ตอนที่แล้วตอนที่ 185 ทำชั่วได้ชั่ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 187 รับช่วงต่อบริษัท

ตอนที่ 186 ความโกรธของสมาชิกในตระกูลโม่


บนอินเทอร์เน็ต ความคิดเห็นของประชาชนเริ่มหมักหมมแล้ว ความคิดเห็นต่างๆ กระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า

บางคนมีความตกใจ มีความรู้สึกเหลือเชื่อ แต่ก็มีบางคนที่มีข้อสงสัยเช่นกัน

และคนที่ออกมาตั้งคำถามก็มีจำนวนไม่น้อย

แน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขาตั้งคําถามไม่ใช่เรื่องที่ คุณชายโม่ ถูกทุบตี

แต่มันเกี่ยวกับเรื่องที่ไร้สาระเกินไปอย่าง ซูเหวิน ที่ต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่งร้อยในไนต์คลับ

ซึ่งหลายคนมองว่าคลิปดังกล่าวนั้นถูกจัดฉาก และต่างไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

อย่างไรก็ตาม นี่ก็ตรงกับความต้องการของ ซูเหวิน พอดี

ท้ายที่สุดแล้ว ความแข็งแกร่งส่วนตัวของเขาในตอนนี้มันเกินจริงเกินไป

คนที่ไม่เคยเห็นกับตาต่อให้ถูกทุบตีให้ตายก็ยังยากที่จะเชื่อ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นเรื่องดี..

ไม่งั้นทุกคนก็คงเชื่อไปแล้ว

พอถึงตอนนั้นมันจะสร้างความสั่นสะเทือนให้กับสังคมขนาดไหน?

เกรงว่าตัวเขาเองจะกลายเป็นจุดสนใจของทุกคน ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ

อย่างไรก็ตาม บางคนมีความสุข บางคนก็ตึงเครียด และเป็นกังวล

หลังจากคืนนั้น ซูเหวิน รู้สึกมีความสุขอย่างมาก บวกกับที่เขาได้รับรางวัลมาด้วย

แต่สําหรับบางคนกลับรู้สึกเหมือนฟ้ากำลังถล่มลงมา

อย่างเช่น ตระกูลโม่ที่มีชื่อเสียงอันโด่งดังในเมืองซู…

……….

เมืองซู โรงพยาบาลในสังกัดแห่งแรก

ในโถงทางเดินด้านนอกห้องผ่าตัดแห่งหนึ่ง มีคนทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ยืนอยู่มากกว่าสิบคน

คนเหล่านี้แต่ละคนแต่งตัวดูสวยหรู แต่ใบหน้าของพวกเขานั้นมันกลับมืดมน และบรรยากาศนั้นดูน่าหดหู่ และหนักหน่วงอย่างยิ่ง

ในขณะที่บรรยากาศนี้ยังไม่รู้ว่าจะคงอยู่นานแค่ไหน ในที่สุดประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก

ซึ่งมันแทบจะทำลายบรรยากาศอันหดหู่ และหนักหน่วงนี้ไปทันที

“เป็นไงบ้าง คุณหมอหวัง ลูกชายฉันเป็นอะไรมากไหม?”

“ใช่คะ อาการบาดเจ็บของลูกชายฉันเป็นยังไงบ้าง?”

เมื่อแพทย์ในห้องผ่าตัดเพิ่งเดินออกมาจากข้างใน คนกลุ่มใหญ่ในโถงทางเดินนี้ก็รวมตัวกันทันที เพื่อสอบถาม

และคนที่พูดเมื่อกี้ก็คือ พ่อแม่ของ คุณชายโม่

สีหน้าของศัลยแพทย์ดูหนักใจเล็กน้อย เขาพยักหน้าอย่างแช่มช้า โดยพูดไปว่า : “การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่ผมก็ยังต้องเตือนทุกคนว่า คุณชายโม่คนนี้เขามีแนวโน้มที่จะเป็นอัมพาตมาก ผมยังอยากให้พวกคุณทุกคนเตรียมใจไว้ให้พร้อม…”

อะไรนะ?

ทันทีที่คําพูดนี้ออกมา ผู้ชมทั้งหมดก็แทบช็อก

“คุณ... คุณพูดว่าอะไรนะ เป็นอัมพาต มัน..เป็นไปได้ยังไง?”

“ใช่ค่ะ คุณหมอ เขาจะอาการหนักถึงขั้นนี้ได้ยังไง?”

“คุณหมอ คุณวินิจฉัยผิดหรือเปล่า?”

ทุกคนมอง คุณหมอ อย่างไม่เชื่อ และในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ

โดยเฉพาะพ่อแม่ของ คุณชายโม่

พวกเขารู้แค่ว่าลูกชายของพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

เพราะตอนที่เพิ่งมาถึงโรงพยาบาลเมื่อคืนก็มีแพทย์คนอื่นๆ ได้บอกกล่าวต่อพวกเขาแล้ว

แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่คิดว่ามันจะรุนแรงถึงขนาดนี้

“เฮ้ออ! นี่ก็เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทำอะไรได้”

“เขามีอาการบาดเจ็บสาหัสสองแห่งใหญ่ๆ บนร่างกาย หนึ่งอยู่ที่หัวไหล่ และอีกจุดอยู่ที่หลังส่วนล่าง มองจากภายนอกแค่มีอาการบวมแดง แต่ความเป็นจริงแล้วกระดูกส่วนนั้นแหลกทั้งหมด”

“โดยเฉพาะหลังส่วนล่าง เหมือนโดนค้อนทุบหนักๆ มาจนแหลกเป็นชิ้นๆ การที่รอดชีวิตมาได้นี่ก็ถือว่าสวรรค์คุ้มครองแล้ว”

พูดจบ คุณหมอส่ายศีรษะพลางถอนหายใจก่อนจะเดินจากไป

ทันทีหลังจากนั้น คุณชายโม่ ที่นอนอยู่บนเตียงได้ถูกพยาบาลเข็นเตียงออกมาจากห้องผ่าตัด โดยใส่ท่อช่วยหายใจ และเส้นสายระโยงระยางต่างๆ ติดอยู่ตามร่างกาย

เมื่อมองดู คุณชายโม่ ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย บวกกับคำพูดที่ได้ยินจากคุณหมอ ..เมื่อกี้

ทุกคนแทบไม่กล้าจินตนาการว่า เมื่อคืน คุณชายโม่ ต้องเจอกับความทุกข์ทรมานอย่างไร้มนุษยธรรมแบบไหน คาดไม่ถึงว่าเขาจะถูกคนทุบตีจนเป็น ..เช่นนี้

ดวงตาของพ่อแม่ของ คุณชายโม่ ยิ่งแดงก่ำยิ่งกว่าเดิม..

“ถิงจุน ไปตรวจสอบเรื่องเมื่อคืนนี้มาให้ชัดเจน และต้องค้นหาให้เจอว่าใครทำร้ายน้องชายของแกจนเป็นแบบนี้..”

ทันใดนั้น พ่อของ คุณชายโม่ ก็หันมองไปที่ ลูกชายคนโต แล้วพูดเสียงดังขึ้น

“พ่อแกพูดถูก เราต้องหาคนคนนี้ให้เจอ และเราจะทำให้มันชดใช้การกระทำนี้เป็นสิบเท่าร้อยเท่า”

แม่ของ คุณชายโม่ ก็พูดเช่นกัน

เสียงของทั้งคู่ดูน่าหวาดหวั่นอย่างมาก

ดวงตาเต็มไปด้วยเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้ แฝงเร้นความเกลียดชังอย่างถึงที่สุด

พวกเขาคู่สามีภรรยา ตระกูลโม่ ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่รู้สึกโกรธเกลียดใคร เท่านี้มาก่อน..

ซึ่งวันนี้ ลูกชายของพวกเขาถูกทำร้ายจนตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ มันยิ่งก่อเปลวเพลิงแห่งความเกลียดชังในใจ ให้ลุกโชนขึ้นมา…

“ถูกต้อง ไอ้สัตว์เดรัจฉานตัวนี้มันไม่ใช่คน มันทุบตี โม่น้อยของเราจนเป็นแบบนี้ ยังไงเราต้องลากคอมันมาให้ได้!”

“แม้แต่ โม่น้อย ของเรามันยังกล้าตี นี่คือมันกล้าที่จะท้าทายครอบครัวโม่ของเราอย่างโจ่งแจ้ง”

“ใช่แล้ว ถ้าไม่แก้แค้นเรื่องนี้ ครอบครัวโม่ของเราจะมีศักดิ์ศรียืนหยัดอยู่ในเมืองซูแห่งนี้ได้ยังไง!”

ในเวลานี้สมาชิกคนอื่นๆ ของตระกูลโม่ ก็พูดขึ้นแล้ว

จะเห็นได้ว่าพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธต่อคนที่กล้าลงมือทำร้าย คุณชายโม่ คนนั้น

พวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะแยกร่างมันออกเป็นชิ้นๆ เพื่อระบายความโกรธ และความเกลียดชังในใจ

เมื่อเผชิญกับความไว้วางใจจากสมาชิกในครอบครัวหลายคน โม่ ถิงจุน ลูกชายคนโตของ ตระกูลโม่ จึงพยักหน้า แล้วรีบพูดว่า : “ไม่ต้องห่วงครับ คุณพ่อ คุณแม่ และคุณลุง คุณป้า เรื่องนี้ปล่อยให้ผมจัดการเอง”

“ผมจะหาคนคนนี้ และลากมันออกมา ทั้งนี้ผมจะให้มันชดใช้ตามราคาที่สมควรกับสิ่งที่มันทำ..”

พูดไป ใบหน้าของ โม่ ถิงจุน พี่ชายคนโตของ คุณชายโม่ ก็มืดลงเช่นกัน

น้องชายแท้ๆ ของตนเอง ถูกคนอื่นทุบตีทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

ในฐานะพี่ชายคนโต ความโกรธจากก้นบึ้งของหัวใจนี้ มันไม่ได้น้อยไปกว่าคนอื่นๆ เลย

ดังนั้นครั้งนี้จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะต้องค้นหาบุคคลนี้ให้เจอ และลากคอมันออกมา เพื่อล้างแค้นให้กับน้องชายของเขา

ในขณะนี้ เกรงว่า ซูเหวิน จะยังไม่รู้ว่าตัวเองได้ตกเป็นเป้าหมายของ ตระกูลโม่ แล้ว

และต่อไป.. ก็ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!

แต่แล้วหากย้อนกลับมาว่ากันอีกที

อย่าพูดว่า ซูเหวิน ไม่รู้เลยว่า ตระกูลโม่ กำลังมุ่งเป้ามาที่เขา

แม้เขาจะรู้ เขาก็ไม่กลัว

ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน(1)

สิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือ ซูเหวิน และกลุ่มเพื่อน ..พวกกําลังจะกลับ

ถูกต้อง เวลานี้พวกเขาถึงเวลาแล้วที่จะต้องกลับไป

พวกเขามาอยู่ที่เมืองซูแห่งนี้นับรวมก็หลายวันแล้ว

สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงสถานที่ที่มีชื่อเสียงโดยส่วนใหญ่ พวกเขาก็ได้ไปมาหมดแล้ว

ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องกลับ เมืองม่อ แล้ว...

โรงแรม เซียงเก๋อ..

วันนี้ ซูเหวิน กับพรรคพวกของเขาไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นที่ไหน

หลังจากเกิดเหตุเมื่อคืน กอปรกับทุกวันนี้ที่ทุกคนได้ออกไปเดินเที่ยวเล่นมาตั้งหลายที่จึงรู้สึกเหนื่อยบ้างนิดหน่อย, วันนี้ทุกคนจึงเลือกที่จะพักผ่อนอยู่ที่โรงแรม

จากนั้น ซูเหวิน ก็พูดความคิดที่จะกลับไปที่เมืองม่อ

“กลับเมืองม่อ?”

“เมื่อไหร่อ่ะ จะไปวันนี้หรือพรุ่งนี้?”

พอได้ยินว่าจะกลับเมืองม่อ พวกเพื่อนๆ ของเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย

ตอนนี้พอพวกเขาได้ยินว่าจะกลับเมืองม่อ พวกเขาก็ไม่รู้สึกตกหล่นอะไรอีกต่อไป

ยังไงทุกวันนี้ทุกคนก็เที่ยวเล่นสนุก และออกไปเที่ยวกินจนอิ่มหนำมากพอแล้ว และมันคงถึงเวลาที่ต้องกลับกันจริงๆ เสียที

“เอาเป็นว่าวันนี้ทุกคนพักผ่อนในโรงแรมกันก่อน แล้วพรุ่งนี้เราค่อยกลับเถอะ!”

ซูเหวิน คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตัดสินใจ

ยังไงก็มีเฮลิคอปเตอร์อยู่ ดังนั้นหากอยากออกเดินทางเมื่อไหร่มันก็ได้เมื่อนั้น ..จะถึงเช้าถึงเย็นก็ใช่ว่าสำคัญอะไร

เมื่อได้ยิน ซูเหวิน พูดแบบนี้ เพื่อนๆ ก็พยักหน้า ย่อมไม่มีใครคัดค้าน

ดังนั้น ทุกคนจึงพักผ่อนที่โรงแรมต่ออีกหนึ่งวัน เพื่อเติมพลังให้กับร่างกาย และจิตใจให้ฟื้นคืนสู่สภาพที่สมบูรณ์ที่สุด

จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น ซูเหวิน และเพื่อนๆ จึงจัดเตรียมเก็บเสื้อผ้า แล้วจากนั้นจึงขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้าของอาคารโรงแรม และขึ้นนั่งเฮลิคอปเตอร์

เฮลิคอปเตอร์ ความเร็วของมันเร็วขนาดไหน..

แม้ว่า เมืองซู และเมืองม่อ จะอยู่ห่างกันมากกว่า 100 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม ซูเหวิน ได้พาเพื่อนๆ ออกเดินทางตอนประมาณแปดโมงกว่าๆ ก็มาถึงเมืองม่อในเวลาประมาณเก้าโมงกว่าๆ ได้

สถานที่ลงจอดยังคงเป็นชั้นดาดฟ้าของโรงแรม โป๋เยว่ ในเมืองม่อ

เพียงแต่ว่าเมื่อ ซูเหวิน ขับเฮลิคอปเตอร์พาเพื่อนๆ มาถึงเมืองม่อ ทันทีที่เพิ่งออกจากโรงแรม โป๋เยว่ มา โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น

และหมายเลขที่โทรเข้ามามันขึ้นแสดงบนหน้าจอให้เห็นว่าเป็นบริษัทที่ ซูเหวิน ทําภารกิจจากในก่อนหน้านี้ และได้รับรางวัลมาเป็นหุ้น, ซึ่งก็คือ บริษัท เทียนอี้ วิดีโอ เน็ตเวิร์ค..

(1)[ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน (兵来将挡,水来土掩)] - เปรียบถึงไม่ว่าจะมาวิธีไหนก็สามารถรับมือได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด