ตอนที่แล้วตอนที่ 182: การสำรวจ (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 184: การสำรวจ (3)

ตอนที่ 183: การสำรวจ (2)


"ดาบปลายโค้งต้องสาป...."

แองเจเล่นึกถึงเรื่องที่เมลิสซ่าได้อธิบายอาวุธของเคอร์แมนแต่เขาไม่พบข้อมูลเพิ่มเติมในฐานข้อมูล

เขาตรวจสอบดาบปลายโค้งแต่มันดูเหมือนว่าจะต้องใช้เทคนิคพิเศษเพื่อกระตุ้นผลของมัน พลังจิตและอนุภาคพลังงานของแองเจเล่ไม่ได้ผล มันเป็นเพียงดาบปลายโค้งธรรมดาสำหรับเขา

แองเจเล่ใช้เวลาหลายนาทีในการสังเกตดาบปลายโค้งขณะที่ซีโร่กำลังสแกนแต่เขาก็ไม่ได้ข้อมูลที่มีค่าใดๆ เขาตัดสินใจที่จะสำรวจมันในอนาคตเขาจึงเก็บมันไว้กับเข็มขัดของเขา

เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่เปลวไฟที่กำลังเกรี้ยวกราด ร่างของเคอร์แมนถูกเผาจนเป็นขี้เถ้าและแองเจเล่ก็ตรวจไม่พบคลื่นพลังจิตของเขาอีกต่อไป

แองเจเล่กลับไปที่ช่องว่างข้างบนของอุโมงค์และกระโดดลงไป เขายังมองเห็นไฟระหว่างช่องว่างและอุณหภูมิภายในอุโมงค์ก็สูงขึ้น

ลูกไฟส่องแสงได้ปรากฏขึ้นที่ฝั่งซ้ายของใบหน้าของเขาอีกครั้งและเขาก็เริ่มเดินกลับไปพื้นที่ที่เริ่มต่อสู้

อุโมงค์ใต้ดินของซากปรักหักพังเป็นเหมือนใยแมงมุม มันซับซ้อนและเต็มไปด้วยทางแยกแต่แองเจเล่ไม่เห็นห้องใดๆระหว่างทาง

เขาสันนิษฐานว่าเขายังอยู่ในพื้นที่ด้านนอก เขามาถึงทางแยกอีกครั้งแต่ครั้งนี้เขาตัดสินใจที่จะสำรวจพื้นที่ที่ไม่รู้จักก่อน

เขาหันไปทางซ้ายและเข้าไๆปในอุโมงค์ที่มืดมิด

กึกๆๆ

พื้นสั่นเล็กน้อย มันดูเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างที่อยู่ห่างไกลออกไปโดนอุโมงค์

หลังจากนั้นประมาณสิบนาทีพื้นก็หยุดสั่น แองเจเล่ตรวจพบแหล่งที่มาของการสั่นสะเทือนและเพิ่มความเร็วของเขาแล้วเลี้ยวขวาที่ทางแยกสุดอุโมงค์นี้

ผนังหินนั้นไม่มีความแตกต่างกัน ถ้าปราศจากชิปแองเจเล่ก็คงจะหลงทางไปแล้ว ในที่สุดเขาก็มาถึงทางเข้าที่ดูต่างออกไปตรงปลายอุโมงค์

ภายในทางเข้ามีบันไดหินสีเทาที่ทอดลงสู่ความมืด แองเจเล่รู้สึกถึงอากาศเย็นๆปะทะกับใบหน้าเพียงแค่ยืนอยู่ข้างผนัง

เขาก้มลงและตรวจสอบที่พื้น

แองเจเล่พบรอยเท้าบนฝุ่นที่พื้นหิน

"มีใครบางคนมาที่นี่แล้ว"

แองเจเล่ยืนขึ้นและชี้ไปที่บันได

ด้วยการดีดนิ้วมันก็มีลูกโลหะสีดำขนาดเล็กยิงไปที่บันได

ก่อนที่ลูกโลหะจะตกลงพื้นแองเจเล่ก็ยกมือขึ้นอีกครั้ง

มีลำแสงสีแดงกะพริบ

ฟรึบ

ลูกโลหะถูกจุดไฟและแสงสีเหลืองที่มาจากเปลวไฟมันก็ทำให้บริเวณบันไดสว่างขึ้น

ตุ้บ

ลูกโลหะที่เผาไหม้กลิ้งลงไปตามบันไดหินและหยุดหลังจากที่ถึงพื้น มันดูเหมือนจุดแสงขนาดเล็ก

แองเจเล่พอใจกับผลและเขาก็ยืนลูกโลหะมากกว่าสิบลูกลงบันได

ในที่สุดเขาก็มองเห็นสิ่งต่างๆได้อย่างชัดเจนและเริ่มเดินลงอย่างช้าๆ

มีลวดลายสีขาวแปลกๆถูกวาดอยู่บนผนังทั้งสองข้าง

พวกมันดูเหมือนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่มีร่างกายมนุษย์ติดอยู่ แขนของพวกมันยาวแต่ก็บิดเบี้ยว หนึ่งในัน้นมีหูขนาดยักษ์ที่ดูเหมือนอ่างล้างหน้า ดอกไม้บางดอกเป็นผู้คนที่จับมือกันและเต้นรำรอบกองไฟ

แองเจเล่ถูผิวของผนัง สีขาวบางส่วนได้ตกลงไปที่พื้นและพื้นที่ขนาดใหญ่ข้างดอกไม้ที่มีคนกำลังเต้นรำหายไป

เขาลดมือลงและเริ่มเดินลงบันไดอีกครั้ง เขาคิดว่าที่นี่มันเป็นอุโมงค์แต่จริงๆแล้วมันเป็นห้องและลูกโลหะที่เผาไหม้ก็อยู่บนพื้นอย่างเงียบๆ

ไม่มีภาพวาดบนผนังในห้อง ผิวของมันเรียบเนียนและเกลี้ยงเกลา

แองเจเล่สังเกตเห็นผู้หญิงผมบลอนด์นอนอยู่ข้างลูกโลหะที่เผาไหม้ลูกหนึ่ง เธอสวมชุดเกราะหนังสีแดงและใบหน้าของเธอก็ดูคุ้นเคย

เธอเป็นหนึ่งในผู้ติดตามของอินเฟ้น

รูปแบบเกราะของผู้ติดตามของอินเฟ้นนั้นง่ายต่อการจำและแองเจเล่สามารถระบุตัวเธอได้อย่างง่ายดาย

เขาเดินไปที่เธอและก้มตัวลง

ร่างกายของเธอนอนคว่ำอยู่บนพื้นและมีสระเลือดสีแดงเข้มอยู่ข้างใต้เธอ

แองเจเล่จุ่มนิ้วลงในเลือด มันเริ่มแข็งและมันรู้สึกเหมือนสัมผัสกับโจ๊ก

'ข้ามีน้ำมันดอกกุหลาบดำแล้วและมีเพียงสิ่งเดียวที่ข้าต้องการคือหัวใจของต้นไม้ ข้าหวังว่าข้าจะพบมันในซากปรักหักพัง มันดูเหมือนว่าซากปรักหักพังถูกควบคุมโดยลัทธิสองหัว ข้าอาจจะหาทรัพยากรได้หากเป็นความจริง'

แองเจเล่รู้ว่ามีอันตรายอยู่ข้างหน้าแต่เขาไม่อยากยอมแพ้กับโอกาสที่จะได้รางวัลอย่างง่ายดาย ถ้าเขาเลือกจากไปตอนนี้ระเบิดหัวใจที่เขาใช้ก็จะสูญเปล่า

แองเจเล่ไม่ได้กลับไปในสวนบ่วงจันทรา มีเพียงวิธีเดียวที่จะก้าวหน้าในโลกพ่อมดคือการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์และโอกาสต่างๆ เขาต้องระมัดระวังในการจัดการกับสิ่งต่างๆแต่ไม่ได้หมายความว่าเขาควรจะเลิกเมื่อมีอันตรายที่มาพร้อมกับโอกาสที่จะได้ประโยชน์อยู่ข้างหน้า

นอกจากนี้ด้วยความช่วยเหลือของเทคนิคย่องเบาและวิธีการบีบอัดพลังจิตเขาก็จะไม่ถูกตรวจพบถ้าพลังจิตของศัตรูอ่อนแอกว่าเขา

แองเจเล่คว้าไปที่ไหล่ของเธอและหันร่างกาย

มีแผลลึกบนคอของอัศวินหญิงและมีรูขนาดใหญ่ตรงกลางท้องของเธอ แองเจเล่มองเห็นอวัยวะที่รวมกับเนื้อ นอกจากนี้ไหล่ขวาของเธอก็ยังหัก มันดูเหมือนว่าเธอไม่มีโอกาสต่อสู้กลับ

แองเจเล่ยืนขึ้นและมองไปรอบๆหลังจากที่ตรวจสอบร่างกาย

มีประตูหินโค้งสามประตูอยู่ข้างหน้าเขา

ประตูข้างหน้าเขาเปิดอยู่ มีเศษหินขนาดใหญ่อยู่บนพื้นและมีรอยเท้าที่เป็นเลือดอยู่ข้างๆ

แองเจเล่ใช้เทคนิคย่องเบาและเดินไปเงียบๆ จากนั้นเขาก็เข้าไปในประตูอย่างช้าๆ

ปัง

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังผสมกับเสียงคนคำรามดังมาจากข้างใน

ห้องเริ่มสั่นความรู้สึกคล้ายกับตอนที่เขาอยู่ในอุโมงค์

แองเจเล่ยกมือขึ้นและอนุภาคพลังงานสีน้ำเงินก็กะพริบในอากาศ เปลวไฟบนลูกโลหะทั้งหมดดับ ห้องอยู่ในความมืดอีกครั้งเหลือเพียงลูกไฟข้างๆใบหน้าของเขา

เขาเริ่มขยับไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วโดยใช้เทคนิคย่องเบาและการบีบอัดพลังจิตทำให้แทบไม่มีเสียงของฝีเท้า

ข้างหลังประตูเป็นอุโมงค์ที่มืดมิด หลังจากเดินไปหลายนาทีแองเจเล่ก็ได้ยินเสียงคนคุยกันข้างหน้า

"....ตรวจสอบ....นำ....กับเรา.....เราต้องรีบ......พื้นที่หลักอยู่ข้างหน้า"

มันเป็นเสียงของเมลิสซ่าแต่แองเจเล่จับใจความที่เธอพูดไม่ได้ทั้งหมด

เขาเดินไปข้างหน้าอีกหลายก้าวและในที่สุดเขาก็ได้ยินบทสนทนาของพวกเขาอย่างชัดเจน มีคนตอบเมลิสซ่า

"ทั้งหมดนี้เป็นกับดัก......มันเป็นครั้งแรกที่เราเข้าพื้นที่นี้ ทุกคนระวังตัวให้ดี! เราจะถึงพื้นที่หลักหลังจากที่ทำลายบาเรีย เราต้องหาเพลาแบริ่งให้มากที่สุด" มันเป็นอินเฟ้น ดูเหมือนว่าเขาจะกลับมาที่ทีมของเมลิสซ่า "เบเล็มและเคอร์แมนเป็นสายลับของลัทธิสองหัว ถ้ากรีนไม่ได้จัดการพวกเขาให้เรามันก็จะเป็นปัญหาใหญ่"

"เฮ้! ระวังให้ดี! มองไปที่ผนังคอลลิน! อย่าไปใกล้เกินไป!"

"ครับ"

"อิซาเบลอยู่ไหน ข้าไม่พบเธอและผู้ติดตามของเธอหลังจากที่เข้าอุโมงค์" เมลิสซ่าถาม

"ข้าเห็นเธออีกด้านของอุโมงค์ เธอไม่ได้วางแผนที่จะเข้าไปพื้นที่หลัก เธอตรงไปยังพื้นที่เก็บของด้วยเหตุุผลบางอย่าง" อินเฟ้นอธิบาย

"เธอกำลังมองหาอะไร ข้าแน่ใจว่ามีทรัพยากรหายากมากมายอยู่ที่นี่ ไปกันเถอะ เราต้องไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้" เมลิสซ่าพูดเสียงเบา

มันดูเหมือนว่าเมลิสซ่าและอินเฟ้นได้เข้าประตูไม่นานมานี้ แองเจเล่ตามหลังพวกเขาจากระยะไกลค่อยๆไปข้างหน้าที่ละนิด

อุโมงค์ยังอยู่ในสนามพลังที่พร้อมจะดักผู้คนให้อยู่ในภาพลวงตา แองเจเล่ต้องจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้พลาดข้อมูลที่สำคัญใดๆ เมลิสว่าได้ต่อสู้หลายครั้งก่อนที่จะรวมตัวกับอินเฟ้น

มีเศษอวัยวะของมนุษย์อยู่บนพื้นและมีเลือดกระจายบนผนังหิน มีรอยเท้าทิ้งไว้บนพื้นที่นำไปสู่พื้นที่ข้างหน้า

แองเจเล่พบประตูขนาดเล็กทางด้านซ้าย ป้ายมันบอกว่า 'ห้องทดลอง' เป็นคำที่เขียนในภาษาบารันโบราณ เขาลังเลชั่วครู่จากนั้นก็เปิดประตู

มีแสงสีฟ้าสะท้อนบนใบหน้าของเขา

มันเป็นห้องที่มีขนาดกว้างขวางมีไพลินเรืองแสงปกคลุมที่ผนัง ไพลินรูปเพชรเหล่านี้เป็นแหล่งกำเนิดของแสง

ด้านซ้ายของห้องมีนาฬิกาแดดหินขนาดเล็กที่มีสีดำ มีชั้นฝุ่นหนาปกคลุมผิวของมัน

แองเจเล่เดินไปที่นาฬิกาแดดและเช็ดฝุ่นด้วยเศษผ้า

กลุ่มของเมลิสซ่ายังไปข้างหน้า พวกเขาไม่ได้เข้าห้องทดลองเพราะพวกเขาอยากประหยัดเวลา

แองเจเล่แน่ใจว่าเพลาแบริ่งที่เมลิสซ่าพูดถึงคืออะไรแต่มันดูเหมือนว่าพวกเขาไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องนี้ เขาไม่แน่ใจว่าเมลิสซ่าแข็งแกร่งแค่ไหนดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะทำการสืบสวนด้วยตัวเองก่อน

เขาไม่สนใจเพลาแบริ่งอีกต่อไป

ด้วยการตายของเคอร์แมน แองเจเล่จึงสามารถมุ่งมั่นไปกับการค้นหาหัวใจของต้นไม้ เขาได้รับน้ำมันดอกกุหลาบดำจากอิซาเบลแล้วดังนั้นเขาจึงสามารถเตรียมทำยาได้หลังจากที่ได้รับหัวใจ

แม้ว่าพลังจิตของแองเจเล่จะยังไม่สูงพอที่จะไปถึงขั้นต่อไป แต่มันก็ยังจำเป็นสำหรับเขาที่จะรวบรวมวัสดุสำหรับทำยาก่อน มีหลายวิธีที่จะช่วยเขาเพิ่มพลังจิตนอกจากการทำสมาธิแต่นี่อาจเป็นโอกาสเดียวที่เขาจะได้รับหัวใจ

นอกจากนี้แองเจเล่มั่นใจว่าเขาสามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยการทดลองทำครั้งแรก เขามีประสบการณ์ในทางปฏิบัติมากมายและซีโร่สามารถจำลองกระบวนการให้เขาได้

ผู้เชี่ยวชาญยาจะต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากทุกๆวัน แต่พวกเขาสามารถสร้างยาระดับกลางได้ในแต่ละปีเพียงแค่หนึ่งหรือสองขวด

ยาพื้นฐานมีราคาแพงในตลาด แต่ราคาของยาระดับกลางนั้นสูงกว่ามาก ระดับทักษะและจำนวนของทรัพยากรที่ต้องการนั้นมันเป็นจำนวนมหาศาล วัสดุเสียไปนับร้อยนับพันเท่าจากรายการในสูตรจริง

แองเจเล่หยุดคิดและเริ่มสังเกตสภาพแวดล้อม มีรอยเลือดอยู่ที่มุมที่ดึงดูดสายตาของเขา

แองเจเล่เดินไปที่มุมและเห็นรอยเลือดนำไปสู่อีกด้านของผนังห้อง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด