ตอนที่แล้วตอนที่ 12 -- การลาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14 -- ร้านแผงลอย

ตอนที่ 13 -- ปะทะบอส


ตอนที่ 13 -- ปะทะบอส

 

“หือ?”

 

“ตอบแบบนี้มันอะไรกัน? ชั้นกำลังพูดถึงการล่าบอสเลยนะ? ล่าบอส”

 

บ้าระห่ำเกินไปแล้ว

 

สิ่งที่เธอกำลังพูดก็คือ….

 

“โทษที, ผมยังไม่อยากตายน่ะ”

 

“ชั้นก็ไม่อยากตายเหมือนกัน!”

 

เธอโกรธด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

ถึงผมจะพูดไปแบบนั้น แต่ผมก็ยังอยู่ที่นี่

 

“ในตอนแรก เหตุผลที่พวกเราสร้างกิลด์ขึ้นมาเพื่อให้เราสามารถล่าบอสได้! ในเมื่อเราไม่สามารถล้มมันได้ด้วยตัวคนเดียว เราสามารถจัดการมันได้พร้อมกับเพื่อนสักวันหนึ่ง… นั่นคือสาเหตุที่เราสร้างมันขึ้นมา”

 

“แต่เรามีกันแค่สองคนนะ..”

 

“นายปฏิเสธคำสั่งชั้นไม่ได้หรอก เซฟ!”

 

นั่นสินะ

 

นั่นคือสิ่งที่มันควรจะเป็น

 

“ก็ได้! เริ่มจากการคิดแผนอะไรสักอย่างก่อน! แล้วไปลุยกันเถอะ!”

 

รอยยิ้มของมิลลี่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

 

แน่นอนว่ามีบอสหลายตัวที่สามารถล่าได้ด้วยคนเพียงสองคน

 

แต่นั่นถือเป็นการเดิมพัน ด้วยเลเวลในตอนนี้ ราชาแห่งความตายสามารถฆ่าเราทั้งคู่ได้ด้วยการสะกิดเบาๆ

 

มีเพียงนักผจญภัยที่มีทักษะสูงเท่านั้นจึงจะท้าสู้กับบอส ยิ่งกว่านั้นพวกเขาจะท้าสู้เมื่อมาเป็นกลุ่มเท่านั้น

 

“อีกแล้ว, นี่มันประมาทเกินไปแล้ว เราควรจะล้มเลิกเรื่องนั้นจะดีกว่า”

 

“ไม่ต้องห่วง มีทางที่จะชนะมันอยู่แล้ว!”

 

ผมรู้สึกสงสัยเล็กน้อย แต่….

 

“ชั้นจะใช้เวทย์ถล่มบอสก่อน เมื่อบอสสังเกตเห็นชั้น นายก็ใช้เทเลพอร์ตพาชั้นหนี! เราจะฟื้นฟูพลังเวทย์เมื่อเราออกจากระยะมองเห็นของมัน แล้วทำซ้ำอีกครั้ง!”

 

“ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำซ้ำอีกเท่าไร แต่ว่าราชาแห่งความตายมีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเอง การหลบหนีหลังจากยิงเวทย์ระดับต่ำคงไม่เพียงพอ เราต้องการเวทย์ที่ทรงพลัง”

 

“จริงด้วย งั้นเอายังงี้เป็นไง เซฟ… เราจะตรึงการเคลื่อนไหวของบอสด้วยกรีนวอลล์ แล้วพวกเราทั้งคู่จะถล่มมันด้วยเวทย์จากระยะไกล”

 

“บอสสามารถต้านเวทย์พันธนาการได้”

 

เฮ้อ~ เธอถอนหายใจตอนที่ผมกำลังพูด

 

“บางทีเธอคงไม่เคยสู้กับบอสมาก่อน มันไม่ได้ง่ายแบบนั้น ผมรู้ว่าพวกเราสามารถล่าบอสได้สักวันหนึ่ง แต่ไม่ใช่เวลานี้ ตอนนี้เราควรมุ่งไปที่การเพิ่มเลเวลจะดีกว่า”

 

“นี่ดี, นั่นดี, นั่นคือสิ่งที่นายพูดตลอด…”

 

“เซฟ, ตาบ้า~~ !!”

 

มิลลี่เทเลพอร์ตออกไปในตอนที่กำลังพูด

 

อืม, ผมคงทำพลาดไปหน่อย

 

เดี๋ยวนะ… ทางนั้นมัน…..!

 

“ยัยงั่งนั่นคงไม่ได้….!”

 

ผมรีบเทเลพอร์ตตามมิลลี่ไปทันที

 

-สร้างระยะห่างให้ไกลที่สุดในขณะที่ยังอยู่ในระยะร่ายเวทย์, มิลลี่เล็งไปที่ราชาแห่งความตาย พร้อมกับถล่มมันด้วยเรดบลาสเตอร์

 

คลื่นความร้อนที่ถูกปล่อยออกจากฝ่ามือของมิลลี่ได้เผาพวกซอมบี้จนหมดสิ้นในครั้งเดียว แต่การโจมตีไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น

 

คลื่นความร้อนยังพุ่งต่อไปยังราชาแห่งความตาย

 

เวทย์สีแดงระดับกลาง เรดบลาสเตอร์

 

ด้วยพลังเวทย์มีผลต่อพลังโจมตีของเวทย์อย่างมาก มันอาจโจมตีทุกอย่างที่ขวางหน้าตราบเท่าที่เวทย์ยังไม่ถูกยกเลิก

 

ราชาแห่งความตายไม่ได้ถอยหนีเลยแม้แต่น้อย และเริ่มพุ่งตัวเข้ามาหามิลลี่ เธอเริ่มถอยหนีหลังจากร่ายเรดบลาสเตอร์ในทันที

 

“เทเลพอร์ต~ซึ!”

 

เธอถอยกลับสร้างระยะห่าง จนกว่าเธอจะไม่ถูกราชาแห่งความตายเห็นอีก

 

“หุหุ~ ♪ ชั้นนี่สุดยอดจริงๆ เพราะว่าชั้นสามารถสู้กับบอสได้ด้วยตัวเอง”

 

เธอเริ่มเข้าฌาณ ในขณะที่ปรับเปลี่ยนตำแหน่งให้สัมพันธ์กับราชาแห่งความตาย หลังจากนั้นเธอร่ายเรดบลาสเตอร์สุดระยะ แล้วหนี หลังจากนั้น….

 

ถล่มเวทย์ใส่ราชาแห่งความตาย

 

แล้วเทเลพอร์ตหนีเมื่อมันสังเกตเห็นเธอ

 

นี่… ทำซ้ำไป 3 ถึง 4 ครั้ง

 

ในเวลาไม่นาน ใบหน้าของมิลลี่ก็ปรากฎความเหนื่อยล้าแล้ว

 

ลมหายใจของเธอเริ่มติดขัด และตัวเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อ

 

การ ‘สู้กับความตาย’ เกือบจะจบลงในไม่กี่นาที

 

ความมุ่งมั่นและความตรึงเครียดของเธอหมดลงไปแล้ว เธอไม่สามารถเข้าฌาณหรือร่ายเวทย์ได้อีกแล้ว

 

ในขณะที่ราชาแห่งความตายดูจะไม่เป็นอะไรเลย

 

การสู้ต่อไป โดยเฉพาะในสภาพแบบนี้ไม่ก่อให้เกิดอะไรเลย

 

เธอรู้ดี แต่…

 

“...มาถึงขนาดนี้แล้ว”

 

เธอวัดระยะห่างด้วยร่างที่ง่อนแง่น

 

ภาพที่มองเห็นเริ่มพร่ามัว เท้าเริ่มสั่นไปมา

 

และ…

 

เธอทำพลาดในการกะระยะด้วยสายตา และอยู่ในระยะการมองเห็นของราชาแห่งความตาย

 

แน่นอน มันหันมาหาเธอและเริ่มโจมตีในทันที

 

มิลลี่สังเกตเห็นข้อผิดพลาดของตนแม้ภาพจะยังพร่ามัว และพยายามหนีด้วยการเทเลพอร์ต แต่เนื่องจากเธอไม่สามารถรวบรวมสมาธิได้ มันจึงไม่สำเร็จ

 

ราชาแห่งความตายยกไม้เท้าบิชอปขึ้น ซึ่งผลที่ตามมาสามารถแยกหัวของมิลลี่ออกเป็นสองส่วนได้อย่างแน่นอน

 

ผมบินไปด้วยเทเลพอร์ตในจังหวะสุดท้าย ผลักมิลลี่ออกไปแล้วรับมือไม้เท้าบิชอร์ปด้วยแขนซ้ายของผมเอง

 

*ฮิชิชิชิ* ผมรู้สึกเหมือนแขนของผมกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

 

มันกระแทกลงพื้นและร่างของผมปลิวไปทางมิลลี่

 

สติของผมดับวูบไปครู่หนึ่ง แต่ผมไม่ยอมหมดสติ

 

ผมจับแขนของมิลลี่ และหลบหนีออกไปด้วยเทเลพอร์ต

 

ราชาแห่งความตายซึ่งพลัดหลงกับเหยื่อกัดฟันกรอด และเริ่มเดินเต็ดเตร่อีกคร้ัง

 

-บ้านมิลลี่

 

“ยัยโง่เอ้ย!! ผมบอกแล้วไงว่าอย่าสู้! เธอเกือบตายแล้วถ้าผมไม่ได้ช่วยเอาไว้”

 

น้ำตาไหลลงมายังใบหน้าของมิลลี่ ในตอนที่ผมดุเธอ

 

มิลลี่เอาแต่พูดขอโทษพร้อมกับร้องไห้ตลอดเวลาที่เดินทางกลับมายังห้องของเธอ

 

ก่อนหน้านั้นไม่นาน ผมใช้เวทย์บัฟป้องกันใส่ตนเอง

 

เนื่องจากมันมีคำร่ายที่ยาว ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ในการต่อสู้ได้ มันเป็นเวทย์ที่ลดค่าความเสียหายลง 90 เปอร์เซ็นจากการโจมตีของศัตรูได้หนึ่งครั้ง

 

แต่มันก็ยังมากพอที่จะหักแขนของผมได้

 

อย่างน้อยมิลลี่ก็ได้เรียนรู้ความกลัวที่แท้จริงจากการต่อสู้กับบอส

 

“ตอนนี้ เธอรู้หรือยังว่าทำไมผมถึงห้าม?”

 

“อา…. ฉันรู้แล้ว ชั้นขอโทษ… ถ้าชั้นไม่ทำตัวเอาแต่ใจแบบนั้น แขนนายคง….”

 

…..มันคงกลายเป็นบาดแผลทางใจ

 

ในอนาคตมิลลี่จะต้องกลายเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญ การต่อสู้กับมอนส์เตอร์บอสร่วมกับผมเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำไมเธอจึงเป็นคนสำคัญ ดังนั้นมันจะมีปัญหาหากเธอเกิดบาดแผลทางใจ

 

ผมจำเป็นต้องลบมันทิ้งไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ยิ่งปล่อยไว้นาน การฟื้นฟูสภาพจิตใจของเธอก็ยิ่งนานขึ้น

 

บ้าเอ้ย…. น่ารำคาญจริงๆ….

 

แม้ว่าสิ่งที่ผมพูดจะไม่ค่อยได้ผล….

 

แขนซ้ายของผมเริ่มปวดอีกแล้ว

 

ตอนนี้มันหักอย่างสมบูรณ์….

 

ถึงแม้ว่ามันจะเริ่มสมานตัวหลังจากที่ผมเพิ่มความสามารถในการฟื้นตัว

 

แต่การฟื้นตัวของกระดูกที่เสียหายหรือบาดแผลลึกก็ยังต้องใช้เวลา

 

สถานการณ์แบบนี้ ผมว่าไม่ค่อยจะดี

 

บ้าจริง ผมเริ่มโมโหแล้ว….

 

ราชาแห่งความตาย

 

“มิลลี่”

 

“....คะ?”

 

อย่างไรก็ตามเธอกลายเป็นคนขี้กลัว

 

ดูเหมือนความเสียหายจะรุนแรงกว่าที่คิด

 

ผมคาดว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่พวกเราสามารถทำได้

 

“ขอเวลาผมเจ็ดวัน, เจ็ดวันในการคิดแผนและเตรียมการ แล้วพวกเราจะล้มเจ้าราชาแห่งความตายด้วยกัน”

 

มิลลี่มองมาที่ผมด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ดังนั้นผมจึงจับไหล่ของเธอไว้แล้วยิ้มให้ทันที

 

“พวกเราจะล้มมันด้วยกันเพียงสองคน”

 

==========

 

อุทิศให้คุณพ่อยุทธนา ศิริพัฒนานันทกูร

 

==========

 

ติดตามผลงานได้ที่ https://www.facebook.com/RachanTranslations/

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด