บทที่ 19 กององครักษ์ผู้ยินยอม
ขณะที่หลี่มู่กล่าวคำพูดเหล่านั้นสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ เขาต้องการรับคนมาเป็นองครักษ์เพิ่มจริงๆโดยไม่คิดจะฆ่าหรือทำลายพลังยุทธ์ของใครเลย
แต่ฉายาดาบปีศาจเขายอมรับมันได้!
ทว่าตอนนี้ทักษะเงินหลบหนีที่แสนไร้ปรานีกำลังกดดันให้เขากลายเป็นจอมมารเต็มตัว!
หลี่มู่มองดูสีหน้าของทุกคนด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วน เขาอยากพูดว่า
"ข้าจริงๆ แล้วอยากเป็นคนดี..."
แต่เขารู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะพูดประโยคนั้น!
...
พวกเขาเป็นแค่ NPC!
เขากำลังเล่นเกมที่แพ้ไม่ได้!
พวกเขาแค่ถูกทำลายพลังยุทธ์ แต่ถ้าตัวเขาแพ้ เขาจะไม่มีแม้แต่ชีวิต!
เพื่อนร่วมทางอาจตายได้ แต่ตัวเขาจะต้องรอด!
หลี่มู่รู้ว่านี่เป็นตรรกะแบบโจร แต่สำหรับนักเติมเต็มความฝันพวกเขาต้องมีจิตสำนึกไปทำไมกัน?
หลี่มู่บังคับให้ตัวเองใจแข็งขึ้น
"คนต่อไป!"
"คุณชายหลี่ ขอท่านเมตตาปล่อยข้าไปเถอะ! ข้าจะยอมมอบสมบัติที่สะสมมาหลายสิบปีให้ท่านทั้งหมด ข้ายินดีสาบานต่อฟ้าถ้าข้าออกไปแล้วคิดแก้แค้นขอให้ฟ้าผ่าข้าทั้งตระกูล!" ชายที่ถูกเลือกพูดรัวเร็วอย่างชำนาญราวกับเขาเตรียมคำพูดนี้มานานแล้ว!
เขาเลือกใช้วิธีที่แตกต่างออกไป!
ช่างไร้ยางอาย!
บัดซดมันแย่งคำพูดของข้าไป!
เหล่าผู้ถูกจับกุมที่เหลือกัดฟันแน่นมองเขาด้วยสายตาโกรธแค้น
หลี่มู่ไม่แยแส
"ชื่อของเจ้า?"
ในโลกของ ฤทธิ์มีดสั้น เขาเชื่อมั่นในทักษะของตัวเองเท่านั้น
"คุณชายหลี่ ข้า..." ชายผู้นั้นยังคงพยายามอ้อนวอน แต่ถูกหลี่มู่ขัดขึ้นอย่างไร้เยื่อใย
"ชื่อของเจ้า?"
ชายผู้นั้นหน้าซีด
"จางถัง"
หลี่มู่จ้องมองเขา
"จางถังข้าถามเจ้าอีกครั้ง เจ้าจะรับเหรียญทองแดงนี้และเป็นองครักษ์ของข้าเป็นเวลาสามเดือนหรือไม่? คิดให้ดีแล้วตอบมา"
จางถังถอนหายใจหนักๆ
"ข้ายอม!"
หลี่มู่ถามต่อ
"เจ้าทราบเงื่อนไขของการเป็นองครักษ์หรือไม่?"
"ทราบดี"
"เต็มใจหรือไม่?"
จางถังหลับตาแน่น
"เต็มใจ!"
ทักษะเงินหลบหนีสำเร็จ!
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น!
หลี่มู่ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างน้อยก็สำเร็จไปหนึ่งคน หากเขาล้มเหลวต่อไปเรื่อยๆและต้องทำลายพลังยุทธ์ของทุกคนเขาคงได้กลายเป็นศัตรูของยุทธภพอย่างแท้จริง!
จ๋าเมิ่งจ้องมองจางถังอย่างดุดันรอรับคำสั่ง
หลังจากทำลายพลังยุทธ์ของสองคนไปแล้ว เขากลับรู้สึกคุ้นเคยและชื่นชอบอำนาจที่เหนือกว่าผู้อื่นนี้
"ยินดีด้วยเจ้าผ่านแล้ว!" หลี่มู่ยิ้มบาง
"รออีกสักครู่ เมื่อคนอื่นๆยอมรับข้อเสนอของข้าหมดแล้ว ข้าจะปล่อยเจ้า!"
ความผิดหวังฉายวาบบนใบหน้าของจ๋าเมิ่ง เขาคลายปากของตัวเองเล็กน้อยก่อนจะเดินไปยืนข้างคนถัดไปอย่างไม่เต็มใจ
"ข้าผ่านแล้วหรือ?" จางถังลืมตากว้างด้วยความยินดีถึงกับน้ำตาคลอ
"ขอบคุณท่านที่ไว้ชีวิตข้า! ข้ายินดีเป็นองครักษ์ของท่าน แม้ไม่ใช่แค่สามเดือน แต่สามปีก็ไม่มีปัญหา!"
"หืม!" หลี่มู่หัวเราะเบาๆ
"ไม่ต้องถึงขนาดนั้นแค่สามเดือนก็พอ คนต่อไป!"
"ข้าน้อยถังเฉินอี้ ขอยอมเป็นองครักษ์ของคุณชายหลี่ ข้าพร้อมจะติดตามท่านรับใช้จนสุดชีวิต!"
ทักษะเงินหลบหนีสำเร็จ!
หลี่มู่ยิ้ม
"ยินดีด้วย เจ้าผ่าน!"
"ข้าน้อยหลี่เชาลงขอยอมเป็นองครักษ์ของคุณชายหลี่..."
...
หลังจากทำลายพลังยุทธ์ของสองคนแรกไปแล้ว การเซ็นสัญญาก็ดำเนินไปอย่างราบรื่นขึ้นมาก
ทุกคนดูเหมือนจะเข้าใจหัวใจของความสำเร็จ ก่อนพูดอะไรพวกเขาต้องสรรเสริญและแสดงความจงรักภักดีเสียก่อน
ดังนั้นนอกจากเกาลู่ผู้โชคร้ายแล้วก็ไม่มีใครล้มเหลวอีกเลย
หลี่มู่อารมณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ นี่แหละคือรูปแบบปกติของทักษะเงินหลบหนี!
เขาหันไปมองเกาลู่ซึ่งเป็นคนเดียวที่เซ็นสัญญาไม่สำเร็จ
ริมฝีปากของเกาลู่มีคราบเลือดติดอยู่ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังยังคงกัดฟันด่าเหล่าคนในยุทธภพว่า
"พวกขี้ขลาด! ไอ้พวกต่ำช้าไร้ยางอาย!"
หลี่มู่ถอนหายใจเบาๆ บางทีมันอาจไม่ใช่เพราะเงินน้อยเกินไป แต่เป็นเพราะเจ้าหมอนี่มีจิตใจไม่บริสุทธิ์จริงๆ!
เห็นไหม? การยึดมั่นในตนเองเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
...
เสียงแสดงความภักดีและคำประจบสอพลอทุกคำเหมือนค้อนหนักกระแทกลงบนใจของจ้าวเจิ้งอี้และโย่วหลงเซิง ทำให้หัวใจของพวกเขาจมดิ่งลงเรื่อยๆ
จากทั้งหมด
พวกเขาสองคนเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากที่สุด
และเป็นคนที่แพ้ไม่ได้มากที่สุด
หากทุกคนยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียวไม่ยอมเป็นองครักษ์ของหลี่เสี่ยวไป๋และสามารถถ่วงเวลาไว้จนกว่าคนอื่นๆจะมาพบเข้าพวกเขาอาจมีโอกาสรอด
แต่ตอนนี้
แต่ละคนกลับยอมแพ้อย่างรวดเร็ว
ทำให้พวกเขาสองคนตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากที่สุด
เจ้าพวกไร้ประโยชน์! จ้าวเจิ้งอี้ด่าทออยู่ในใจ ยิ่งมีคนยอมแพ้มากขึ้นหัวใจของเขาก็ยิ่งร้อนรน
อีกไม่นานก็จะถึงตาเขาแล้ว จะทำอย่างไรดี?
ยอมแพ้?
หรือไม่ยอมแพ้?
หากเขายอมแพ้ ชื่อเสียงจ้าวเจิ้งอี้ผู้ยุติธรรมที่เขาสั่งสมมาทั้งชีวิตก็พังทลาย!
แต่หากเขาไม่ยอมแพ้พลังยุทธ์ที่เขาฝึกฝนมาอย่างหนักหน่วงเป็นเวลาหลายสิบปีก็จะถูกทำลาย!
รักษาชื่อเสียง? หรือรักษาพลังยุทธ์?
ช่างเป็นทางเลือกที่ยากลำบาก!
จ้าวเจิ้งอี้อยากจะหันไปหาโย่วหลงเซิงเพื่อปรึกษากันสักหน่อยหรืออย่างน้อยก็ขอสบตาเพื่อส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง แต่ภายใต้การควบคุมของวิชารับดาบ 100% แม้แต่การหันศีรษะไปมองยังทำไม่ได้เลย!
นี่มันวิชาบ้าอะไรกัน! ช่างน่าสะพรึงกลัว!
ก่อนหน้านี้จ้าวเจิ้งอี้ยังกล้าใช้คำพูดปลุกเร้าผู้คนให้ต่อต้าน แต่เมื่อได้เห็นวิธีการอันเหี้ยมโหดของ หลี่มู่แล้วตอนนี้เขากัดริมฝีปากแน่นไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงออกมา!
ในใจของจ้าวเจิ้งอี้มีแต่ความเสียใจอย่างสุดซึ้ง!
หากเขาสามารถย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะไม่มีวันคิดเป็นศัตรูกับหลี่เสี่ยวไป๋
แต่จะรีบเข้าหาและเป็นมิตรกับเขาตั้งแต่แรกแทน!
"โย่วหลงเซิงถึงตาเจ้าแล้ว!" หลี่มู่มองไปยังโย่วหลงเซิงซึ่งกำลังเหงื่อแตกพลั่ก
"เจ้าคิดอย่างไร? จะรับเหรียญทองแดงนี้แล้วเป็นองครักษ์ของข้าเป็นเวลาสามเดือนหรือไม่?"
หลี่มู่ตั้งใจเว้นโย่วหลงเซิงและจ้าวเจิ้งอี้ไว้เป็นสองคนสุดท้าย เพราะการเป็นคนสุดท้ายหมายถึงความกดดันทางจิตใจสูงสุด
ในบรรดาผู้คนที่นี่ทั้งสองมีชื่อเสียงมากที่สุด
อย่างน้อยในนิยายพวกเขามีชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จัก
ใครบ้างอยากให้ข้ารับใช้ของตนเป็นเพียงพวกโนเนม? แม้แต่เล่นเกมสามก๊กยังต้องการแม่ทัพมีชื่อเสียงเลย!
นอกจากนี้แม้ว่าคุณธรรมของจ้าวเจิ้งอี้จะเป็นที่ถกเถียงกัน แต่เขาก็ถือเป็นยอดฝีมือระดับหนึ่ง!
โย่วหลงเซิงยังเยาว์วัยจิตใจยังไม่มั่นคงพอ หลังจากที่หลี่มู่ใช้แผนการหลากหลายเขาก็ถูกบดขยี้จนจิตใจพังทลาย
แต่ถึงอย่างนั้น
เขายังคงต้องการรักษาศักดิ์ศรีของเด็กหนุ่มเอาไว้ เขากัดฟันกล่าวว่า
"หนึ่งเหรียญทองแดงไม่ได้ ต้องอย่างน้อยสิบตำลึงเงินถึงจะเหมาะสมกับฐานะของข้า!"
ดีมาก!
นี่เป็นการหาทางลงที่ฉลาด!
หลี่มู่เกือบจะหลุดขำออกมา
"ห้าตำลึง!"
"ตกลง!" โย่วหลงเซิงกลัวว่าหลี่มู่จะเปลี่ยนใจ ทันทีที่อีกฝ่ายกล่าวจบเขาก็ตอบตกลงในทันที เขาสูดหายใจลึกก่อนจะกล่าวเสียงดัง
"ข้าโย่วหลงเซิงยินดีเป็นองครักษ์ของดาบปีศาจหลี่เสี่ยวไป๋เป็นเวลาสามเดือน ในระหว่างที่รับจ้าง ข้าจะภักดีสุดชีวิต ไม่หักหลัง ไม่ทรยศ หากละเมิดคำสาบาน ขอให้ฟ้าผ่าทันที!"
เพื่อให้ดูจริงใจยิ่งขึ้นโย่วหลงเซิงถึงกับเรียนแบบคนก่อนๆและสาบานอย่างหนักแน่น
เมื่อเสียงแจ้งเตือนในหัวดังขึ้นหลี่มู่พึงพอใจเป็นอย่างมาก
"เยี่ยม ยินดีด้วย เจ้าผ่านแล้ว!"
จ๋าเมิ่งรู้สึกผิดหวังไปชั่วขณะ หลังจากที่ได้เห็นคนแล้วคนเล่ากลายมาเป็นองครักษ์ของหลี่มู่เขาเริ่มหลงระเริงกับอำนาจและรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ทำลายพลังยุทธ์ของโย่วหลงเซิง
ก่อนหน้านี้เขาไม่มีวันกล้าคิดแบบนี้เลย!
"จ้าวเจิ้งอี้ ตอนนี้เหลือเจ้าเพียงคนเดียว! คิดดีแล้วหรือยัง?" หลี่มู่มองไปที่จ้าวเจิ้งอี้ซึ่งยังคงคุกเข่าอยู่ใต้ดาบชิงเหลียนของเขา จำนวนองครักษ์ที่เพิ่มขึ้นทำให้เขารู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเป็นอย่างมาก ตอนนี้อารมณ์ของเขากำลังดีเยี่ยม
"คุณชายหลี่โปรดเมตตาอภัยให้ผู้อื่นบ้างเถิด! ข้า...ข้าขอเสนอราคาเดียวกับโย่วหลงเซิง อย่างน้อยต้องห้าตำลึงเงินถึงจะเหมาะสม!" จ้าวเจิ้งอี้พูดติดขัดสองสามครั้งก่อนจะกัดฟันกล่าวคำพูดนั้นออกมาพร้อมกับหลับตาลงอย่างแน่วแน่!
(จบบท)