ตอนที่แล้วตอนที่ 074 – รอยแยกปราณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 076 – บุรุษเหล็กหลั่งน้ำตา

ตอนที่ 075 – กลุ่มโจรแพนด้า


ตอนที่ 075 – กลุ่มโจรแพนด้า

 

“ฝึกจิตวิญญาณ?” ถังเทียนถูกดึงดูดโดยคำกล่าวของลุงทหาร

“อืม” ลุงทหารนึกถึงอดีตของเขาขณะที่กล่าวตอบ “วิชาการต่อสู้ในตอนนี้มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่จิตวิญญาณนักสู้ก็ใกล้เคียงกัน ยามเมื่อพวกเราศึกษาจิตวิญญาณนักสู้ พวกเราก็พบว่าลักษณะของพลัน อันดับแรกมันจะซ่อนลึกลงไปภายในหัวใจของมนุษย์ และอ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่นักสู้เริ่มที่จะบ่มเพาะปราณแท้จริง ปราณแท้จริงจะหลั่งไหลอย่างต่อเนื่องภายในร่างและค่อยๆปลุกจิตวิญญาณนักสู้ ยามเมื่อปราณแท้จริงของนักสู้บรรลุไปถึงขั้นสี่ มันก็บังเอิญเป็นจุดที่สำคัญยามเมื่อมันถูกปลุกขึ้นและมันก็เริ่มแข็งแกร่ง มิมีผู้ใดสามารถค้นพบความลับของจิตวิญญาณนักสู้ภายในยุคสมัยของข้า ในยุคสมัยนี้มันก็ยังดูคล้ายมิมีผู้ใดค้นพบเช่นเดียวกัน บางคนคิดว่ามันเป็นลักษณะของพลัง บางคนก็เรียกมันว่าจิตสำนึกที่สอง สำหรับหลักการที่ซับซ้อนนี้ จิตวิญญาณนักสู้มันก็ซับซ้อนมากกว่าปราณแท้จริง”

ถังเทียนฟังเข้าใจเพียงครึ่งเดียว เนื้อหาเหล่านี้มันลึกซึ้งเกินไปสำหรับเขา

ลุงทหารกล่าวต่อ “แม้ว่ามันจะยังไม่ชัดเจนว่าลักษณะของจิตวิญญาณคือสิ่งใด แต่ผลการวิเคราะห์ของพวกเราก็มิได้ไร้ผลซะทีเดียว มันมีสองปัจจัยสำคัญของจิตวิญญาณนักสู้ ประการแรกคือระดับส่วนสัดของมัน และประการที่สองคือระดับความบริสุทธิ์ของมัน เหล่าจิตวิญญาณนักสู้ที่ทรงพลัง ไม่ว่ามันจะยอดเยี่ยมเยี่ยงไรของกำลังของพวกเขา มันก็ไม่มีความแตกต่างจากส่วนสัดและความบริสุทธิ์ของพวกมัน ระดับส่วนสัดและความบริสุทธิ์ของจิตวิญญาณนักสู้มันมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดมาก ทั้งสองเติบโตด้วยกันและมันเป็นเรื่องที่พิเศษอย่างยิ่ง ถ้าความแข็งแกร่งของนักสู้เผชิญหน้ากับคอขวด เขาจะต้องยกระดับความบริสุทธิ์ให้เพิ่มขึ้นเพื่อให้จิตวิญญาณนักสู้แข็งแกร่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ยามเมื่อจิตวิญญาณนักสู้แข็งแกร่งขึ้น มันก็จะเผชิญหน้ากับคอขวดอีกครา ในครานี้เขาจะต้องเพิ่มระดับส่วนสัดของจิตวิญญาณนักสู้เป็นอย่างมากเพื่อให้พวกมันพัฒนาอย่างต่อไป”

“จิตวิญญาณนักสู้มันแข็งแกร่งมากงั้นหรือ?” ถังเทียนมิได้เข้าใจอย่างเต็มที่ “นอกเหนือจากใช้สร้างยันต์จิตวิญญาณขุนพลแล้ว พวกมันทำอันใดอีกได้บ้าง?”

“แน่นอนว่าพวกมันแข็งแกร่ง” น้ำเสียงของลุงทหารเริ่มเคร่งขรึมขึ้น “เจ้าจะรู้มันภายในอนาคต ปราณแท้จริงระดับต่ำที่สุดถูกควบคุมอยู่ในดินแดนภายใต้สวรรค์ ขณะที่ระดับที่สูงสุด มันจะถูกควบคุมภายใต้กฏเกณฑ์ของจิตวิญญาณนักสู้”

“ระดับสูงคือสูงเท่าใด?” ถังเทียนกล่าวถาม

“ขั้นสิบหรือเหนือกว่า” ทหารกล่าวอย่างลวกๆ

ใบหน้าของถังเทียนบิดเบี้ยว “นั่นมันไม่ห่างไกลไปหน่อยหรือ…”

ใบหน้าของทหารปรากฏความรังเกจ “เพียงแค่นี้ เจ้าก็ว่ามันห่างไกลไป? บุรุษหนุ่มเทพเจ้าเกรงกลัวงั้นหรือ!?”

ถังเทียนกระโดดขึ้นและจ้องมองไปยังเขาอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง “นี่ลุง อย่าได้ผายลมไร้สาระ! ขั้นสิบมันจะนับเป็นอันใดกับบุรุษหนุ่มเทพกัน? เฮอะ พวกมันทั้งหมดจะถูกมองเป็นเป้าหมายของบุรุษหนุ่มเทพผู้นี้! ฮ่าฮ่า! ลุง!”

“เจ้าทารกนิสัยเสียขั้นสี่ บ้าคลั่ง! โอหัง! หยิ่งผยอง!” ทหารตอกหน้า

“โว้ โว้! ข้าต้องการที่จะประลองกับท่าน! มาเลย ลุงจะสั่นสะท้านต่อเงาของบุรุษหนุ่มเทพ!” ถังเทียนเดือดจนแดงก่ำขณะที่เขาชี้ตรงไปยังทหาร

ทหารมิได้ใส่ใจในการท้าทายของถังเทียน “กล่าวถึงเรื่องนั้นแล้ว รอยแยกสามารถที่จะฝึกจิตวิญญาณได้และพวกเขาก็รู้กันดีถึงการทรมานของพวกเขา ในช่วงยุคของพวกเรา มีเพียงทหารเกณฑ์ที่กล้าหาญเท่านั้นที่จะใช้รอยแยกของปราณเพื่อฝึกจิตวิญญาณนักสู้ โอ้ ข้าจดจำได้แล้ว ว่าเสียงกรีดร้องมันดังเท่าใดภายในอากาศ ฮึฮึ ข้าจดจำได้ว่ายามเมื่อข้าเข้าไปในค่ายในคราแรก มันมีเพียงห้าคนที่หาญกล้าจะทำเช่นนั้น”

ถังเทียนแค่นเสียงด้วยท่าทางดูแคลน “เห็นได้ชัดว่าท่านไม่ใช่หนึ่งในพวกเขา”

ยามเมื่อได้ยินคำเยาะเย้ยของถังเทียน ทหารกรอกตาของเขากล่าวด้วยเสียงที่สงบ “เสียใจด้วยนะ เจ้ากล่าวผิดแล้ว แท้จริงข้าคือหนึ่งในพวกเขา”

ถังเทียนหยุดลงแต่เขาก็หัวเราะอย่างไม่เชื่อ “ท่านจะต้องกล่าวเกินจริง มันจะไม่มีความน่ากลัวอันใดเกี่ยวกับการฝึกจิตวิญญาณ”

“เหอะ เจ้าสามารถลองดูได้ บุรุษหนุ่มเทพ เจ้ากล้าที่จะทดสอบดูหรือไม่?” ทหารเงยหน้าขึ้นและระลึกถึงอดีต “ข้าดื้อรั้นจนถึงเวลา สองชั่วโมง หนุ่มน้อย นี่เป็นโอกาสที่เจ้าจะเอาชนะข้าได้อย่างมีเกียรติ มันเป็นเรื่องที่น่ากลัว น่าหวาดหวั่น บุรุษหนุ่มเทพ...”

ใบหน้าของถังเทียนดำทะมึน เขาขบฟันของเขา “ข้าจะทำให้ท่านยอมรับให้ได้!”

“ฮี่ฮี่ ทุกคราที่อันธพาลกำลังจะเริ่ม พวกเขามักจะกล่าวคำให้ดูดี” ทหารล้อเลียนต่อ “บุรุษหนุ่มเทพ อย่าได้ยอมแพ้ก่อนที่จะถึงยี่สิบนาที ไม่งั้นมันจะน่าขายหน้าเอาได้”

ใบหน้าของถังเทียนก็ดำทะมึนยิ่งขึ้น “ท่านควรจะอธิษฐานไม่ให้ข้าชนะท่านจะดีกว่า! ฮ่าฮ่า เพียงแค่คิดท่านร้องห่มร้องไห้ตอนที่ข้าชนะมันก็ทำให้ข้ารู้สึกดีมากเลย!”

“การประลองนี้เต็มไปด้วยความคาดหวัง” ทหารพยักหน้า “แต่เพื่อที่จะเริ่มประลองนี้ พวกเราจะต้องไปหาไซ่เหล่ยก่อน”

“ทำไมพวกเราต้องการหานาง?” ถังเทียนยิ้มอย่างมีเลศนัย “หรือว่าท่านเกรงกลัว ลุงทหาร!”

“เฮ้อ เมื่อมันเป็นการประลองที่ทรงเกียรติ พวกเราก็ต้องมีความยุติธรรมด้วยเช่นกัน” แสงจางไปจากใบหน้าของทหาร “การฝึกจิตวิญญาณ มันเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากจนทุกคราที่ทหารเกณฑ์ได้ยินมันพวกเขาก็กลายเป็นซีดเผือด!”

ถังเทียนมองอย่างดูแคลน “ดูคล้ายกองทัพของท่านจะขาดบุรุษหนุ่มเทพ! กองทัพกางเขนใต้เหมือนไม่นับเป็นอันใดเลยนะ!”

ทหารหันหน้าของเขากลับไปและมองไปยังถังเทียนด้วยเจตนาสังหาร แต่ถังเทียนก็ไม่ได้ยอมแพ้เช่นเดียวกัน เขาก็จ้องมองกลับไปยังทหาร

และทั้งสองคนก็จ้องมองกันเองด้วยความโกรธ

“หนุ่มน้อย อย่าได้เสียใจล่ะ รสชาติของความตายมันจะเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดในชีวิตของเจ้า” น้ำเสียงอันมืนมนปล่อยออกมาจากใบหน้าสีขาวซึ่งส่งความหนาวเย็นจนถึงกระดูก

“เฮอะ! ลุง ตอนนี้ท่านเกรงกลัวแล้วสินะ? ข้าจะบอกอะไรท่านให้ มันสายไปแล้วที่จะถอยกลับไป! ข้าจะทำให้ท่านยอมรับให้ได้!” ถังเทียนถลึงตาด้วยใบหน้าที่โหดเหี้ยม

“ในเมื่อเจ้าต้องการที่จะตาย ข้าก็จะไม่รั้งเจ้าไว้” ทหารยืนขึ้นเต็บไปด้วยรังสีสังหาร

“เพียงแค่รอคอยคำนับและกราบไหว้บุรุษหนุ่มเทพผู้นี้เป็นพอ!” ถังเทียนตะโกน เอามือทั้งสองข้างของเขาล้วงเข้าไปในกระเป๋า

หนึ่งบุรุษและหนึ่งจิตวิญญาณเข้าไปยังเมืองไตรวิญญาณ

“เจ้าไปหาไซ่เหล่ยและมอบสิ่งนี้ให้นาง” ทหารมอบพิมพ์เขียวให้ถังเทียน “ข้าจะไปซื้อส่วนผสมบางอย่าง”

“ลุง ทางที่ดีอย่าได้หนีตั้งแต่ที่ยังไม่ได้สู้!” ถังเทียนมองไปยังพิมพ์เขียวและตะโกน

“หนี? นี่ ข้าตั้งตารอคอยที่จะดูเจ้าเจ็บปวดทุกข์ทรมานอยู่” จิตสังหารยิ่งหนาขึ้นรอบตัวของทหาร

หนึ่งบุรุษและหนึ่งจิตวิญญาณจ้องมองกันและกัน ก่อนที่เขาจะเยาะเย้ยและหันกลับแยกทางกันไป

ถังเทียนขี่เครื่องกลกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์ด้วยใบหน้าที่หมองคล้ำ เสียงดังครึกโครมอย่างบ้าคลั่งไปตามท้องถนน รีบเร่งไปยังร้านค้ายันต์ไซ่เหล่ย

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

ภายในคลังสินค้า ไซ่เหล่ยถูกล้อมรอบไว้ด้วยผู้คนสามคน ทั่วทุกที่ต่างเละเทะ ทั่วพื้นเต็มไปด้วยชิ้นส่วนเครื่องกลที่เสียหาย

“มันน่าสนุกยิ่งนักที่ได้พบเห็นอุบัติเหตุนี้ มิคาดคิดเลยว่าคุณหนูไซ่เหล่ยนอกเหนือจากจะเก่งกาจเครื่องกลแล้ว ยังจะมีความงามอย่างยิ่งเช่นเดียวกัน จนทำให้ผู้คนต่างน้ำลายไหล นี่มันจะต้องอย่างน้อยก็คัพดีใช่หรือไม้?” บุรุษหนึ่งในนั้นกลืนน้ำลายของเขาด้วยความตะกละอยู่ภายในดวงตาของเขา เขาสวมหมวกฟาง เสื้อคลุมขนสัตว์สีเทา มีรูปร่างแข็งแรง และคาบใบหญ้าภายในปากของเขา

“ซี!” บุรุษร่างผอมสวมแว่นตาสีขาวและเสื้อคลุมขนสัตว์สีดำ หรี่ดวงตาของเขาและกล่าวด้วยเสียงต่ำ

“สายตาของเจ้าเป็นอันใดไป เหล่าเฮย!” บุรุษร่างอ้วนสวมเสื้อคลุมขนสัตว์สีขาว อดมิได้ที่จะล้อเลียน “แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นอีคัพ! แต่ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เรื่องสำคัญมันอยู่ที่ว่า ขาที่งดงามคู่นั่นของนางต่างหากเล่า! มันสมบูรณ์แบบ สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง! ขาวราวหิมะเรียบลื่นและเว้าโค้งสมบูรณ์แบบ ขนาดที่สมบูรณ์ ด้วยรูปร่างที่สมบูรณ์หน้าอกและบั้นท้ายที่ยั่วยวน ใบหน้าที่อ่อนโยนนิ่มนวล โว้ โว้ โว้ นี่มันคุณภาพสูงของคุณภาพที่สูงสุด!”

หัวหน้ากลุ่มหันหน้าของเขาและกล่าว “คำกล่าวของเหล่าไป๋ ข้าจดจำได้ว่าเขาได้กล่าวเช่นนี้เหมือนกัน แต่มันจากที่ใดกันนะ?”

เหล่าเฮยกล่าวอย่างเย็นชา “หมูอ้วนๆจากเมื่อวันมะรืนตอนกลางคืนไง”

หัวหน้ากลุ่มพลันจดจำได้ “ข้าจดจำได้แล้ว! บัดซบ เพียงชั่วพริบตา เหล่าไป๋ก็กัดไปจนเจ็ดส่วน! ข้าเพิ่งจะกัดส่วนเดียว!”

เหล่าเฮย “ข้าสอง”

ไซ่เหล่ยมองทั้งสามอย่างเย็นชา กอดอกของนางพลางหัวร่อเยาะ “กลุ่มโจรแพนด้าที่มีชื่อเสียง เห็นอันใดในตัวข้ากัน แพนด้าดอกไม้ แพนด้าดำ แพนด้าขาว มันเป็นเกียรติแก่ข้าจริงๆ!”

แพนด้าขาวปรบมือของเขาและยิ้ม “ถ้ามันเป็นเกียรติของเจ้า งั้นก็มากับพวกเราซะ”

“ข้าไม่ต้องการไปที่ใดทั้งสิ้น” ไซ่เหล่ยส่ายหัวของนาง

แพนด้าดอกไม้หรี่ดวงตาของเขา ราวกับโจร เขากล่าวอย่างช้าเจือปนด้วยความดุร้าย “ทำไม? เจ้าได้เงินเท่าใดกันจากร้านค้าเล็กๆนี้? พวกเราจะซื้อมัน และเจ้าจะต้องติดตามพวกเราไป เจ้าจะได้ดื่มกิน พวกเราขาดแคลนเครื่องกลในตอนนี้ และเจ้าก็งดงามยิ่งขณะที่ข้ายังโสด พวกเราไม่เหมาะสมกันหรอกหรือ?”

แพนด้าดำไร้อารมณ์แต่รังสีของเขาก็เปล่งประกาย

แพนด้าขาวยิ้มและเดินไปข้างหน้า

ไซ่เหล่ยมองอย่างสงบ แต่ภายในใจของนางตื่นตระหนก นางมิเคยคาดคิดมาก่อนว่าจะตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มโจรแพนด้า กลุ่มโจรแพนด้าเป็นพวกที่โหดเหี้ยมและชั่วร้าย วิธีการของพวกเขาบ้าคลั่งและรุนแรง เครื่องกลภายในร้านของนางก็ถูกล้างผลาญด้วยพวกเขา

บัดซบ!

ทำไมมิมีผู้ใดมากันเลย?

ไซ่เหล่ยกังวลใจ นางเสียใจที่มาเปิดร้านค้าในสถานที่รกร้างเช่นนี้

แพนด้าดอกไม้พบเห็นไซ่เหล่ยกำลังขบคิดพลางหัวร่อเบาๆ “มิมีผู้ใดมาหลอก พวกเขาได้แขวนป้าย ‘ปิดร้าน’ ไว้แล้ว มันดูคล้ายว่าเจ้ายอมแพ้จะเป็นการดีกว่า งั้นพวกเรามาเริ่มกันเถอะ พวกเจ้าทั้งสองมองหาด้านข้าง ข้าต้องการจะสนิทสนมกับคุณหนูไซ่เหล่ยเสียหน่อย”

การแสงออกของไซ่เหล่ยเปลี่ยนแปลงไป

แพนด้าดอกไม้เริ่มพับแขนเสื้อของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่น่าเกลียด

ทันใดนั้นพื้นดินก็สั่นสะเทือนครึกโครม

ทั้งสามก็รีบเตรียมพร้อมกันในทันที ไซ่เหล่ยแปรเปลี่ยนไปและดวงตาของนางก็สว่างวาบ ปราศจากความลังเล นางก็กรีดร้อง “ช่วยด้วย!”

การแสดงออกทั้งสามก็เปลียนแปลงเล็กน้อย แพนด้าดอกไม้กระโจนไปยังไซ่เหล่ย

ตูม!

เบื้องหลังทั้งสาม คลังสินค้าก็ระเบิดออกไปชิ้นเล็กๆ!

ถังเทียนขี่เครื่องกลกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์ของเขาราวกับอัศวินโบราณ แต่ละย่างก้าว ราวกับอัสนีบาตผ่าระเบิดและพื้นดินก็สั่นสะเทือน!

หัวของนกกระจอกเทศแบนเรียบ ราวกับผู้ขี่ที่กำลังถือหอก

มันเป็นเสียงหวีดหวิวของท้องฟ้าที่มีพายุฝนเทกระหน่ำไปบนหินก็ปรากฏขึ้นในฉับพลัน เครื่องกลกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์แบกถังเทียนเอียงไปด้านหน้ามองดูอย่างดุร้ายยิ่ง

กลางอากาศการแสดงออกของแพนด้าดอกไม้เปลี่ยนแปลงไป จากด้านหลังของเขา เขาได้ยินเสียงหวีดหวิวอันเยือกเย็นที่ทำให้เขาขนลุกชัน

โดยไม่สนใจไซ่เหล่ย เขาก็เอียงตัวของเขาและกระตุ้นปราณแท้จริงก่อนที่เขาจะชกออกตามหลัง

ปัง!

ด้วยกำลังที่น่ากลัวทำให้เขารู้สึกแปลกๆภายในลำคอของเขา หมัดของเขารู้สึกเจ็บปวดและรู้ว่ามันแตกร้าว ด้วยความตกตะลึง เขาก็หยิบยืมปราณอันน่ากลัวและกระโจนออกไปด้านข้าง

เครื่องกลกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์ที่บึกบึนและทนทานเกิดเปลวเพลิงสองลูก ภายในภาพเลือนลางที่สร้างมาจากอากาศ เขาใช้แขนอันแข็งแกร่งรองรับเอวของเขา มันดูคล้ายราวกับเขาทะยานภายในอากาศและหมุนเป็นวงกลมและควบคุมลม ความน่ากลัวและหวาดหวั่นก็พลันสลายหายไปในทันที

ในขณะนั้น ไซ่เหล่ยก็รู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด