ตอนที่แล้วCD บทที่ 495 ไล่ล่าหฤโหด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 497 สัญญาปลิดชีพ

CD บทที่ 496 คุณคิดอย่างไร?


จ้าวหยู่ไม่คาดคิดว่าชายวัยกลางคนจะไม่ลังเลที่จะกระโดดข้ามหลังคาไปยังอีกฝั่งที่แสนจะอันตรายเช่นนี้!

ตรงหลังคาที่พวกเขายืนอยู่ มันอยู่ห่างจากหลังคาของโรงงานปูนซีเมนต์ร้างไม่ไกลมากเท่านั้น มันมีความสูงต่างอย่างน้อยสามถึงสี่เมตร แค่มองก็ทำให้แข้งขาอ่อนแรงแล้ว แต่ชายคนนั้นก็กระโดดข้ามมันไปโดยไม่ลังเล มันน่าเหลือเชื่อมาก!

จ้าวหยู่รีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อดูอย่างใกล้ชิด เขาเห็นชายคนนั้นกระโดดข้ามท้องฟ้าแล้วร่อนลงบนหลังคาอาคารฝั่งตรงข้ามได้สำเร็จ ผู้ชายคนนี้เป็นมืออาชีพจริง ๆ

หลังจากที่เท้าของเขาแตะพื้นหลังคา เขาก็รู้ว่าจะต้องกลิ้งไปข้างหน้าเพื่อลดแรงกระแทก อย่างไรก็ตาม มันยังคงเป็นการกระโดดระยะไกล ทำให้ขาขวาของเขากระแทกอย่างแรง

“อ๊าก!”

ชายวัยกลางคนล้มลงทันที รูปร่างน่องขวาของเขาผิดรูปอย่างเห็นได้ชัด ดูจากสภาพแล้วมันอาจจะแตกหักก็ได้

จ้าวหยู่มองไปที่ชายบนหลังคาตรงข้าม จากนั้น มองลงไปที่เบื้องล่าง เขาไม่เข้าใจว่าชายคนนั้นกระโดดข้ามผ่านมันไปได้อย่างไร

แม้ว่าชายคนนั้นจะเจ็บปวด แต่เขาหันกลับไปจ้องมองที่จ้าวหยู่ ราวกับว่าเขากำลังพูดว่า

‘ถ้าแกแน่จริง! ทำไมไม่กระโดดข้ามมาล่ะ!?’

จ้าวหยู่รู้สึกหงุดหงิดและฉุนเฉียว เขาพับแขนเสื้อขึ้น ก้าวถอยหลังสองสามก้าว และเตรียมพร้อมที่จะกระโดดข้ามท้องฟ้า!

‘เขาอายุมากกว่าฉันหลายสิบปี แต่ก็ยังสามารถกระโดดข้ามได้เลย แล้วทำไมฉันจะทำไม่ได้ล่ะ? ฉันจะแสดงให้เขาเห็นเอง!’

ทันใดนั้น จ้าวหยู่ก็ตัดสินใจได้อย่างสมบูรณ์ จากนั้นก็เร่งความเร็วและกระโดด!

โชคดีที่จ้าวหยู่ยังหนุ่มและความเร็วของเขาก็สูงมาก เขาพุ่งข้ามท้องฟ้า จากนั้นเขาก็กำลังเตรียมลงบนหลังคาของโรงงานร้างอย่างมั่นคง

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันทำให้เขาตกใจอย่างมาก เมื่อชายวัยกลางคนเห็นจ้าวหยู่เตรียมจะกระโดดข้าม เขาก็คว้าแผ่นไม้ชิ้นใหญ่ที่วางอยู่ใกล้ ๆ บนหลังคา ขณะที่จ้าวหยู่กำลังจะลงพื้นหลังคา ชายคนนั้นก็กระแทกมันเข้าหาเขา

‘เชี่ยไรเนี่ย!?’

จ้าวหยู่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาไม้นี้ ตัวเขาอยู่บนอากาศไม่รู้จะหลบอย่างไร เมื่อเขาลงบนหลังคา เขาก็ถูกแผ่นไม้กระแทกเข้าอย่างจัง เขากระเด็นถอยกลับไป ทำให้หล่นจากหลังคาและดิ่งลงไปในพื้น ซึ่งอยู่ห่างหลายสิบเมตร

เบื้องล่างเป็นพื้นปูน ดังนั้นความตายเป็นสิ่งเดียวที่รอเขาอยู่!

โชคดีที่ก่อนที่จ้าวหยู่จะก้าวกระโดด เขาได้เตรียมพร้อมสำหรับกรณีเลวร้ายเช่นนี้ไว้แล้ว เขานึกถึงอุปกรณ์ล่องหนที่เรียกว่าเครื่องบินล่องหน เขารีบแตะอุปกรณ์นั้นเพื่อเปิดใช้งานทันที

หลังจากเปิดใช้งานแล้ว ก็เกิดกระแสลมขึ้นอย่างกะทันหัน ซึ่งช่วยให้ร่างกายของจ้าวหยู่ลอยอยู่ในอากาศ ในเวลาเดียวกัน ก็มีจอแสดงผล คล้ายกับตัวควบคุม ซึ่งปรากฏในมุมมองสายตาของจ้าวหยู่ เมื่อใช้สิ่งนี้ เขาสามารถควบคุมทิศทาง ความสูง และความเร็วของเครื่องบินได้ดั่งใจนึก

“วะฮ่าฮ่า!”

หลังจากเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมของอุปกรณ์ล่องหน จ้าวหยู่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากความกลัวที่จะตกลงไป เขาทั้งโล่งใจและมีความมั่นใจมากขึ้น จริง ๆ แล้วเขาถึงกับท่าเหมือนซูเปอร์แมนกำลังบินอย่างหยิ่งผยอง!

“ไปกันเลย!”

ขณะที่จ้าวหยู่กำลังควบคุมเครื่องบินล่องหนให้บินขึ้นไป เขาก็คิดกับตัวเองว่า ถ้าชายคนนั้นเห็นทั้งหมดนี้ เขาจะต้องประหลาดใจมากแน่ ๆ เลย

แต่อนิจจาเมื่อจ้าวหยู่กลับมาที่หลังคาโรงงาน เขาก็ตระหนักว่าไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่เลย แม้แต่วิญญาณก็ไม่มีให้เห็น

“เขาไปอยู่ที่ไหน?”

จ้าวหยู่สงสัยว่าคนขาเจ็บจะวิ่งเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?

“เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ!”

ทันใดนั้นเขาก็เห็นสองสิ่ง อย่างแรก เขาเห็นแผ่นไม้แผ่นใหญ่ที่ชายคนนั้นใช้เพื่อกระแทกเขาตกจากหลังคา และอีกอย่างหนึ่งคือรูขนาดใหญ่!

“หรือว่า…”

จากนั้น จ้าวหยู่ก็นึกถึงตอนที่เขาชนกับแผ่นไม้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากแรงกระแทกที่รุนแรง มันจึงกระแทกแผ่นไม้กับชายวัยกลางให้กระเด็นห่างออกไป

“หรือว่า… ไอ้เวรนั่น... ตกลงหลุมนั่นไปอย่างนั้นเหรอ?”

จากนั้น จ้าวหยู่รีบวิ่งไปตรวจสอบรูบนหลังคาทันที เมื่อเขามองลงไป สิ่งที่เขาเห็นก็ทำให้เขาตกใจทันที!

การคาดเดาของเขาถูกต้อง ชายคนนั้นตกหลุมจริง ๆ

ดูเหมือนว่า ขณะที่จ้าวหยู่ตกลงไปข้างนอกโรงงาน ในเวลาเดียวกัน ชายวัยกลางคนก็ตกลงไปข้างในโรงงาง

แน่นอนว่าชายคนนั้นไม่มีเครื่องบินล่องหนแบบจ้าวหยู่ ดังนั้น ร่างของจึงแหลกเหลว และเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจ...

...

สี่ชั่วโมงต่อมา ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนอันมืดมิด

เนื่องจากอุบัติเหตุของสองพี่น้องเกิดขึ้นในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้เขตอำนาจของสถานีรุ่ยหยาง จ้าวหยู่ซึ่งเป็นพยานจึงต้องบันทึกคำให้การของเขาในห้องทำงานของแผนกสืบสวนของสถานทีรุ่ยหยาง

จ้าวหยู่ค่อนข้างคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ ในตอนที่เขากำลังสืบสวนคดีนองเลือดในกลางเมือง เขาก็ได้พบกับเหมี่ยวอิงที่นี่

ต่อมา หลังจากที่จ้าวหยู่กับเหลี่ยวอิงเริ่มต้นความสัมพันธ์ เธอก็ต้องการให้จ้าวหยู่บอกเธอว่าเขาจะทำสิ่งที่น่าทึ่งและแปลกประหลาดเหล่านี้ในการสืบสวนได้อย่างไร จ้าวหยู่รู้ว่าเขาไม่สามารถเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับระบบได้ ทำได้เพียงตอบกลับด้วยเรื่องไร้สาระเพื่อบอกปัดไป

“คุณจ้าว!” เสี่ยวจางซึ่งเคยอยู่ภายใต้การดูแลของเหมี่ยวอิงนำกล่องอาหารมาให้จ้าวหยู่ "กินอะไรสักอย่างสิ เราได้ลองถามเบื้องบนก่อนหน้านี้ คุณควรจะออกไปเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม หากเราต้องการจะสอบถามคุณเพิ่มเติม เราคงจะต้องรบกวนคุณอีกครั้ง…”

จ้าวหยู่พยักหน้าเบา ๆ แต่เขาไม่ยื่นมือหยิบกล่องอาหาร

"เฮ้อ!" เสี่ยวจางถอนหายใจหนัก ๆ แล้วทิ้งกล่องอาหารไว้บนโต๊ะ จากนั้นเขาก็พูดด้วยอารมณ์ “ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเวรกรรม! คนที่ผลักสองพี่น้องลงจากดาดฟ้า สุดท้าย เขาก็ตกลงมาจากหลังคาไปสู่ความตายในที่สุด!”

“เรื่องนั้นเราต้องขอบคุณคุณ คุณจ้าว ไม่เช่นนั้นการจับกุมอาชญากรคนนั้นคงไม่ง่ายเลย!”

จ้าวหยู่คว้าขวดน้ำแร่แล้วดื่มไปสองสามอึก เขาได้พูดสิ่งต่าง ๆ ไปมากมายมาก่อนหน้านี้ เขาจึงเหนื่อยเกินกว่าจะตอบอะไรในตอนนี้

“คุณอาจจะยังไม่รู้ แต่ฆาตกรคนนั้น… เขาเคยเป็นตำรวจ!” เสี่ยวจางพยักหน้าและกล่าวว่า

"โอ้?" จ้าวหยู่เงยหน้าขึ้น เดิมทีเขาคิดว่าชายคนนี้เป็นนักฆ่ามืออาชีพ เขาไม่คาดคิดว่าเขาจะเป็นตำรวจ

เมื่อพิจารณาถึงความสนใจที่ชัดเจนของจ้าวหยู่ เสี่ยวจางก็คว้าเก้าอี้แล้วนั่งต่อหน้าจ้าวหยู่เพื่ออธิบายต่อไป

“ฆาตกรมีชื่อว่าเลอเชา เขาอายุสี่สิบเจ็ดและมาจากหยุนโจว เขาแทบจะไม่เคยมาที่ฉินชานด้วยซ้ำ นอกจากนี้ เรายังได้ตรวจสอบเพิ่มเติมดูแล้ว เขาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับสองพี่น้องเฉินเป็นการส่วนตัว”

“สองพี่น้องเฉิน?” ในที่สุด จ้าวหยู่ก็ถามด้วยความสับสน

“เศรษฐีผู้ทำธุรกิจรองเท้า เฉินปิงกวง ลูกสาวสองคนของเขา…” เสียวจางแนะนำ “พี่สาวชื่อ เฉินซื่อฮุ่ย และน้องสาวชื่อ เฉินซื่อฉี คนโตอายุ 19 ปี ส่วนอีกคนอายุแค่ 18 ปี”

จ้าวหยู่พยักหน้าเบา ๆ ปรากฎว่านั่นคือชื่อจริงของไมลีย์และโมจิ เมื่อนึกถึงพวกเธอ จู่ ๆ จ้าวหยู่ก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาทันใด

ก่อนหน้านี้สองพี่น้องเป็นเพียงแค่คนรู้จักเท่านั้น แต่ตอนนี้ ด้วยการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของพวกเธอ จ้าวหยู่ไม่สามารถยอมรับมันได้อย่างง่ายดาย ไม่เหมือนที่เขาทำกับเหยื่อรายอื่น

“ตอนนี้เราวิเคราะห์ได้สามประเด็น” เสี่ยวจางกล่าวต่อไป “ประการแรก ฆาตกรและสองพี่สองเฉินไม่มีความแค้นส่วนตัวต่อกัน

ประการที่สอง เมื่อสามเดือนที่แล้ว เฉินปิงกวงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากโรคลมชัก อันที่จริง เขายังอยู่ในอาการโคม่าอยู่เลย

ประการที่สาม เฉินปิงกวงเพิ่งแต่งงานกับภรรยาสาวแสนสวยชื่ออ้ายหลี่หลี่ ดูสิคุณจ้าว คุณเห็นความผิดปกตินั่นมั้ย?”

"ฮะ!?"

เมื่อเขาได้ยินชื่อของอ้ายหลี่หลี่ จู่ ๆ จ้าวหยู่ลุกยืนขึ้นตัวตรง!!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด