บทที่ 10 ปืนของเจ้านี่จริงจังแค่ไหนกัน!
บทที่ 10 ปืนของเจ้านี่จริงจังแค่ไหนกัน!
ส่วนหลินอวี้ซีที่อยู่ข้างๆ เห็นสถานการณ์แล้วก็พลอยโล่งอกไปด้วย เธอเม้มปากพูดว่า “ฉันบอกเธอแล้วไงว่าเขาไม่ธรรมดา แต่เธอไม่ยอมเชื่อ ตอนนี้เชื่อหรือยัง…”
“เชื่อ…ฉันเชื่อแล้วค่ะ ไม่กล้าแล้ว ฉันจะไม่กล้านินทาท่านลับหลังอีกแล้ว ฮือๆๆ” หลี่เสี่ยวหวานแทบจะร้องไห้ออกมา โอ๊ย พี่คนนี้ยังซ่อนของวิเศษอะไรไว้อีกบ้างนะ
ตอนนี้เธอไม่กล้าขัดขืนเยว่ซิวแม้แต่น้อย
“อย่างนี้ค่อยดีหน่อย”
เห็นหลี่เสี่ยวหวานเริ่มว่านอนสอนง่ายขึ้น เยว่ซิวถึงได้พอใจ เขาลุกขึ้นยืน
“เอาละ ตอนนี้ข้าจะออกไปหาทรัพยากรเพิ่ม แล้วก็เก็บเลเวล พวกเจ้าคนหนึ่งไปกับข้า”
“อืม เจ้านั่นแหละ หลี่เสี่ยวหวาน”
เยว่ซิวคิดสักครู่ แล้วมองไปที่หลี่เสี่ยวหวาน
“อ๊ะ อีกแล้วเหรอคะ”
หลี่เสี่ยวหวานชี้ที่ตัวเองพลางทำหน้าน้อยใจ ไม่จริงนะ เพิ่งจะได้นั่งโซฟาหายเหนื่อย ก็ต้องออกไปอีกแล้ว
“ยังไง มีปัญหาอะไรรึ…”
“ไม่ค่ะ ฉันจะกล้ามีปัญหาได้ยังไง ไม่มีค่ะ”
พอได้ยินน้ำเสียงแบบนั้น หลี่เสี่ยวหวานก็รีบโบกมือปฏิเสธทันที จากนั้นก็จัดกระโปรงทรงดินสอของตัวเองให้เรียบร้อย แล้วลุกขึ้นรีบเดินตามอย่างว่าง่าย
เยว่ซิวเห็นท่าทางแบบนั้นถึงได้พยักหน้าพอใจ
จากนั้นก็สั่งกำชับหลินอวี้ซีอีกนิด “ถือโอกาสที่บ้านยังมีแก๊สอยู่ ทำอาหารเก็บไว้หน่อย ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่จะได้กินข้าวอุ่นๆ”
ในเมื่อกินแล้วได้คืนร้อยเท่า เยว่ซิวก็อยากให้ใช้ทรัพยากรให้มากที่สุด
“ค่ะ รับทราบ”
หลังส่งเยว่ซิวกับหลี่เสี่ยวหวานออกไป หลินอวี้ซีมองดูบ้านที่ว่างเปล่า อดรู้สึกสะท้านไม่ได้
อยู่คนเดียว ฮือๆๆ น่ากลัวจังเลย
……
ส่วนเยว่ซิวพาหลี่เสี่ยวหวานกลับขึ้นรถกระบะแปลงร่างอีกครั้ง
พอขึ้นรถ หลี่เสี่ยวหวานก็อดถามเสียงอ่อยไม่ได้ “พวกเราจะไปไหนกันคะ…”
“ไปสถานีตำรวจก่อน!” เยว่ซิวตอบ
แม้ว่าตัวเขาจะมีหุ่นยนต์ฮับเทอร์แล้ว และมีแม่วัวสองคนคอยให้นม แต่พูดตามตรง พวกแม่วัวก็ต้องมีอาวุธป้องกันตัวบ้าง ไม่งั้นการพาตัวถ่วงไปด้วยก็ไม่สบายใจ ต้องฝึกพวกเธอสักหน่อย “ไปหาอาวุธสักสองกระบอก”
พูดพลางเหยียบคันเร่ง เสียงคำรามทุ้มต่ำดังออกมาจากเทียปี้
ก่อนจะพุ่งออกจากหมู่บ้าน
……
เพราะหมู่บ้านกวงหมิงอยู่ไม่ไกลจากสถานีตำรวจในละแวกนี้
ไม่นานพวกเขาก็มาถึง หลังจัดการซอมบี้ห้าหกตัวด้านนอกจนได้แต้มคุณสมบัติ 12 แต้ม
เยว่ซิวก็พุ่งตรงไปที่คลังอาวุธ
พบว่าที่นี่ยังมีอาวุธเหลืออยู่จริงๆ
แต่ส่วนใหญ่…
ตู้นิรภัยหลายตู้ถูกงัดเปิดแล้ว
“หืม? มีคนชิงลงมือก่อนแล้วสินะ?”
เยว่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย การที่อาวุธถูกขนไปก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าปลายกระบอกปืนหันมาทางเรา ข้าก็ไม่ได้กันกระสุนนะ
“อาวุธที่นี่ถูกคนขนไปเยอะเลยนะคะ”
หลี่เสี่ยวหวานถือไม้เบสบอลเดินตามเข้ามา หลังจากสำรวจรอบๆ จนแน่ใจว่าไม่มีอันตราย เธอก็เห็นตู้นิรภัยที่ถูกงัดแง้ม จึงขมวดคิ้วตาม
“ไม่เป็นไร ตรงนี้ยังมี!”
เยว่ซิวพบว่ายังมีตู้นิรภัยอีกห้าตู้ที่ยังไม่ถูกงัด
เห็นได้ชัดว่าคนพวกนั้นคงไม่ทันงัด จึงรีบหนีไปก่อน
เขารีบใช้ดาบชิวเย่ที่แข็งแกร่งงัดตู้นิรภัยเปิด
ก็พบว่าจริงๆ แล้ว
ข้างในยังมีปืนพกแบบ 92 สองกระบอก และปืนกลอัตโนมัติหนึ่งกระบอก เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เหลือเป็นกระสุนหลากหลายขนาด และยังเป็นขนาดที่เข้ากันพอดี
“เอาไปเลย!”
เยว่ซิวโยนปืนพกแบบ 92 และปืนกลอัตโนมัติให้หลี่เสี่ยวหวาน
หลี่เสี่ยวหวานเห็นอาวุธมากมายก็เผยสีหน้าตื่นเต้น รีบรับเอาไว้
รวมถึงกระสุนทั้งหมด เยว่ซิวก็จัดการห่อและสะพายไว้ด้านหลัง
แต่พอเขางัดตู้นิรภัยตู้สุดท้าย ก็พบปืนไรเฟิลสีดำสนิททั้งกระบอก พร้อมด้วยขาตั้งและกล้องเล็ง ลำกล้องดำขลับดูน่าเกรงขาม
“นี่มัน CSLR4 นี่นา!”
เยว่ซิวรู้สึกประหลาดใจ ไม่คิดว่าในสถานีตำรวจเล็กๆ แห่งนี้จะมีปืนสไนเปอร์รุ่นล่าสุดของประเทศ
ทั้งขาตั้งปืน กล้องเล็ง แม้แต่ตัวเก็บเสียงก็มีครบ
ทุกชิ้นใหม่เอี่ยมจนเป็นประกาย ดำสนิทน่าเกรงขาม
อาวุธแบบนี้ปกติมีแต่หน่วยพิเศษถึงจะได้ใช้ ไม่คิดว่าที่นี่จะมีด้วย
…
“ปืนสไนเปอร์เลยนะคะ” หลี่เสี่ยวหวานเห็นแล้วตาเป็นประกาย
“หืม?” เยว่ซิวเห็นเธอสนใจมาก ก็แปลกใจ “เคยใช้มาก่อนหรือ?”
เกินคาด หลี่เสี่ยวหวานรีบพยักหน้า สายตาจ้องมองปืนกระบอกนั้นไม่วางตา “ตอนอยู่ต่างประเทศเคยยิงปืนสไนเปอร์ค่ะ แต่ไม่ใช่รุ่นนี้ เป็นบาร์เรตต์ของพวกอังกฤษ!”
“เฮอะ เล่นมาไม่น้อยเลยนะ” เยว่ซิวรู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้โม้ ในฐานะลูกสาวประธานกลุ่มบริษัทวิศวกรรมเครื่องกลไห่ไห่ เธอคงได้เล่นของเยอะ
“ดี งั้นก็เอาไปด้วย!”
อุปกรณ์ทั้งหมดมาพร้อมกระสุนขนาด 7.62 มม. สามกล่อง รวม 150 นัด!
พร้อมตัวเก็บเสียงสีดำหนึ่งชิ้น!
หลังจากเก็บทุกอย่างเรียบร้อย
เยว่ซิวก็รีบพาหลี่เสี่ยวหวานออกจากห้องอาวุธอย่างรวดเร็ว
……
ในตอนนี้ ด้านนอกเริ่มมีเสียงคำรามของฝูงซอมบี้ดังมากขึ้น
แต่พอออกมา เยว่ซิวก็พบว่าซอมบี้พวกนั้นไม่มีการเคลื่อนไหวแล้ว ทุกตัวล้มลงนอนกับพื้น
บางตัวถึงกับระเหยหายไปไม่น้อย
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่เป็นฝีมือเทียปี้ และเพื่อไม่ให้เสียงดึงดูดซอมบี้มากขึ้นจนสร้างปัญหาให้ท่านผู้สร้าง มันถึงได้เปิดโหมดเก็บเสียงด้วย
แต่แบบนี้ เยว่ซิวก็เลยไม่ได้ค่าประสบการณ์สำหรับอัพเลเวล
“เทียปี้ คราวหน้าเหลือไว้ให้ข้าบ้างสิ”
“รับทราบ ท่านผู้สร้าง!”
หลังจากส่งเสียงนอบน้อมเป็นเสียงกลไก เทียปี้ก็คำรามกึกก้อง พาเยว่ซิวรีบออกจากสถานีตำรวจ
ส่วนในรถ หลี่เสี่ยวหวานที่นั่งข้างคนขับยังคงตื่นเต้นประกอบปืนสไนเปอร์
ไม่นานก็ประกอบเสร็จ
เธอตื่นเต้นเปิดหน้าต่างรถ เล็งไปที่ซอมบี้ข้างนอก ส่องไปส่องมาด้วยความตื่นเต้น
“พี่เยว่ซิว…ปืนกระบอกนี้เท่จังค่ะ!”
“เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?”
แต่พอได้ยินเสียงไม่พอใจ หลี่เสี่ยวหวานก็รีบแก้ “เจ้านาย…เจ้านายค่ะ”
“อืม~”
เยว่ซิวพยักหน้า
หลี่เสี่ยวหวานในใจนั้นโมโหนัก ฮึ่ม บังคับให้เรียกเจ้านาย ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป แล้วจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!
ยิ่งคิดยิ่งโกรธ แต่ไม่กล้าคิดถึงเยว่ซิว
เธอจึงเล็งไปที่ซอมบี้ตัวหนึ่งแทน
ปัง! ด้วยตัวเก็บเสียง เสียงยิงแทบไม่มีเลย
ซอมบี้ที่เดินโซเซนั้นถูกยิงหัวแตกทันที
“โอ้โห…”
เห็นเลือดกระเซ็นแดงฉาน เยว่ซิวยิ่งประหลาดใจ
“ฝีมือใช้ได้นี่” ระยะทางตั้งร้อยเมตร แถมรถกำลังเคลื่อนที่ แต่ยังยิงโดน
หลี่เสี่ยวหวานภูมิใจ “ฮึ่ม ไม่ดูหน่อยเหรอว่าตอนอยู่ต่างประเทศ ฉันเล่นปืนมากี่กระบอกแล้ว แค่นี้เองค่ะ!”
“อ้อ~” เยว่ซิวถามอย่างสนใจ “เป็นปืนจริงๆ หรือ…”
หลี่เสี่ยวหวานหน้าแดง “วางใจได้ค่ะ ตอนนี้ได้เล่นแต่ของเจ้านายเท่านั้น”
“น่าสนใจ”
เยว่ซิวพบว่าผู้หญิงคนนี้ยิ่งดูยิ่งน่าสนใจ
……
“แล้วต่อไปเราจะไปไหนกันค่ะ!”
หลังจัดการซอมบี้ไปตัวหนึ่ง ได้ระบายอารมณ์ไปบ้าง อารมณ์ของหลี่เสี่ยวหวานก็ดีขึ้นมาก เธอหันไปถามเยว่ซิว
“ไปหาของกินเพิ่มอีกหน่อย”
เพราะตอนนี้ประกายชีวิตยังไม่สามารถกระตุ้นหุ่นยนต์ไซเบอร์ทรอนตัวที่สองได้ แต่วันที่สองก็มาถึงแล้ว เขาก็ไม่อยากอยู่เฉยๆ
“พยายามหาทรัพยากรมาเก็บไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะผักสดและอาหารทะเล”
ไม่งั้นอีกไม่กี่วันพอเน่าเสีย จะเอาอะไรมาคืนร้อยเท่า
(จบบทที่ 10)