ตอนที่แล้วChapter 33: โดนทรมาณ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 35: ลงโทษความเลวร้ายในที่เกิดเหตุ

Chapter 34 : ‘พี่ชายหยู่’


“ผมลากไอบัดซบนี้ไว้ตรงนี้นะ ถ้ามันมีเรื่องที่ผมสามารถทำได้เพื่อคุณ ได้โปรดบอกให้ผมรู้นะครับ” ชายหนุ่มเลือดร้อนคุยกับเจียงลู่ฉีผ่านกระจกหน้ารถ

 

หลังจากนั้นเขาก็เยาะเย้ยใส่ผู้นำที่นอนกองอยู่ที่พื้น สิ่งที่เขาพูดมันก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน

 

ผู้นำนั้นเกลียดชายหนุ่มเลือดร้อนจนสุดขั้วของหัวใจ เขาคิด “ถ้ารถมินิบัสไม่ได้อยู่ที่นี่ มึงก็ไม่สามารถคิดที่จะทำแบบนี้กับกูได้ แต่เวลานี้ เขาวางใจที่จะให้คนขับรถนั่นทำร้ายเขาแทน”

 

ตามปกติแล้ว ผู้นำนั้นไม่ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับผู้รอดชีวิต ก่อนอื่นเลย ไม่มีผู้หญิงที่สวยงามที่สามารถดึงดูดความสนใจของเขา เด็กผู้หญิงนั้นมีผมที่เหนียวเขรอะ และมีหน้าที่เปื้อนไปด้วยดิน เขาดูถูกพวกเธอจากจุดล่างสุดของหัวใจ

 

ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงไม่ได้สังเกตว่าเจียงลู่ฉีเป็นคนแปลกหน้า

 

อย่างไรก็ตาม เขาตระหนักได้ว่า เขาเคยผิดพลาดตรงไหน “มันเป็นค่อนข้างที่ชัดเจนว่า รถมินิบัสที่เลิศหรูเช่นนั้นขับมาจากอีกเมืองหนึ่ง ป้ายทะเบียนของมันไม่ใช่ของเมืองนี้”

 

ผู้นำนั้นนอนคร่ำครวญอย่างเจ็บปวด จ้องไปที่เจียงลู่ฉีด้วยความเกลียดและความหวาดกลัว

 

“ฉันมีคำถามที่ต้องการจะถามนายบางคำถาม นายควรจะตอบคำถามแต่ละคำถามหลังจากการพิจารณาอย่างจริงจัง อย่าคิดแม้แต่จะโกหกหรือเลี่ยงที่จะไม่ตอบละ......” เจียงลู่ฉีพูดและจ้องไปที่ชายหนุ่มเลือดร้อน

 

ชายหนุ่มเลือดร้อนเข้าใจถึงสิ่งที่เจียงลู่ฉีต้องการจะสื่อ และเขาก็ยกขาขึ้นมาเตรียมกระทืบไปที่ผู้นำ

 

“นายได้ยินชัดใช่ไหม? อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ตลกละ! หรือไม่...... ฉันจะ..... นายก็รู้ว่าฉันจะทำอะไร” ผู้นำนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวมาก

 

เขารู้สึกเสียใจ แต่เขาหวาดกลัวในการถูกทรมานมากกว่า เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตอบตกลง “ฉันจะทำมัน! ได้โปรดอย่าตีฉันเลย”

 

“ใครคือคนที่ถูกเรียกว่า ‘พี่ชายหยู่’? เขาทำยังไงถึงลากซอมบี้ไปเมืองอื่นได้? บอกรายละเอียดมาซะ”เจียงลู่ฉีถาม

 

ตั้งแต่เขาโจมตีพี่ชายหยู่ เขาจะต้องรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขาให้ได้ เช่นเดียวกับยุทธศาสตร์จีนของซุนวูที่ได้กล่าวไว้ว่า “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”

 

“พี่ชายหยู่? ใช่ ฉันรู้!” ผู้นำคนนี้ยิ้มกว้างให้แก่เจียงลู่ฉีและคิด “เห็นได้ชัดว่าเขารู้เรื่องการกระทำอันกล้าหาญคล้ายฮีโร่ของพี่ชายหยู่ เขานั้นกลัวพี่ชายหยู่ ดังนั้นเขาต้องการรู้เกี่ยวกับเขา ถ้าเขาปฏิบัติตามกฎของพี่ชายหยู่ เขาจะต้องไม่พัวพันเข้ากับปัญหา มันสายไปแล้ว!”

 

“เรื่องที่ฉันจะบอก มันจะทำให้นายตื่นตระหนก พี่ชายหยู่ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าซอมบี้ซะอีก พี่ชายหยู่ลากซอมบี้ด้วยการขี่มอเตอร์ไซค์คนเดียว เขาหลบหนีได้โดยไม่รอยขีดข่วนของซอมบี้นับพันตัว!” ผู้นำพูดในขณะที่เขาสังเกตการณ์ไปที่การกระทำของเจียงลู่ฉี มันค่อนข้างเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง ไม่มีความหวาดกลัวบนใบหน้าของเจียงลู่ฉีเลย เขาดูเหมือนจะจมอยู่ในความคิดของเขาเพียงแค่นั้น

 

ผู้นำนั้นเต็มไปด้วยความพอใจในหัวใจของเขา “เลิกแสดงได้แล้วว้อย! มึงอะกลัวแล้วใช่ปะละ”เขารู้สึกว่าเจียงลู่ฉีชอบที่จะแสดงท่าทางโอ้อวดต่อหน้าผู้รอดชีวิต

 

“ในความจริงแล้ว มีผู้คนมากมายที่เคยต่อสู้กับพี่ชายหยู่ แต่คนพวกนั้นทั้งหมดถูกฆ่าเรียบร้อยแล้ว พี่ชายหยู่นั้นมีอารมณ์ที่ไม่ดีอย่างมาก เขาจะตอบโตในทันทีและให้มึงตายอย่างน่าอนาถ” ผู้นำนั้นแสดงการอธิบายเต็มไปด้วยท่าทาง เขาต้องการที่จะทำให้เจียงลู่ฉีหวาดกลัว

 

“เช่น การตัดเนื้อของเหยื่อเป็นส่วนๆ? ฉันรู้เกี่ยวกับวิธีการเหล่านี้” เจียงลู่ฉีพูดอย่างธรรมดาๆ

 

ท่าทางของเจียงลู่ฉีนั้นทำให้ผู้นำนั้นเริ่มขวัญเสีย เขาพูดเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่เห็นกันได้ง่ายๆ ผู้นำคิด “ทำไมชายคนนี้ยังใจเย็นอยู่อีก? เขานั้นขี้ขลาดจริงหรอ?”ผู้นำนั้นมั่นใจเป็นอย่างมากว่าพี่ชายหยู่ไม่ใช่คนธรรมดา ถ้าพี่ชายหยู่ยืนท่ามกลางฝูงคน มันก็เหมือนกับว่าเขานั้นเป็นเครนที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงไก่

 

“พี่ชายหยู่สามารถที่จะลากซอมบี้ไปโดยไม่มีมอเตอร์ไซค์ได้ด้วย เขาวิ่งโคตรเร็ว ความเร็วเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่ทำให้เขาชนะ การใช้มอเตอร์ไซค์ก็เพราะว่าเขานั้นเบื่อที่จะวิ่ง เอาจริงๆแล้วเขาวิ่งเร็วกว่ามอเตอร์ไซค์อีก” ผู้นำพูด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีการป้องกันต่อเจียงลู่ฉี เขาก็ยังรู้สึกภาคภูมิใจในการอธิบายถึงพี่ชายหยู่ เขานั้นแข็งแกร่งมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป เขาหวังว่าพี่ชายหยู่จะฆ่าเจียงลู่ฉีได้

 

“ความสามารถพิเศษของเขาคือความเร็วงั้นหรอ?” เจียงลู่ฉีเข้าใจ ความเร็วนั้นคือไพ่ลับของเขาในการทำลายศัตรู ในความจริงแล้ว เขาก็เป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่สามารถต่อกรกับเขาได้ มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากถ้าพี่ชายหยู่นั้นสามารถวิ่งเร็วกว่ามอเตอร์ไซค์ เจียงลู่ฉีรู้ว่าผู้นำนั้นไม่ได้โกหก เขากำลังพูดเรื่องจริงอยู่

 

เจียงลู่ฉีได้รับข้อมูลที่แบ่งปันมาจากเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว ตามความจริงแล้ว ‘พี่ชายหยู่’ นั้นคล้ายคลึงกับหมูป่ากลายพันธุ์ ไวรัสนั้นไม่ได้เปลี่ยนเขาให้กลายเป็นซอมบี้ในกรณีนี้ มันแค่เปลี่ยนร่างกายของเขานั้นแตกต่างจากสิ่งอื่น ‘หยู่’ กลายเป็นสิ่งที่นอกเหนือธรรมชาติ

 

ตามความจริงแล้ว มันค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่หายาก สิ่งที่แตกต่างเช่นสิ่งที่นอกเหนือธรรมชาติ ไม่ว่าคนหรือสัตว์ และซอมบี้ มันแตกต่างราวฟ้ากับเหว เมื่อคิดไปถึงหมูป่ากลายพันธุ์ เจียงลู่ฉีตระหนักได้ว่าสิ่งที่นอกเหนือธรรมชาติเช่นนี้จะมีความสามารถเฉพาะของมัน นั่นคือเหตุผลทำไมพวกมันยังผ่อนคลายและไม่ระมัดระวังหลังจากวันโลกาวินาศ พูดกันตามตรงแล้ว ซอมบี้ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรเลยกับพวกมัน

 

มันเป็นเรื่องเรื่องที่ค่อนข้างชัดเจนว่าพี่ชายอยู่คือบุคคลที่มีพลังเหนือธรรมชาติ และพลังเหนือธรรมชาติของเขาคือความเร็ว ‘พี่ชายหยู่’ ผู้นำของที่นี่ด้วยพลังเหนือธรรมชาติของเขา

 

“นอกจากความเร็วแล้ว ความสามารถอย่างอื่นของ ‘พี่ชายหยู่’ มีไหม?” เจียงลู่ฉีถามอีกครั้ง

 

ผู้นำนั้นพูดย้ำในเรื่องความโหดร้ายของพี่ชายหยู่ อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ทำให้เจียงลู่ฉีสนใจเลย หลังจากถามคำถามอีกหลายๆคำถาม เจียงลู่ฉีก็พบว่าผู้นำนั้นไม่มีประโยชน์แล้ว ดังนั้นเขาจึงโบกมือให้ชายหนุ่มเลือดร้อน

 

ชายหนุ่มเลือดร้อนนั้นยืนอยู่ด้านหนึ่ง ด้วยแขนที่ไขว้ด้านหน้า เมื่อเห็นเจียงลู่ฉีทำสัญญาณให้ เขาก็วิ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว ผู้นำนั้นหวาดกลัวเป็นอย่างมากเนื่องจากเขาไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ในเวลาเดียวกัน เจียงลู่ฉีก็ครุ่นคิดและจ้องไปที่หัวหน้าผ่านกระจกหน้ารถ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด