ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 64 ถึงเวลาออกล่า (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 66 มนุษย์ไม่ต่างจากหมู (อ่านฟรี)

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 65 กับดัก (อ่านฟรี)


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 65 กับดัก 

แปลโดย iPAT 

กลางป่า

แสงแดดลอดผ่านช่องว่างระหว่างต้นไม้ ดอกไม้ป่าเบ่งบานอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียว

ฟางหยวนเดินออกจากหมู่บ้านสู่ป่ารอบนอกอย่างระมัดระวัง

ป่าเป็นสถานที่อันตราย โดยปกติแล้วมีเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับสามขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถเดินทางผ่านสถานที่เช่นนี้ตามลำพัง แต่ถึงกระนั้นผู้ใช้วิญญาณระดับสามก็ยังตกตายอยู่ในป่า ไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากสัตว์อสูร ภัยคุกคามจากมนุษย์ หรือสภาพแวดล้อม

อย่างไรก็ตามฟางหยวนจำเป็นต้องออกมาล่าหมูป่าด้วยตัวเขาเอง

‘ป่ารอบหมู่บ้านไม่อันตรายมากนักแต่ข้ายังต้องระมัดตัวให้มาก’

ฟางหยวนยังไม่พบสิ่งใดหลังจากเดินทางมานาน

‘บัดซบ! ภูเขาชิงเหมากว้างใหญ่เกินไปสำหรับข้าในปัจจุบัน ข้าไม่มีวิญญาณที่ใช้ตรวจสอบและไม่คุ้นเคยพื้นที่ นอกจากนั้นสัตว์น้อยใหญ่รอบๆหมู่บ้านยังถูกกวาดล้างอยู่เป็นระยะ มันเป็นเรื่องยากที่จะพบหมูป่า ข้าต้องลงไปที่ตีนเขา’

ภูเขาชิงเหมามีหมู่บ้านสามแห่งได้แก่หมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาล หมู่บ้านตระกูลซ่ง หมู่บ้านตระกูลไป่ หมู่บ้านตระกูลซ่งตั้งอยู่บนหน้าผาด้านหน้า หมู่บ้านตระกูลไป่อยู่หลังน้ำตก

นอกเหนือจากสามหมู่บ้านใหญ่ ยังมีหมู่บ้านเล็กๆอีกหลายแห่งอยู่ที่ตีนเขา

ในช่วงเวลาที่ขาดแคลนผู้คน หมู่บ้านทั้งสามจะนำคนรับใช้มาจากหมู่บ้านเล็กๆเหล่านี้

คนเหล่านั้นไม่ใช่ผู้ใช้วิญญาณ แม้พวกเขาจะมีพรสวรรค์สูงส่ง พวกเขาก็ไม่สามารถเป็นผู้ใช้วิญญาณของทั้งสามตระกูลใหญ่

โลกใบนี้ผู้คนสว่นใหญ่มักให้ความสำคัญกับสายเลือด เพราะมันคือความมั่นคงของตระกูล หากมีสายเลือดที่หลากหลายเกินไปผสมกัน สุดท้ายมันจะเกิดความขัดแย้งและนำไปสู่ความล่มสลายในที่สุด

ฟางหยวนเดินทางต่อไปอีกประมาณสามสิบนาทีก่อนจะเริ่มมองเห็นควันไฟจากสถานที่ห่างออกไป

ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็พบหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ภายใต้การปกครองของหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาล หากหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลไม่ช่วยกวาดล้างสัตว์อสูรที่อยู่รอบๆ หมู่บ้านเล็กๆเหล่านี้จะไม่ปลอดภัย หากต้องการใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุข พวกเขาต้องพึ่งพาหมู่บ้านใหญ่เท่านั้น

“หือ?” บนเส้นทางภูเขาใกล้กับหมู่บ้านแห่งนี้ ฟางหยวนพบร่องรอยบางอย่างบนพื้น จากประสบการณ์ เขาสามารถบอกได้ทันทีว่ามันคือรอยเท้าหมูป่า

‘ล่า!’ จิตวิญญาณนักล่าของเขาปะทุขึ้นก่อนจะเริ่มติดตามร่องรอยเข้าไปในป่าลึก

มอสสีเขียวกระจายตัวอยู่บนก้อนหินและต้นไม้ นี่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า

ภายใต้แสงแดดอันแรงกล้าและป่าไม้ที่เงียบสงบ พุ่มไม้เล็กๆเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นเล็กน้อย

กวางไม่กี่ตัวกำลังกินหญ้าอยู่อย่างเพลิดเพลิน แต่ทันใดนั้นหูของพวกมันกลับกระตุกขึ้นเมื่อพุ่มไม้ในบริเวณใกล้เคียงถูกแยกออกพร้อมกับชายหนุ่มผู้หนึ่งที่เดินออกมา ผิวของเขาซีดขาว ร่างกายผอมบาง ดวงตาดำสนิท เขาสวมชุดผ้าลินินที่ดูธรรมดาทั่วไป แน่นอนว่าเขาก็คือฟางหยวน

เห็นมนุษย์ปรากฏตัว ฝูงกวางรีบวิ่งหนี

‘พวกมันเป็นกวางตัวเมีย ขนของพวกมันสามารถนำไปตัดเย็บเป็นชุดคลุมที่อบอุ่น เนื้อของพวกมันยังสามารนำไปเป็นอาหารให้กับวิญญาณบางชนิด หากเป็นกวางตัวผู้ เขากวางมีค่าที่สุด มันยังมีความสำคัญต่อวิญญาณบางชนิดเป็นอย่างมาก’

ป่าเป็นสถานที่อันตรายแต่มันก็เต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่า

ฟางหยวนมองไปยังทิศทางที่กวางหลบหนี อย่างไรก็ตามเป้าหมายของเขามีเพียงหมูป่าเท่านั้น

เขาเดินต่อไปก่อนจะได้ยินเสียงอันแผ่วเบาบางอย่าง

ฟางหยวนหยุดเท้าลง

‘รังผึ้ง’ ฟางหยวนมองรังผึ้งที่แขวนอยู่บนต้นไม้

รังผึ้งรังนี้มีขนาดใหญ่เท่ากับตะกร้าหวาย มันมีสีทองเข้มและมีผึ้งทหารบินอยู่โดยรอบ

‘น้ำผึ้งเป็นอาหารสำหรับวิญญาณความแข็งแกร่งของหมี ด้วยเหตุนี้หมู่บ้านตระกูลซ่งจึงมีความต้องการน้ำผึ้งสูงมาก หากข้ามีวิญญาณกายาทองแดง ข้าอาจเสี่ยงเข้าไปเก็บน้ำผึ้งเหล่านั้น แต่น่าเสียดาย...’ ฟางหยวนคิด

ในโลกใบนี้ ไม่ใช่แมลงทุกตัวที่เป็นวิญญาณ

วิญญาณคือแก่นแท้ของสวรรค์พิภพ พวกมันมีร่างกายและกฎเกณฑ์ของตัวเองที่แตกต่างกันออกไป ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่สามารถเรียกว่าวิญญาณ

ฟางหยวนเดินอ้อมรังผึ้งก่อนจะเดินทางต่อไป

ร่องรอยของหมูป่าชัดเจนขึ้นเรื่อยๆและทำให้ฟางหยวนตระหนักว่าเขาใกล้มันมากไปทุกขณะ ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องระวังตัวให้มากขึ้น ไม่ว่าอย่างไรหมูป่าก็ยังเป็นภัยคุกคามสำหรับเขา

หมูป่าไม่ใช่หมูเลี้ยง เมื่อมันโตเต็มวัย มันสามารถต่อสู้กับเสือ บางทีเสือก็ยังไม่อาจเอาชนะมัน

ในโลกที่ลึกลับใบนี้ หมูป่าไม่ใช่สัตว์ธรรมดา

‘โอ้ นี่มัน...’ เมื่อฟางหยวนเห็นหมูป่า เขาพบว่ามันตกลงไปในหลุมขนาดใหญ่ ไม้ไผ่ที่แหลมคมตั้งตระหง่านอยู่ด้านล่างและกำลังเจาะแทงเข้าไปในร่างกายของหมูป่าตัวนี้

เลือดที่เจิ่งนองอยู่บนพื้นบอกได้ว่ามันตกลงไปนานกว่าสิบห้านาทีแล้ว

แต่หมูป่ายังดิ้นรนต่อสู้

‘กับดักถูกจัดตั้งไว้โดยนักล่าแต่ข้ากำลังจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์’ ฟางหยวนเผยรอยยิ้มชั่วร้าย

อย่างไรก็ตามกับดักนี้อันตรายสำหรับเขาเช่นกัน

หากเขาพลาดพลั้งตกลงไป ภายในเวลาครึ่งชั่วโมง เขาจะตายอย่างแน่นอน

รอบๆหมู่บ้าน กลุ่มนักล่ามักวางกับดักเอาไว้ นอกจากนั้นนักล่าบางคนอาจเฝ้ามองอยู่ห่างๆ หากฟางหยวนไม่ตรวจสอบอย่างละเอียด เขาอาจตกลงสู่หลุมพรางโดยไม่คาดคิด

‘ดูเหมือนข้าจะพบกับดักเก่าที่นักล่าทิ้งไว้ หากไม่มีวิญญาณสายตรวจสอบ มันยากที่จะพบบางสิ่ง’ ฟางหยวนคิด

นี่คือปัญหาสำหรับผู้ใช้วิญญาณที่ไม่มีวิญญาณสายตรวจสอบ เพราะพวกเขาอาจพบภัยอันตรายได้เสมอ นอกจากนี้เมื่อพวกเขาต้องการตามล่าบางอย่าง มันก็เหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทร

แต่วิญญาณสายตรวจสอบที่ดีหาได้ยาก

ฟางหยวนส่งดาบแสงจันทร์พุ่งตรงไปยังหมูป่าตัวนั้น

ดาบแสงจันทร์สองวงทับซ้อนกันตัดผ่านลำคอของหมูป่าและทำให้เลือดที่พุ่งออกมาราวกับน้ำพุ

หมูป่ากรีดร้องเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่การเคลื่อนไหวของมันจะหยุดลง

‘ชีวิตและความตายล้วนเป็นเรื่องธรรมชาติ’ ฟางหยวนถอนหายใจ

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงมนุษย์ดังขึ้น

“พี่ใหญ่หวัง ในหมู่บ้านของพวกเรา ไม่มีนักล่าคนใดยอดเยี่ยมไปกว่าท่านอีกแล้ว โดยเฉพาะการล่าหมูป่า ครอบครัวหวังของท่านถือเป็นราชาของเขตนี้ ไม่มีผู้ใดไม่รู้จักชื่อเสียงของท่าน”

“ถูกต้อง พี่ใหญ่หวังมีความสามารถในการล่าหมูป่า เป็นเรื่องปกติที่ท่านจะจับมันได้”

“พี่ใหญ่หวัง เหตุใดน้องสาวของท่านจึงไม่มาด้วยในวันนี้?”

เสียงที่เข้มงวดดังขึ้น “ฮืม หมูป่าตัวเดียวจะแสดงให้เห็นถึงความสามารถของข้าได้อย่างไร วันนี้ข้าจะล่าหมูป่าสามตัวให้พวกเจ้าเห็น เอ้อกั่วตัน หยุดไล่ตามน้องสาวของข้า มิฉะนั้นข้าจะทุบตีเจ้า”

เอ้อกั่วตันตอบกลับ “ชายหญิงย่อมต้องแต่งงานกันเมื่อถึงวัยอันสมควร มีสิ่งใดผิดปกติหากข้าชอบน้องสาวของท่าน นอกจากนั้นมันไม่ใช่ข้าเพียงผู้เดียวที่ชอบนาง พี่ใหญ่หวัง ในความคิดเห็นของข้า ท่านก็อายุสิบเก้าแล้ว ท่านควรจะแต่งงานและมีบุตรได้แล้ว”

เสียงเข้มกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ฮืม ข้าเป็นบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ แล้วข้าจะหลงมัวเมากับสิ่งเย้ายวนใจเล็กๆน้อยๆเช่นนั้นได้อย่างไร สักวันข้าจะออกจากภูเขาชิงเหมาและสำรวจโลกกว้าง เรียนรู้ทุกสิ่งภายใต้ท้องฟ้า นั่นจึงจะเหมาะสมกับฐานะของข้า”

นักล่าสี่คนเดินออกมาจากป่าลึก

ผู้นำกลุ่มมีรูปร่างสูงใหญ่และดวงตาแหลมคม นอกจากนั้นคนผู้นี้ยังปลดปล่อยกลิ่นอายที่แข็งแกร่งออกมาขณะที่ถือคันธนูเอาไว้ในมือ

อย่างไรก็ตามในเขากลับขมวดคิ้วลึกเมื่อมองเห็นฟางหยวน “ฮืม เด็กน้อยผู้นี้มาจากหมู่บ้านใด? กล้าดีอย่างไรถึงพยายามฉกฉวยผลประโยชน์จากข้า หวังเอ้อ อยากตายงั้นหรือ?”