ตอนที่แล้วตอนที่ 29
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 31

ตอนที่ 30


ตอนที่ 30



เมื่อ เต๋าซุน และ เจ้าปลาน้อยมาถึงหน้านิกาย การทดสอบรับลูกศิษย์ใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

ขั้นบันไดหนึ่ง 188 ขั้นนั้นเต็มไปด้วยคนหนาแน่น

 ที่ด้านบนสุดของบันได มีผู้อาวุโสนิกายสายนอกสองคนและผู้อาวุโสนิกายสายในที่รับผิดชอบในการประเมินยืนอยู่

ผู้อาวุโสนิกายสายในมาจากฝ่ายของผู้อาวุโสใหญ่ เมื่อเขาเห็นเต๋าซุนมา เขาก็สูดลมหายใจเข้าเบาๆและไม่สนใจ

 แต่หนึ่งในผู้อาวุโสนิกายสายนอกที่เป็นคนของเต๋าเสี่ยวโม่นั้นกลับดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

 “หลานชายซุนผู้ชาญฉลาดของข้า เจ้ามาแล้วรึ” ผู้อาวุโสพูดด้วยรอยยิ้ม

“คารวะผู้อาวุโสจิน” เต๋าซุนยิ้มและพูดว่า “การทดสอบศิษย์ใหม่ปีนี้เป็นอย่างไรบ้าง มีต้นกล้าดีๆบ้างหรือไม่  ?”

ผู้อาวุโสนิกายสายในไม่สนใจเต๋าซุน ดังนั้น เต๋าซุน จึงไม่สนใจที่เหลือบมองอีกฝ่ายและพูดคุยกับผู้อาวุโสจินเท่านั้น

“มีได้เรื่องอยู่บ้าง” ผู้อาวุโสจินตอบ “เห็นศิษย์ที่อยู่ตรงแปดขั้นสุดท้ายหรือไม่ พวกเขาค่อนข้างดี”

ด้านหน้านิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์มีบันไดอยู่ 188 ขั้น ร้อยขั้นแรกมีแรงโน้มถ่วงเป็นสองเท่า แปดสิบขั้นต่อมามีแรงโน้มถ่วงห้าเท่า ส่วนแปดขั้นสุดท้ายนั้นจะมีแรงโน้มถ่วงอยู่สิบเท่า

เต๋าซุนมองดู และก็พบว่าคังไป๋หลี่เองก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ดังนั้นเขาจึงถามว่า  " หญิงสาวคนนั้นใช่คนที่ผู้อาวุโสหกพากลับมาหรือไม่  ? นางจำเป็นต้องเข้าร่วมการทดสอบด้วยรึ"

“นางขอด้วยตัวเอง เราไม่อาจปฏิเสธได้” ผู้อาวุโสจินพูดด้วยรอยยิ้ม

เต๋าซุนยิ้มและไม่พูดอะไร หญิงสาวเป็นผู้ใหญ่กว่าที่เขาคิดนัก

ตัวตนของนางในฐานะเด็กหญิงทั่วไปจากภูเขาเล็กๆเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และตอนนี้นางก็กลายเป็นหลานสาวของผู้อาวุโสหกแห่งนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์แล้ว

 แต่นางกลับไม่ได้ลุ่มหลงในอำนาจเลย อีกทั้งยังวางตัวได้ดีเยี่ยม

เต๋าซุน ยกยิ้มบนริมฝีปากของเขาและพึมพำกับตัวเอง "สมแล้วที่เจ้าเป็นผู้สืบทอดที่จักรพรรดินีเลือกไว้  !"

  …………

“ถ้าหลานชายซุนอยากรู้มากกว่านี้ ข้าก็จะแนะนำให้ฟัง  ”

 ต่อจากนั้น ผู้อาวุโสจินเริ่มแนะนำศิษย์ที่มีความสามารถเหล่านี้ให้เต๋าซุนฟัง

ลูกศิษย์ที่ปีนบันได 188 ขั้นได้สูงสุดคือชายหนุ่มที่มีดาบยาวบนหลัง เขาสวมชุดสีขาวพลิ้วไหว

ชายหนุ่มมีดวงตาที่เฉียบคม แม้ว่าแรงโน้มถ่วงบนขั้นบันไดจะน่าทึ่ง และยากที่จะก้าวไปข้างหน้า

 แต่เขายังคงดูสงบและไม่แสดงเจตจำนงที่จะถอยกลับแม้แต่น้อย

“เขาเป็นทายาทของตระกูลหวงจากเมืองตะวันตกเฉียงเหนือ” ผู้อาวุโสจินกล่าว “ชื่อของเขาคือ หยานปู้หุ่ย  และเขาถือเป็นคนที่มีความสามารถมากที่สุดในการทดสอบนี้”

“เหตุใดศิษย์ของตระกูลหวงถึงได้มาที่นิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ของเรากัน ?” เจ้าปลาน้อยก็ถามอย่างสงสัย

แม้ว่าตระกูลหวงจะเทียบกับนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ แต่พวกเขาก็เป็นตระกูลใหญ่แห่งเมืองทางตะวันตกเฉียงเหรือ

ผู้ก่อตั้งตระกูลหวงคือเทพดาบผู้มีอำนาจในยุคเดียวกับจักรพรรดิหยินเทียน

 ตำนานเล่าว่าเขายังเคยแข่งขันกับจักรพรรดิหยินเทียนเพื่อแย่งชิงโชคชะตา แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วเขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ก็ตาม

 แต่ผู้ที่มีคุณสมบัติพอจะแข่งขันกับจักรพรรดิแย่งชิงการแบกรับโชคชะตาได้นั้นหาใช่คนธรรมดาไม่

ศิษย์ของตระกูลหวงจะไร้ซึ่งสิทธิพิเศษใดๆทันทีหากพวกเขามาที่นิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ ฐานะของเขาจะไม่ต่างจากศิษย์ทั่วไป

ถ้าเจ้าอยากได้ทรัพยากรบ่มเพาะที่ดี ไม่สู้ชิงตำแหน่งสูงๆในกองกำลังของตัวเองดีกว่ารึ!

“เขาเป็นบุตรนอกสมรสของตระกูลหวง แม่ของเขาเป็นเพียงสาวใช้ตัวเล็กๆเท่านั้น และการเกิดของเขาก็….เป็นเพียงเรื่องไม่ยินดีของตระกูล” ผู้อาวุโสจินอธิบาย: “เขาไม่ได้รับทรัพยากรใดๆจากตระกูลหวงเลย อีกทั้งยังตกเป็นเป้าของทุกคนอีก

ชื่อของเขาคือ หยานปู้หุ่ย เขาใช้แซ่ หยาน ตามมารดกของตนเอง   "

“น่าสนใจ” เต๋าซุน พูดด้วยรอยยิ้ม เขานึกถึงความทรงจำในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา: “วันหนึ่งชายคนนี้สมควรรุ่งโรจน์ตามบรรพชนของเขา และสืบทอดต่อเจตจำนงแห่งเทพดาบ”

“หลานชายซุน เจ้าจะไม่ประเมินเขาสูงไปหน่อยรึ ?” ผู้อาวุโสนิกายสายในกล่าวขึ้นอย่างเหยียดหยาม

เต๋าซุน เหลือบมองผู้อาวุโสของนิกายสายในแล้วพูดอย่างใจเย็น: "ไม่มองหมา แต่หมาดันเห่า"

ผู้อาวุโสนิกายสายในดูอับอาย เขาพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาและไม่สนใจอีก

“ส่วนหญิงสาวที่ชื่อคังไป่หลี่ข้าคงไม่ต้องกล่าวอะไรมาก ข้าได้ยินมาว่าผู้อาวุโสหกเอ็นดูนางมาก และพรสวรรค์ของนางเองก็สูงไม่ต่างกัน ” ผู้อาวุโสจินกล่าวต่อ

“นอกจากสองคนนี้ก็มีหญิงสาวฝาแฝดอีกคู่หนึ่ง คนหนึ่งชื่อ ซูเชียนซู ส่วนอีกคนชื่อ ซูเมิงเมิง

พวกนางเป็นคนท้องถิ่นจากเมืองเสียวหยางภายใต้นิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ของเรา หัวหน้าตระกูลซูคนล่าสุดของพวกเขาคือผู้อาวุโสสายในของนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ของเรา

ก่อนที่พวกนางจะมาทดสอบในครั้งนี้ หัวหน้าตระกูลซูได้มาหาข้าโดยเฉพาะ และบอกว่าให้ดูแลพวกนางเป็นพิเศษ

พวกเขาเป็นฝาแฝดกัน ข้าได้ยินมาว่าการฝึกฝนของพวกนางคือการฝึกโจมตีผสาน เมื่อทั้งสองต่อสู้พร้อมกัน พลังของพวกนางจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า

เดิมที อาจเป็นเรื่องยากสำหรับพวกนางที่จะก้าวเข้าสู่แปดขั้นสุดท้ายได้   และต่อให้รวมกับพลังของวิชาผสานแล้ว พรสวรรค์ของพวกนางก็เกือบจะไม่เพียงพอ "

เต๋าซุนยิ้ม เขายังคงประทับใจกับฝาแฝดทั้งสอง

ถ้าข้าจำไม่ผิด สองคนนี้จะกลายเป็นสาวใช้ของคังไป่หลี่ในอนาคต และอาจพูดได้ว่าพวกนางจะรุ่งโรจน์เป็นอย่างยิ่ง

“ส่วนอีกคนก็คือชายร่างใหญ่คนนั้น เขาชื่อเกาซง” ผู้อาวุโสจินกล่าวต่อ: “เขามาจากหมู่บ้านบนภูเขาธรรมดาในภูเขาวานดา

ระดับการบ่มเพาะของเขาอาจกล่าวได้ว่าต่ำสุดในบรรดาศิษย์มาใหม่ เขาอยู่เพียงขั้น 9 ของระดับเริ่มต้นเท่านั้นและยังไม่ได้เปิดเส้นชีพจรเส้นแรกด้วยซ้ำ

 แต่ร่างกายของเขามีศักยภาพเป็นอย่างยิ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมา เขาสามารถก้าวขึ้นสู่แปดขั้นสุดท้ายได้โดยอาศัยความแข็งแกร่งของร่างกายตัวเองเท่านั้น  "

หลังจากฟังการแนะนำของผู้อาวุโสจินแล้ว เต๋าซุนก็พูดกับเจ้าปลาน้อย “ปลาน้อย พวกเราไปลองทดสอบกันย้างเถอะ คนอื่นจะได้ไม่นินทาภายหลัง  ”

“ได้เลย”เจ้าปลาน้อยพยักหน้าอย่างเรียบง่าย

 ทั้งสองเดินไปที่เชิงเขา เริ่มจากก้าวแรกและเดินขึ้นไปทีละก้าว

 ไม่มีข้อกำหนดที่เข้มงวดมากนักในการก้าวเดินบนขั้นบันไดนี้ เจ้าเพียงแค่ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้อาวุธป้องกัน และต้องเดินขึ้นไปด้วยตัวเองทีละขั้นเท่านั้น

 แม้ว่าเจ้าจะสามารถก้าวกระโดดข้ามไปได้หลายขั้นในครั้งเดียว แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้น

เต๋าซุนก้าวขึ้นไปบนบันไดและรู้สึกถึงแรงโน้มถ่วงที่มาจากทุกทิศทุกทาง เดิมทีหลังจากที่เขาก้าวเข้าสู่การบ่มเพาะระดับ 2 ขั้นเก้า พลังจิตวิญญาณในร่างของเขาก็แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆตลอดเวลา

“ปลาน้อย อย่าได้ต่อต้านแรงโน้มถ่วงเหล่านี้ พยายามหลอมรวมเข้ากับพวกมัน ” เต๋าซุนกล่าวเตือน: “สิ่งนี้จะไม่เพียงแต่ลดแรงกดทับของแรงโน้มถ่วงได้เท่านั้น แต่ยังทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย ”

เจ้าปลาน้อยก็พยักหน้า พรสวรรค์ของเขาไม่ได้แย่ไปกว่าเต๋าซุน โดยเฉพาะหลังจากฝึก "ทรงพลัง" กล้ามเนื้อในร่างกายของเขาก็ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ

กล้ามเนื้อของเขาใหญ่มากขึ้น และคาดว่าในอนาคตจะต้องมีสภาพไม่ต่างจากนักกล้ามอย่างแน่นอน

  …………

เต๋าซุนดูพึงพอใจในขณะที่เขาก้าวขึ้นบันไดทีละขั้น เขาบรรเทาแรงกดดันที่เกิดขึ้นด้วยการปรับสภาพไปตามแรงโน้มถ่วง

 เขาก้าวเดินนานกว่าสิบนาทีอย่างไม่ยากเย็น ในที่สุดก็ผ่านหนึ่งร้อยขั้นแรกที่มีแรงโน้มถ่วงสองเท่า

จากนั้นก็ก้าวเข้าสู่ขั้นที่ 101 ซึ่งมีแรงโน้มถ่วงห้าเท่า  เต๋าซุนยืนอยู่ตรงนั้นและพยายามปรับร่างกายให้เป็นหนึ่งเดียวกับแรงโน้มถ่วงเล็กน้อยจากนั้นก็เดินขึ้นอย่างเรียบง่าย

เจ้าปลาน้อยเองก็ไม่ยอมแพ้ แม้ว่าจะดูลำบากเล็กน้อย แต่ก็ยังตามเต๋าซุนได้ทัน

 ในที่สุด ทั้งสองก็เดินขึ้นบันไดผ่านขั้นที่ 180 ขึ้นมาและมาถึงแปดขั้นสุดท้าย

 ตามกฎของนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ตราบใดที่เจ้าสามารถก้าวเข้าสู่ขั้นบันไดที่มีแรงโน้มถ่วง 10 เท่าได้ เจ้าก็ถือว่าผ่านบททดสอบแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด