ตอนที่แล้วตอนที่ 183: การสำรวจ (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 185: การสำรวจ (4)

ตอนที่ 184: การสำรวจ (3)


พื้นสกปรกปกคลุมไปด้วยฝุ่นซึ่งทำให้รอยเลือดสีแดงเข้มยิ่งเด่นชัด

แองเจเล่ไม่พบสิ่งแปลกๆในห้อง

เขาตามรอยเลือดไปที่ผนัง

มันดูเหมือนเลือดมาจากอีกฟากหนึ่ง

ผิวของผนังมีสีเทาและมีประกายสีเงิน แองเจเล่เงยหน้าขึ้นและเห็นไพลินขนาดเท่าหัวเรืองแสงอยู่ภายในผิวของผนัง

แสงสีน้ำเงินสะท้อนชุดคลุมของแองเจเล่และบนไพลินก็มีลายนิ้วมือเลือดซ่อนอยู่ มันสังเกตค่อนข้างยากและแองเจเล่สันนิษฐานว่าลายนิ้วมือถูกทิ้งไว้ที่นั่นโดยคนที่ได้รับบาดเจ็บ

เขายกมือขึ้นและกดลงบนไพลิน

แคร๊ก

ไพลินจมลงเข้าไปในผนังและเลื่อนไปทางซ้าย มันเผยให้เห็นช่องที่ซ่อนอยู่ขนาดเล็ก

มีหนังสือเล่นบางที่มีปกสีเหลืองวางอยู่ในนั้น ไม่มีอะไรเขียนอยู่ข้างบนและมันก็ดูเก่า

แองเจเล่คว้าหนังสือและพบชุดกุญแจโลหะสีดำอยู่ข้างใต้

มีกุญแจอยู่ประมาณสิบดอกห้อยอยู่บนที่ห้อยสีเงิน ขนาดและรูปร่างของกุญแจแตกต่างกันไป มันดูเหมือนว่าพวกมันถูกใช้ล็อคที่ที่แตกต่างกัน

แองเจเล่ผูกพวงกุญแจไว้ที่เข็มขัดของเขาและเปิดหนังสือเล่มบาง

 

[12 เมษายน ข้ามาถึงซากปรักหักพังใหม่นี้ที่เราค้นพบ ท่านมาฮัมท์ของลัทธิค้นพบสถานที่นี้และเข้ามายึด มันเป็นซากปรักหักพังขององค์กรโบราณแกนแห่งกาลเวลา สถานที่นี้ดีและอากาศก็เยี่ยมมากแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเราไม่พบสิ่งมีชีวิตใดๆบนเกาะนี้ มันแปลก ในฐานะที่เป็นสมาชิกของลัทธิข้าต้องปฏิบัติตามคำสั่ง......ข้าคิดถึงไวน์ของข้าจริงๆ.....]

[15 เมษายน เสบียงของพวกเรามาถึงและทุกสิ่งทุกอย่างก็กำลังไปได้ดี มีพวกเราไม่มากนักอยู่ที่นี่แต่เราก็มีความสำคัญต่อภารกิจ ข้าจะเขียนลงไปมากกว่านี้แต่ฮาเนอร์ได้ขอให้ข้าช่วยในห้องทดลอง ข้าจะทิ้งมันไว้ที่นี่]

หลายหน้าต่อมาได้หายไป มันดูเหมือนว่ามีคนฉีกออกไปแต่แองเจเล่รู้อยู่แล้วว่านี่เป็นไดอารี่ของสมาชิกลัทธิสองหัว

เขายังคงเปลี่ยนไปหน้าต่อไป เขาข้ามตรงส่วนบันทึกชีวิตประจำวัน

แองเจเล่มาถึงหน้าสุดท้ายอย่างรวดเร็ว

[มันเป็นเดือนกรกฎาคมแล้ว คุเอร่าบอกข้าว่านาฬิกาพกของเขาหยุดทำงานและข้าอยากจะซ่อมมันให้เขา จริงหรือ! เฟืองด้านในนั้นแตกเป็นเสี่ยงๆและไม่มีอะไรที่ข้าสามารถทำได้ มันมีการระเบิดมากเกินไปในห้องทดลอง......คุเอร่าบ่นว่าอุปกรณ์ที่สร้างโดยปุถุชนนั้นอ่อนแอเกินไป.......และข้าไม่มีอะไรต่อต้านความคิดเห็นนี้]

[เมื่อเร็วๆนี้มีบางอย่างไม่ถูกต้อง หัวหน้ามาถึงสถานที่นี้และได้วางข้อจำกัดในหลายพื้นที่ พวกเขาวางแผนที่จะทำอะไร ข้าไม่เห็นพวกเขาในปีที่ผ่านมาและพวกเขาต้องการนำทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเราหรือ เรามีส่วนร่วมมากที่สุดในโครงการนี้และพวกเขาไม่อนุญาตให้เราเข้าสู่พื้นที่ที่มีทรัพยากรหายากที่สุด.....ข้าเป็นพ่อมดด้วยข้าต้องหาทางเข้าไปในพื้นที่เหล่านั้นในสักวันหนึ่ง....]

[11 ตุลาคม ในที่สุดข้าก็ได้รับกุญแจไปยังพื้นที่จำกัด พระเจ้า มันใช้กุญแจสิบดอกเพื่้อเปิดทางเข้าทั้งหมด ข้ากำลังเตรียมที่จะเข้าสู่พื้นที่นั้นในวันนี้ ขอให้ข้าโชคดี]

นี่เป็นหน้าสุดท้ายของไดอารี่ แองเจเล่หมุนหนังสือแต่ไม่พบอะไรที่ด้านหลัง

เขาคว้ากุญแจและพบคำว่า '4' ถูกสลักบนด้ามจับของพวกมันในภาษาแอนแมค

แองเจเล่รู้แล้วว่ามีเรื่องร้ายเกิดขึ้นเพียงแค่อ่านไดอารี่ ภารกิจของชายคนนี้อาจจะล้มเหลว เขาตรวจสอบไดอารี่อีกครั้งและพบว่ามีแผนที่ที่วาดซากปรักหักพังอย่างดี แต่ละพื้นที่มีป้ายชื่อและมีวงกลมสีดำห้าวงอยู่ตรงมุม ตัวเลขตั้งแต่หนึ่งถึงห้าถูกเขียนอยู่ภายในวงกลมแต่ละวง

วงกลมที่มีหมายเลขสี่อยู่ไม่ไกลจากห้องทดลอง

แองเจเล่เปิดไดอารี่และอ่านหน้าสุดท้ายอีกครั้ง

[และพวกเขาไม่อนุญาตให้เราเข้าสู่พื้นที่ที่มีทรัพยากรหายากที่สุด]

พ่อมดที่ถูกส่งไปยังซากปรักหักพังโดยลัทธิสองหัวล้มเหลวอย่างสมบูรณ์ในการสำรวจซากปรักหักพังและด้วยเหตุบางอย่างพวกเขาจึงตั้งพื้นที่จำกัดเพื่อเก็บทรัพยากรหายาก แองเจเล่เดาว่าพวกเขาอาจจะพบสิ่งอื่นในพื้นที่พิเศษเหล่านั้นและความลับถูกรายงานไปยังหัวหน้าที่มีตำแหน่งสูงขึ้น

พ่อมดที่เขียนไดอารีอาจจะตายเมื่อพยายามบุกเข้าไปในพื้นที่สี่แต่แองเจเล่ไม่เข้าใจว่าทำไมไดอารี่และกุญแจของเขาถึงอยู่ที่นั่น

เขาลูบแผนที่ด้วยนิ้วมืออย่างช้าๆ

'ข้าควรไปหรือไม่'

แองเจเล่ลังเล ตามข้อมูลที่เขาได้รับจากไดอารี่เขามั่นใจว่ามีบางอย่างผิดปกติกับซากปรักหักพัง อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าถ้าเขาต้องการเพิ่มจำนวนทรัพยากรที่เขาได้รับเขาก็จะต้องเข้าไปพื้นที่ที่ถูกจำกัด

'ข้าต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง พื้นที่เหล่านั้นไม่ได้ถูกจำกัดโดยไม่มีเหตุผล ผลตอบแทนที่ดีขึ้นก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูง.....บัดซบ ตอนนี้ข้าหวังว่าข้าจะไปสู่ขั้นต่อไปได้มันจะทำให้ข้ามีคาถาที่สร้างความเสียหายได้ดีกว่านี้....'

แองเจเล่ยังคงคิดและในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะตรวจพื้นที่นอกวงกลมเท่านั้น ถ้าไม่มีสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นเขาก็จะใช้กุญแจและเข้าไปหาทรัพยากรหายาก

เขาสแกนไดอารี่และเก็บข้อมูลไว้ในฐานข้อมูล ทั้งกระบวนการใช้เวลาประมาณหนึ่งนาทีจากนั้นแองเจเล่ก็โยนไดอารี่กลับเข้าไปในช่องลับ ด้วยการดีดนิ้วของเขาอนุภาคพลังงานไฟก็เผาหนังสือ ในเปลวไฟสีส้มที่สดใสไดอารี่ก็เปลี่ยนเป็นสีเหลือง บิดเบี้ยวและกลายเป็นขี้เถ้า

แองเจเล่หันกลับไปและออกจากห้องทดลองกลับไปที่อุโมงค์ สถานที่นี้เงียบมาก เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรและเขาสงสัยว่าอากาศหมุนเวียนหรือไม่

ลูกไฟที่ลอยอยู่ด้านซ้ายของใบหน้าของเขาทำให้เห็นวิสัยทัศน์ได้น้อย

เขานึกถึงแผนที่ที่เขาเพิ่งอ่านและตำแหน่งปัจจุบันของเขา เขาค่อยๆเดินไปข้างหน้าช้าๆภายใต้แสงไฟสลัวๆและเขามาถึงทางแยก

รอยเท้าบนพื้นชี้ให้เห็นว่าเมลิสซ่าและกลุ่มของเธอเดินตรงไปข้างหน้า

แองเจเล่ตัดสินใจที่จะตรวจสอบพื้นที่จำกัดหมายเลขสี่ก่อน

เขาตรวจสอบแผนที่สองครั้งที่เขาเก็บไว้ในชิปและเลี้ยวซ้าย

มีลมพัดมาจากด้านซ้ายไปด้านขวา แองเจเล่ยังคงเดินไปข้างหน้าอีกประมาณยี่สิบนาที

เขาได้มาถึงทางเข้าและเห็นตัวเลข '4' ระหว่างทางในภาษาแอนแมค

ฝุ่นในอากาศทำให้แองเจเล่คันจมูก เขายืนอยู่ข้างทางเข้าและแอบมองเข้าไปข้างใน

ทางเดินยาวประมาณสิบเมตรและมีประตูไม้สีดำอยู่สุดทางเดิน ประตูสูงและกว้างมันมีรูอยู่บนผิวของมัน แสงสีน้ำเงินออกมาจากรูมันดึงดูดสายตาของแองเจเล่

มันดูเหมือนว่ามีใครบางคนกำลังสนทนาอยู่ข้างใน

แองเจเล่ดับลูกไฟและค่อยๆย่อง

เขายืนอยู่หน้าประตูไม้และมองผ่านรูขนาดใหญ่

แองเจเล่ได้ยินเสียงคนข้างในพูดกันอย่างชัดเจน

"....ไม่! เป็นไปไม่ได้! บอกข้า! มันไม่ใช่ความตั้งใจของเจ้าใช่ไหม บอกข้า!" ชายคนหนึ่งตะโกน เสียงของเขาฟังดูกังวล

แองเจเล่เอนไปข้างหน้าและเห็นโถงประชุมขนาดใหญ่ ผนังมันตกแต่งด้วยไพลินเรืองแสงเหมือนกับที่เขาพบในห้องทดลอง ไพลินเหล่านี้เป็นแหล่งกำเนิดแสงเพียงอย่างเดียวของที่นี่

โถงเต็มไปด้วยผู้คนที่สวมชุดคลุมน้ำเงินยาว อายุและเพศของพวกเขาแตกต่างกันไปแต่พวกเขาทุกคนปลดปล่อยคลื่นพลังจิตที่แข็งแกร่งและมันดูเหมือนว่าการบีบอัดพลังจิตของแองเจเล่จะช่วยทำให้ตรวจสอบไม่พบเขา

แองเจเล่ตกใจหลังจากที่ตรวจสอบคลื่นพลังจิตของพวกเขาเพราะทุกคนเป็นพ่อมด

นอกจากนี้ร่างกายของพ่อมดเหล่านี้ก็ยังโปร่งใส พวกเขาเกือบจะเหมือนกับผี

พ่อมดทุกคนจ้องมองไปที่คนที่สวมชุดคลุมน้ำเงินเข้ม เสียงที่แองเจเล่ได้ยินก่อนหน้านี้เป็นของชายหนุ่มคนหนึ่งและเขาก็จ้องชายอีกคนข้างหน้าเขาด้วยความโกรธ

"นาโอร่า! เจ้าทำลายเรา! เจ้าทำลายทั้งแกนแห่งกาลเวลา! ตอนนี้ข้าจะต้องหยุดเจ้า!"

แม่มดก้าวไปข้างหน้า

"เราเป็นพ่อมดที่แข็งแกร่งที่สุดบนชายฝั่งตะวันตกและเราไม่อยากเสี่ยงกับมัน!" มีบางคนตะโกนออกมา

"ข้ากำลังทำเพื่อองค์กร" พ่อมดที่ชื่อนาโอร่าตอบเสียงเบา ชายคนนี้มีรอยยิ้มที่ดูสงบบนใบหน้า มันดูเหมือนว่าคนอื่นๆพยายามหยุดเขาจากการทำอะไรบางอย่าง

"แกนแห่งกาลเวลางั้นหรือ"

"อย่าบอกนะว่านี่เป็นความทรงจำของซากปรักหักพัง"

แองเจเล่เคยอ่านเรื่องนี้ในหนังสือที่ห้องสมุดของแรมโซด้าครั้งหนึ่ง บางส่วนของสถาปัตยกรรมโบราณถูกสร้างขึ้นด้วยวัสดุพิเศษที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในได้ วัสดุไม่ได้ถูกเพิ่มพลังด้วยคาถา พ่อมดเร่ร่อนหลายคนได้พบวัสดุนี้ขณะที่เดินทาง ตำนานบอกว่าเสียงผีที่พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญยาโบราณก็ใช้วัสดุคล้ายกัน

พ่อมดที่แองเจเล่เห็นเป็นภาพลวงตาและข้อโต้แย้งของพวกเขาถูกบันทึกไว้นานมาแล้ว มันอาจจะเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญขององค์กร

'นี่อาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไมแกนแห่งกาลเวลาหายไปจากโลกนี้' แองเจเล่เดาขณะที่เฝ้าดูพ่อมดพูดอยู่ภายในโถง

ข้อโต้แย้งของพ่อมดเริ่มรุนแรงขึ้นและพวกเขาชี้ไปที่นาโอร่า ไม่มีใครเชื่อคำอธิบายของชายคนนี้แต่เขาก็ยังพยายามที่จะชักจูงคนอื่นๆให้ทราบว่าแผนของเขามีความสำคัญเพียงใด

อย่างไรก็ตามไม่มีใครฟังเขา

"เจ้ารู้ไหมว่าข้ามีเจตนาอะไร เจ้าจำวันที่เราก่อตั้งองค์กรนี้ได้ไหม วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของเราคืออะไร!" นาโอร่าตะโกน

"บอกเราว่าเจ้ากำลังทำอะไร!" หนึ่งในพ่อมดตะโกน

"ใช่! เอาเอกสารมาให้เราดู! เราไม่ต้องการคำโกหก!"

ภายในห้องโถงเริ่มดังขึ้น

แคร๊ก

แองเจเล่ก้าวโดนอะไรบางอย่างขณะที่พยายามหามุมมองดีๆ

ทันใดนั้นคนภายในห้องโถงก็หยุดตะโกนและหยุดเคลื่อนไหว มันเกือบจะเหมือนกับว่าวิดีโอถูกหยุดชั่วคราว

พวกเขาหันไปที่ประตูและจ้องที่แองเจเล่ผ่านรู

มีสายตามากกว่าสามสิบคู่จ้องที่แองเจเล่พร้อมๆกันและการแสดงออกของพ่อมดเหล่านั้นก็ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มอันน่าสยดสยอง

แองเจเล่กลัวและกะโหลกของเขาก็สั่น เขาก้าวถอยหลังหลายก้าวและจ้องไปที่ประตูไม้สีดำ

โถงนั้นเงียบอย่างสมบูรณ์แต่เขายังรู้สึกว่าถูกจ้องมองผ่านประตู

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด