ตอนที่แล้วLSG- บทที่ 86 เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง (ตอนที่ 6 3/5) (อ่านฟรีวันที่19กันยา)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปLSG-บทที่ 87 เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง (ตอนที่ 7 4/5) (อ่านฟรีวันที่21กันยา)

LSG- บทที่ 85 เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง (ตอนที่ 5 : 2/5) (อ่านฟรีวันที่17กันยา


LSG บทที่ 85

แปลไทยโดย : SwordGod

เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง (ตอนที่ 5 : 2/5)

ตูม!!

ร่างกายอันบอบบางของ ชิงเอ๋อ กระตุกอย่างต่อเนื่อ มันเจ็บปวดเกินกว่าที่จะควบคุมได้และเมื่อนางรีบถอยล่นกลับไป นางชกไปที่รูปปั้นด้านข้างจัสตุรัสสำนักวิชา  ปากเล็ก ๆ ของนางคายเลือดออกมาหนึ่งคำ จิตวิญญาณของนางปั่นป่วน

เมื่อเห็น ผู้ปกป้องอมนุษย์หมู ไกล้เข้ามา ชิงเอ๋อ ก็กัดฟันแน่น

ในเขตแดนทางทฤษฎี ชิงเอ๋อ ครอบครอง เขตแดนแก่นแท้วิญญาณ ไม่สามรถต้านทาน เจ้าผู้ปกปเองอมนุษย์หมู นี้ได้เลย นางจะจัดการกับ ผู้ปกป้องอมนุษย์หมู ผู้ที่ครอบครองอาวุธวิเศษมากมายนี้ได้อย่างไรหนำซ้ำมันไม่ใช่อาวุธวิเศษมากมายอะไรแต่มันเป็นอาวุธแปลกประหลาด

แม้ว่า ชิงเอ๋อ จะเป็นสาวกภายใน ของตระกูลซู แต่นางก็เกิดมาพร้อมกับสถานะที่ค่อนข้างต่ำ นางจึงไม่ได้รับการยอมรับจากคนของตระกูลนี้มากนัก พวกเขาแค่ยกนางขึ้นมาเพราะพรสวรรค์ของนางเท่านั้น นางจึงไม่มีอาวุธวิเศษใดๆเลย มันทำให้นางไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้กับเจ้าหมูน่าเกลียดนี้ได้เลย

ตอนนี้ตระกูลซูประสบปัญหาหนักหนาสาหัสนัก ชิงเอ๋อนางเข้าใจดีว่า ขืนยังสู้ต่อไป ตระกูลซู ทั้งหมดต้องจบชีวิตลง นางจึงพูดว่า "ทุกคนถอยกลับไปที่จัตุรัสของสำนักวิชา รวมตัวกับนายหญิง อาจารย์ใหญ่ เพื่อต้านมัน !! "

"ทำตามที่นางบอก!"

"นายน้อย ท่านยังสบายดีอยู่นะ ตรงนั้น! ไปเร็วถอยๆ! "

"ประกบนางไว้ แล้วตามนางไปติดๆ!"

ตระกูลซูตะโกนลั่นพวกเขารวมตัวกันแล้ววิ่ง

นายหญิงดาราม่วง และชายที่ใส่ชุดคลุมสีแดงเลือดเริ่มสู้กัน ทั้งสองคนเป็นคู่ที่สูสีกันและโจมตีอย่างบ้าคลั่งทั้งสองคนปลดปล่อยทักษะที่สร้างรังสีปราณวิญญาณสีม่วงและสีแดงเลือดถักทอราวกับสายธารแห่งความบ้าคล่ง ฉากนี้ได้ปลดเปลื้องอย่างผิดธรรมชาติ ลมปราณวิญญาณลึกล้ำของทั้งสองคนบดขยี้กัน ไม่มีใครเลยกล้าที่จะยืนอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของพวกเขาเพราะว่าชีตรของพวกเขาจะถูกบดขยี้เป็นผุยผง

ตัวแทนและนักเรียนคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้ทำอะไรเช่นกันเนื่องจากมีผู้สังเวยชีวิตในแต่ละวินาที

นักเรียนได้ชุมนุมกันรอบ ๆ อาจารย์และ ผู้ต่อต้านนักบ่มเพาะปราณวิญญาณ กำลังวิ่งเข้ามาหาพวกเขา

มันเป็นความโล่งใจที่ว่าส่วนใหญ่ของนักบ่มเพาะปราณปีศาจที่โจมตีพวกเขาคืออสูรกินศพ มันเป็นสัตว์ร้ายที่ตะกละและต่ำกว่ามาตรฐานที่พระเจ้าสร้างขึ้น ผู้เชี่ยวชาญของนักบ่มเพาะปราณปีศษจส่วนใหญ่นั้นหายไปโจมตี สกุลมู่ มู่เฟิง อญู่ตรงกลางวงล้อมสกุลมู่เพื่อปกป้องเขา หลอกว่า รอบๆตัวเขานั้นเป็นร่างของสกุลมู่ที่ตายแล้ว พื้นได้กลายเป็นแม่น้ำโลหิต นักบ่มเพาะปราณปีศาจ ดจมตีเข้ามาราวกับว่าไม่มีวันสิ้นสุด

มู่เฟิงหันหน้าไปขาวซีดด้วยความหวาดผวาในดวงตาของเขา เขารีบหยิบแหวนออกจากนิ้วของเขาและเปิดมันขึ้นมาและเริ่มขว้างวัตถุโบราณวิเศษเพื่อปกป้องชีวิตของเขาจากนั้นเขาก็โยนศิลาวิญญาณที่เตรียมไว้แล้วทั้งหมดพร้อมกัน ความหลากหลายของ จิตวิญญาณศิลาวิญญาณ ปรากฏขึ้นเช่น พยัคฆ์สายลม หรือ อินทรีย์น้ำแข็ง ทั้งหมดมีอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10 ตัว พวกช่วยลดความตึงเครียจของสกุลมู่ ได้มากเลยทีเดียว แต่ว่ามันก็ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น ด้วยการช่วยเหลือพลังของ ศิลาวิญญาณ มันยากที่จะพลิกสถานการณ์รอบๆนี้ได้

"เร็วเข้า! ไปช่วย สกุลมู่ อย่าปล่อยให้คนชั่วร้ายฉลาดแกมโกงเหล่านี้ได้รับสิ่งที่พวกมันต้องการ พวกเจ้าไปปกป้อง คุณชายมู่ แล้วตอบแทนมันให้สาสม! "

นายหญิงอาจารย์ใหญ่ ที่กำลังสู้กันอยู่ในอากาศก็ตะโกนออกมาอย่างหัวเสีย

ขณะที่การแลกเปลี่ยนของสำนักวิชานี้ได้เปลี่ยนไปมันไม่สำคัญแล้วว่าใครจะตาย อิทธิพลของสกุลมู่นั้นมากเกินไปใน เทือกเขาอาถรรพ์ นี้ พวกเขาและนิกายอนัตตา นั้นยึดถืออำนาจที่ยิ่งใหญ่! หากมีอะไรเกิขึ้นกับพวกเขานั้น สำนักวิชาของนายหญิงอาจารย์ใหญ่ไม่น่าจะใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขแน่

หลังจากที่อาจารย์ได้ยิน พวกเขาก็ไม่ลังเลยืมมือนักเรียนที่มากกว่าไปช่วย มู่เฟิง

“อ่า? ใคร ... ใครจะปกป้องข้า! ข้า ... เป็นนายน้อยแห่งตระกูลซู! หากข้าตายพวกเจ้าทุกคนรวมไปถึงสำนักวิชาดาราม่วงของเจ้า จะได้พบกับวันโลกาวินาศ ... ทุกคนกลับมา !!”

ด้วยน่องที่ได้รับบาดเจ็บ ซูฮัวหยู เดินโซซัดโซเซไปยังจัสตุรัสสำนักวิชาด้วยร่างกายที่อ่อนล้า มันตะโกนใส่ด้วยดวงตีที่ลนลานรอบๆด้วยความหวาดกลัว อาวุธที่มันจับอยู่ในมือสั่นกึกๆ แต่เมื่อนักบ่มเพาะปราณปีศาจเข้ามาไกล้มัน มันรีบโยนของมีค่าที่อยู่ในกระเป๋าทั้งหมดออกไป นี่ไม่ใช่สิ่งของที่มันต้องการโยนทิ้ง แต่มันต้องการใช้เพื่อช่วยชีวิตมัน มันสูญเสียจิตใจที่จะต่อสู้เหมือนวัวสันหลังหวะ

ทุกคนตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายถึงชีวิตดังนั้นใครจะกังวลเรื่องซูฮัวหยู?

ทันใดนั้น ซูฮัวหยู ก็เห็นนักบ่มเพาะปราณปีศาจร่างกายสูงใหญ่ที่มีแตรคู่อยู่บนหัวของมันพุ่งตรงมาทางเขาด้วยขวานที่ทำมาจากกระดูก มันสับ ซูฮัวหยู ทันที

ซูฮัวหยูหน้าถอดสีทันทีแล้วกรีดร้องออกมา

.........

"นายน้อย ฮัวหยู!

ชิงเอ๋อ ใจเต้นระรัว มองหาทันที

ชิงเอ๋อ มองเห็น ซูฮัวหยู ไม่รอชาคว้าอาวุธบนพื้นขึ้นต้านทานนักบ่มเพาะปราณปีศาจ ขวานหัวกระโหลก ริมฝีปากและมือของนางสั่นกึกๆเกือบจะทรุดตัวลงขณะที่นางแทบจะต้านทานขวานยักษ์แทบไม่ไหว อาวุธของนางหลุดออกไป นางไม่อาจต้านทานได้อีกแล้ว

"นายน้อย ฮัวหยู!

ชิงเอ๋อ ตื่นตระหนกและรีบวิ่งไป

ซูฮัวหยู ต้องไม่ตายที่นี่ ถ้าไม่อย่างนั้น ชิงเอ๋อ ต้องไม่รอดแน่ๆ

แต่

ชิงเอ๋อ เพิ่งหันมามา แต่นางตระหนักได้ว่านางไม่สามารถขยับขาทั้งสองข้างได้

นางมองลงมาเพื่อดูว่ามีโครงกระดูกสีขาวที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นซึ่งจับเท้าของนางไว้อย่างเหนียวแน่น นางไม่สามารถขยับได้เลย

"นี่ ...นี่มันวิชาลับนักบ่มเพาะปราณปีศาจ?"

ชิงเอ๋อ เงยหน้าขึ้นมองและพึมพำ

ฟิ้ว!

ค้อนขนาดใหญ่ของผู้ปกป้องอมนุษย์หมู ตกสู่ ชิงเอ๋อ พร้อมด้วยลมปราณที่ชั่วร้ายและโหดเหี้ยมที่ผ่านเข้ามาเหมือนคลื่นกระแทก!

ในเสี้ยววินาทีนี้ ชิงเอ๋อ ถูกจับไว้ไร้ซึ่งหนทางหลบหนี ถ้านางไม่สนใจ ซูฮัวหยุ ทำไมนางถึงต้องถูกจับด้วยมือโครงกระดูก? ในระหว่างการต่อสู้การวกแว่กเป็นเรื่องต้องห้าม มันสามารถกำหนดผลของการต่อสู้ได้

แม้ว่าการบ่มเพาะของ ชิงเอ๋อ นั้นมีสูงและมีพรสวรรค์ แต่นางก็ไม่มีประสบการณ์มากนัก เมื่อเทียบกับนักบ่มเพาะปราณปีศาจที่เคยต่อสู้มานานหลายปีนางรู้สึกว่านางนั้นอ่อนแอและทำให้นางเสียเปรียบ

อย่างไรก็ตามนางไม่ยอมแพ้

นางหันหน้าเผชิญกับค้อนใหญ่ยักษ์ขนาดเท่าคน ในการพยายามปัดป้องการโจมตีที่เข้ามา นางยกกระบี่ที่เคลือบด้วยรัศมีชั้นปราณวิญญาณของ ลมปราณวายุเชี่ยว

แต่การเคลื่อนไหวครั้งนี้แม้ว่าจะมีป้องกันค้อนยักษ์ได้แต่นางก็ต้องสำรอกโลหิตออกมาเป็นจำนวนมาก นางได้รับบาดเจ็บสาหัส

นางจ้องมองมันแล้วกัดฟันเอาไว้

ฟิ้ว!

ทันใดนั้น

กระบี่สีแดงเลือดเจาะทะลุทลวงมาจากทางด่าขวาราวกับว่ามันเป็นสายฟ้าสีแดง มันทะลวงผ่านหน้า ชิงเอ๋อ เข้าต้านทานค้อนยักษ์อันหนักหน่วง

เพล้ง !!!!

กระบี่เลือดไม่กล้าแข็งพอมันแตกออกเป็นล้านชิ้น แตกเมื่อมันแตกสลาย ลมปราณปีศาจได้กระเด็นไปในทิศทางทั้งสี่ทิศ เหมือนๆกับลูกโป่งน้ำที่แตกกระจายหักเหทิศทางของค้อนยักษ์ ค้อนเปลี่ยนทิศจาก ชิงเอ๋อ เข้ากระแทกกับรูปปั้นที่อยู่ข้างๆแตกกระจาย

ชิงเอ๋อ จ้องเขม็งอย่างไม่ละสายตา เศษเสี้ยวกระบี่ที่แตกสลายกลายเป็นผุยผง

ลมปราณวิญญาณ ยังตลบอบอวลในอากาศไร้ที่สิ้นสุด ชิงเอ๋อมีความเข้าใจปราณวิญญาณ อย่างลึกซึ่ง รู้สึกได้ถึงปราณวิญญาณที่ลอยอยู่ในอาศ

มีสองปราณวิญญาณในอากาศ

หนึ่งในสองเผยออกมาแล้วนั้นมันปราดเปรียวว่องไว ดูเหมือนว่ามันจะมีพลังกว่าและแข็งแกร่งกว่า "ลมปราณวายุเชี่ยว" แต่นางไม่เคยเห็นปราณวิญญาณแบบนี้มาก่อน

ปราณวิญญาณอีกอันมันเยือกเย็นและมันๆไม่ใช่อย่างอื่นเลยมันคือ "ปราณวิญญาณปีศาจปีศาจ" เท่านั้น

สองปราณวิญญาณ? ทำไมกระบี่เล่มนี้ ถึงปล่อยลมปราณสองอย่าง?

แล้วกระบี่นี่ก็ไม่ได้มีคุณภาพที่ดี ... ชิงเอ๋อสังเกตุกระบี่ "ดูเหมือนว่านี่ ... ไม่ใช่กระบี่ปกติ"

เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ….

ตอนนั้นมีเสียงกรีดร้องเกิดขึ้นราวกับจุดประทัด ปราณวิญญาณที่ลอยอยู่ที่นั่นมันเป็น "ปราณวิญญาณปีศาจ" ตามปกติและเป็นการผสมสานปราณวิญญาณที่สุดจะพรรณนาได้ของลมปราณวิญญาณ

ชิงเอ๋อ หันมาทันทีและมองไปข้างหน้า

เพียงเพื่อดูมังกรโลหิตที่กราดเกรี้ยวดุร้าย

ปีศาจตนใดที่มันได้เจอมังกรโลหิตตัวนี้ยากที่มันจะรอดพ้น !!

"นี่มัน…."

ชิงเอ๋อ งงเป็นไก่ตาแตก

กระบี่อันแหลมคมเหมือนมีดโกน นอนอยู่ในบ่อมังกรโลหิต พวกเขารวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนด้วยปราณวิญญาณ พวกมันพุ่งตรงไปยัง ผู้ปกป้องอมนุษย์หมู

ด้วยพลังที่น่าอัศจรรย์และสง่างมาน่าเกรงขามที่สุดจะหาที่ใดเปรียบของกระบี่เหล่านั้น มันทำให้ปีศาจที่อยู่รอบๆหลั่งเหงื่อเย็นยะเยือกเข้ากระดูกดำและสั่นสะท้านด้วยความกลัว

ฉึก!..ฉึก!..ฉึก!..ฉึก!..ฉึก!..ฉึก!..

มัรกรโลหิตที่ประกอบด้วยกระบี่เลือดเข้าด้วยกันเข้าโจมตี ผู้ปกป้องอมนุษย์หมู มันใช้เวลาเพียงสองลมหายใจเป็นร้อยกระบี่เลือดเจาะทะลุ ผู้ปกป้องอมนุษย์หมู เหมือนกับว่ามันเป็นเม่นยักษ์ กระบี่จำนวนมากถูกแทงทะลุผ่านร่างของมันในขณะที่มีกระบี่เลือดอีกหลายเล่มระเบิดตัวออกขณะที่มันกรกะแทก ...

ผู้ปกป้องมนุษย์หมุ ยังอยู่ในตำแหน่งเดิมของมันที่มันยืนอยู่

ต่อจากนั้น

ซู่ๆๆๆๆๆ!

กระบี่เลือดถอนออกถอยกลับไปอย่างรวดเร็วราวกับว่าพวกมันได้รับคำสั่งบางอย่าง ทันทีที่กระบี่ได้หลุดออกจากร่าง ผู้ปกป้องอมนุษย์หมู เลือดก้ได้พุ่งกระฉูดออกมาจากบาดแผล ร่างกายอันใหญ่โตร่วงหล่นลงไปที่กับพื้นหมดสิ้นลมหายใจ

ฉากนี้ทำให้ทุกคนประหลาดใจ

คนของตระกูลซู ถอยกรูกันออกมาจ้องกระบี่เลือดนัยน์ตาแถบจะถล่นด้วยความประหลาดใจ ใบหน้าของพวกเขาวาดออกมาด้วยความสยดสยอง

"ไม่! นี่มัน ปราณวิญญาณปีศาจนิ แถมมันยังเข้มข้นด้วย! ยะ ยะ อย่าบอกบอกนะว่า ... มะ มีปีศาจชั่วที่ร้ายกาจโผล่ออกมา? "

"แล้วทำไมมันถึงสังหาร เผ่าปีศาจล่ะ?"

ระวังชายคนนี้ !!

กลุ่มตัวแทนเตือนกันและกัน

ชิงเอ๋อ เห็นคนๆหนึ่ง แต่งกายด้วยชุด นักดาบ กับหน้ากากที่ปกปิดใบหน้าที่ผิดรูป ผมของมันปลิวสยายลอยอยู่ในอากาศ ด้านหลังของมันมีกระบี่สีดำล้ำค่าข้างเอวของมันมีฝักกระบี่สีดำแขวนไว้ มันจับไปที่ด้ามกระบี่ล้ำค่าน้ำหนักเบา สุดท้าย รอบๆตัวของมันมีกระบี่เลือดมากมายรายล้อมอยู่

กระบี่! กระบี่! และกระบี่มากมาย ... .

คนๆนี้ถูกรายล้อมไปด้วยกระบี่ มันเป็นไปไม่ได้ที่มันจะเป็นเจ้าของที่ควบคุมกระบี่จำนวนมากนี้!

สิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวจนขนหัวตั้งคือร่างกายของมันที่ชุ่มไปด้วยเลือดนัยน์ตามีสีแดงฉายแววไอสังหารพร้อมที่จะฆ่า

ผู้ชายคนนี้เดินผ่านและแต่ละก้าวย่างจะปรากฏรอยเท้าสีแดงเลือด มันไม่ชัดเจนว่าเลือดที่ไหลสดๆจาก ชุดนักดาบ

“อ่า?

ชายที่สวมเสื้อคลุมสีแดงเลือดที่กำลังต่อสู้กับนายหญิงอาจารย์ใหญ่รู้สึกถึงการปรากฏตัวของบุคคลผู้นี้และถามด้วยเสียงที่สั่นเครือว่า "กะ...แกเป็นใคร?"

หลังจากนั้นเพียงอึดใจ!

ชายคนนั้นไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่ได้เข้ามาไกล้ชิงเอ๋ออย่างรวดเร็ว

ชิงเอ๋อ สะดุ้งคว้ากระบี่ลายถักพุ่งเข้าไปเผชิญหน้า

"ทำตามข้า!"

มันพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งพร้อมกับความรู้สึกเศร้าในน้ำเสียงของมัน

ชิงเอ๋อ ตกใจมาก แม้ว่ามันจะยากที่จะแยกแยะเสียงของมันได้ แต่ ... ลึกลงไปในใจนางกลับคุ้นเคยกับมัน

ใคร ??

เขาคือใคร?

ทำไมมันถึงได้คุ้นนัก?

ช่วยไม่ได้ที่ชิงเอ๋อเก็บกระบี่ที่มือของนางและไว้ใจคนที่แปลกๆนี้

"คุณหนู ระวัง !!"

ตระกูลซู ตะโกนออกไป....ไม่มีใครเลยกล้าเข้าไปไกล้

บุรุษกระบี่เลือด ไม่อยากจะพูดพร่ำทำเพลงมาก มันคว้าเอวของชิงเอ๋อด้วยมือเพียงข้างเดียวมันต้องการบังคับให้นางออกไปด้วยความฝืนใจ

"ไม่! ข้าไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้หากท่านจะช่วยข้าโปรดพา ซูฮัวอยู่ไปด้วย! นายน้อยฮัวหยู เขาคือบุตรชายของท่านผู้นำ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาข้าจะไม่สามารถหลบหนีไปได้! ข้าไม่ต้องการที่จะถูกลากเข้าไปในนั้น ... โปรดช่วยข้าด้วย "

นางรุ้สึกได้ว่า บุรุษกระบี่เลือดไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี นางจึงพุดออกมาอย่างรวดเร็ว

หากแม้นว่า ลองพิจรณาดูดีๆแล้วปราณวิญญาณของบุรุษกระบี่เลือดก็ไม่ได้ดีเลิศ แต่นางก็ไม่รู้ว่าทำไมนางรู้สึกว่าศักยภาพของชายคนนี้สูงล้ำกว่านาง

บุรุษกระบี่เลือดได้ยินดังนั้นต้องขมวดคิ้วแน่น: "ซูฮัสวหยู? "มันอยู่ที่ไหน?"

“ที่นั่น!” ชิงเอ๋อ ชี้ไปที่ซูฮัวหยูซึ่งกำลังร้องไห้อยู่บนพื้น

ฟุบ…

โดยไม่มีคำพูดใด ๆกระบี่สิบกว่าเล่มพุ่งตรงไปที่ ซูฮัวหยู

ซูฮัวหยู ป้องกันหรือแม้แต่จะส่งเสียงใดๆขณะที่กระบี่อาบโลหิตเจาะทลวงร่างของมันเป็นรูพรุนเหมือนรังผึ้ง มันตายอย่างน่าสยดสยอง

"อะไรกัน?" ชิงเอ๋อ ตกใจมาก

แปลไทยโดย : SwordGod

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด