ตอนที่แล้วSH -- 8 พิสูจน์มาสิ !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSH – 10 แหล่งกำเนิดพลัง !

SH -- 9  ตัวร้ายที่แท้จริง ! 


SH -- 9  ตัวร้ายที่แท้จริง ! 

 

          เมื่อวิญญาณไม่เปิดเผยรูปร่างที่แท้จริง พวกมันจะดูเหมือนมนุษย์ธรรมดา มีเพียงสิ่งเดียวที่แตกต่างคือความรู้สึกไร้ชีวิตชีวาและความเศร้าหมองที่ปรากฏให้เห็น เหยี่ยซ่าวยางรู้สึกมีความสุขกับการมองดูดวงวิญญาณผู้หญิง แน่นอนว่าเธอมีรูปร่างงดงาม เหยี่ยซ่าวยางเฝ้าดูเมื่อเธอเข้าหาเสี่ยวหม่าอย่างช้าๆ ผู้ที่นอนกำลังนอนเหมือนสุขัขขึ้นอืดอยู่ เธอค่อยๆเอื้อมมือที่บางและยาวออกไปหาเขา เมื่อเธอกำลังคืบคลานเข้าหาเขา ทันใดนั้น เหยี่ยซ่าวยางได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน แล้วปาลูกประคำทองแดงใส่วิญญาณนั้น และลูกประคำพวกนั้นก็ไปติดตัวเป้าหมาย ที่ไหนก็ตามที่มีลูกประคำติดอยู่ จะมีควันสีขาวปรากฏขึ้น และผิวหนังสีน้ำนมของเธอก็เริ่มเน่าเปื่อยเป็นรอยน่าเกลียดเหมือนกับมีอสรพิษสีดำคลานขึ้นมาหาผิวหนังอันเน่าเปื่อยของเธอ

 

          วิญญาณของเธอวนเวียนไปรอบๆและส่งเสียงเสียงกรี๊ดร้องออกมาอย่างทุนรทุราย เธอจ้องไปยังคนที่ทำแบบนี้กับเธอด้วยดวงตาอาฆาตแค้น ทุกตารางนิ้วของผิวหนังเธอเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ร่างกายของเธอพองออกคล้ายกับขนมปังที่ถูกแช่ไว้ในน้ำเป็นเวลานาน ใบหน้าของเธอที่เคยงดงามราวกับนางฟ้า เริ่มกะเทาะออก ริมฝีปากของเธอเริ่มปริแตกในขณะที่ผิวหนังของเธอละลายเผยให้เห็นกระดูกโหนกแก้มและฟัน....

 

          ความตั้งใจของเธอในตอนแรกไม่ได้สนใจเหยี่ยซ่าวยางเลย แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อลูกประคำทองแดงมาติดเธอ มันก็ช่วยไม่ได้ที่ทำให้ต้องเปิดเผยรูปลักษณ์ตอนเธอตาย เพราะว่าลูกประคำทำให้พลังที่เธอบ่มเพาะที่เก็บสะสมมานานเริ่มเหือดหายไป

 

          ‘หืม เธอจมน้ำตายอย่างนั้นเหรอ’ เหยี่ยซ่าวยางพูดกับตัวเอง เขามองดูด้วยท่าทีสงบราวกับว่าการเห็นเหตุการณ์แบบนี้เป็นเรื่องปกติ จากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ที่เขาไปกับอาจารย์ เขาได้เห็นดวงวิญญาณ 800 – 1000 ตัว ซึ่งพวกนั้นล้วนมีรูปร่างน่ากลัวมากกว่าตัวที่ลอยอยู่ข้างหน้าเขา เขาไม่รู้สึกกลัวสิ่งเหล่านี้มานานมากแล้ว

 

          เมื่อเธอมองไปที่เด็กหนุ่มที่ไม่มีความเกรงกลัวเธอเลย เธอกรีดร้องออกมา แล้วยื่นมือออกไปพร้อมทั้งกระโจนเข้าใส่เขา

 

          เหยี่ยซ่าวยางพึมพำบทสวดในขณะที่เขายืนอยู่นั้น เขาได้ขยับมือขวาของเขาเล็กน้อย เขาสามารถหลบหลีกการกระโจนเข้ามาของวิญญาณร้ายได้ทันทีและได้ต่อยไปยังหน้าของเธอ เธอกระเด็นลอยกลางอากาศราวกับว่าเธอบินอยู่ เขาใช้นิ้วเขาแทนพู่กันแล้วเขียนตัว  ‘ซือ’ ตัวใหญ่ๆบนหน้าของเธอ หลังจากนั้นเขาได้บอกดวงวิญญาณว่า “อย่าขยับ !”

 

          ปกติแล้วดวงวิญญาณจะไม่ชอบการยืนนิ่งๆ แต่ตอนนี้เขาได้ควบคุมเธอไว้หมดแล้ว แล้วตอนนั้นเองที่เธอเพิ่งตระหนักได้ว่าเธอได้พบคนที่มีพลังจริงๆเข้าให้แล้ว ก่อนที่เขาจะทำร้ายเธอ เธอเปลี่ยนท่าทีทันใด เธอทำตัวให้น่าสงสารแล้วพูดขอร้องเขา “ค-คุณ ด-ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย  ฉันยังมีความคับข้องใจอยู่!” ดูเหมือนว่าเธอลืมไปแล้วว่ารูปร่างที่แท้จริงของเธอได้เผยออกมาแล้ว แล้วยิ่งเธอแสดงท่าทางแบบนั้นใส่เขา มันยิ่งทำให้เธอน่าเกียจมากกว่าเดิม

 

          สายตาของเหยี่ยซ่าวยางไม่ได้เปลี่ยนไปเลย อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามองไปที่เธออีกครั้ง ขนแขนของเขาลุกทันทีด้วยความรังเกียจ  เขาขมวดคิ้วและบอกเธอให้เธอเงียบ เขาเดินไปยังหน้าเตียงของเสี่ยวหหม่าดวงวิญญาณคนนี้เอาพลังหยางจากเสี่ยวหม่าไปบางส่วน นั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาหลับลึกขนาดนี้ เหยี่ยซ่าวยางปลุกเสี่ยวหม่าทันทีด้วยการเหวี่ยงขาไปที่ตัวเขา ซ่านหยางตะโกนเรียกเสี่ยวหม่าพร้องทั้งแนบฝ่าเท้าประทับกลางหลังของเสี่ยวหม่า “ตื่นได้แล้วไอ้อ้วนเอ้ย!”

 

          เสี่ยวหม่าที่นอนอยู่ในที่สุดก็ตื่นขึ้น แน่นอนว่าเมื่อเขาเริ่มที่จะสังเกตเห็นกลุ่มควัน เขาได้เห็นด้านหลังของหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าเตียงนอนของเขา เมื่อแสงสลัวที่สาดส่องมาประกอบกับวิญญาณนั้นหันหลังให้เขา ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยเห็นอะไรเลย เขาคิดเพียงแต่ว่า ทำไมถึงมีผู้หญิงมาโผล่ที่หอชายล้วนได้? หลังจากนั้นเขาได้ตะโกนขึ้น “คุณมาจากไหนกัน!! ซ่าวหยาง นี้เป็นหอชายล้วนนะ! ห้ามนายพาผู้หญิงเข้ามาในนี้!!!” เขาตะโกนออกมาในขณะที่เขานำผ้าห่มมาคลุมตัวเอง เหยี่ยซ่าวยางไม่เสียเวลาอธิบายให้เขาเข้าใจ ในทางกลับกันเขากลับนำตัววิญญาณหันหน้าเข้าหาเสี่ยวหม่า !

 

          เสี่ยวหม่ามองไปที่ดวงวิญญาณที่มีรูปร่างหน้าตาน่าเกลียดนี้ ใช้เวลาไม่กี่วินาที เขาก็รับรู้ได้ทันทีว่าอะไรยืนอยู่หน้าเขา สมองของเขาประมวลผลได้ว่าข้างหน้าของเขาคือ...... เขาก็อ้าปากค้าง “ผ-ผ-ผี!!!!!!”

 

          เหยี่ยซ่าวยางรีบปิดปากของ เสี่ยวหม่าทันที ตอนนี้พวกเขาอยู่ในหอ เขาไม่ต้องการให้ใครมาที่นี้แล้วขัดจังหวะเขา

 

          “นายไม่ต้องการให้ผมไล่เขาไปเหรอ? ไม่เอาน่า หรือว่านายชอบมัน?”

 

          “ม-ไม่ ข-ขอบคุณ ผมเชื่อในความสามารถของนาย ร-รีบๆเลย! ล-ไล่เธอไปเร็วๆ ผ-ผมก-กลัว!”

 

          ใครที่พบวิญญาณครั้งแรกก็มักจะมีปฏิกิริยาแบบนี้กันทุกคน เหยี่ยซ่าวยางไม่สนใจอาการกลัวของ เสี่ยวหม่าเขากลับมาให้ความสนใจกับวิญญาณแทน เขาหันหลังกลับไปแล้วเช็ดตัวอักษรที่เขาเขียนไว้บนหน้าดวงวิญญาณแล้วติดเครื่องรางอื่นลงไปแทนลงบนคอของวิญญาณ ทำให้วิญญาณสงบลง “กลับคืนร่างเดิมเร็วเข้า”

 

          ดวงวิญญาณนั้นหมุนรอบตัวเองหนึ่งครั้ง หลังจากนั้นเธอก็กลับมาเป็นสาวสวยอีกครั้ง เสี่ยวหม่าตกใจมากกว่าเดิม

 

          ดวงวิญญาณนั้นคุกเข่าลงแล้วขอบคุณเหยี่ยซ่าวยางด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร

 

          “ความขับข้องใจของเธอไม่ได้มีมากถึงขนาดทำให้กลายเป็นวิญญาณร้ายได้ ฉันจะให้โอกาสเธออีกครั้ง ถ้าไม่โกหก ผมจะสวดภาวนาให้แล้วทำให้ดวงวิญญาณเธอไปสู่สุขคติ ตกลงรึเปล่า?”

 

          เธอหลั่งน้ำตาอีกครั้งพร้อมทั้งเล่าเรื่องราวในอดีตอย่างช้าๆ “ฉันชื่อว่า ฟางเดี๋ยน ฉันเป็นนักเรียนจากคณะศิลปศาสตร์จาดหมาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มีอยู่คืนหนึ่งฉันไปเดินเล่นตอนกลางคืนแล้วฉันได้เจอกับหลุมศพมากมายที่ภายในหลุมนั้นเต็มไปด้วยน้ำ วิญญาณร้ายที่อยู่ที่นั้นได้ทำให้ฉันจมน้ำตายอยู่หลุมที่น่ารังเกียจแห่งนั้น วิญญาณร้ายนั้นจะทำร้ายฉันโดยการดูดกลืนพลังหยางของฉันไป ถ้าฉันไม่ทำตามคำสั่งของมันมันขู่ว่าจะฆ่าครอบครัวของฉันทิ้งซะหากไม่ยอมทำตามเธอสั่ง ถ้าฉันไม่สามารถเอาพลังหยางจากเจ้าอ้วนนี้ได้.......ครอบครัวฉันต้องตาย !  ฉ-ฉ.. ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้เลย อ-อาจารย์ ด-ได้โปรด ฉันขอร้อง!! ช่วยฉันด้วย!!”

 

          มันเป็นไปตามที่เขาคิดเลยเหยี่ยซ่าวยางยังคงเงียบไม่พูดอะไร....เขากำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องของวิญญาณดวงนี้

          เมื่อเหยี่ยซ่าวยางจ้องไปยังวิญญาณ สายตาของเขาอ่อนลงเล็กน้อย “ตกลง ไม่ต้องห่วงอะไรแล้วนะ ผมจะไม่ทำให้คุณเจ็บปวดมากกว่านี้ นี้เป็นเครื่องราง มันจะพาคุณไปปรภพ แล้วสิ่งนี้จะทำให้คุณสามารถอยู่บนโลกมนุษย์นี้ได้นานพอสมควร !”

 

          วิญญาณหญิงสาวคุกเข่าลงและกล่าวขอบคุณเขาไม่หยุด.......

 

          เหยี่ยซ่าวยางนำเครื่องราง พู่กัน และหมึกแดงออกจากกระเป๋า เขาเขียนเหตุผลสำหรับการขอให้เธออยู่บนโลกมนุษย์นี้ต่อไป และปล่อยยันต์ให้ลอยไปทางหน้าต่าง มันลอยออกไปนอกหน้าต่างอย่างช้าๆ

 

          “รายงานไปที่ปรภพทันที อย่าช้า!”

 

          วิญญาณหญิงสาวคุกเข่า ขอบคุณเขา และกลายร่างเป็นควันสีขาวหายไปพร้อมกับเครื่องราง เมื่อกลุ่มควันเหล่านี้หายออกไปข้างนอกหน้าต่างหมดแล้ว เหยี่ยซ่าวยางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ และเดินไปที่โต๊ะ เขาคว้ากระป๋องเบียร์ขึ้นมาดื่มจากนั้นเขามองไปที่เสี่ยวหม่าที่ตกอยู่ในอาการประหลาดใจอยู่และพูดขึ้น “นายมีอะไรจะถามผมรึเปล่า?”

 

          “นาย... นายเป็นใคร?” เสี่ยวหม่าที่กำลังตกตะลึงอยู่ร้องถามขึ้น

 

          “ผมเป็นนักบุญเต๋าจากนิกายเหม่าซาน ผมมาที่นี้เพื่อมาเรียนและกำจัดปีศาจร้ายรวมไปถึงวิญญาณร้าย”

 

 

          ถ้าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ความฝันหรือภาพหลอน ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ เสี่ยวหม่าจะไม่เชื่อเขา เขาถอนหายใจและพูดขึ้น “นายชนะแล้ว นายชนะ...”

 

          หลังจากนั้น เหยี่ยซ่าวยางเดินไปตบไหล่เขาเบาๆ แล้วพูดว่า “ไปกัน พาฉันไปหาบึงที่เก็บดวงวิญญาณร้ายกัน ผมจะไปสะสางเรื่องนี้ !”

 

          เสี่ยวหม่ามองมาที่เขาด้วยอาการตกใจ “ตอนนี้?”

 

          “ใช่ ตอนนี้เลย ก่อนที่วิญญาณร้ายจะเริ่มสงสัยและอาจจะหนีไปก็ได้ เมื่อพวกเขาพบว่าพวกเขาไม่สามารถควบคุมวิญญาณหญิงสาวได้แล้ว เราต้องจับมันส่งให้โลกปรภพคืนนี้”

 

          เสี่ยวหม่าถามขึ้นด้วยความลังเล “มันจะไม่มีอันตรายใดๆเกิดขึ้นกับผม ใช่รึเปล่า?”

 

          “งานง่ายๆ ถ้านายไม่รีบตกลงกันตอนนี้ วิญญาณร้ายอาจจะย้อนกลับมาหานาย ถึงตอนนั้น ผมอาจจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆนาย เพื่อช่วยนายอีกแล้ว”

 

          ถึงแม้ว่า เสี่ยวหม่าจะกลัวการกลับไปที่แห่งนั้น แต่มันจะน่ากลัวมากกว่านี้ถ้าหากวิญญาณนั้นมาหาเขาที่นี่ หลังจากที่เขารู้ถึงความสามารถของเหยี่ยซ่านหยางในการปราบวิญญาณร้ายแล้ว ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเขาคือการพาเหยี่ยซ่านหยางไปที่แห่งนั้น

 

          ในขณะที่พวกเขากำลังเดินไปยังที่แห่งนั้น สุดท้ายเสี่ยวหม่าได้เอ่ยถามคำถามบางคำถามกับเหยี่ยซ่าวยาง ....

 

ติดตามตอนต่อไป............

         

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด