ตอนที่ 21 ไร้ยางอาย
ตอนที่ 21 ไร้ยางอาย
ด้วยประสบการณ์ทั้งหมดของหมอเถื่อน นางจึงสัมผัสได้ถึงออร่าของบ่อสวรรค์ลึกล้ำที่หลงเหลือบนร่างกายของเฉินชิงหยวน
เป็นเพราะกฎของแดนหวงห้ามมีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวมาก และมันแตกต่างไปจากกฏแห่งสวรรค์และโลกโดยสิ้นเชิง
“ผู้เยาว์ทราบว่าร่างกายของข้าพิการ และข้าไม่ต้องการให้อาวุโสต้องมาเหน็ดเหนื่อยกับเรื่องที่ไม่อาจแก้ไข ยิ่งไปกว่านั้นผู้เยาว์ไม่มีสิ่งใดจะมอบแก่ท่านด้วย โปรดลืมเรื่องนี้ไปเสีย!”
ได้ยินว่าหมอเถื่อนอยากจะรักษาเขา เฉินชิงหยวนรีบกล่าวตัดบททันที
ในร่างกายของเขามีความลับไว้มากมายเกินไป และไม่ต้องการถูกเปิดเผย
“เมื่อข้ารักษาผู้ใด ข้าสนใจเพียงโชคชะตานำพามาพบเท่านั้น แน่นอนว่าข้าจะไม่เรียกเก็บเงินกับเจ้าแม้แต่แดงเดียว” ยิ่งเฉินชิงหยวนพูดออกมาอย่างนี้ หมอเถื่อนก็ยิ่งทวีความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น นางต้องการที่จะตรวจสอบร่างกายเขาจริง ๆ เวลานี้จึงเอ่ยปากเสียงหนัก “นั่งลงเสีย!”
หมอเถื่อนยกมือซ้ายขึ้นต่อหน้าเขา
พึ่บ!
โต๊ะหินและม้านั่งสองตัวจึงปรากฏขึ้นด้านหน้า
เฉินชิงหยวนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไร แต่ในตอนนี้เขาจำเป็นต้องนั่งลงก่อน สุดท้ายแล้วหากหมอเถื่อนผู้นี้มีเจตนาชั่วร้าย เฉินชิงหยวนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้ไพ่ตายที่มี
เมื่อออกจากบ่อสวรรค์ลึกล้ำ สตรีในชุดสีแดงมอบเครื่องรางช่วยชีวิตให้เฉินชิงหยวน หากเขาประสบกับวิกฤติความเป็นความตาย ให้เขานำเครื่องรางนี้ออกมาและจะสามารถรอดพ้นจากอันตรายนั้นได้
แต่เฉินชิงหยวนไม่เคยใช้งานมันสักครั้ง ดังนั้นจึงไม่ทราบว่าเครื่องรางนี้ส่งผลอย่างไรบ้าง และมันยอดเยี่ยมเพียงใด
นอกจากนี้เฉินชิงหยวนเองก็ไม่ทราบว่าทำไมสตรีในชุดแดงถึงใจดีกับเขามากขนาดนั้น สิ่งนี้ค่อนข้างทำให้เขาแปลกใจไม่น้อย
ทุกครั้งที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ เฉินชิงหยวนมักจะคิดเข้าข้างตนเองว่า… เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาหล่อเหลาจนนางตกหลุมรักเสียแล้ว?
“เหยียดมือออกมา”
หมอเถื่อนออกคำสั่ง
เฉินชิงหยวนเหยียดมือออกไปวางบนโต๊ะอย่างว่าง่าย
หมอเถื่อนวางนิ้วมือลงบนข้อมือของเฉินชิงหยวนก่อนจะเริ่มตรวจจับชีพจร
ผ่านไปกว่าสิบลมหายใจ หมอเถื่อนขมวดคิ้วพร้อมพึมพำว่า “ชีพจรมั่นคงไม่เหมือนกับผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ว่าหากไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ แล้วร่างกายนี้จะเหมือนกับร่างกายของมนุษย์ทั่วไปได้อย่างไร? มันไม่มีความผันผวนของพลังวิญญาณจริงหรือ แปลกจริง!”
หลังตรวจสอบชีพจรเสร็จแล้ว หมอเถื่อนตรวจสอบเส้นลมปราณและตันเถียนของเฉินชิงหยวนร่วมด้วย แต่ก็ไม่พบสิ่งใดที่ผิดปกติ
ยิ่งทุกอย่างปกติมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งแปลกประหลาดมากเท่านั้น
“เจ้ามีสิ่งใดซุกซ่อนจากข้าอยู่หรือไม่?”
หมอเถื่อนปล่อยมือก่อนจะจ้องมองเฉินชิงหยวนด้วยแววตาลุ่มลึก ราวกับต้องการที่จะผ่าร่างกายของเขาออกเพื่อศึกษาเสียเดี๋ยวนี้
“ไม่!”
เฉินชิงหยวนรู้สึกมีความสุขอยู่ในใจ ดูเหมือนว่าหมอเถื่อนจะไม่รู้ว่าร่างกายของเขาหายดีแล้ว เวลานี้เขาส่ายศีรษะตอบกลับในทันที
“เจ้าอยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะตรวจสอบร่างกายเจ้าช้า ๆ!”
หมอเถื่อนมีนิสัยสนใจโรคที่ยากและซับซ้อน
“เช่นนั้นไม่ได้!” ราวกับถูกถีบลงเหว เฉินชิงหยวนกล่าวต่อไปว่า “ทั้งหมดเป็นโชคชะตาของข้าแล้ว อาวุโสไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับข้า ควรรีบปล่อยข้าออกไปเสีย!”
เจ้าต้องการจะออกไปงั้นหรือ? ข้าไม่ให้เจ้าออก!
หมอเถื่อนเองก็มีนิสัยที่ประหลาดไม่น้อย เวลานี้นางไม่ต้องการพูดคุยกับเฉินชิงหยวนอีกต่อไป จากนั้นยกมือขึ้นชี้ไปทางลานด้านซ้ายของบ้านไผ่เขียว “เจ้าไปอยู่ที่นั่นก่อน!”
หลังพูดจบแล้ว หมอเถื่อนหันหลังก่อนจะหายลับไปจากสายตา ปล่อยให้เฉินชิงหยวนนั่งอึดอัดอยู่เพียงผู้เดียว
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
เฉินชิงหยวนไม่ต้องการพบเจอกับหมอเถื่อน ร่างกายของเขาหายดีแล้ว และเขาไม่ต้องการการรักษาใด ๆ! แต่สุดท้ายเขาก็ไม่อาจเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดให้หมอเถื่อนรับฟังได้ ไม่เช่นนั้นเขาจะถูกผ่าร่างกายเพื่อศึกษาแน่นอน เรื่องกระดูกเต๋าลึกลับจำเป็นต้องเก็บไว้เป็นความลับที่สุด
เฒ่าหาน! หากในอนาคตได้พบกันอีกคราว ข้าจะจัดการกับเจ้าแน่นอน!
น้องชายเอ๋ย ข้าช่วยชีวิตของเจ้าเอาไว้ แต่เจ้ากลับกล้าหาญทำร้ายข้า!
เฉินชิงหยวนโกรธจัดจนกระทั่งโยนความผิดทั้งหมดให้กับหานซาน
ดังที่ทราบ แม้แต่หานซานเองก็สับสนเช่นกัน ใครจะทราบว่าเขาจะสามารถค้นพบ? ผู้คนตั้งมากมายต้องการพบเจอแต่กลับมองไม่เห็น หากเขารู้สิ่งนี้ก่อนหน้า เขาคงจะเอาเบาะแสนี้ไปขายแล้ว มันจะต้องสร้างเม็ดเงินให้กับเขาได้มหาศาล!
หมอเถื่อนเองไม่มีเจตนาร้ายต่อเฉินชิงหยวนเช่นกัน เพียงแค่ต้องการค้นหากฏลึกลับบนร่างกายของเฉินชิงหยวนเท่านั้น
เวลานี้หมอเถื่อนปิดผนึกเฉินชิงหยวนไว้ในบ้านไผ่เขียว และเริ่มใช้วิธีการต่าง ๆ ค้นหาข่าวของเฉินชิงหยวน
ส่วนเฉินชิงหยวนอยู่ในบ้านไผ่เขียวอย่างสบาย ๆ
“น่าเสียดาย ของเหล่านี้ไม่ใช่ของข้าแม้สักหนึ่งชิ้น”
เขาพึมพำออกมาขณะมองดูสมุนไพรวิญญาณ และยาอายุวัฒนะทั่วพื้นดิน เฉินชิงหยวนทำได้เพียงมองดูพวกมันแต่ไม่อาจฉกฉวยมาครอบครองได้ สถานการณ์นี้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
“ต้องการงั้นหรือ?”
เฉินชิงหยวนนอนอยู่ที่นี่มาห้าวันแล้ว จนกระทั่งวันนี้หมอเถื่อนปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
“ข้าก็แค่คิด” เฉินชิงหยวนโค้งคำนับให้หมอเถื่อนอย่างเคารพ แล้วพยักหน้าตอบรับ
“พูดความจริงออกมา…” หลังจากการสืบเบาะแสในช่วงไม่กี่วันที่ผ่าน หมอเถื่อนทราบถึงข่าวมากมายของเฉินชิงหยวน
“แลกกับความจริงของข้า เหตุใดท่านจึงไม่มอบน้ำอมฤตให้ข้าเป็นของขวัญสักหน่อยเล่า?”
เมื่อได้รับแต้มต่อ เฉินชิงหยวนเผยความไร้ยางอายขั้นสุดยอดของตนเองออกมา
หมอเถื่อนเหลือบมองเฉินชิงหยวน “เกรงว่าจะเป็นแค่ฝัน”
“เป็นเช่นนั้น ข้ากำลังฝัน!”
น้ำอมฤตส่วนใหญ่ในสวนยาแห่งนี้มีคุณภาพสูงสุด ต่อให้ออกค้นหาทั่วสำนักเต๋าล้ำขจีก็ไม่อาจพบพานสิ่งที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้
หมอเถื่อนไม่คิดว่าเฉินชิงหยวนจะตอบกลับมาเช่นนั้น นางสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะกล่าวเปลี่ยนเรื่อง “เจ้าเพียงตอบคำถามข้าสักสองสามคำ หากเจ้าตอบความจริง ข้าจะยอมมอบให้สักสองสามส่วน”
“อาวุโสอยากทราบสิ่งใดหรือ?”
เฉินชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะกังวล
“เมื่อร้อยปีก่อนที่เจ้าอยู่ในบ่อสวรรค์ลึกล้ำได้พบเจอกับสิ่งใดบ้าง?”
หมอเถื่อนเองก็อยากทราบว่าแดนหวงห้ามแห่งนั้นมีอะไร นางจึงกล่าวถามตรงประเด็นทันที
“มีค่ายกลอันน่าสะพรึงมากมายภายในนั้น สำนักศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดภายในแดนธารดวงดาวส่งผู้แข็งแกร่งเข้าสู่แดนหวงห้ามพร้อมกัน และทั้งหมดตายตกเพราะถูกค่ายกลของบ่อสวรรค์ลึกลับสังหาร ส่วนข้ารอดพ้นมาได้ด้วยความโชคดี แต่ต้องสูญเสียระดับยุทธ์ทั้งหมด และการฝึกฝนยาวนานหลายปีกลายเป็นสูญเปล่า เหลือแค่ร่างกายมนุษย์เช่นนี้”
ถ้อยคำที่เฉินชิงหยวนกล่าว จริงครึ่งเท็จครึ่ง
สุดท้ายแล้วไม่รู้ว่าเรื่องเล่าของเฉินชิงหยวนน่าเชื่อถือ หรือพลังในสร้อยข้อมือหยกที่แข็งแกร่ง หมอเถื่อนจึงไม่ทราบเลยว่าสิ่งที่เขาพูดกล่าวเป็นความจริงหรือไม่ นางจึงเอ่ยปากถามต่อไปว่า “หากเจ้าโชคดี ทำไมต้องใช้เวลานานกว่าร้อยปีจึงจะออกจากบ่อสวรรค์ลึกล้ำได้?”
“ในบ่อสวรรค์ลึกลับเต็มไปด้วยกฎแหละค่ายกลมากมาย ข้าสัมผัสกับมันโดยไม่ตั้งใจและถูกผนึกไว้ภายในเป็นเวลาร้อยปี” เฉินชิงหยวนกล่าวตอบเสียงหนัก ใบหน้าไม่มีสั่นคลอนแม้แต่น้อย “และการปลดผนึกทำลายรากวิญญาณของข้าโดยสมบูรณ์ กว่าข้าจะทราบว่าวันเวลาผ่านไปร้อยปีก็เมื่อก้าวออกสู่โลกภายนอกแล้ว”
“เจ้าหนู หากเจ้ากล้าหลอกลวงข้า คงจะทราบผลที่จะตามมา!”
หมอเถื่อนแสร้งทำหน้าเคร่งขรึม ดวงตาฉาบด้วยโลหิตแดงฉาน
“ข้าไม่กล้า” เฉินชิงหยวนตอบ
“แล้วเจ้าไปที่เมืองจันทราสงัดทำไมกัน?”
หมอเถื่อนเอ่ยปากถามต่อไป
“ข้าก็เพียงไปพักผ่อน” เฉินชิงหยวนตอบอย่างไม่แยแส
“เมืองจันทราสงัดอยู่ห่างไกลจากสำนักเต๋าล้ำขจีมาก เจ้าไปพักผ่อนไกลเกินไปหรือไม่?”
หมอเถื่อนไม่เชื่อถือคำพูดของเขาในทันที
“เหมือนว่าอาวุโสจะตรวจสอบเรื่องราวของข้าแล้ว และคงจะรู้ว่าสำนักหยกสวรรค์กับตำหนักชมตะวันออกตัดสินใจแต่งงานกันเมื่อไม่นานนี้… คู่หมั้นของข้าทิ้งข้าไปเช่นนั้น จะให้ข้าอารมณ์ดีหรือไร? ข้าจึงออกเดินทางเพื่อพักผ่อนกายใจ และไม่ผิดที่ข้าจะไปไกลสักหน่อย”
เฉินชิงหยวนไม่คิดเลยว่าเรื่องการแต่งงานจะนำมาเป็นข้อแก้ตัวได้ ระหว่างที่พูดกล่าวนั้นเขาก็ไม่ลืมจะเผยสีหน้าโศกเศร้าออกมาด้วย
ได้ยินเรื่องราวแล้วหมอเถื่อนก็คิดว่าทั้งหมดสมเหตุสมผล และรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริง
แต่หลังจากนั้นไม่นาน หมอเถื่อนพึมพำอีกครั้ง “จากสัญชาตญาณของข้า ไม่มีคำใดที่จริงใจหลุดออกจากปากเจ้าแม้เพียงคำเดียว!”
แม้สิ่งที่เฉินชิงหยวนกล่าวออกมาจะดูมีเหตุผล แต่หมอเถื่อนก็ยังไม่อาจปักใจเชื่อถือได้
“อาวุโส ข้ากล่าวทั้งหมดตามความจริง ท่านต้องเชื่อข้า!”
เฉินชิงหยวนกล่าวออกมาอย่างจริงจัง และยืนยันหนักแน่นว่าทุกถ้อยคำของเขาคือความจริง