ตอนที่แล้วบทที่ 67 เจ้าต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ตลอดไปหรือไม่?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 69: ในที่สุด เสวียนหยูก็โตขึ้น!

ตอนที่ 68: เรื่องใหญ่ เมื่อถึงเวลา...ข้าจะทำมันอีกครั้ง!


บุรุษผู้นี้ จงใจรึ?

เมื่อเอ่ยถึงการบ่มเพาะ เขาก็ไม่ยอมรับฟังเลยรึ?

ตงหวงจื่อโหยวกัดฟันขาวเงินของนาง ส่ายหน้าเอ่ยออกมาว่า“มันไม่สำคัญหรอก ข้าพูดกับสายลม!”

นางเห็นได้ว่าหลินซวนไม่สนใจจะรับฟังนางเลยแม้แต่น้อย.

เขาต้องการมีอายุยาวแต่กับไม่ต้องการเหนื่อยกับการฝึกฝน นางพูดไปแล้ว มีประโยชน์อะไร.

ในเวลานี้ นางไม่ควรเอ่ยอะไรออกมาเลยจะดีกว่า.

ค่อยหาวิธีอื่นก็แล้วกัน.

มันควรจะมีวิธี.

เมื่อคิดนึกถึงสิ่งนี้ ตงหวงจื่อโหยวก็รู้สึกดีขึ้นมา

ข้าอยู่ในอาณาจักรจักรพรรดิที่แข็งแกร่ง สามารถจัดการกับปุถุชนเช่นหลินชวนได้หรือไม่?

หลินซวนเห็นนางเก็บ "พระสูตรอายุยืน" และยาเม็ดเทียนเจี่ยไป ก็พอคาดเดาความตั้งใจของตงหวงจื่อโหยวได้ทันที.

อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าอย่างลับ ๆ: "สตรีนางนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมแพ้เลยจริง ๆ!"

เกี่ยวกับต้องบ่มเพาะ หลินซวนไม่คิดจะแตะต้องมันอยู่แล้ว.

เลี้ยงดูบุตรสาว แล้วรอรับรางวัลจากระบบ มันไม่สะดวกกว่ารึ?

การบ่มเพาะด้วยตัวเองจะมีอายุขัยเพิ่มได้เท่าไหร่กัน?

“เสด็จพ่อ ว่าวพร้อมหรือยัง?”

ในเวลานั้น เหล่าสาวน้อยก็วิ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้น

เพื่อก่อนหน้านี้บิดาของพวกนางบอกว่าอยากทำว่าวสวย ๆ ด้วยตัวเอง!

"ใช้ได้แล้ว!" หลินซวน ยิ้มและผูกเชือกเข้ากับว่าวในมือ

กระบวนการสุดท้ายเสร็จสมบูรณ์

ว่าวผีเสื้อสีแดงสวยงามปรากฏขึ้นต่อหน้าเจ้าหญิงตัวน้อย

"ว้าว มันดูดีมากเลย!"

สาวน้อยปรบมืออย่างมีความสุข ว่าวที่เสด็จพ่อทำนั้นสวยงามกว่าว่าวที่ช่างฝีมือในวังทำมาก

แม้แต่ตงหวงจื่อโหยวก็ยังแอบชื่นชม หลังจากได้เห็นมัน

"เจ้าชอบหรือไม่!" หลินซวน เผยยิ้ม แสดงถึงความรู้สึกถึงความสำเร็จ

ว่าวที่เขาเรียนรู้จากระบบการเรียนรู้ ระบบฝึกสอนพ่อผู้สมบูรณ์แบบ ย่อมงดงามสดใสกว่าว่าวใด ๆ ในโลกนี้.

ตราบใดที่มีวัสดุเพียงพอ หลินซวน ย่อมสามารถสร้างว่าวที่สวยงามเป็นพิเศษสำหรับเด็ก ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม

“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ มาเล่นว่าวด้วยกันเถอะ!”

“เสด็จพ่อกับเสด็จแม่ มาเล่นว่าวกัน สนุกมาก”

เสวียนจู่และเสวียนหานดึงหลินซวนและตงหวงจื่อโหยวมาตามลำดับ

ตงหวงจื่อโหยว ไม่อาจปฏิเสธเด็ก ๆ ได้ดังนั้นนางจึงพยักหน้า: "ตกลง!"

หลินซวนยื่นรอกเชือกที่ทำมาเป็นเพื่อใช้ควบคุมว่าวให้กับตงหวงจื่อโหยว: "เจ้าเอารอกเชือกไป แล้วข้าจะดึงตัวว่าวเอง"

"อืม." ตงหวงจื่อโหยว พยักหน้าเล็กน้อย

ทั้งสองจึงแบ่งงานกันและกัน

ตงหวงจื่อโหยว ค่อย ๆ เขย่ารอกเชือก และหลินซวนก็ยืนอยู่ตรงหน้านางและควบคุมว่าวให้บินขึ้นผ่านเชือก

“เสด็จพ่อเสด็จแม่ พวกท่านเร็วเข้า!”

“ใช่แล้ว ปล่อยให้ว่าวบินสูงขึ้นไป!”

เด็กหญิงตัวเล็ก  ๆ ยกหมัดเล็ก  ๆ ไว้ด้านข้างเพื่อให้กำลังใจพวกเขา

หลินซวน และ ตงหวงจื่อโหยว ต่างก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ และต้องปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าตัวเล็ก

ตงหวงจื่อโหยว เร่งรีบถอยหลัง นี่นับเป็นการร่วมมือกับคนอื่นเป็นครั้งแรก ทำให้ดูมันแปลก ๆ เก้ ๆ กัง ๆ.

"อ่ะ~"

นางเหยียบก้อนกรวดบนพื้นหญ้าโดยไม่ได้ตั้งใจ ลื่นจนทำให้นางเซถลาไปด้านข้าง

โชคดีที่นางตอบสนองเร็วมากและหมุนกายทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองล้ม

ทว่าก่อนที่นางจะขยับ แขนอันแข็งแกร่งก็คว้าจับเอวของนางไว้แล้ว

หลินซวน มองลงไปที่ ตงหวงจื่อโหยว ในอ้อมแขนของเขา และเอ่ยอย่างเรียบ ๆ: "ระวังตัวด้วย"

"อืม!" แก้มของตงหวงจื่อโหยวอุ่นขึ้นเล็กน้อย

นางรู้สึกแปลก ๆ เขาพยุงร่างนางขึ้นและปล่อยมือไปอย่างรวดเร็ว.

แต่การจ้องมองของนางยังคงอดไม่ได้ที่จะกวาดผ่านแขนของหลินซวน

ไม่คาดคิด แขนของเขาทรงพลังมาก

นางคิดอย่างลับ ๆ

หลินซวน ยังสัมผัสความอบอุ่นที่ยังคงเหลืออยู่ในมือ ขณะจ้องมองไปยังเอวของ ตงหวงจื่อโหยว

เอวของสตรีนางนี้บางมากและร่างกายของนางก็นุ่มมากด้วย

หลินซวนอดไม่ได้ที่จะคิดฟุ้งซ่าน

เมื่อเห็น หลินซวน เข้ามาพยุงตงหวงจื่อโหยวไว้ เด็กหญิงตัวเล็กทั้งสี่ต่างก็เผยยิ้มอย่างมีความสุข.

ความสัมพันธ์ระหว่างเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ ดีจริง ๆ

ครอบครัวที่ห่วงใยกัน ย่อมทำให้ทุกคนมีความสุขมาก!

จากนั้น เนื่องจากเด็ก ๆ ดูอยู่ หลินซวนและตงหวงจื่อโหยวจึงต้องเล่นว่าวกับพวกนางต่อไป

ตงหวงจื่อโหยว จงใจเฝ้าดูสภาพแวดล้อมรอบตัวนาง ไม่ให้เกิดปัญหาใด ๆ อีก.

จนกระทั่งทั้งสองยกว่าวขึ้นสู่ท้องฟ้า เหล่าสาวน้อยจึงแข่งขันกันเล่นว่าว

หลังจากที่ หลินซวน และ ตงหวงจื่อโหยว คืนว่าวให้พวกนาง พวกเขาก็ยืนดูพวกนางเล่น

จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน ตงหวงจื่อโหยว ก็กล่าวอำลาเด็ก  ๆ อย่างไม่เต็มใจ กลับไปยังพระราชวังเพื่อจัดการราชกิจต่อไป.

-

แดนอมตะเก้าสวรรค์

พื้นที่รกร้างภายในดินแดนอมตะเก้าสวรรค์ ภายในถ้ำแห่งหนึ่ง.

บุรุษผู้แข็งแกร่งในชุดเกราะรบสีเงินกำลังนั่งอยู่บนม้านั่งหนังสัตว์ บนจุดสูงสุดของถ้ำ

เขามีผมสีแดงและมีเขาสีขาวเงินอยู่ตรงกลางหน้าผาก

กล้ามเนื้อทั่วร่างกายปูดโปนด้วยความแน่น ราวกับเต็มไปด้วยพลังที่ไร้ขอบเขต.

เขาเป็นผู้นำคนปัจจุบันของเผ่าแกะเงิน ซังโม หนึ่งในสิบอสูรที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาณาจักรเก้าสวรรค์

“เหตุใดจึงไม่มีข่าวการตายของสามพี่น้องเทพสงครามเห่ยหยิงเลย?”

ซังโมพึมพำกับตัวเอง

เก้าวันผ่านไปนับตั้งแต่พี่น้องเห่ยหยิงสามคนถูกส่งออกไป

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีเบาะแสเกี่ยวกับการเสียชีวิตของพวกเขาจวบจนถึงขณะนี้

สิ่งนี้ทำให้ซังโมรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

เขาซ่อนตัวอยู่ในแดนอมตะเก้าสวรรค์มาหลายพันปีแล้ว และเขาไม่เคยเจอเรื่องยุ่งยากเช่นนี้มาก่อน

หากแต่สิ่งหนึ่งที่เขาบอกได้ตามสัญชาตญาณ คนที่สังหารเทพสงคราวเห่ยหยิงนั้นต้องแข็งแกร่งจนน่าตื่นตะลึงอย่างแน่นอน!

ในเวลานั้น มีร่างสูงและผอมเดินเข้ามาจากภายนอกถ้ำ

ซังโม่มองออกไปอย่างตั้งใจ อีกฝ่ายคือรองผู้นำจากเขานั่นเอง อสูรลำดับแปดของตระกูลจิ้งจอก เหลียงชิว.

“พบอะไรเกี่ยวกับเทพสงครามเห่ยหยิงบ้าง?”ซังโม่เอ่ยถาม.

เหลียงชิวส่ายหน้า: "ยังไม่มีเบาะแสเลย!"

ซังโม่พยักหน้า เป็นไปตามที่เขาคิดไว้เช่นกัน จากนั้นเขาจึงเอ่ยถามออกมาอีกครั้ง “พรุ่งนี้เจ้าพร้อม สำหรับพิธีบูชาบรรพบุรุษหรือยัง”

เหลียงชิวพยักหน้า: "พร้อมแล้ว”

“ดีมาก” ซังโม่พยักหน้าอย่างพึงพอใจ

“การบูชาบรรพบุรุษครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ข้าจะต้องอธิษฐานขอพลังจากบรรพบุรุษมา”

“หากข้าได้รับพรจากบรรพบุรุษ ความแข็งแกร่งของข้าก็จะพัฒนาไปอีกขั้นอย่างแน่นอน”

“ดังนั้น ในพิธีการบูชาบรรพบุรุษครั้งนี้ ห้ามผิดพลาดเด็ดขาด!”

“รับทราบ หัวหน้าโปรดวางใจได้เลย จะไม่มีปัญหา!” เหลียงชิวดูแน่วแน่มั่นใจ "ข้าขอให้หัวหน้าประสบความสำเร็จในการบูชาบรรพบุรุษ และก้าวเข้าสู่อาณาจักรจักรพรรดิอสูรโดยเร็วที่สุด!"

ซังโมเงยหน้าขึ้นและหัวเราะสองครั้ง: "อาณาจักรจักรพรรดิอสูร ข้าจะต้องไปถึงในเร็ว ๆ นี้แน่นอน!"

“อย่างไรก็ตาม เจ้าไปจับหญิงสาวพรหมจารีสามร้อยคู่มา แล้วใช้โลหิตของพวกมันเพื่อกระตุ้นค่ายกลของเทือกเขาเป่ยกู่ซะ!”

ซังโม่รู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อยเมื่อนึกถึงชายผู้อยู่เบื้องหลังการจัดการเทพสงครามเห่ยหยิง.

เพื่อความปลอดภัย เขาตัดสินใจเปิดใช้งานค่ายกลป้องกันโบราณ บนเทือกเขาเป่ยกู่ทันที

ตราบใดที่ค่ายกลนี้เปิดใช้งาน จะไม่มีใครสามารถเข้าไปในภูเขาเพื่อรบกวนการบูชาบรรพบุรุษของพวกเขาได้

และเมื่อการบูชาบรรพบุรุษประสบความสำเร็จ เขาอาจจะสามารถก้าวเข้าสู่อาณาจักรจักรพรรดิอสูรได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

เมื่อถึงเวลานั้น...

แม้ว่าจะเป็นอาณาจักรจักรพรรดิของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ไม่มีอะไรต้องกลัว!

"ใช่แล้ว มาเริ่มกันเลย!" เหลียงชิวคิดว่าผู้นำนั้นคู่ควรกับมหาอำนาจแห่งเผ่าอสูรผู้มีประสบการณ์ เพราะอีกฝ่ายกระทำการอะไรระมัดระวังเป็นอย่างมาก.

ตราบใดที่ค่ายกลอันยิ่งใหญ่โบราณของภูเขาเป่ยกู่ยังเปิดใช้งาน การเลื่อนระดับของผู้นำ สู่อาณาจักรจักรพรรดิอสูรก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม

ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นเผ่าอสูร ก็จะมีอนาคตไร้ขอบเขต!

-

เมื่อตกกลางคืน พระราชวังของตงหวงเต๋อเย่ก็ยังสว่างไสว

หลินซวนได้รับเชิญให้นำบุตรสาวสี่คนมาที่หน้าพระราชวังตรงตามเวลา

คราวนี้ เด็กหญิงตัวน้อยทั้งสี่ เสวียนจู่และน้อง  ๆ ได้เตรียมของขวัญเล็ก  ๆ ให้กับหวางเฟย ของตงหวงเต๋อเย่เป็นพิเศษ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด