ตอนที่แล้วตอนที่ 31   ทักษะหลัก [ศิลปะการปรุงอาหาร]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 33   ทักษะ [คร่อมขี่]

ตอนที่ 32   พลังของค่าความอร่อย +5


ตอนที่ 32   พลังของค่าความอร่อย +5

 

ผู้แปล  :  ThreeSwords

ปรับสำนวน  :  ThreeSwords

 

 

ความจริงที่หญิงสาวทั้งสามไม่ได้เซ้าซี้อะไรอีกต่อไปหลังจากที่เขาใช้ข้อแก้ตัวว่า ‘ใช้ซอสสูตรลับ’ นั้น  ทำให้ฉินฟางรู้สึกพอใจ

 

ฟ่านเจี่ยเจียไม่ได้ใส่ใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย  เธอเป็นเพียงคนที่เข้ามาขอกินฟรี  และความคิดเห็นของเธอก็ไม่มีความสำคัญใดๆ  ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่จะไม่ถามหาเหตุผลอันแท้จริง  เพราะแม้ว่าต่อให้เธอถาม  เป็นไปได้ที่ฉินฟางจะไม่พูดอะไรเลย

 

สำหรับเซียวมู่เสวี่ย  เป็นเพราะเธอได้เห็นการแลกเปลี่ยนระหว่างฉินฟางกับเหลาซูเฉียงด้วยตาของตัวเอง  และได้ยินเหลาซูเฉียงบอกสูตรของซอสลับนั่นด้วยหูของตัวเอง  ดังนั้นเธอจึงคิดว่าราเม็งของฉินฟางอร่อยขึ้นด้วยซอสสูตรลับตามที่เขาบอก

 

ส่วนถังเฟยเฟย  เป็นเพราะเธอเป็นหญิงสาวที่ไม่เคยต้องกังวลเกี่ยวกับเสื้อผ้าและอาหาร  กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเธอไม่มีประสบการณ์ชีวิต  ดังนั้นจึงไม่ได้คิดอะไรซับซ้อน  ประกอบกับการที่เธอเป็น ‘แฟน’ และเจ้าของร้านร่วมกับฉินฟาง  เธอจึงมีความสุขมากเมื่อฉินฟางแสดงให้เห็นถึงฝีมือที่พัฒนาขึ้นมากเช่นนี้  ดังนั้นตอนที่ได้ยินฉินฟางพูดเกี่ยวกับซอสสูตรลับนั่น  เธอจึงคิดสรุปเอาเอง

 

เธอไม่ได้คิดอะไรมากเมื่อฉินฟางบอกเธอในตอนแรก  และตอนนี้สิ่งเดียวที่เธอคิดนั้นก็คือราเม็งแสนอร่อยที่เธอกำลังกินอยู่ในขณะนี้

 

หลังจากบอกไปว่าเขาไม่ได้ใส่อะไรแปลกๆ ลงไปในราเม็งเหล่านี้  ฉินฟางก็มองไปยังสามสาวที่กำลังสวาปามราเม็งของเขา  เห็นได้ชัดว่าเขากำลังมีความสุข  โดยเฉพาะตอนที่มองไปยังถังเฟยเฟยกับเซียวมู่เสวี่ย  สองสาวงามที่กำลังกินอยู่นั้น  ถึงแม้ว่าวิธีการรับประทานของพวกเธอจะไม่สุภาพและให้ความรู้สึกดุเดือดก็ตาม

 

*จ๊อกๆ จ๊อกๆ ~*

 

ขณะที่ฉินฟางมองไปยังสาวๆ ที่กำลังทาน  ท้องของเขาก็เริ่มส่งเสียงร้อง  เนื่องจากเขากำลังมีความสุข  ก็เลยลืมไปว่าตัวเขานั้นก็ยังไม่ได้ทานมื้อเช้า!

 

“ฉันขออีกชาม...”

 

“ฉันด้วย!”

 

“คือว่า... ฉันก็ต้องการอีกชามเหมือนกัน!”

 

แต่ตอนที่เขาหันกลับไปเพื่อที่จะทำอาหารให้ตัวเองทานนั้น  สาวๆ ที่อยู่ด้านหลังเขาก็จัดการราเม็งในชามจนหมดไปแล้ว  จากนั้นพวกเธอก็เริ่มเรียกร้องให้เขาทำเพิ่ม  จนเกือบทำให้ฉินฟางสะดุดล้ม

 

สำหรับฟ่านเจี่ยเจีย  ซึ่งรู้กันดีว่าเธอค่อนข้างที่จะกินเยอะ  ฉินฟางเลยเพิ่มเส้นบะหมี่ให้เธอเป็นพิเศษ  และปริมาณที่เพิ่มไปนั้นแน่นอนว่ามันเพียงพอกระทั่งทำให้ผู้ชายตัวใหญ่อิ่มได้ครึ่งหนึ่ง

 

ส่วนถังเฟยเฟยที่ต้องการรักษารูปร่าง  ดังนั้นจึงค่อนข้างเข้มงวดกับสิ่งที่เธอจะทานเข้าไป  และไม่เคยยอมให้ตัวเองดื่มเหล้านั้น  ฉินฟางค่อนข้างเคยชินกับนิสัยในการบริโภคของเธอแล้ว  ดังนั้นเขาจึงรู้ถึงปริมาณที่ถังเฟยเฟยรับประทานจริงๆ เป็นประจำทุกมื้อ

 

แม้ว่าเซียวมู่เสวี่ยนั้น  ฉินฟางจะไม่รู้ถึงปริมาณที่เธอทานได้  แต่มองดูจากรูปร่างของเธอแล้ว  ถึงจะมีส่วนหนึ่งขนาดใหญ่กว่าของถังเฟยเฟยเล็กน้อย  ทว่าส่วนที่เหลือก็ยังเหมือนๆ กัน  ดังนั้นฉินฟางจึงให้ปริมาณของอาหารเท่าๆ กันกับของถังเฟยเฟย

 

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉินฟางถึงได้รู้สึกประหลาดใจมาก  ไม่เพียงพวกเธอจะฟาดราเม็งที่เพียงพอทำให้อิ่มได้จนหมดในทันที  กระทั่งต้องการมันเพิ่มอีก...

 

“เอ่อ...  พวกเธอแน่ใจนะ?”

 

เนื่องจากกลัวว่าจะได้ยินมาไม่ถูกต้อง  ฉินฟางที่นึกสงสัยจึงถามพวกเธออีกครั้งเพื่อทำการยืนยัน

 

“แน่สิ!”

 

และเมื่อทั้งสามตะโกนออกมาพร้อมๆ กัน  ด้วยพลังอำนาจของพวกหล่อน  ฉินฟางจึงไม่มีทางเลือกที่จะต้องทนหิวและไปทำราเม็งให้พวกเธอทางอีกรอบ

 

ไม่นานหลังจากนั้น  ราเม็งอีกสามชามก็พร้อมรับประทาน  ปริมาณที่แบ่งในรอบนี้ไม่ได้ต่างไปจากที่ทำในรอบแรก  แต่ฉินฟางประมาณไว้แล้วว่ามันน่าจะเพียงพอสำหรับสามสาว

 

รอบนี้ฉินฟางไม่ได้ยืนซื่อบื้อและจ้องมองพวกเธอกินอีกต่อไป  หลังจากทำการเสริฟ์ราเม็ง  เขาก็วิ่งที่ไปห้องครัวเพื่อทำราเม็งชามใหญ่ให้กับตัวเอง  โดยส่วนผสมที่ใส่ลงไปนั้นมีค่อนข้างเยอะ  และในเวลาเดียวกันนั้นเขาก็สังเกตเห็นคุณสมบัติของราเม็งชามนี้

 

< [ราเม็งแสนอร่อย]  รสชาติเป็นเลิศ  เครื่องปรุงรสชั้นเยี่ยม  การปรุงอาหารของคุณยกระดับ!>

 

ตอนแรกที่ฉินฟางมองไปยังผลการประเมิน  แน่นอนว่าผลการประเมินนั้นดีกว่าราเม็งชามแรกที่เขาทำ  ซึ่งมันได้ถูกประเมินไว้ว่าเป็น  [ราเม็งแบบเรียบง่าย]

 

จากนั้นเขาก็มองไปยังคำอธิบายของราเม็งชามนั้น

 

[ราเม็งแสนอร่อย]

 

การบริโภคเข้าไปจะช่วยเพิ่มค่า HP 4 หน่วย, เพิ่มความสามารถทางกายภาพ 30% และระดับความสุข 10%

 

คุณสมบัติที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าไม่ได้ต่างไปจากราเม็งชามใหญ่ที่เคยทำ  แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาอีกอย่างคือ  ‘ระดับความสุข +10%’  ซึ่งเป็นค่าสถานะที่มากเป็นสองเท่าจากเกี๊ยวซ่าสูตรเฉพาะของลุงหวังที่เพิ่มระดับความสุขได้แค่ 5%

 

“จากสิ่งที่เห็น  ยอดขายของผมน่าจะพุ่งทะยานสุดๆ เลยล่ะมั้ง?”

 

หลังจากที่เห็นรายละเอียด  เรื่องแรกที่ฉินฟางคิดก็คือร้านของเขานั้นจะได้รับอานิสงส์ขนาดไหนกันนะ  เส้นบะหมี่ของเขานั้นค่อนข้างดีแต่ซอสที่ใช้รสชาติธรรมดา  มิเช่นนั้นแล้วเขาคงไม่ใส่ใจอะไรเกี่ยวกับซอสสูตรลับของเหลาซูเฉียงมากนัก

 

เขาไม่คิดเลยว่าซอสสูตรลับที่ได้มานั้น  จะทำให้เขาได้รับ [ทักษะหลัก] ที่มอบคุณสมบัติค่าความอร่อย +5  ซึ่งยกมาตรฐานของราเม็งเขาไปสู่อีกระดับหนึ่ง

 

และจากปฏิกิริยาของสามสาว  ฉินฟางก็รับรู้ได้เลยว่าร้านของเขาจะขายดีมากขึ้นด้วยเช่นกัน

 

“ผมควรเลิกเรียนและหันมาทำธุรกิจแทนจะดีไหมนะ?”

 

ฉินฟางอดไม่ได้ที่จะคิดถึงแม่ของเขาซึ่งยังคงทำงานหนักอยู่ที่บ้าน  และคาดหวังให้ท่านสามารถมีชีวิตที่สุขสบายกว่านี้

 

“ไม่  ผมเลิกเรียนไม่ได้  แม่ทำงานอย่างหนักเพื่อให้ผมมีอนาคตที่สดใส  ผมไม่อาจทำให้ท่านต้องผิดหวัง!”

 

ฉินฟางยกเลิกแผนการที่จะหยุดเรียนไปอย่างรวดเร็ว

 

ต่อให้ร้านบะหมี่แผงลอยของเขาขายดีมากแล้วยังไง?  สิ่งที่เขาสามารถทำต่อได้คือขยายกิจการและยกระดับให้กลายเป็นร้านขายบะหมี่  ซึ่งนั่นก็ถึงขีดจำกัดแล้ว  เขาจะสามารถทำเงินได้มากพอจนกลายเป็นธุรกิจใหญ่โตเหมือนเช่นโรงแรมผ่านการขายบะหมี่ได้งั้นเหรอ?  ไม่มีทาง!

 

ทำไมราเม็งของเขาถึงได้ขายดีงั้นเหรอ?  ไม่ใช่เป็นเพราะเขาได้รับทักษะและยกระดับมันหรือยังไง?  ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นความสามารถที่ไม่มีใครอื่นมีนอกจากเขา  เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นพ่อครัวตลอดชีวิตหรอก  ใช่ไหมล่ะ?  เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่เป้าหมายของเขา  ดังนั้นบทสรุปก็คือ...

 

“ทักษะ  ผมต้องเรียนรู้ทักษะให้มากกว่านี้”

 

ครั้งนี้ฉินฟางมีความคาดหวังต่อทักษะลึกลับเหล่านั้น  เขาเชื่ออย่างแน่นอนว่าด้วยความสามารถเหล่านี้  จะสามารถทำเงินได้อย่างมากมายจนแม่ของเขาสุขสบายและเลิกทำงานหนัก

 

“งั่มๆ  รสชาติเป็นไปตามที่หวังไว้  อร่อยมาก!”

 

หลังจากทำการชิมราเม็งชามแรกที่ทำด้วยทักษะใหม่ของเขา  ฉินฟางก็เคลิบเคลิ้มกับการซดบะหมี่จนถึงจุดที่เขาจะเขมือบลิ้นลงไปด้วย  โชคดีที่เขายังค่อนข้างมีสติและกินมันเหมือนคนธรรมดาทั่วไป

 

เมื่อฉินฟางทานราเม็งของเขาหมดอย่างรวดเร็ว  สามสาวก็กินชามที่สองเสร็จด้วยเช่นกัน  ตอนนี้พวกเธอกำลังเอามือลูบหน้าและส่งเสียงพึมพำ

 

“อิ่มจัง!... เอิ๊กกก”

 

ไม่จำเป็นต้องพูดว่านี่คือเสียงของฟ่านเจี่ยเจีย  ปกติแล้วเธอจะทำตัวเหมือนกับผู้ชาย  และกระทั่งเสียงเรอของเธอก็ดังจนน่าตกใจ

 

“แน่นมาก...”

 

เสียงนี้ของเซียวมู่เสวี่ย  แม้ว่าเธอจะอิ่มมาก  แต่ก็ยังค่อนข้างสงวนกิริยาจนถึงที่สุด

 

“การลดน้ำหนักของฉัน...  ฉินฟาง!  เอาไดเอทที่ฉันเสียไปกลับคืนมาเลย!  %#&@!*%!”

 

เสียงนั่น... เห็นได้ชัดว่าเป็นของถังเฟยเฟย  ฉินฟางรู้ว่าเธอกำลังไดเอท  และก็... เห็นได้ชัดจริงๆ ว่าวันนี้มันเสียไปแล้ว  โดยตัวของเธอเองด้วย

 

“อะไรกัน!?  สาวสวยทั้งสามขอรับ  ก่อนหน้านี้กระผมได้ถามไปแล้วว่าแน่ใจนะที่ต้องการเพิ่มอีก…”

 

เมื่อเผชิญกับสายตาอันน่ากลัวของสามสาว  ฉินฟางทำได้เพียงบิดขี้เกียจและมีท่าทางทำอะไรไม่ถูก

 

“นายยังกล้าที่จะเถียงงั้นเหรอ?!...  ทั้งหมดเป็นความผิดของนาย  ฉันจะลงโทษนาย  นายโดนแน่!”

 

สองคนที่เหลือไม่ได้แสดงอาการอะไร  แต่ถังเฟยเฟยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ  เธอบ่นอย่างไม่หยุดหย่อนพร้อมกับคิดหาวิธีที่จะลงโทษฉินฟางทุกรูปแบบ  ทันใดนั้นเธอก็จับจ้องไปยังจักรยานมือสองเก่าๆ ที่จอดอยู่ในลาน  ดวงตาของเธอเจิดจ้าและเกิดความคิดขึ้นในทันที

 

“ใช่แล้ว!  นี่ไงล่ะ!  พวกเราจะไม่นั่งรถไปภูเขาหยกขาว  นายจะต้องใช้จักรยานคันนี้พาฉันไปที่นั่น!”

 

“เอ่อออ... ได้โปรด  ไม่...”

 

พอได้ยินวิธีการลงโทษของถังเฟยเฟย  ฉินฟางก็รู้สึกว่าขาของเขาสั่นในทันที  เขาเริ่มร้องขอความเมตตา  ใบหน้าของเขาในตอนนี้เหมือนกับลูกหมาที่กำลังอ้อนวอนขอให้ยกโทษหลังจากทำบ้านรก  อย่างไรก็ตามในใจของเขานั้นก็กำลังกรีดร้อง  “บ้าไปแล้ว?!  ระยะห่างจากที่นี่กับภูเขาหยกขาวอย่างน้อยยี่สิบกิโลเมตรเลยนะ!”

 

“ห้ามปฏิเสธ  นายต้องใช้รถจักรยานนั่นพาฉันไป  ฮิฮิ  นายจะทำหรือไม่ทำล่ะ?’

 

แต่เมื่อเธอเผชิญหน้ากับฉินฟางที่ร้องขอความเมตตา  ถังเฟยเฟยก็ทำมือปฏิเสธการขอร้องของเขา  จากนั้นเธอก็มองไปยังฉินฟางด้วยใบหน้าที่มีความสุขจากการทรมานคนอื่นซึ่งมันดูเหมือนกับนางจิ้งจอกตัวน้อยจริงๆ

 

“ก็ได้!  เธอชนะ!”

 

ภายใต้การบังคับและคุกคามอันน่ากลัวของถังเฟยเฟย  ฉินฟางก็กัดฟันตอบตกลง  อย่างไรก็ตามเมื่อตาของเขามองผ่านไปยังจักรยาน  รอยยิ้มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเขาโดยไม่ทันรู้ตัว  เพราะจักรยานคันนี้มีขนาดเล็ก  ถ้าคนสองคนจะนั่งไปด้วยกัน  คนที่นั่งด้านหลังจะต้องจับยึดหรือกอดคนด้านหน้าไว้อย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อที่จะนั่งให้มั่นคง

 

เห็นได้ชัดว่าคนที่อยู่ด้านหน้าเพื่อถีบจักรยานนั้นจะต้องเป็นฉินฟาง  และถังเฟยเฟยเป็นคนนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง  ด้วยการจัดการนี้... บอกได้เลยว่ามันจะเป็นสถานการณ์ที่มีความสุข

 

 

……………………………..

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด