ตอนที่แล้วTXV – 55 ออกไปซะ !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV –  57 การเข้าใจผิด !

TXV –  56 ที่รัก ? คุณอยู่ที่ไหน ?


TXV –  56 ที่รัก ? คุณอยู่ที่ไหน ?

 

          แม้ว่าผู้หญิงจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตามเธอก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ดีและบางครั้งพวกเธอก็ต้องการผู้ชายที่เธอสามารถฝากชีวิตไว้กับเขาได้

 

          ในสายตาของหลิวหยิง เซี่ยเหล่ยคือคนที่เธอสามารถฝากทั้งชีวิตไว้ได้.....

 

          เซี่ยเหล่ยหยุดคิดสักครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ยิ่งคุณวิตกกังวลมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเข้าทางพวกโจรเท่านั้น ขณะที่พวกโจรส่ง SMS ข่มขู่มาหาคุณถึงแม้ว่าคุณจะให้เงินไป แล้วจะมีอะไรมารับประกันว่ามันจะไม่ทำร้ายคุณและลูกชายของคุณอีก ? คุณจะทำยังไง ? มันไม่มีประโยชน์เลยที่จะทำตามคำขอของมัน”

 

          “ข้ามศพฉันไปก่อน !”

 

          “รีบแจ้งตำรวจเถอะ” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          หลิวหยิงรู้สึกลังเลที่จะโทรแจ้งตำรวจในที่สุดเธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา “ตกลง ! ฉันจะโทรแจ้งตำรวจตอนนี้เลย”

 

          ในขณะนั้นหลินบู่เหวินเดินมาหาพวกเขาแล้วตะโกนจากที่ไกลๆว่า “ผู้บริหารหลิว มีใครบางคนอยากรู้จักคุณ คุณยินดีที่จะพบเขามั้ย ?”

 

          เซี่ยเหล่ยจ้องเขม็งไปที่หลิวหยิงเป็นคำใบ้ให้เธอรีบวางโทรศัพท์และเดินไปหาเขา…..

 

          หลินบู่เหวินพูดอีกครั้งว่า “เขาอยู่ที่นี่ ผู้บริหารหลิว เดี๋ยวผมจะพาคุณมาหาเขาเอง”

 

          “เขาพยายามจะทำอะไร ?” หลิวหยิงไม่อยากไปกับหลินบู่เหวินเลย…

 

          หลินบู่เหวินเป็นคนฉลาดและพูดว่า “เขามีธุรกิจปลีกย่อยและมีร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ ผมคิดว่ามันคงจะเป็นผลดีกับคุณถ้าบริษัทของคุณได้ร่วมงานกับเขา”

 

          คำพูดของเขาทำให้หลิวหยิงลังเลใจ เธอมองไปที่เซี่ยเหล่ยราวกับว่ากำลังรอคำตัดสินใจจากเซี่ยเหล่ยอยู่

 

          “ไปเถอะพี่หลิว ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ผมจัดการเอง” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          “รอฉันนะ เดี๋ยวจะรีบกลับมา” หลิวหยิงพูดทิ้งท้ายกับเซี่ยเหล่ยก่อนที่เธอจะเดินออกไปกับหลินบู่เหวิน

 

          คนที่อยากพบกับหลิวหยิงเป็นชายวัยกลางคนเขามีลักษณะอ้วนท้วม อายุประมาณ 40 ต้นๆ เขาสวมนาฬิกาหรูหราและมีสร้อยคอหยกที่เลอค่าอยู่รอบๆคอเขาทำให้รู้สึกได้เลยว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนร่ำรวยและทรงอิทธิพลมากและหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆเขา….

 

          หญิงสาวคนนั้นเธอสวมชุดคัทต์เอ้าส์ใบหน้าของเธอคล้ายหลินบู่เหวิน เธอมีเสน่ห์ในตัวเองและสวยแบบธรรมชาติ

 

          เซี่ยเหล่ยคิดกับตัวเองว่า ‘เธอคนนั้นอาจจะเป็นน้องสาวของหลินบู่เหวิน ‘หลินหย่าหยู่’ ว่าแต่พวกเขากำลังคุยเรื่องอะไรกัน ?’

 

          ความอยากรู้อยากเห็นเริ่มครอบนำเซี่ยเหล่ย เขาจ้องไปมองที่ริมฝีปากของเธอ จากนั้นใช้ตาซ้ายของเขาเพื่ออ่านปากของพวกเขาเหล่านั้น…..

 

          “พี่...คนนั้นเขาเป็นใครหรอที่เดินตามหลิวหยิงตลอดเวลา ?” เธอเหลือบไปมองที่เซี่ยเหล่ย

 

          เซี่ยเหล่ยรีบหลบสายตาของหลินหย่าหยู่ทันที จากนั้นเขารีบไปซ่อนตัวและใช้ตาซ้ายของเขาอ่านริมฝีปากของเธอต่อไปโดยไม่ให้เธอรู้ตัว….

 

          “มันก็แค่เด็กขอทานข้างถนน ได้ข่าวมาว่าเขามีเวิกค์ช็อปเป็นของตัวเองและหลิวหยิงก็ได้เซ็นสัญญาร่วมงานกับเขาแล้ว” หลินบู่เหวินกล่าว

 

          “มันเป็นคนที่นำเอกสารสำคัญที่ถูกขโมยคืนให้กับหลิวหยิงใช่มั้ย ?” หลินหย่าหยู่ถาม

 

          “ใช่แล้ว ถ้าได้เอกสารเหล่านั้นมาอยู่ในมือพวกเราก็คงไม่ต้องมาลำบากแบบนี้หรอก” หลินบู่เหวินกล่าว

 

          เซี่ยเหล่ยรู้สึกตกใจกับคำพูดของหลินบู่เหวินเป็นอย่างมาก แสดงว่าหลินบู่เหวินเป็นผู้บงการเบื้องหลังทั้งหมด !

 

          “พวกมันเริ่มรู้ตัวแล้ว เราต้องจัดการให้เร็วที่สุดพวกเราถอยไม่ได้แล้ว !” หลินหย่าหยู่กล่าว

 

          “อย่ากังวลไปเลย ก็แค่แม่หม้ายและเด็กน้อยกระจอกๆคนหนึ่งไม่มีทางที่จะเป็นศัตรูของพวกเราได้หรอก” ขณะที่เขาพูดเขาหันไปดู หลิวหยิงและชายวัยกลางคนที่กำลังเดินมา

 

          เซี่ยเหล่ยใช้ตาซ้ายของเขามุ่งเน้นไปที่ชายวัยกลางคนและหลิวหยิง ขณะที่หลิวหยิงกำลังนั่งอยู่เขาไม่สามารถมองเห็นใบหน้าเธอแต่เขาสามารถมองเห็นใบหน้าของชายวัยกลางคนได้ เซี่ยเหล่ยเห็นใบหน้าของเขาชัดเจนและสามารถอ่านริมฝีปากของเขา…

 

          “ผู้บริหารหลิว ผมจะบอกอะไรให้หากคุณขายผลิตภัณฑ์ให้กับผมจะทำให้เพิ่มปริมาณยอดขายได้มากเลยทีเดียวจะไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้นเลยถ้าคุณยกให้ผม ผมจะบอกคุณอย่างบริสุทธิ์ใจว่าผมกำลังสร้างศูนย์การค้าในเมืองหมิงคุนและเมืองสือฉวนเพื่อพัฒนาตลาดในฝั่งตะวันตก ผลิตภัณฑ์ของคุณจะขายเป็นเทน้ำเทท่าในฝั่งตะวันตก มันถึงเวลาแล้ว…...” ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างมั่นใจ

 

          ‘ผู้ชายคนนี้… ต้องการงานที่สำคัญที่สุดของไนท์มูฟสปอตอีควิชเมนต์ก็คือกระดานโต้คลื่นอัตโนมัติเป็นของเขาเอง ผลิตภัณฑ์นี้จะขายดีในฝั่งตะวันตกจริงหรอ ? ผู้คนจะไปท่องเที่ยวในบริเวณนั้น ?’ เซี่ยเหล่ยคิดในใจ

 

          ชายวัยกลางคนได้เทไวน์และยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า “ผู้บริหารหลิว เรามาฉลองแด่ความสำเร็จของพวกเราเถอะ”

 

          เซี่ยเหล่ยไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของหลิวหยิงหรือแม้แต่ได้ยินเสียงของเธอแต่เขาเห็นแก้วที่เธอกำลังจะยกขึ้นดื่ม ทันใดนั้นตาซ้ายของเขาก็มีปฏิกิริยาบางอย่างแก้วที่เธอยกขึ้นในมือของหลิวหยิง มีบางอย่างผิดปกติ !

 

          แก้วไวน์มีผงสีขาวบางอย่างกำลังละลายอยู่ในนั้น มันยากที่จะสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า มันละลายอย่างรวดเร็วและได้สร้างชั้นบางๆระหว่างไวน์และผงสีขาวนั่น…..

 

          หญิงสาวที่ถูกฤทธิ์ยาครอบนำจะทำตัวผิดปกติไป…..

 

          เซี่ยเหล่ยรีบเดินไปหาเธออย่างรวดเร็วแต่หลิวหยิงดื่มไวน์หมดแก้วก่อนที่เขาจะเดินถึงตัวเธอ……

 

          ชายวัยกลางคนลุกขึ้นไปที่ด้านหลังของหลิวหยิงเพื่อที่จะพูดกับเธอว่า “ผู้บริหารหลิว คุณเมามากแล้วผมจะไปส่งคุณที่บ้านเอง”

 

          หลิวหยิงหลังจากได้ยินคำพูดของชายคนนั้นกำลังบ่นพึมพัมอะไรบางอย่างแต่ไม่สามารถได้ยินเสียงของเธอได้….

 

          มีแขกอีก 2-3 คนที่อยู่ใกล้ๆมองอย่างรังเกียจไปที่หลิวหยิง มันเป็นเรื่องที่น่าอายที่จะมาเมาในงานเลี้ยงระดับสูงเช่นนี้

 

          ทันใดนั้นหลินบู่เหวินหันไปเจอเซี่ยเหล่ยที่กำลังเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว เขารีบเดินไปขวางทางเซี่ยเหล่ยพร้อมพูดว่า “คุณเซี่ย ผมกำลังหาคุณเลย เราไปนั่งคุยเรื่องสนุกๆกันดีกว่า”

 

          เซี่ยเหล่ยพยายามเดินหลบหลินบู่เหวินอย่างรวดเร็ว แต่ทันใดนั้นเขาก็ดึงมือของเซี่ยเหล่ยกลับมาอย่างรวดเร็วแต่มืออีกข้างหนึ่งของเซี่ยเหล่ยไปจับแขนของหลิวหยิงเอาไว้เพื่อไม่ให้ชายคนนั้นพาเธอออกไป…

 

          ชายวัยกลางคนมองที่เซี่ยเหล่ยด้วยความประหลาดใจและใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนสีไปทันที

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้มพร้อมพูดว่า “ปล่อยเธอให้ผมดูแลเถอะ”

 

          “มึงเป็นใคร ?” ชายวัยกลางคนพูดอย่างโกรธเกรี้ยว

 

          เซี่ยเหล่ยพยายามทำใบหน้าของเขาให้เป็นปกติและพูดอย่างสุภาพว่า “ผมเป็นน้องชายของเธอเรามาด้วยกัน ผมจะพาพี่สาวของผมไปส่งที่บ้านเอง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ?”

 

          “คุณ….” ชายวัยกลางคนไม่เต็มใจที่จะปล่อยเธอไปแต่เขาไม่มีข้ออ้างเพียงพอที่จะพาหลิวหยิงกลับบ้านไปกับเขา….

 

          มันเป็นเรื่องปกติที่น้องชายจะพาพี่สาวกลับบ้านในตอนที่พี่สาวเมา แต่ถ้าให้ผู้ชายคนอื่นที่ไม่รู้จักกันพาพี่สาวของเขากลับบ้านไป มันคงเป็นเรื่องผิดปกติ !

 

          ชายคนนั้นคลายมือที่จับหลิวหยิงออกอย่างไม่เต็มใจและเหลือบมองไปที่หลินบู่เหวิน

 

          จากนั้นทั้งหลินบู่เหวินและหลินหย่าหยู่เดินออกไป…

 

          รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ปรากฏบนใบหน้าของหลินหย่าหยู่ขณะที่เธอมองเซี่ยเหล่ย “คุณเซี่ยใช่มั้ย ? ฉันเคยได้ยินพี่หลิวพูดถึงคุณอยู่บ่อยๆนี่เป็นโอกาสที่ดีคุณที่คุณได้มาร่วมงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ดังนั้นฉันคิดว่าคุณไม่ควรกลับบ้านในตอนนี้หรอกนะเดี๋ยวฉันจะพาพี่หลิวไปพักผ่อนที่ห้องฉันเอง ฉันจะทำของเปรี้ยวๆให้เธอดื่มเพื่อทำให้เธอสร่างเมา”

 

          ขณะที่เธอพูด เธอเดินมาจับตัวของหลิวหยิง….

 

          ทันใดนั้นหลิวหยิงพูดพึมพัมว่า “ฉันอยากกลับบ้าน….ฮี่ฮี่….มีดาวเต็มฟ้าเลย...”

 

          “ได้ยินสิ่งที่เธอพูดมั้ย ? พี่หลิวของคุณอยากจะกลับบ้าน ? ถ้าอย่างนั้นผมจะไปส่งเธอที่บ้านเองให้และผมก็ไม่อยากจะอยู่ในงานเลี้ยงนี้ต่อไป” เซี่ยเหล่ยช่วยประคองตัวหลิวหยิงเดินออกจากห้องโถง

 

          ทั้ง หลินหย่าหยู่ หลินบู่เหวินและชายวัยกลางคนเปลี่ยนสีหน้าของพวกเขาโดยทันที ทั้ง 3 คนอยากจะสับเซี่ยเหล่ยเป็นชิ้นๆและนำเนื้อไปบดทำเป็นแฮมเบอเกอร์ด้วยซ้ำ แต่ในความเป็นจริงพวกเขาทำได้แค่ยืนมองเซี่ยเหล่ยพาตัวหลิวหยิงออกไปจากงานเลี้ยงอย่างช้าๆ

 

          หลังจากที่เซี่ยเหล่ยพาตัวหลิวหยิงออกมาจากงาน เซี่ยเหล่ยรู้สึกราวกับว่ายกภูเขาออกจากอก….

 

          ทั้ง หลินหย่าหยู่ หลินบู่เหวินและชายวัยกลางคนเป็นคนทรยศ โดยพวกเขาไม่ได้ทำงานเป็นคนเดียวพวกเขาทำงานกันเป็นทีม 3 คนรวมไปถึงโจรคนนั้นด้วยแต่เรื่องนี้ยังมีคนอยู่เบื้องหลังอีก 1 คนแต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่หลินหย่าหยู่ไม่ได้เอ่ยถึงชื่อคนนั้น…

 

          ‘เราไม่มีหลักฐานอะไรไปยืนยันว่าพวกเขาเป็นคนร้ายถึงแม้ว่าพวกเขาจะจะแสดงพฤติกรรมออกมาชัดเจนขนาดนี้ เราจะทำอะไรต่อไปได้ ? เราไม่สามารถบอกหลิวหยิงว่าคนพวกนี้จะตั้งใจจะทำร้ายเธอ ? แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไปดีล่ะ ? เราจะดูต่อว่าพวกมันจะทำยังไงต่อไปหลังจากที่เราส่งพี่หลิวถึงบ้าน’ เซี่ยเหล่ยคิดในใจ

 

          “ฉันอยากนอน...” จู่ๆหลิวหยิงพูดออกมา

 

          เซี่ยเหล่ยรีบลบความคิดเหล่านั้นออกจากหัวของเขาและตอบเธออย่างนุ่มนวลว่า “ผมจะพาคุณกลับบ้านเอง”

 

          “ที่รัก….ฉันคิดถึงคุณ….คุณอยู่ที่ไหน ? ...” หลิวหยิงมองที่เซี่ยเหล่ยอย่างเฉื่อยชา

 

          เซี่ยเหล่ยรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมากแต่ไม่สามารถทนเห็นเธออยู่ในสภาพเช่นนี้ได้เขาจึงพูดเบาๆว่า “ผมไม่ได้ไปไหน ผมอยู่ข้างๆคุณเสมอ”

 

          ทันใดนั้นหลิวหยิงโผเข้ากอดเซี่ยเหล่ยและจูบปากของเซี่ยเหล่ยไปพร้อมๆกัน…

 

          ริมฝีปากที่อ่อนนุ่มและชุ่มชื้นเป็นความรู้สึกที่เซี่ยเหล่ยไม่เคยเจอมาก่อน เขาแข็งทื่อไประยะหนึ่ง เขาต้องการที่จะผลักเธอออกไปแต่ก็ไม่สามารถทนต่อแรงที่เธอผลักเข้ามาได้ ในที่สุดเขาจึงตัดสินใจหันศรีษะออกไปอีกด้านหนึ่ง ….

 

 

          หลิงหยิงยังคงโผเข้าหาตัวเซี่ยเหล่ยแต่เซี่ยเหล่ยก็พยายามผลักตัวเธอออกไปพร้อมพูดว่า “ผมจะพาคุณกลับบ้าน”

 

          “กลับบ้านและไปนอน…. ที่รัก...” หลิวหยิงพูดอย่างเลื่อนลอย เธอหดตัวในอ้อมแขนของเซี่ยเหล่ยเหมือนเด็กน้อยที่กำลังนอนหลับ…..

 

          เซี่ยเหล่ยนำตัวหลิวหยิงขึ้นรถ จากนั้นเขาก็หยิบกุญแจรถจากกระเป๋าของเธอ เขาวางตัวของหลิวหยิงไว้เบาะหลังรถจากนั้นเขาเดินไปที่นั่งคนขับและเขาจ้องมองที่พวงมาลัยอย่างขะมักเขม้น เขาเพิ่งนึกขึ้นได้เขาไม่เคยขับรถจริงๆมาก่อน !

 

          ทั้ง หลินหย่าหยู่ หลินบู่เหวินและชายวัยกลางคนปรากฏตัวที่หน้าทางเข้าห้องโถง พวกเขาจ้องมองไปที่เซี่ยเหล่ย….

 

          เซี่ยเหล่ยไม่ได้หันไปมองที่พวกเขาแต่รับรู้ได้ว่าพวกเขาจ้องมองอยู่ หลังจากที่เขารู้ตัวแล้วเขาจึงรีบนั่งลงที่คนขับและเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์เพื่อขับออกไปจากที่นี่อย่างระมัดระวัง…..

 

          เซี่ยเหล่ยรู้สึกกังวลมากในตอนแรกและเขาก็ไม่ได้ขับรถเร็วจนเกินไปแต่เมื่อเขาขับไปได้สักครู่หนึ่งเขาก็คุ้นเคยกับมันและลดความกดดันของตัวเองลงหลังจากนั้นเขาเพิ่มความเร็วขึ้นเล็กน้อยเป็น 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วเขาก็กลับไปยังโกลด์โคสต์……

 

       ติดตามตอนต่อไป……

 

         

         

         

         

         

         

 

         

         

         

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด