ตอนที่แล้วTXV –  98 คุกเข่าต่อหน้าเพื่อนผมซะ !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV –  100 การกำเนิดอุตสาหกรรมอาชาสายฟ้า !

TXV –  99 คุณพ่อ !


TXV –  99 คุณพ่อ !

          ค่ำคืนแรกของฤดูใบไม้ร่วงอากาศค่อนข้างหนาวเย็นแต่เซี่ยเหล่ยกลับยุ่งมากจนเขามีเหงื่อออกเกือบตลอดเวลา เขาเริ่มทำอาหารตอนห้าโมงเย็นและเพิ่งทำเสร็จตอนเกือบเหนึ่งทุ่ม เขาเหนื่อยมาก แต่ผลของความพยายามของเขาก็คือรายการอาหารอันโอชะเหล่านี้ สเต็กกับซอสไตล์อิตาเลียน ไก่เสฉวนผัดเผ็ด เนื้อแกะออสเตรเลียน ห่านย่างสูตรฝรั่งเศสและอื่นๆ อาหารเหล่านี้ได้จากสูตรที่เขาค้นพบจากอินเตอร์เน็ต แม้ว่าเขาจะทำอาหารพวกนี้เป็นครั้งแรกแต่พลังจากตาซ้ายของเขาก็ทำให้เขาสามารถมองเห็นการผสมผสานกันของเครื่องปรุงได้และท้ายที่สุดแล้วอาหารเหล่านี้ก็ออกมาดูดีและน่าทาน

 

          นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยเหล่ยต้องใช้เวลาและความพยายามเป็นอย่างมากในการทำเมนูอาหารต้อนรับแขก เพราะว่าแขกในวันนี้คือหลงบิง คนที่เขาอยากจะขอบคุณเธอจากใจจริง เขาไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์จะจบลงอย่างเลวร้ายหรือเป็นไปในทิศทางไหนถ้าหลงบิงไม่เข้ามาที่ไซต์ก่อสร้างของเขา

 

          เซี่ยเหล่ยหยิบขวดไวน์แดงจางอี้ว์มาวางบนโต๊ะและชำเลืองมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มแล้ว

 

          ‘นี่ก็ทุ่มหนึ่งแล้ว ทำไมเธอยังมาไม่ถึง? เธอมีงานและมาไม่ได้หรือเปล่า? ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ใครจะเป็นคนทานอาหารทั้งหมดนี้ที่เขาทำกันล่ะ?’ เซี่ยเหล่ยเริ่มกังวลและเดินออกไปที่ระเบียง

 

          ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้วในขณะที่ผู้สูงอายุในละแวกหมู่บ้านกำลังเดินออกกำลังกายบนสนามหญ้าสีเขียวขจี ช่างดูเป็นคืนที่มีชีวิตชีวามาก เซี่ยเหล่ยก้มลงสำรวจบริเวณพื้นที่เหล่านั้น เขาไม่เห็นหลงบิงแต่เขากลับเห็นเจียงหยูยี่

 

          เจียงหยูยี่นั่งอยู่ที่ระเบียงและกำลังกินแตงโม เธอสวมใส่ชุดอยู่บ้านแบบสบายๆ วัสดุอ่อนนุ่มที่อยู่ติดกับผิวของเธอทำให้หน้าอกของเธอก็ถูกยกสูงขึ้น สะโพกของเธอก็ยังคงกลมกลึงและกระชับ เมื่อมองลงมาจากระเบียงห้องของเขา เขายังคงเห็นร่องสีขาวซีดโผล่ออกมาจากคอเสื้อของเธอ ดูเหมือนมันจะลึกลงไปอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด ภาพของเธอกระตุ้นให้เขาคิดอะไรบางอย่าง.....

 

          เจียงหยูยี่รู้สึกเหมือนมีสายตามองลงมาจากข้างบน ในขณะที่เซี่ยเหล่ยกำลังมองเธออยู่นั้น เธอก็พูดออกมาโดยไม่ได้หันไปมอง “คุณกำลังมองอะไรอยู่? หน้าไม่อายจริงๆ”

 

          เซี่ยเหล่ยพบว่ามันแปลก “รู้ได้ยังไงว่าผมมองคุณอยู่?”

 

          เจียงหยูยี่วางเปลือกแตงโมลงและเงยหน้ามองเซี่ยเหล่ย “เงาของคุณปรากฏขึ้นที่เท้าของฉันตอนที่คุณโผล่หน้าออกมา รู้อะไรไหม? เงาของคุณหยาบคายเหมือนกับคุณเลยล่ะ” เธอชี้นิ้วไปยังพื้นที่อยู่ระหว่างขาของเธอ

 

          นั่นมันก็ชัดเจนแล้ว มันมีเงาของหน้าเขาอยู่บนพื้นที่อยู่ระหว่างขาของเธอ ตำแหน่งของเงานั้นมันทำให้ดูเหมือนเขากำลังแอบมองหว่างขาของเธอ....

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างขำๆ “หยูยี่ ผมไม่ได้แอบมองอะไรคุณเลยนะ วันนี้คุณกำลังอารมณ์ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ? คุณดูเหมือนจะรำคาญทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำเลยนะ”

 

          “ฉันก็รำคาญคุณตลอดเวลานั้นแหละ !”

 

          เซี่ยเหล่ยอึ้ง…

 

          “เธอยังไม่มาใช่ไหม?” เจียงหยูยี่ถาม

 

          “ยัง” เซี่ยเหล่ยพูด

 

          เจียงหยูยี่ยิ้ม “ฉันได้กลิ่นอาหารของคุณลอยมาถึงบ้านฉันเลยนะ ถ้าเธอยังไม่มาเลี้ยงฉันแทนแล้วกันนะ ฉันยังไม่ได้ทานอาหารเย็นเลย”

 

          เซี่ยเหล่ยกำลังจะตอบตกลงเมื่อเห็นร่างสวยสมส่วนเข้ามาในสายตาของเขา หลงบิงมาถึงแล้ว เธอแต่งตัวด้วยชุดเดรสยาวสีดำ รองเท้าส้นสูงสีดำ จับคู่กับกระเป๋าและหมวกไหมพรมสีดำ เธอแต่งตัวสวย สง่างาม แต่ก็ดูลึกลับและน่าหลงใหลในเวลาเดียวกัน หลงบิงดูโดดเด่นมากกว่าทุกคนในระแวกนั้น

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้ม “เธอมาแล้ว ผมจะชวนคุณไปถ้าเรามีอาหารเหลือนะ”

 

          “ไปตายซะเถอะ!” เจียงหยูยี่ขว้างแตงโมไปที่เซี่ยเหล่ย แต่ขณะที่เธอเงื้อมมือขึ้นเขาก็หายตัวไปจากระเบียงแล้ว

 

          หลงบิงกำลังจะเดินขึ้นบันได

 

          “สวัสดี คุณหลง” เจียงหยูยี่ทักทาย

 

          หลงบิงพยักหน้าเล็กน้อยและก้าวขึ้นบันไดต่อไป

 

          เจียงหยูยี่ยักไหล่และพูดพึมพำกับตัวเอง “วันพรุ่งนี้ฉันจะไปซื้อชุดเดรสแบบนี้บ้าง ฉันจะใส่ชุดชั้นในสีดำด้วย มาคอยดูว่าใครจะเหมือนแม่หม้ายสีดำมากกว่ากัน!”

 

          หลงบิงไม่ได้ยินเสียงที่เธอพูด เธอเดินขึ้นมาถึงชั้นสอง และเคาะประตู

 

          เซี่ยเหล่ยเปิดประตูด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณมาแล้ว เชิญเข้ามาก่อนครับ”

 

          หลงบิงพูดเสียงนิ่งๆ “ฉันน่าจะมาให้เร็วกว่านี้แต่ฉันก็มาสายไปหน่อยเพราะว่าติดภารกิจบางอย่าง ฉันไม่มีเวลาแม้แต่จะหาของขวัญมาให้คุณด้วยซ้ำ”

 

          เซี่ยเหล่ยหัวเราะ “ไม่ต้องพิธีรีตองอะไรมากหรอก คุณยังไม่ได้ทานอะไรมาใช่ไหม? ผมทำอาหารไว้ต้อนรับคุณแล้วล่ะ ไปทานกันเถอะ”

 

          หลงบิงถอดหมวกไหมพรมออกและนำไปวางไว้ที่โซฟา จากนั้นจึงเดินตามเซี่ยเหล่ยไปยังโต๊ะอาหาร เธอรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเมนูมากมายบนโต๊ะอาหาร “คุณทำอาหารทั้งหมดนี้เองหรือ?”

 

          “ผมอยู่ที่นี่คนเดียวแล้วใครจะทำอาหารพวกนี้ได้ล่ะ? มาลองชิมดูสิ ผมไม่รู้ว่าจะทำออกมาได้ดีแค่ไหน” เซี่ยเหล่ยพูด

 

          “ถ้าดูจากสีและกลิ่นรสชาติมันน่าจะออกมาดีทีเดียว คุณกำลังทำให้ฉันอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับคุณมากขึ้น คุณสามารถผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่มีความละเอียดสูงได้ พูดได้หลายภาษาหรือแม้แต่ทำอาหารที่ดูน่าอร่อยเหล่านี้ จากข้อมูลที่ฉันรวบรวมมาได้ คุณจบการศึกษาแค่ชั้นมัธยมปลายเท่านั้น คุณมีเบื้องหลังยังไงกันแน่?” หลงบิงพูด

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้ม “นี่เป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนของคุณหรือเปล่า?”

 

          หลงบิงนั่งลง “ไว้คุยกันตอนเราทานอาหารเถอะ”

 

          เซี่ยเหล่ยนั่งลงและเทไวน์แดงใส่แก้ว แก้วหนึ่งสำหรับหลงบิง และอีกแก้วหนึ่งสำหรับตัวเขาเอง

 

          หลงบิงชนแก้วกับเซี่ยเหล่ย ยกไวน์ขึ้นจิบและพูด “คุณรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงมาสอบสวนคุณ?”

 

          เซี่ยเหล่ยส่ายหน้า “ผมไม่รู้ แต่ผมคิดว่ามันไม่น่าจะใช่เรื่องแปลกหรอกใช่ไหม?”

 

          “มาพูดเรื่องพ่อของคุณกันเถอะ” หลงบิงมองเซี่ยเหล่ย สายตาของเธอดูแปลกๆ

 

          เซี่ยเหล่ยชะงักไป “ทำไมอยู่ๆเราถึงมาพูดเรื่องเกี่ยวกับพ่อของผม?”

 

          “ฉันก็แค่อยากรู้เรื่องของเขาให้มากขึ้น ทำไม คุณไม่สะดวกที่จะพูดเรื่องนี้งั้นหรือ?”

 

          “มันไม่ใช่อย่างนั้น” เซี่ยเหล่ยพูด “ผมไม่รู้เรื่องของเขามากนัก และเขาก็ไม่เคยบอกผมว่าเขาทำอาชีพอะไร ผมไม่รู้อะไรเลยจนกระทั่งเขาหายตัวไป จากที่ผมจำได้ เขามักจะยุ่งอยู่เสมอและมักจะเดินทางไปทำงานที่ไกลๆ เกือบจะครึ่งปีแล้วที่เขาหายออกไปจากบ้าน ผมจำได้มากที่สุดแค่นี้และผมก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาอีกเลย”

 

          หลงบิงตักเนื้อห่านย่างให้เซี่ยเหล่ยและยิ้มบางๆ “ค่อนข้างดีทีเดียว ราชาติมันเหมือนกับห่านย่างที่ฉันเคยทานที่ฝรั่งเศส เหมือนกันมากจริๆ”

 

          เซี่ยเหล่ยหัวเราะแห้งๆ และคีบไก่เสฉวนผัดเผ็ดส่งให้เธอ “ทานต่อสิ”

 

          หลงบิงทานอาหารต่อไปเรื่อยๆ ดื่มไวน์ต่ออีกสองแก้ว เซี่ยเหล่ยคิดว่เธอจะไม่ถามคำถามแปลกๆออกมาอีก แต่เธอก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง

 

          “พ่อของคุณคือ ‘เซี่ยฉางห่าย’ ในแฟ้มทะเบียนราษฏร์บันทึกไว้ว่าเขาเกิดในปี 1965 และอายุครบห้าสิบในปีนี้ เขาจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมห่ายจู เขาเข้าร่วมกับกองทัพหลังจากนั้นและได้เข้าหน่วยกองกำลังพิเศษในปีที่สามเพราะความสามารถที่ยอมเยี่ยมและการทำงานอย่างหนัก เขาทำงานอยู่ในกองกำลังพิเศษเป็นเวลาสามปีก่อนที่จะเกษียณและไม่มีประวัติต่อจากนั้น”

 

          “พ่อของผม…พ่อของผมเคยเป็นทหาร?” เซี่ยเหล่ยพูดอย่างตกใจ “มันจะเป็นไปได้ยังไง? ผมและน้องสาวไม่เคยรู้ว่าเขาอยู่ในกองทัพ”

 

          “คุณไม่รู้จริงๆหรือ?” หลงบิงจ้องที่เซี่ยเหล่ย

 

          “ไม่รู้จริงๆ ผมไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องโกหกคุณ” เซี่ยเหล่ยพูด เขานิ่งไปพักหนึ่งและพูดต่อ “วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับคุณ? ทำไมคุณไม่สอบสวนผม? ทำไมคุณต้องพูดถึงแต่เรื่องพ่อของผม?”

 

          “คุณไม่คิดว่ามันแปลกหรอกหรือที่พ่อของคุณไม่เคยบอกคุณว่าเขาเป็นทหาร? ไม่เคยบอกด้วยซ้ำว่าเขาทำอาชีพอะไร คุณไม่คิดว่ามันแปลกหรือ? ทำไมเขาถึงหายตัวไป? ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ดูแปลกไปหน่อยหรือไง?” หลงบิงพูด

 

          ในหัวของเซี่ยเหล่ยว่างเปล่า เขาไม่เคยคิดว่าพ่อของเขา เซี่ยฉางห่าย จะเป็นคนแปลกประหลาดแต่อย่างใดก่อนที่จะได้ยินคำถามของหลงบิง แต่ตอนนี้เขากลับพบว่าพ่อของเขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไป เขามีความลับที่เขาและน้องสาวไม่รู้ซ่อนอยู่

 

          หลงบิงพูดอีกครั้ง “ที่แปลกที่สุดก็คือไฟล์ที่ฉันหามาได้หลังจากเขาเกษียณ มันไม่มีอะไรเลยนอกจากบันทึกว่าเขาเกษียณแล้วและแต่งงานกับแม่ของคุณ”

 

          “คุณกำลังพยายามจะพูดอะไร?”

 

          หลงบิงเงียบไปก่อนที่จะยกแก้วไวน์ของเธอขึ้นมา “ลืมๆไปเถอะ ไม่มีอะไรหรอก บางทีเหตุผลที่มันไม่ถูกบันทึกเอาไว้อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นเรื่องธรรมดาเกินไป เลิกพูดเรื่องพ่อของคุณแล้วมาดื่มไวน์กันดีกว่า อาหารที่คุณทำนี่อร่อยจริงๆเลยนะ”

 

          ดูเหมือนเธออยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะไม่พูด

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างขำๆและชนแก้วกับหลงบิง จากนั้นจึงดื่มไวน์หมดแก้วในครั้งเดียว

 

          “เหล่ย ฉันอยากจะเตือนคุณไว้หน่อยนะ” หลงบิงพูด

 

          เซี่ยเหล่ยมองเธอ “อะไร?”

 

          “มีคนบางกลุ่มกำลังสนใจในตัวคุณเพราะกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีน พยายามอย่าทำตัวโดดเด่นเมื่อคุณต้องทำงานครั้งต่อๆไป และคุณต้องระวังตัวไว้ให้มาก” หลงบิงพูด

 

          “ผมไม่ได้ทำอะไรผิดกฏหมายนี่ ดังนั้นถึงแม้ว่าจะมีคนคอยจับตามอง ผมก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรหรอก” เซี่ยเหล่ยพูด

 

          “ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นคนดี บางคนก็ไม่ได้เฝ้ามองคุณด้วยสายตาที่เป็นมิตรนัก คุณเข้าใจที่ฉันจะบอกไหม?” หลงบิงพูด

 

          เซี่ยเหล่ยพยักหน้า “ตกลง ผมจะเชื่อคุณ”

 

          “เรื่องของฮวงยี่หู่จบลงไปแล้ว อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับตระกูลกู๋ คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา” หลงบิงพูด

 

          “ตระกูลกู๋พวกเขาทำแต่เรื่องผิดกฏหมาย ทำไมหัวหน้าของคุณไม่ส่งคุณไปสอบสวนพวกเขาแทนที่จะมาสอบสวนผมล่ะ?” เซี่ยเหล่ยพูด

 

          “หลายคนรู้ว่าตระกูลกู๋ทำเรื่องผิดกฏหมาย หัวหน้าเองก็รู้ แต่เราก็แตะต้องพวกเขาไม่ได้เพราะมันยังไม่ถึงเวลา และไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราจะจัดการพวกเขา มันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของฉัน คุณไม่ต้องแสดงความจริงใจของคุณให้เราเห็นอีกต่อไปแล้ว ฉันมาที่นี่เพื่อทานอาหารกับคุณและมาบอกลาเท่านั้น ฉันกำลังจะกลับชิงตู่แล้ว” หลงบิงพูด

 

          “คุณจะไม่มาสอบสวนผมอีกต่อไปแล้ว?”

 

          รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นที่มุมปากของหลงบิง “ประวัติของคุณถูกสรุปเรียบร้อยแล้ว ฉันใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งว้นในการตรวจสอบคุณตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนโรงเรียนอนุบาล ฉันเขียนรายงานทั้งหมดเสร็จแล้วและมันจะถูกใช้งานในเร็วๆนี้ การตรวจสอบของคุณสิ้นสุดลงแล้ว”

 

          “คุณได้อะไรจากการสอบสวนผม?” เซี่ยเหล่ยถามอย่างสงสัย

 

          “คุณธรรมดาเกินไป ฉันไม่พบอะไรเป็นพิเศษ” หลงบิงพูด

 

          เซี่ยเหล่ยถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาไม่ต้องการให้ใครรู้ความลับเกี่ยวกับตาซ้ายของเขา แม้แต่หลงบิงเองก็ไม่ควรรู้เช่นกัน

 

          ในขณะนั้นเองเสียงของเจียงหยูยี่ก็ดังมาจากชั้นล่าง “เหล่ย ลงมานี่หน่อย เร็วเข้า! ฮวงยี่หู่ตายแล้ว!”

 

          เซี่ยเหล่ยตกใจ เขารีบลุกขึ้นและวิ่งไปที่ระเบียง

 

          เจียงหยูยี่ยืนอยู่ที่ชั้นล่างและพูดอย่างเป็นกังวล “ไปสถานกักขังกลางกับฉัน เร็วๆเข้า! ฮวงยี่หู่แขวนคอตัวเอง!”

 

          “ตกลง รอแปปนึง ผมจะลงไปเดี๋ยวนี้!” เซี่ยเหล่ยพูด

 

          หลงบิงเดินออกมาจากด้านหลังเซี่ยเหล่ยและคว้าแขนเขาเอาไว้

 

          “คุณลืมเรื่องที่ฉันเพิ่งพูดไปแล้วหรือ? เรื่องทั้งหมดมันจบลงแล้ว อย่าพาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องอีก”

 

          เซี่ยเหล่ยยืนนิ่งด้วยความอึ้งจนพูดไม่ออก.....

 

          หลงบิงก้มตัวลงไปมองและพูดกับเจียงหยูยี่ “ไปทำงานของคุณเถอะหัวหน้าเจียง เซี่ยเหล่ยต้องทานอาหารเย็นกับฉัน เขาไปสถานกักขังกลางกับคุณไม่ได้หรอก”

 

          เธอไม่รอให้เจียงหยูยี่ตอบและเดินออกไปจากระเบียง ลากเซี่ยเหล่ยที่อยู่ที่อยู่ข้างหลังเธอไปด้วย

 

          เจียงหยูยี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดพึมพำกับตัวเอง “ยัยบ้าเอ๊ย!”

 

          ติดตามตอนต่อไป.........

         

         

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด