ตอนที่แล้วตอนที่ 022 – แผนการของเสิ่นหยวน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 024 – [อัสนีบาตสังหาร]!

ตอนที่ 023 – ฝึกพิเศษ


ตอนที่ 023 – ฝึกพิเศษ

ในที่สุดถังเทียนก็ได้รับประสบการณ์ความรู้สึกที่ได้ร่ำรวยชั่วข้ามคืน

เขาได้แลกเปลี่ยน [ดัชนีเหล็กไหล] เป็น [กรงเล็บเหยี่ยว] [ท่าเท้าท่องไพร] [แปดก้าวจักจั่น] [ฝ่ามือไร้เงา] [หมัดจุลวินาศ] [วิชาห่วงโซ่สัมพันธ์]  ยันต์จิตวิญญาณหกใบ วางอยู่ตรงหน้าของเขา แสงสีเงินสว่างไสว ทำให้ตาเขาพร่ามัว

“นี้สิคือความหมายของการมีชีวิต!”

ถังเทียนปลื้มใจในสิ่งที่เขาได้รับมา พลางเงยหน้ามองไปยังท้องฟ้ารู้สึกถึงความลึกซึ้ง

“พื้นฐานถัง เจ้าช่างต่ำทรามนัก!” อาโม่หลี่จ้องมองเขาอย่างรังเกียจ

“ต่ำทราม?” ถังเทียนหันไปมองยังเขา กล่าวอย่างชอบธรรม “แมลงวันวัว เจ้ามองมายังเทพหนุ่มผู้นี้! เพียงแค่ยันต์จิตวิญญาณขั้นเงินหกใบ และเจ้ายังจะคิดว่าเทพหนุ่มผู้นี้ต่ำทราม? ฮึ!”

อาโม่หลี่หัวร่ออย่างมีความสุข “ต้องอย่างนี้สิ พื้นฐานถัง เจ้ามิสามารถโยนทิ้งหัวใจนักสู้ของเจ้า เจ้าจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่ง เพื่อให้เจ้ามีเกียรติ์ในความฝันของเจ้า…”

ถังเทียนยกมือของเขาขึ้นทั้งสองข้าง มองไปยังท้องฟ้าด้วยสีหน้าลึกซึ้ง “อย่างน้อยที่สุด มันต้องเป็นยันต์จิตวิญญาณขั้นทองหกใบเพื่อที่จะทำให้เทพหนุ่มผู้นี้ดูต่ำทราม!”

ทันใดนั้นอาโม่หลี่ก็หยุดกลางคัน

ถังเทียนลูบคางพลางกล่าวถาม “วิชาใดกันที่ข้าควรฝึกอันแรก?”

ในขณะนั้น เสียงตาเฒ่าก็ดังขึ้นมาอย่างกระทันหันด้านหลังพวกเขา “โอ้ โอ้ โอ้ หนุ่มน้อยนี้ช่างร่ำรวยนัก! แสงสีเงินนั้น ทำเอาตาเฒ่าเช่นข้ามองเห็นตั้งแต่ไกลก็ตาบอดแล้ว”

ตาเฒ่าเว่ยกระโดดไปยังด้านหน้าทั้งสองหนุ่ม หยิบยันต์ทั้งหกขึ้นมาพลางมองดู กล่าวถามอย่างอยากรู้ “เจ้าทั้งสองปล้นชิงยันต์เหล่านี้มาจากผู้ใดกัน?”

อาโม่หลี่อธิบายอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งวันที่เกิดขึ้น ซึ่งบอกกล่าวรายละเอียดทุกอย่างต่อตาเฒ่าเว่ย

ตาเฒ่าเว่ยร้อง ‘โอ้’ “เจ้าทั้งสองร่วมมือกัน ชนะเฉินหยวนอย่างฉิวเฉียด?”

เขาลูบคางพลางพึมพำ “ข้าก็ไม่อยากที่จะว่ากล่าวรุนแรงแล้ว หากบุรุษผู้นั้นร้ายกาจจริง ข้าคิดว่าถึงเวลาที่จะให้พวกเจ้าทั้งสองฝึกพิเศษแล้ว”

ถังเทียนและอาโม่หลี่มองหน้ากัน ทันใดนั้นก็ต่างรู้สึกถึงลางร้ายภายในใจพวกเขา

ตาเฒ่าเว่ยหันมามองด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าพลางกล่าว “พวกเจ้าทั้งสองจะจดจำได้นิรันดรในสองเดือนนี้!”

ภายในใจทั้งสองของถังเทียนและอาโม่หลี่ถึงกับตื่นตระหนก

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

เฉินหยวนและหยางหย่งก้มหน้า ยืนอยู่ด้านหน้าอาจารย์ใหญ่ สีหน้าพวกเขาซีดเผือด

อาจารย์ใหญ่สีหน้าหม่นหมอง “ดี! ดีมาก! ดูคล้ายว่าคำสั่งของข้ายังคงไม่เพียงพอ พวกเจ้าทั้งสองยังคงมีกำลังมากมายเห็นแก่ตัวละเลยการฝึกเพื่อไปสร้างปัญหากับผู้คน!”

ผู้ช่วยสวี่ผู้ซึ่งอยู่มุมห้องสาปแช่งอย่างเงียบๆ มันยากนักที่จะเห็นอาจารย์โกรธ นั่นทำให้หัวใจของเขาไปจุกอยู่ที่ลำคอ

“เหล่าศิษย์ทั้งหมดที่มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ จะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง” อาจารย์ใหญ่กล่าวอย่างไร้อารมณ์ “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงงานชุมนุมยุทธ์เมืองเมฆาดารา ในช่วงระยะเวลานี้หากมีศิษย์คนใดที่ขาดเรียนอีกล่ะก็ พวกเขาจะต้องถูกไล่ออก! หยางหย่งและเฉินหยวนถูกกักขังให้สำนึกผิดเป็นเวลาสองเดือน!”

ผู้ช่วยสวี่สะดุ้งขึ้นด้วยความตกใจ ครานี้ อาจารย์ใหญ่ถูกกดดันจนถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว เขามองไปที่เฉินหยวนและหยางหย่งอย่างเห็นอกเห็นใจ เฉินหยวนยังคงสงบ เพียงแต่หยางหย่งแลคล้ายตกตายไปแล้ว

อาจารย์ใหญ่หันไปหาพลางจ้องมองผู้ช่วยสวี่ “ไปรายงานยังตึกผู้คุมกฏ ถ้าหากพบพวกเขาทุกคนยังคงทำตัวไม่ดี อย่างนั้นพวกเขาก็มิจำเป็นต้องทำอันใดอีกแล้ว”

ผู้ช่วยสวี่ตอบในทันที “ขอรับ!”

“พวกเจ้าทั้งหมดออกไปได้ เฉินหยวน เจ้าอยู่ก่อน” อาจารย์ใหญ่กล่าวอย่างเย็นชา

หยางหย่งและผู้ช่วยสวี่ก็จากไปทันที

อาจารย์จ้องไปยังเฉินหยวนพลางกล่าวถามอย่างเย็นชา “เจ้าชนะหรือพ่ายแพ้?”

“ข้าพ่ายแพ้” เฉินหยวนก้มหัวลง “ถังเทียนเสแสร้งเป็นนำทางและนำพวกเราไปยังสถาบันพวกเขา หยางหย่งโดนลอบโจมตีคนแรกจากถังเทียนและหลังจากนั้นอาโม่หลี่กับเขาก็ร่วมกันต่อสู้จนมีชัยต่อข้า”

อาจารย์ใหญ่ได้ฟังที่ทั้งสองต่างพ่ายแพ้ แต่น่าแปลกใจที่มิได้โกรธยิ่งขึ้น เพียงแต่กล่าวอย่างไม่แยแส “อธิบายมา”

เฉินหยวนแสดงใบหน้าอย่างขบคิด “อาโม่หลี่ตั้งแต่แรกเริ่มเขาค่อนข้าง...คล้ายกับว่าเขามิมีความตั้งใจ หลังจากนั้นอยู่ๆเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นแน่วแน่และการจู่โจมของเขาก็แข็งแกร่งอย่างมาก เพียงแต่เป็นถังเทียนที่น่าสนใจมากกว่า”

“ถังเทียน?” อาจารย์ใหญ่รู้สึกตกตะลึง

“เอ่อ ถังเทียนเชี่ยวชาญในด้านวิชาหมัดอัสนีบาต แต่สิ่งที่พิเศษมันคือเขาสามารถใช้หมัดอัสนีบาตก่อเกิดรังสีหมัด!” เฉินหยวนกล่าว

“หมัดอัสนีบาตก่อเกิดรังสีหมัดได้!” ดวงตาอาจารย์ใหญ่เบิกกว้างพลางพึมพำกับตัวเอง “เขาได้มอบยันต์จิตวิญญาณกับถังเทียนจริงแล้ว! และถังเทียนยังเข้าใจมันอย่างแท้จริง…”

“เข้าใจอันใด?” เฉินหยวนอดมิได้ที่จะกล่าวถามออกไป

สีหน้าอาจารย์ใหญ่แปรเปลี่ยนเป็นปราศจากอารมณ์ “กล่าวต่อไป”

เฉินหยวนรู้ว่าสิ่งใดที่เขาควรหรือไม่ควรที่จะถามพลางกล่าวต่อในทันที “ถังเทียนเขาปราศจากความหวาดหวั่น เขาสู้อย่างดุร้ายและไม่เกรงกลัวการบาดเจ็บ ถ้าหากเขามีความแข็งแกร่งเทียบเคียงกัน ข้าคิดว่าคงมีเพียงไม่กี่คนที่ทำได้เช่นเขา”

“ไปยังที่สำนึกผิดซะ” อาจารย์ใหญ่จ้องมองไปยังเฉินหลวนพลางกว่าอย่างลึกซึ้ง “พรสวรรค์ของเจ้าภายในผลึกฟ้านี้ มันอาจจะไม่ได้ดีมาก แต่ภาวะอารมณ์ของเจ้าดี เจ้าอดกลั้นความโกรธและยังสงบใจได้ ข้าคาดหวังกับเจ้ามาก อย่าได้ทำให้ข้าผิดหวัง”

“ขอรับ!” เฉินหยวนกล่าวด้วยความเคารพ

“ไปได้!”

อาจารย์ใหญ่สะบัดมือของเขา ขณะที่เฉินหยวนจากไป เขาก็พึมพำกับตัวเอง

“ตำราปราณกระเรียน... เขาเข้าใจมันแน่แล้ว…”

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

มองไปยังเหมืองหินที่ดังก้องอยู่เบื้องหน้าพวกเขา ถังเทียนและอาโม่หลี่ก็ตกตะลึง

“ตาเฒ่าเว่ยทำไมท่านพาพวกเรามายังที่นี้ อย่าบอกนะว่าแท้จริงแล้วท่านเป็นพวกค้าทาส?” ถังเทียนชี้ไปยังตาเฒ่าเว่ยสีหน้าของเขาประมาณ “ข้ามองท่านออกแล้ว”

ตาเฒ่าเว่ยเมินเขาและเดินไปยังบุรุษมีกล้ามพลางตะโกนจากไกลๆ “เหล่าสือ!”

ยามเมื่อบุรุษมีกล้ามได้ยินเสียงเรียก เขาก็หันมาและมองเห็นตาเฒ่าเว่ย เขาอดมิได้ที่จะยิ้มพลางหัวร่อออกมาเสียงดัง และก้าวเดินมายังพวกเขา

แต่เมื่อยามที่บุรุษมีกล้ามหันร่างมา ถังเทียนและอาโม่หลี่ก็สูดอากาศเย็นๆเข้าไปในปาก ในความเป็นจริงแล้ว ร่างกายของอาโม่หลี่ก็ถือว่าแข็งแกร่งและบึกบึนแล้ว แต่เมื่อเทียบกับบุรุษมีกล้ามเบื้องหน้าเขานี้ อาโม่หลี่คล้ายกลายเป็นเด็กน้อย

กล้ามเนื้อทุกส่วนต่างเห็นได้อย่างชัดเจน ยื่นออกมาจากร่างกายของบุรุษมีกล้าม ด้วยสีผิวคล้ำมีความเป็นเงามัน ราวกับเขาผ่านการเปลี่ยนแปลงมาเป็นนับพันนับร้อยครั้ง ยิ่งแขนของเขานั้นเกินจริง ถังเทียนมองไปพลางคิดว่าพวกมันใหญ่กว่าต้นขาของเขาอีก

บุรุษมีกล้ามแบกค้อนเหล็กอยู่พลางกลืนน้ำลายยามเมื่อมองไปยังถังเทียนและอาโม่หลี่

“ตาเฒ่าเว่ย อะไรพาเจ้ามายังที่นี้วันนี้?” บุรุษมีกล้ามกล่าวถาม

“ข้าพาเจ้าเด็กเหลือขอสองคนนี้มาเพื่อให้เจ้าฝึกร่างกายให้พวกเขาสักหน่อย ทำไม มันไม่ใช่เรื่องยากหรอกใช่รึไม่?” ตาเฒ่าเว่ยกล่าวถามอย่างดัง

“มันจะเป็นเรื่องยากได้อย่างไร? นอกจากเพียงก้อนหินพวกนี้ มันก็มีเพียงแค่ก้อนหิน” บุรุษกล้ามโตหัวร่อออกมาอย่างดัง ตรวจสอบความแข็งแกร่งของถังเทียนและอาโม่หลี่ ยิ้มให้กับเขาพวกอย่างเป็นมิตรพลางยกย่อง “พวกเขาทั้งสองเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดี”

ตาเฒ่าเว่ยก็สดใสขึ้นทันที “ฮ่าฮ่า แน่นอน นี้มันสายตาข้านะ มันแม่นยำเสมอ!”

ผู้คนภายในเหมืองต่างได้ยินพลางเข้ามารวมเกาะกลุ่ม

จากนั้นถังเทียนและอาโฒ่หลี่ก็รู้สึกแย่

ผู้คนที่นี้ต่างมีรูปร่างที่ใหญ่โต เอวของพวกเขาต่างใหญ่เท่าถังน้ำ ทั่วทั้งร่างของพวกเขาเต็มไปด้วยมัดกล้าม แลคล้ายเป็นดั่งทองแดงและเหล็ก พวกเขาต่างถือค้อนอันใหญ่ผิดปกติ ถืออย่างคล่องแคล่วคล้ายมันไม่หนักอะไรเลย

ถังเทียนและอาโม่หลี่ต่างโอ่อวดร่างกายของเขาต่อผู้อื่น เพียงแต่เมื่อยืนต่อหน้ากลุ่มผู้คนเหล่านี้แล้ว พวกเขากลายเป็นเพียงต้นถั่วงอก

“เฒ่าเว่ย ไม่เลวจริง ครานี้มันดูคล้ายเป็นเช่นนั้นจริง!”

“เจ้าเด็กเหลือขอสองคนนี้นั้นไม่เลว!”

“ใช่ ใช่ ทำตามใจได้เลยในการฝึก กับสองเมล็ดพันธุ์ที่ดีนี้!”

……

ตาเฒ่าเว่ยยิ้มจนตามิอาจจะมองเห็น แต่ถังเทียนกับอาโม่หลี่ขนลุกชันไปทั่วร่างพวกเขา ขณะที่เขาโดนประเมินอยู่ท่ามกลางเหล่ากลุ่มบุรุษปราการเหล็กเปลือยครึ่งท่อน ความรู้สึกมันช่างน่าสยองขวัญเหลือเกิน

สีหน้าถังเทียนและอาโม่หลี่ยังคงยิ้มด้วยสีหน้าที่สยดสยอง

สือโถวโบกมือเขา “โอ้ หลีกไป หลีกไป พวกเรามิต้องการที่จะทำให้เด็กเหลือขอสองคนนี้หวาดกลัว”

ด้วยการแผดเสียงหัวร่อเบาๆ ทุกคนต่างหันหลีกทางจากไป

เฒ่าเว่ยกล่าวกับสือโถว “นี่คืออาโม่หลี่ ผู้สืบทอดของข้า และ นี่ถังเทียน โอ้ เขาต้องการที่จะเดินไปบนเส้นทางของผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด”

“โอ้? ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด!” สือโถวดวงตาเปล่งประกายพลางประเมินถังเทียนตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครา และยกย่อง “เป็นความทะเทอทะยานที่ดี!”

“ข้ามอบหน้าที่ทุกอย่างให้เจ้า” เฒ่าเว่ยกล่าวอย่างไร้ความรับผิดชอบ

“ดี” สือโถวมิใช่ประเภทกลอกกลิ้งและเขาเป็นตรงไปตรงมา พลางพยักหน้าของเขา

ตาเฒ่าเว่ยหันไปยังถังเทียนและอาโม่หลี่พลางกล่าวบอกพวกเขา “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สือโถวจะเป็นอาจารย์ฝึกพิเศษของพวกเจ้า มิว่าเรื่องอันใดที่เขาสั่งพวกเจ้า พวกเจ้าจักต้องทำให้ดี”

ถังเทียนและอาโม่หลี่พยักหน้าอย่างรู้เรื่อง สือโถวให้ความรู้สึกกดดันมาก

“งั้นข้าขอตัวก่อน” เฒ่าเว่ยสะบัดมือของเขาอย่างมั่นอกมั่นใจดูผ่อนคลายพลางถกแขนเสื้อขึ้นและจากไป

“มากับข้า” สือโถวกล่าวต่อถังเทียนและอาโม่หลี่

พวกเขาทั้งสองเดินตามสือโถวไปยังเหมืองหินในทันที เหมืองนี้เป็นเหมืองเปิดโล่งมองเห็นท้องฟ้า มีก้อนหินซ้อนทับจนคล้ายภูเขา และสถานที่นี้เต็มไปด้วยหินอัคนี

เมื่อมาสถานที่ที่เต็มไปด้วยกองหิน สือโถวก็พบดาบเหล็ก

ตัวดาบมิมีคมแต่ดูหนาเป็นอย่างมาก ด้วยน้ำหนักที่น่าจะมากกว่า 50 จิน แต่ภายในมือของสือโถวไม่นับเป็นอันใด สือโถวพลางคว้าก้อนหินขนาดเท่าประตู

สีหน้าถังเทียนและอาโม่หลี่กลายเป็นซีดเผือดยามเมื่อพวกเขาเห็น แน่ใจแล้วว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า อาโม่หลี่ดุร้ายดั่งกระทิง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสือโถวเขาคงเป็นเพียงแค่ตั๊กแตนเท่านั้น

สือโถวนำหินมาวางเบื้องหน้าเขา พลางกล่าวบอกอาโม่หลี่ “งานของเจ้าคือการฟันหิน แบบนี้”

พวกเขามองสือโถวยกดาบขึ้นและผ่อนคลายวางหินขนาดตะกร้าหวาย พลางใช้ดาบฟัน ‘ขวับ ขวับ ขวับ’ หินสี่เหลี่ยมก็ปรากฏเบื้องหน้าพวกเขา ทุกผิวด้านนอกของหิน ราบเรียบและมันวาวคล้ายกระจก ทุกด้านเรียบตรงเสมออย่างสมบูรณ์แบบ คล้ายมันถูกวัดด้วยบรรทัดมาแล้ว

ถังเทียนและอาโม่หลี่งงเป็นไก่ตาแตก*เมื่อมองไปยังก้อนหิน นี้มันเป็นหินอัคนีเชียวนะ หินอัคนีมันแข็งจนสามารถที่จะทำเป็นปลอกดาบเหล็กกล้า!

[คั่นหนังสือ : งงเป็นไก่ตาแตก – 呆若木鸡 – dāi ruò mù jī – “Dumb as a wooden rooster” ขอเลือกใช้ที่น่าจะสอดคล้อง]

สือโถวพลางโยนดาบเหล็กไปให้อาโม่หลี่อย่างง่ายดาย “เอาล่ะ ต้องฟันหินเช่นนี้ ภายในสิบวันนี้ เจ้าจะต้องมอบมันให้ข้าหนึ่งร้อยก้อนทุกวันและจะถือว่าเจ้าเสร็จสิ้น”

เมื่อเสร็จสิ้นเขาก็จากอาโม่หลี่ที่ไร้อารมณ์ไป และพาถังเทียนไปยังอีกมุมหนึ่ง

ใบหน้าถังเทียนปรากฏความซีดจาง

“ตอนนี้เจ้ากำลังฝึกอันใดอยู่?” สือโถวกล่าวถามถังเทียน

ถังเทียนหยิบเอายันต์จิตวิญญาณจากมือของเขาพลางแสดงอย่างระมัดระวังให้สือโถวพลางกล่าวมันคือสิ่งใด ยามเมื่อกล่าวเสร็จ สือโถวก็พยักหน้า “งั้นฝึกเพียง [หมัดจุลวินาศ] ผู้คนที่นี้ต่างฝึกฝนในหมัดจุลวินาศนี้”

“เป็นเช่นนั้น…”ถังเทียนรู้สึกว่าการแสดงออกของเขาแข็งถื่อเล็กน้อยขณะที่ภายในใจของเขากับกระโดดโลดเต้น

“เอ่อ ใช้มันทำลายหินพวกนี้ มันมีประโยชน์อย่างมาก”

สือโถวพาถังเทียนไปยังอีกกองวัสดุหินพลางคว้าหินขนาดตะกร้าหวายอีกก้อน และทุบทำลายหินด้วยหมัด ‘ปัง!’

หินแตกกระจายคล้ายดั่งเต้าหู กลายเป็นเค้กหิน

สือโถวเช็ดไปยังเค้กหินด้วยมือข้างหนึ่ง ด้วยกองหินที่ปรากฏอยู่หน้าถังเทียน พวกมันทั้งหมดต่างเป็นหินที่ถูกบดเท่ากันทั้งหมดเกือบคล้ายดั่งเช่นเม็ดถั่ว

"โอ้ ในเมื่อเจ้าเพิ่งจะเริ่ม คำขอของข้าคงจะไม่สูงไปนัก เพียงทุกก้อนที่ถูกบด ห้ามไม่ให้ใหญ่เกินเท่าเกาลัด ทุกวันเจ้าจะต้องบดให้ได้หินจำนวน 500 จิน"

ถังเทียนยืนงงเป็นไก่ตาแตกยามเมื่อมองไปยังก้อนหินที่เต็มอยู่บนพื้น

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด