอนที่ 40 – วิหารตะวัน


Chapter 40 – วิหารตะวัน

 

เหนือทะเลสาบสีเลือดหมู ความเร็วของวอร์เตอร์เอเลเมนทัลได้สร้างคลื่นน้ำไปปะทะกับรังของลิตเติ้ลฟิชแมน คลื่นสูงเท่าตัวคนจนห่อหุ้มรังได้ทั้งหมด ทำลายกระท่อมไม้ขนาดเล็กบนมันไปเป็นจำนวนมาก ลิตเติ้ลฟิชแมนนับร้อยด้านในรังได้เข้าสู่ความบ้าจนสิ้นสติ พวกมันกรีดร้องและตะคอก พวกมันแต่ละตัวถืออาวุธขณะที่พวกมันโดดเข้าไปในน้ำและว่ายไปยังถ้ำที่อยู่ด้านล่างรัง

 

“การป้องกันแบบสองชั้น?” ซือเฟิงมองไปข้างหลังเขาด้วยความตกใจ

 

ราวกับว่าวอร์เตอร์เอเลเมนทัลนับร้อยนั้นไม่เพียงพอ ตอนนี้ยังมีลิตเติ้ลฟิชแมนนับร้อยตามมาจากข้างหลังอีก ด้วยจำนวนขนาดนี้ แม้แต่สองหรือสามกลุ่มผู้เล่นชั้นสูงก็ไม่ใช่จำนวนที่จะทำอะไรได้

 

ซือเฟิงไม่มีทางเลือกนอกจากการเพิ่มความเร็วของเขาและพุ่งเข้าไปในถ้ำ ยังคงมีด้ายแห่งความหวังสำหรับการรอดชีวิตอยู่

 

อย่างไรก็ตาม ความเร็วของซือเฟิงใต้น้ำนั้นช้ามาก มันไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับพวกดรูอิดที่มีตราประทับแปรรูป ซึ่งความเร็วการเคลื่อนที่ของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น 50% เมื่อยู่เคลื่อนที่ใต้น้ำ ในทางกลับกัน ความเร็วการเคลื่อนที่ของซือเฟิงลดลง 50%

 

42 หลา ... 28 หลา ... 20 หลา ... 10 หลา

 

เมื่อซือเฟิงอยู่ห่างจากทางเข้าถ้ำเพียงแค่ 5 หลาเท่านั้น วอร์เตอร์เอเลเมนทัลก็ตามซือเฟิงทัน พวกมันเหวี่ยงหมัดเย็นเฉียบขนาดมหึมาไปที่ศีรษะของซือเฟิง

 

การโจมตีจากวอร์เตอร์เอเลเมนทัลนำพาผลกระทบแช่เข็งซึ่งลดความเร็วการเคลื่อนที่มาด้วย ตราบเท่าที่พวกมันโจมตีซือเฟิง วอร์เตอร์เอเลเมนทัลจะติดอยู่กับเขาจนตาย

 

ซือเฟิงรีบหมุนกลับไปอย่างเร็วและใช้สกิลปัดป้อง บล็อกหมัดของวอร์เตอร์เอเลเมนทัลตัวแรก แล้วใช้เรี่ยวแรงอันมหาศาลของวอร์เตอร์เอเลเมนทัลเพื่อทำให้ร่างของซือเฟิงถอยกลับหลังค่อนข้างไกล อย่างไรก็ตาม วอร์เตอร์เอเลเมนทัลที่เหลือก็ยังพุ่งมาที่เขาด้วยเช่นกัน

 

“มันดูเหมือนว่าฉันจะต้องกลับไปที่เมือง” ซือเฟิงมองไปยังวอร์เตอร์เอเลเมนทัลนับร้อยข้างหน้าเขาแล้วรู้สึกหมดหนทาง

 

เมื่อซือเฟิงกำลังจะยอมแพ้ เขาได้ลอยเข้าไปทางถ้ำ ภายใน เขาเห็นผีรูปร่างมนุษย์ตะเวนอยู่ มันห่างจากซือเฟิงประมาณสามสิบหลา

 

ซือเฟิงได้ระวังกับสายลม ถ้าเขาตายก็จะตายแบบพยายาม อย่างน้อยที่สุดเขาจะได้ต้องข้อมูลมากขึ้นอีกเล็กน้องกับการเตรียมพร้อมในอนาคต เหตุนี้ ซือเฟิงได้ใช้ดาบสายลม ความเร็วของเขาเพิ่มแบบก้าวกระโดดครั้งใหญ่ เหมือนกับลมพายุ ซือเฟิงกวาดผ่านน้ำและพุ่งไปยังฝั่งของถ้ำ หนีจากการเงื้อมมือของวอร์เตอร์เอเลเมนทัลแบบทันเวลาพอดิบพอดี ขณะที่วอร์เตอร์เอเลเมนทัลปล่อยน้ำออกมา ความเร็วพวกมันจะลดลงอย่างเฉียบพลัน พวกมันจะไม่สามารถตามซือเฟิงที่พุ่งไปอย่างบ้าคลั่งได้เลย

 

หลังจากออกจากน้ำ ซือเฟิงได้พุ่งไปทางผีรูปร่างมนุษย์อย่างรวดเร็ว  ขณะที่ดาบอเวจีกำลังจะฟันผ่านคอของผี ทันใดนั้นซือเฟิงก็ค้นพบว่าผีที่โปร่งใสไม่ได้โจมตีเขาทันที (ให้นึกถึงผู้เสกวิญญาณแฮรี่พอตเตอร์นะครับ ผีพวกนี้อ่ะ)

 

ซือเฟิงได้หันปลายดาบของเขาออกไปทันที  ใบมีดเลื่อนผ่านด้านข้างของผี มันไม่ได้ดึงดูดความเกลียดชังของผี

 

“เกือบไปแล้ว” ซือเฟิงรู้สึกว่าเหงื่อเย็นไหลผ่านหลังของเขาเมื่อเขามองไปยังข้อมูลของผี

 

[ผู้กล้าหาญ,ฟลอยด์] (ขุนนางชั้นสูง)

เลเวล 25

HP 360,000/360,000

 

ถ้าหากซือเฟิงโจมตีไปยังผู้กล้าหาญคนนี้และดึงดูดความเกลียดชังของเขา แม้ว่าเขาจะมีร้อยชีวิตมันก็จะจบลงที่การตายของเขาอยู่ดี

 

ภายใน God's Domain ผู้กล้าหาญมีเพียงแค่สองฮีโร่เท่านั้นที่เกี่ยวกับความแข็งแกร่ง ตำแหน่งของพวกเขาภายในราชอาณาจักรกระทั่งสูงกว่ามาร์ควิซและเป็นอันดับสองรองจากดยุคเท่านั้น แม้ว่าตัวละครที่ยิ่งใหญ่ดังกล่าวจะตายและกลายเป็นผี เขาก็ยังคงเป็นมอนสเตอร์ระดับขุนนางที่ยิ่งใหญ่ เขาเป็นทรราชย์ท่ามกล่างเหล่ามอนสเตอร์

 

ปราศจากกลุ่มผู้เล่นชั้นสูงหนึ่งร้อยคน มันเป็นไปไม่ได้ที่ฆ่าผีตัวนี้

 

เป็นผู้พิทักษ์ของสถานที่แห่งนี้? ซือเฟิงมองไปยังผู้กล้าหาญฟลอยด์ คาดเดาอย่างเงียบๆในหัวใจของเขา

 

มักจะมีผู้คุ้มกันค่อยพิทักษ์อยู่รอบๆสถานที่ที่มีสมบัติ สำหรับลิตเติ้ลฟิชแมนและวอร์เตอร์เอเลเมนทัลด้านนอก พวกมันได้รับการพิจารณาว่าอย่างมากสุดก็เป็นแค่หมาเฝ้ายาม พวกมันไม่เหมาะสมที่จะพิทักษ์สมบัติที่สำคัญ

 

ซือเฟิงไม่กล้าที่จะอยู่อีกต่อไป ไม่ว่าอย่างไรก็ตามมันก็ยังมีมอนสเตอร์กลุ่มใหญ่ไล่ตามหลังเขามา เขารีบวิ่งไปยังบริเวณด้านในของถ้ำ

 

ถ้ำมีขนาดใหญ่มาก มันมีบันไดระหว่างชั้นที่นำตรงไปสู่ส่วนลึกของถ้ำและถ้าตามมันไป มันควรจะนำทางซือเฟิงไปสู่ศิลานักปราชญ์

 

เมื่อซือเฟิงอยู่ทางขว้างก่อนถึงบันใด ทะเลของพวกวอร์เตอร์เอเลเมนทัลกับลิตเติ้ลก็พุ่งมาทางเขา มันราวกับว่าพวกมันจะเกลียดชังเขาไปตลอดกาล

 

“สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำแบบเจ้ากล้าที่จะทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ด่างพร้อย? เตรียมตัวรับการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ซะเถอะ” สายตาของฟลอยด์จู่ๆก็ปะทุความโกรธ แล้วดึงเอาดาบใหญ่สีทองเข้มออกมาจากหลังของเขา ดาบได้พรั่งพรูความชั่วร้ายออกมาทำให้มันดูราวกับว่าเป็นเจ้านายของโลก

 

เมื่อฟลอยด์ยกดาบใหญ่ขึ้น อากาศรอบๆเริ่มกลายเป็นหนักอึ้ง ตามด้วยการที่ฟลอยด์ได้กระชากเสียงดังขณะที่แขนของเขาแกว่งดาบใหญ่ด้วยอำนาจทั้งหมดของพวกเขา ลมที่แข็งแกร่ง ตามมาด้วยดาบที่ประกายกวาดออกไปยังวอร์เตอร์เอเลเมนทัลและลิตเติ้ลฟิชแมนทั้งหมด มอนสเตอร์แต่ละตัวเปลี่ยนเป็นเถ้าธุลี และทางเข้าของถ้ำก็เปลี่ยนกองเศษธุลีทันที

 

"แข็งแกร่ง!' ซือเฟิงอุทานด้วยความตกใจ เขาได้ประมาณความแข็งแกร่งของผู้กล้าหาญต่ำเกินไปมาก เพียงดาบเดียวของฟลอยด์ก็กวาดล้างกลุ่มร้อยคนของผู้เล่นชั้นสูงเลเวล 30 ได้อย่างง่ายดายแล้ว มีเพียงกลุ่มปาร์ตี้สามร้อยคนที่อาจจะมีโอกาสในการต่อสู้

 

ไม่คาดฝันว่าวอร์เตอร์เอเลเมนทัลและลิตเติ้ลฟิชแมนไม่ได้กระทั่งสิทธิ์ในการเป็นสุนัขเฝ้ายาม พวกมันทั้งหมดถูกทำลายล้างในทันที

 

ซือเฟิงเช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผากของเขา โชคดีที่เขาเป็นมนุษย์และไม่ใช่สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ มิฉะนั้น จุดจบของเขาจะเป็นเหมือนกับของวอร์เตอร์เอเลเมนทัลและลิตเติ้ลฟิชแมนเหล่านี้

 

“ที่นี่เป็นสถานที่ที่เลวร้ายอย่างแท้จริง ฉันสามารถลงไปได้เท่านั้นในตอนนี้” ซือเฟิงมองที่ทางเข้าที่ทรุดตัวลง แม้แต่ไส้เดือนก็ไม่สามารถหาทางผ่านเศษซากได้

 

บันไดที่ทอดลงมามันเป็นบันไดรูปเกลียว กำแพงหินล้อมรอบมัน กำแพงหินที่ล้อมรอบมันนั้นก็น่าลุ่มหลงด้วยเวทย์ที่เป็นพื้นฐานแสงบางประเภทด้วยเช่นกัน มันทำให้ทั่วทั้งปล่องบันไดส่องสว่างขึ้น อย่างไรก็ตาม ปล่องบันไดนี้มีความยาวอย่างยิ่ง โชคดีที่มันไม่มีอันตรายที่นี่ หลังจากเดินมาครึ่งชั่วโมง สุดท้ายซือเฟิงก็มาถึงจุดสิ้นสุดของปล่องบันได ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโถงที่กว้างใหญ่ไพศาล

 

โถงมีขนาดเกือบเท่าทั่งทั้งสนามฟุตบอล และมันมองดูคล้ายกับเทวสถานประเภทต่างๆ ที่ทำขึ้นด้วยทองและหยก ทั้งสองด้านของโถงถูกแกะสลักด้วยภาพประกอบและข้อความอันมากมาย นอกจากนี้ยังมีแท่นบูชาส่วนที่ลึกที่สุดของเทวสถานด้วย เหนือแท่นบูชามีหีบสมบัติที่ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ ในแต่ละด้านของหีบสมบัติ มีรูปปั้นสองรูปที่ทำด้วยทอง ทั้งสองรูปถือดาบใหญ่ไว้ในมือของพวกเขา

 

ระบบ:ผู้เล่นได้ค้นพบวิหารตะวัน

 

“วิหารตะวัน?” มันเป็นครั้งแรกที่ซือเฟิงได้ยินชื่อนี้ ในชีวิตก่อนของเขา ไม่มีข้อมูลของวิหารตะวันอยู่เลย มันอาจจะเป็นเพราะผู้เล่นไม่เคยได้เปิดใช้งานมาก่อน ดังนั้นจึงไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับมันบนเว็บไซต์เลย อย่างไรก็ตามมองไปที่สถานการณ์ในตอนนี้ มันน่าจะอันตรายอย่างมาก

 

อย่างไรก็ตาม ซือเฟิงไม่ได้ประมาทมันขณะที่เขาเดินไปยังแท่นบูชาทองคำ เป้าหมายของเขาคือศิลานักปราชญ์และหีบทองคำก่อนที่ดวงตาของเขาจะมองค้างอยู่ที่ไอเทม ครู่ต่อมาซือเฟิงได้ก้าวเดินไปบนแท่นบูชา เขารู้สึกว่าชัดว่าความเย็นเยือกได้ซึมซาบเข้าไปทั่งร่างกายของเขา ความเย็นเยือกได้มากจากสองรูปปั้นทองค้ำมหึมา ซือเฟิงไม่รู้ว่าจะมีผลประเภทใดที่ตามมา ถ้าเขามุ่งหน้าต่อไปเพื่อเอาศิลานักปราชญ์

 

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้มีทางเลือกใดๆอีกต่อไป ทางเข้าของถ้ำได้ถูกปิดผนึกไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเขาสามารถตัดสินใจได้หลังจากคว้าศิลานักปราชญ์แล้วเท่านั้น

 

ซือเฟิงเปิดหีบสมบัติทองคำอย่างช้าๆ รัศมีแสงสีทองได้หลั่งไหลออกมาจากกล่องสมบัติ เป็นแสงสว่างไปทั่วทั้งวิหาร ต่อมารัศมีสีทองเริ่มจางลง มันจึงเผยให้เห็นถึงไอเทมทั้งสามภายในหีบ ซือเฟิงวางไอเทมด้วยความลังเลที่เป็นศูนย์

 

“บัดซบ ศิลานักปราชญ์จะจบลงในสภาพแบบนี้ได้ไงกัน?” ซือเฟิงมองไปที่หินสีแดงเลือดที่มีขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ เขารู้สึกผิดหวังอย่างมาก

 

[ศิลานักปราชญ์] (เสียหาย)

 

ไอเทมพิเศษระดับอีปิค (ดรอบหลังจากตาย)

 

ไอเทมศักดิ์สิทธิ์สำหรับการเล่นแร่แปรธาตุ ศิลานักปราชญ์ที่สามารถใช้ให้เปลี่ยนจากหินกลายเป็นทองได้ , คืนชีพคนจากความตาย , และมีการใช้ที่หยั่งไม่ถึงอีกมาก อย่างไรก็ตาม ศิลานักปราชญ์ได้รับเสียหายและถูกแบ่งออกเป็นห้าชิ้นโดย จักรพรรดิแห่งดาบอัศวิน แต่กระนั้นศิลานักปราชญ์ก็มีอำนาจที่มหาศาล ตราบเท่าที่ทั้งห้าชิ้นรวมตัวกัน มันจะสามารถฟื้นฟูความแข็งแกร่งทั้งหมดของมันได้

 

เปิดใช้งานผลกระทบ : เนื่องจากความเสียหาย ศิลานักปราชญ์ครอบครองน้อยกว่าหนึ่งในสิบของความแข็งแกร่งดั้งเดิมของมัน มันเป็นไปได้เฉพาะการใช้สำหรับการการแปลงแปรธาตุและการปรับแต่งธาตุเท่านั้น

 

แม้ว่าผลกระทบจะลดลงอย่างใหญ่หลวง ซือเฟิงก็ยังคงพอใจกับมัน คุณสมบัติทั้งสองเหล่านี้ทำให้ซือเฟิงสามารถบรรลุผลไปได้มาก

 

ส่วนอีกสองไอเทมที่เหลือ ได้แก่ [ดาบใหญ่ทองคำ] เลเวล 10 อาวุธทองวิจิตร ส่วนอีกชิ้นมันเป็นไอเทมม้วนคำภีร์เวทมนตร์ [เคลื่อนที่ฉับพลัน]

 

“เป็นสมบัติที่ยิ่งใหญ่โดยแท้จริง” ซือเฟิงมองไปยังดาบใหญ่ทองคำในมือของเขาด้วยความตื่นเต้นสุดขีด นอกเหนือจากอาวุธเวทมนตร์แล้ว มันเป็นไอเทมที่ดีที่สุดที่ผู้เล่นเลเวล 10 จะได้รับ ถ้าผู้เล่นเลเวล 10 สวมใส่ดาบใหญ่เล่มนี้ พวกเขาสามารถกลายเป็นไร้ผู้ต้านท่ามกลางผู้เล่นเลเวลเดียวกันแน่นอน

 

ขณะนี้สองรูปปั้นข้างๆได้สั่นสะเทือน ดวงตาของพวกมันปลดปล่อยแสงสีแดงออกมา สายตาของพวกมันค้างไว้ที่ซือเฟิง

 

ซือเฟิงใช้ม้วนคำภีร์เวทมนตร์เคลื่อนที่ฉับพลันโดยปราศจากความลังเล ตราประทับเวทมนตร์สีทองคำทันใดนั้นก็หุ้มอยู่รอบๆซือเฟิง คาถาในม้วนคำภีร์เวทมนตร์ใช้เวลาในการร่ายสามวินาที และมันก็มีความสามารถในการส่งผู้เล่นไปยังสถานที่ที่เลือก ม้วนคำภีร์เวทมนตร์นี้ล้ำค่าอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าแบบสำเนาไม่กี่อันทั่วทั้ง God's Domain การตายในสถานที่นี้มันเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับซือเฟิง

 

เช่นเดียวกับที่ซือเฟิงเกือบถูกฟันโดยรูปปั้นทองคำ แต่เขาก็ได้อันตรธานหายไปจากวิหารแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด