ตอนที่แล้วTXV –  97 หนึ่งการเคลื่อนไหว  หนึ่งศพ !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV –  99 คุณพ่อ !

TXV –  98 คุกเข่าต่อหน้าเพื่อนผมซะ !


TXV –  98 คุกเข่าต่อหน้าเพื่อนผมซะ !

          “เดินไป!” ในไซต์ก่อสร้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจผลักฮวงยี่หู่ให้เร่งเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง

 

          ฮวงยี่หู่หันไปถลึงตาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ “กูจะจำหน้าพวกมึงเอาไว้ ถ้ามึงกล้าผลักกูอีกครั้งล่ะก็ กูจะ…”

 

          ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบประโยค เจียงหยูยี่ก็ตบหัวเขาจากทางด้านหลัง

 

          “ฮวงยี่หู่ มาถึงขั้นนี้แล้วคุณยังกล้าข่มขู่เจ้าหน้าที่ตรวจอีกหรือ? คุณนี่มันหน้าด้านจริงๆเลยนะ ถ้าคุณยังไม่หยุดพูดมากฉันจะให้เจ้าหน้าตำรวจเพิ่มข้อหาให้คุณ!”

 

          ฮวงยี่หู่จ้องเจียงหยูยี่อย่างไม่พอใจแต่เขาก็ยอมปิดปากเงียบ

 

          เจียงหยูยี่ผลักฮวงยี่หู่และทำให้เขาสะดุดล้มลงไปข้างหน้า ลูกน้องทั้งหมดของเขาต่างก็ล้มลงบนพื้นรวมกับลูกน้องสี่คนเสียชีวิต ลูกน้องคนที่เหลือที่ยังรอดชีวิตยังคงนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว

 

          หลงบิงเป็นคนฆ่าลูกน้องทั้งสี่คนนั้นและไว้ชีวิตอีกคนหนึ่งด้วยเหตุผลง่ายๆคือ เพื่อให้เขาเป็นคนให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำผิดกฏหมายฮวงยี่หู่

 

          “ทำไมคุณถึงมาช้านักล่ะ?” เซี่ยเหล่ยบ่น

 

          เจียงหยูยี่กลอกตามองเซี่ยเหล่ย “คุณก็ดูเอาเองสิว่านี่มันง่ายตรงไหนกัน นี่เป็นข้อตกลงของเธอ เธอเป็นคนรับผิดชอบในส่วนนี้และฉันก็รับผิดชอบในการจับกุมฮวงยี่หู่เท่านั้น คุณควรไปบ่นใส่เธอสิไม่ใช่ฉัน”

 

          “เอาเถอะ ผมขอยืมตัวฮวงยี่หู่สักครู่หนึ่งได้ไหม?” เซี่ยเหล่ยพูด “ผมต้องการคุยกับเขาแบบส่วนตัว”

 

          เจียงหยูยี่รู้สึกลังเล เธอดึงตัวเซี่ยเหล่ยมาด้านข้างและกระซิบถามใกล้หูเขา “คุณคิดจะทำอะไร? จะทำร้ายเขางั้นหรือ? นั่นมันขัดกับขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนะ”

 

          “ผมพนันกับฮวงยี่หู่ไว้ ถ้าผมได้เป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้ เขาจะต้องคุกเข่าและก้มลงขอขมาหม่าเสี่ยวอันสามครั้ง หม่าเสี่ยวอันถูกลูกน้องของฮวงยี่หู่ฆ่า ผมแค่อยากให้ดวงวิญญาณของหม่าเสี่ยวอันจากไปอย่างสงบสุข”

 

          “ได้ ฉันจะให้เวลาคุณสักสองสามนาที แต่คุณห้ามทำร้ายเขานะ…อืม แต่ถ้าคุณจะทำ ก็อย่าทำร้ายใบหน้าเขาล่ะ คุณเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม?” เจียงหยูยี่พูด

 

          เซี่ยเหล่ยตบไหล่เจียงหยูยี่เบาๆ “ขอบคุณมาก”

 

          “ขอบคุณอะไร?” เจียงหยูยี่พูด “หม่าเสี่ยวอันเองก็เป็นเพื่อนฉันเหมือนกัน นี่มันเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับการที่ดวงวิญญาณของเขาจะได้รับการปลดปล่อยและจะได้จากไปอย่างสงบ”

 

          สองนาทีหลังจากนั้นเซี่ยเหล่ยก็พาตัวฮวงยี่หู่ไปยังจุดสูงสุดของไซต์ก่อสร้าง นี่เป็นจุดอับสายตาและคนภายนอกจะไม่สามารถมองเห็นได้ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นที่นี่

 

          “คุณมีแผนจะทำอะไร?” ฮวงยี่หู่รู้สึกกระวนกระวายใจแต่เขาก็ยังปากดี “ถ้าคุณทำร้ายร่างกายผม คุณและเจ้าหน้าที่หญิงคนนั้นจะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้! ผมจะจ้างทนายที่ดีที่สุดในประเทศและฟ้องร้องพวกคุณ!”

 

          เซี่ยเหล่ยไม่พูดอะไร เขาเดินวนรอบๆตัวฮวงยี่หู่ และเดินไปข้างหน้าเพื่อหยิบแผ่นไม้กระดานขึ้นมาและเขียนลงไปว่า ‘หลุมฝังศพของหม่าเสี่ยวอัน’ และออกแรงหักไม้กระดานแผ่นนั้นให้ปักลงบนพื้นตรงหน้าฮวงยี่หู่

 

          ฮวงยี่หู่เข้าใจทันทีว่าเซี่ยเหล่ยต้องการอะไรเมื่อเขาเห็น ‘หลุมฝังศพของหม่าเสี่ยวอัน’ รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา “อะไรน่ะ? คุณยังยึดติดกับเดิมพันนั้นอยู่อีกหรือ? คุณอยากให้ผมคุกเข่าและขอขมาเขางั้นหรือ? ฝันไปเถอะ! ผมคือฮวงยี่หู่ที่อยู่เหนือกว่าทุกคนเสมอ และไม่เคยคุกเข่าให้กับใครหน้าไหนทั้งนั้น!”

 

          เซี่ยเหล่ยก้าวไปข้างหน้าและปล่อยหมัดใส่หน้าท้องของฮวงยี่หู่

 

          ฮวงยี่หู่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและก้มตัวลง เลือดไหลออกมาจากมุมปาก แต่ดวงตาของเขากลับเหมือนกับดวงตาของสัตว์ร้าย มีแต่ความเกลียดชังและไม่มีความหวาดกลัวใดๆ

 

          “ถุย!” ฮวงยี่หู่ถ่มน้ำลายที่เต็มไปด้วยเลือดลงบนพื้น “คุณรู้ไหมว่าใครเป็นคนคอยสนับสนุนผม พวกเขาไม่มีทางยอมให้มีเกิดอะไรขึ้นกับผมแน่ ผมจะต้องออกจากที่นี่ได้ในเร็วๆนี้ และคุณจะต้องเสียใจกับทุกๆเรื่องที่คุณทำ!”

 

          เซี่ยเหล่ยต่อยหน้าท้องเขาอีกครั้ง

 

          ฮวงยี่หู่ก้มลงกุมหน้าท้องของเขาเอาไว้อย่างเจ็บปวด แต่อย่างไรก็ตามเขายังคงส่งเสียงขู่คำรามใส่เซี่ยเหล่ย

 

          “ฆ่าผมซะเลยสิถ้าคุณกล้า! มาฆ่าผมเลย!”

 

          เซี่ยเหล่ยปล่อยหมัดไปต่อยที่แก้มของฮวงยี่หู่

 

          ฮวงยี่หู่หลับตาลงและไม่ยอมหลบ

 

          หมัดของเซี่ยเหล่ยอยู่ห่างจากศีรษะของฮวงยี่หู่เพียงแค่หนึ่งเซ็นติเมตรเท่านั้น และทันใดนั้นเขาก็หัวเราะออกมา “คุณกล้าหาญสมกับที่เป็นลูกผู้ชายมาก ผมจะฆ่าคุณแน่ แต่ผมต้องบอกคุณไว้ก่อนนะว่าถ้าคุณไม่ยอมคุกเข่าขอขมาเพื่อนผม ลูกชายคุณจะต้องชดใช้แทน ลูกชายคุณเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นใช่ไหมล่ะ? ผมแทบไม่ต้องทำอะไรด้วยตัวเองด้วยซ้ำไป ผมก็แค่ต้องบอกศัตรูของคุณว่าลูกชายคุณหน้าตาเป็นยังไง และคนพวกนั้นก็จะแก้แค้นแทนผมเอง คุณไม่คิดอย่างนั้นหรือ?”

 

          “มึงกล้าท้าทายกู !” ฮวงยี่หู่ดูเหมือนกับสัตว์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ

 

          เซี่ยเหล่ยหัวเราะอย่างเย็นชา “คุณไม่มีทางชนะแม้ว่าจะออกไปจากที่นี่ได้ คุณคิดว่าผมจะกลัวคุณงั้นหรือในเมื่อคุณถูกขังอยู่ในคุก? คุณอยากให้ลูกชายของคุณเป็นยังไง? คุณไม่กลัวว่าคนอื่นๆจะไปทำร้ายลูกชายคุณงั้นหรือ? ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย คุกเข่าขอขมาเพื่อนผมและสำนึกผิดซะ ถ้าไม่อย่างนั้นผมเองก็ไม่รับประกันเหมือนกันว่าลูกชายคุณจะมีจุดจบเหมือนคุณ !”

 

          “คุณ!” ดวงตาของฮวงยี่หู่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

 

          “ดูเหมือนคุณจะไม่ยอมคุกเข่าสินะ โอเค ผมคงต้องไปตามหาความยุติธรรมจากลูกชายของคุณ” เซี่ยเหล่ยพูดและเตรียมตัวจะเดินออกไป

 

          “เดี๋ยวก่อน!” ฮวงยี่หู่เรียก เขาลังเล แต่ทันใดนั้นก็ยอมคุกเข่าลงต่อหน้า ‘หลุมฝั่งศพของหม่าเสี่ยวอัน’ และก้มหัวลงขอขมาสามครั้ง เขาพูดในขณะที่โขกศีรษะลงกับพื้น

 

          “หม่าเสี่ยวอัน ผมขอโทษ ผมมาคุกเข่าให้คุณ ผมมาขอขมาคุณ ผมไม่ได้จะขอให้คุณอโหสิให้ผม ผมแค่อยากให้คุณไว้ชีวิตลูกชายผม”

 

          คำพูดเหล่านี้ถูกพูดต่อหน้าหม่าเสี่ยวอันแต่มันกลับหมายถึงเซี่ยเหล่ย

 

          เซี่ยเหล่ยมองขึ้นไปบนท้องฟ้า มันเป็นสีน้ำเงิน กลุ่มก้อนเมฆบนท้องฟ้าดูเหมือนใบหน้าของคนและเขาก็รู้สึกว่ามันเหมือนกับใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้มของหม่าเสี่ยวอัน

 

          ตำรวจมานำตัวฮวงยี่หู่ ลี่หยู่หลาน ลูกน้องของเขาและศพหมดออกไป เซี่ยเหล่ยก็เช่นกัน เขาเข้ามาในรถตำรวจของเจียงหยูยี่เพื่อไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจ

 

          บรรดาพนักงานของอุตสาหกรรมอาชาสายฟ้า ออกมายืนและมองรถตรวจขับออกไป ...

 

          “ผู้หญิงที่ใส่เสื้อคลุมคนนั้นเป็นใคร?” หยินฮ่าวดูเหมือนจะยังอึ้งๆ เขายังคงนึกถึงฉากที่หลงบิงฆ่าผู้ชายสี่คนนั้นอย่างรวดเร็ว เขาคิดออกเพียงคำเดียวเท่านั้นที่จะสามารถให้นิยามเธอได้ ‘โครตเจ๋งเลย !’

 

          “ใครจะไปรู้ ผมขอแนะนำให้คุณเลิกคิดเรื่องนี้” ฮานบั๋วยิ้ม “เธอเป็นคนของประธานเซี่ย ไม่ใช่คุณ”

 

          “คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่?” หลางซือเหยาขัดจังหวะการสนทนาของสองหนุ่ม “พวกคุณไม่มีงานทำกันแล้วหรือ? พวกคุณออกแบบกันเสร็จแล้วหรือไง?”

 

          ฮานบั๋วและหยินฮ่าวหยุดคุยกันและกลับไปทำงาน

 

          หลางซือเหยาพึมพำกับตัวเอง “ผู้หญิงคนนั้นไม่แม้แต่จะกระพริบตาด้วยซ้ำตอนที่ยิงคนพวกนั้น ใครจะกล้าแต่งงานกับผู้หญิงแบบนั้นกัน? ใครก็ตามที่คิดจะแต่งงานกับเธอต้องเป็นคนที่โง่มากแน่ๆ”

 

          ภายในรถตำรวจ ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังมองมาที่เซี่ยเหล่ยพร้อมกับส่งยิ้มให้เขา

 

          “เหล่ย ตอนนี้ฉันได้จัดการเรื่องสำคัญให้คุณเสร็จแล้ว คุณจะขอบคุณฉันยังไงดี?”

 

          เซี่ยเหล่ยหันมามองเจียงหยูยี่ “ผมหาคดีที่ดีมากมาให้คุณทำขนาดนี้แล้ว คุณยังขอให้ผมขอบคุณคุณอีกหรือ?”

 

          “ฉันได้ยินมาว่าคุณจะเลี้ยงอาหารคุณหลงบิง เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?” เจียงหยูยี่เปลี่ยนประเด็นอย่างรวดเร็ว “ฉันไปด้วยได้ไหม?”

 

          “ถ้าคุณอยากมาก็มาเถอะ ที่ต้องทำก็แค่เพิ่มจำนวนจานและตะเกียบเอง” เซี่ยเหล่ยพูด

 

          เจียงหยูยี่นิ่งคิดนิดหน่อยและส่ายหน้า “วันนี้ฉันไม่ไปแล้วดีกว่า ไว้ทำอาหารให้ฉันกินวันหลังแล้วกัน”

 

          “ผมจะหาเวลาว่างเลี้ยงคุณแล้วกัน” เซี่ยเหล่ยพูด

 

          “อย่าใจแคบไปหน่อยเลยน่า ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงยังหาแฟนไม่ได้” เจียงหยูยี่จ้องหน้าเซี่ยเหล่ย

 

          ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งที่นั่งข้างหลังก็ตะโกนมา “หัวหน้า ไฟแดง!”

 

          เจียงหยูยี่รีบเหยียบเบรค ทำให้ทุกคนในรถพุ่งไปข้างหน้าและศีรษะชนกับกระจกรถ

 

          ในสถานีตำรวจทางเหนือ เจียงหยูยี่ได้บันทึกการให้ปากคำของเซี่ยเหล่ยด้วยตัวเอง

 

          หลังจากพวกเขาสอบปากคำเสร็จสิ้น เซี่ยเหล่ยก็ถาม “ฮวงยี่หู่ถูกพาตัวไปไว้ที่ไหน?”

 

          “อยู่ในห้องสอบสวน เจ้าหน้าที่บางคนกำลังบันทึกคำให้การณ์ของเขาอยู่ เราจับคนมามากแต่ที่นี่มีเจ้าหน้าที่สอบสวนน้อย ที่จริงฉันไม่อยากจะบันทึกคำให้การณ์ของคุณด้วยตัวเองหรอกนะ อีกอย่างการเห็นหน้าคุณมันก็ทำให้ฉันหงุดหงิด” เจียงหยูยี่พูด

 

          “พาผมไปดูที่นั่นหน่อยสิ” เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมรอยยิ้ม

 

          เจียงหยูยี่กลอกตามองเขา “ตามฉันมาสิ”

 

          เซี่ยเหล่ยมาถึงประตูห้องสอบสวนกับเจียงหยูยี่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกับเธอว่าทนายของ ฮวงยี่หู่มาหาเขา และกำลังพูดคุยกับฮวงยี่หู่อยู่ในห้องสอบสวนในขณะนี้

 

          “พวกเขากำลังคุยอะไรกันอยู่ในนั้น” เจียงหยูยี่ถามขึ้นมา

 

          “ทนายความคนนั้นเขาเก่งมาก เขาขอใช้สิทธิ์ให้เราหยุดการเฝ้าระวังตัวผู้ต้องหาตอนที่เขาเดินทางมาถึง พวกเราเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคุยอะไรกันอยู่ภายในห้องนั้น” เจ้าหน้าที่พูด

 

          เจียงหยูยี่ขนาดคิ้ว “แล้วคุณก็ทำตามที่เขาบอก?”

 

          “เราลักลอบสังเกตุการณ์ครั้งหนึ่ง แต่ทนายคนนั้นออกมาจากห้องเพื่อเจรจาต่อรอง และเขายังบอกอีกว่าจะเรียกผู้กำกับซูมา ดังนั้นเราจึงต้องหยุดการเฝ้าระวังตัวผู้ต้องหา” เจ้าหน้าที่พูด

 

          ในขณะที่เจียงหยูยี่และลูกน้องของเธอกำลังคุยกัน ตาซ้ายของเซี่ยเหล่ยก็ค่อยๆทำงานอย่างเงียบๆ ในการมองเห็นของเขาตอนนี้ ผนังของห้องสอบสวนได้หายไป และเขาสามารถมองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายใน

 

          ผู้ชายวัยกลางคนกำลังคุยกับฮวงยี่หู่ เขาสวมชุดสูทที่ดูดีและเรียบร้อย เซี่ยเหล่ยไม่เคยเห็นคนๆนี้ แต่ฮวงยี่หู่ดูเหมือนจะให้ความเคารพแก่ชายคนนี้มาก เซี่ยเหล่ยกำลังคิดว่า ชายคนนี้อาจจะถูกคนตระกูลกู๋ส่งมาเพื่อช่วยเหลือฮวงยี่หู่?

 

          สายตาของเซี่ยเหล่ยจ้องไปที่ปากของพวกเขาเพื่ออ่านบทสนทนาเหล่านั้น

 

          “ได้โปรดบอกเจ้านายว่าขอให้เขาไม่ต้องกังวล ผมจะไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ” ฮวงยี่หู่พูด

 

          “นั่นคือการคิดที่ถูกต้อง เจ้านายจะไม่ทอดทิ้งคุณ ไม่ต้องกังวลและขอให้คุณอดทนอยู่ในนี้ไปสักพัก มันไม่นานนักหรอกก่อนที่คุณจะได้ออกไปจากที่นี่” ชายวัยกลางคนพูด

 

          “ขอบคุณมากครับ” ฮวงยี่หู่พูดอย่างเคารพ

 

          “เจ้านายสั่งให้ผมมาถามว่า มีข้อมูลอะไรที่คุณเก็บเอาไว้แล้วมันเชื่อมโยงไปถึงตระกูลกู๋อยู่ในข้อมูลที่เซี่ยเหล่ยได้เอาไปเปิดเผยหรือเปล่า?” ชายวัยกลางคนสอบถาม

 

          ฮวงยี่หู่ดูท่าทางกระวนกระวายและพูด “ไม่ ไม่มีจริงๆ ผมสาบานได้ ข้อมูลทั้งหมดที่เซี่ยเหล่ยเอาไปเปิดเผยคือข้อมูลที่ผมได้ติดสินบนเจ้าหน้าที่เอาไว้ ผมเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้เพื่อใช้ข่มขู่พวกเขาในอนาคตเท่านั้น”

 

          “ตอนนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนที่คุณเคยร่วมงานด้วยกำลังอยู่ในอันตราย เจ้าหน้าที่บางคนก็มีความเกี่ยวข้องกับเจ้านาย ดังนั้นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้มันทำให้เจ้านายของเราหนักใจ หลังจากนี้จะมีใครกล้ามาทำงานกับเรา?” ชายวัยกลางคนพูด

 

          “ผม…ผมทำให้เจ้านายลำบาก” ฮวงยี่หู่กังวลเป็นอย่างมาก

 

          “ตอนนี้เราต้องปล่อยให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ไปก่อน ไม่ต้องห่วง เจ้านายจะรับประกันความปลอดภัยของคุณ ทำงานให้ดีหลังจากคุณออกไปจากที่นี่ อย่าทำให้เขาผิดหวังอีก” ชายวัยกลางคนพูด

 

          ฮวงยี่หู่ถอนหายใจ “ผมจะพยายาม ได้โปรดบอกหัวหน้าว่าผมจะตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อชดใช้ให้กับเขา หลังจากผมออกไปจากที่นี่”

 

          รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏขึ้นที่มุมปากของชายวัยกลางคน “ดี ก็แค่นั้นแหละ ตอนนี้ผมต้องไปแล้ว”

 

          “เดินทางปลอดภัยครับ คุณ ฉือ” ฮวงยี่หู่ยืนขึ้นเพื่อกล่าวลา

 

           ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่า คุณฉือ เดินไปที่ประตูและปากของเขาก็ขยับเป็นคำพูดที่ไม่มีใครได้ยิน ‘ไอ้หน้าโง่เอ้ย !’

 

          เซี่ยเหล่ยหยุดใช้ความสามารถจากดวงตาของเขา

 

          ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่า คุณฉือ เดินออกมาและเขามีท่าทางเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเห็นเซี่ยเหล่ยและเจียงหยูยี่ที่ประตูทางออก แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรและเดินออกไปพร้อมกับกระเป๋าเอกสารในมือ

 

          เซี่ยเหล่ยเกิดความสงสัยในขณะที่เขากำลังมองตามหลังคุณฉือ ไป ทำไมเขาต้องเรียกฮวงยี่หู่ว่า ‘ไอ้หน้าโง่’ ?

 

          ติดตามตอนต่อไป.........

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด