ตอนที่แล้วระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 38 กระจ่าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 40 หยั่งรู้

ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 39 ฟู่ฟาง


ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 39 ฟู่ฟาง

ที่อาณาเขตตระกูลหลัว

ภายในห้องทำงานส่วนตัวของจ้าวตระกูล

หลัวเหิงหยิบกระดาษขาวแผ่นหนึ่งขึ้นมา เขียนคำว่า "เมตตา" สองคำใหญ่โตลงไปบนกระดาษ

จากนั้นก็นำกระดาษแผ่นนี้

ติดไว้บนผนัง

ทั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อให้ตนมีความเมตตามากขึ้นในใจ แต่เป็นเพื่อใช้คำสองคำนี้เตือนใจตนเอง

ว่าหากต้องการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้ดีขึ้น

จำเป็นต้องทิ้งความเมตตาที่เกินพอดีและไร้ประโยชน์ในใจทิ้งไป

......

หลังจากเสร็จสิ้นเรื่องราวเหล่านี้

หลัวเหิงก็กลับมานั่งที่โต๊ะ

เริ่มจัดการงานที่เพิ่มเข้ามาจากการยึดครองดินแดนอีกครั้งหลังจากสงคราม

ส่วนในลานที่มีกลิ่นอายโบราณแห่งหนึ่ง

หลัวจิ่วเกอ ยังคงนั่งเงียบ ๆ อยู่ใต้ซุ้มหินเช่นเดิม

มือกุมชากระจ่างเต๋าไว้หนึ่งถ้วย

หรี่ตาเล็กน้อยด้วยสีหน้าสงบ

จิบชากระจ่างเต๋าเป็นระยะ ๆ

และเหม่อมองไปที่ไกล ๆ

ในตอนนี้

นอกจากตัวหลัวจิ่วเกอเอง

ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังครุ่นคิดถึงเรื่องใดอยู่กันแน่

......

ณ มณฑลตงหวง ดินแดนเต๋าหมื่นอัคคี

เนื่องจากนิกายหมื่นอัคคี 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำขนาดใหญ่แห่งมณฑลตงหวง ตั้งอยู่ ณ ที่แห่งนี้

ดังนั้น ดินแดนเต๋าแห่งนี้จึงนับเป็นดินแดนเต๋าขนาดใหญ่ในมณฑลตงหวง

และเพราะนิกายหมื่นอัคคีมีสมรรถภาพที่แข็งแกร่งยิ่ง

ดังนั้นจึงไม่มีผู้บำเพ็ญเพียรคนใดตาบอดกล้าที่จะก่อกวนในสถานที่แห่งนี้

"ผู้อาวุโสที่สาม"

"สำนักตะวันหาญ ขาดการติดต่อจากพวกเราแล้ว"

ณ ดินแดนเต๋าหมื่นอัคคี นิกายหมื่นอัคคี

ด้านนอกตำหนักแห่งหนึ่ง

มีศิษย์หลักนิกายหมื่นอัคคีผู้หนึ่ง สวมเสื้อคลุมเต๋าของนิกายหมื่นอัคคี

สีหน้าดูเร่งรีบอยู่บ้าง

เร่งดันประตูใหญ่ของตำหนักออก

กล่าวกับชายวัยกลางคนผู้หนึ่งที่สวมเสื้อคลุมสีเทาที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น สีหน้าสงบเงียบ ทั้งร่างล้วนรายล้อมด้วยอำนาจกดดันน่าสยดสยองอย่างร้อนใจ

"ขาดการติดต่อ?"

"เกิดอะไรขึ้น?"

ได้ยินเสียงเรียก

ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ ทั้งกายแผ่อุณหภูมิร้อนสูงราวกับสามารถเผาทะลุตำหนักได้ ค่อย ๆ ลืมดวงตาอันลึกล้ำขึ้น

เขาขมวดคิ้วและเอ่ยถาม

ส่วนศิษย์หลักของนิกายหมื่นอัคคีที่สวมชุดเสื้อคลุมนิกายหมื่นอัคคีที่มีสีหน้าเร่งร้อน

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง

ก็จัดเรียงถ้อยคำของตน

เริ่มอธิบาย

"ช่วงก่อนหน้านี้ บรรพบุรุษสูงสุดสำนักตะวันหาญส่งสาส์นมากล่าว เขาพบอัจฉริยะไร้ใดเปรียบ

ผู้หนึ่ง"

"เพียงภายใน 50 ปี บุคคลผู้นั้นก็สามารถก้าวกระโดดจากมนุษย์ธรรมดากลายเป็นผู้บำเพ็ญเพียรในขอบเขตกึ่งทารกเซียน"

"แถมยังบอกว่าในอีกหนึ่งสัปดาห์ จะส่งตัวคนผู้นั้นมาให้พวกเรา"

"แต่ว่า......"

"ตอนนี้ เวลาได้ผ่านไปกว่าครึ่งเดือนแล้ว"

"กลับไม่เห็นคนของสำนักตะวันหาญเลย"

"ข้าสงสัยว่า สำนักตะวันหาญอาจถูกขุมอำนาจบางแห่งบุกโจมตี"

"ถึงขั้นถูกทำลายไปแล้ว"

......

เสียงของศิษย์หลักนิกายหมื่นอัคคีค่อย ๆ ก้องกังวานอยู่ภายในตำหนักนี้

ส่วนในตำหนักนั้น

ร่างที่สวมเสื้อคลุมสีเทา สีหน้าเคยสงบนิ่ง อย่างผู้อาวุโสที่สาม - ฟู่ฟาง

ในตอนนี้ พลังความร้อนแรงบนร่างของเขากลับรุนแรงขึ้นมาอีกหลายส่วน

"ถูกทำลายไปแล้วเช่นนั้นหรือ?"

ได้ยินคำพูดเหล่านี้จากศิษย์นิกายหมื่นอัคคีตรงหน้า

ฟู่ฟางอดหัวเราะเย็นชาออกมาไม่ได้

"สำนักตะวันหาญ เป็นสำนักสาขาของนิกายหมื่นอัคคีเรา"

"ส่งมอบสายเลือดใหม่ให้นิกายหมื่นอัคคีเรา"

"หากแข่งขันกันอย่างยุติธรรม เราไม่ขัดข้อง"

"แต่นี่คือการทำลายนิกายหมื่นอัคคีโดยตรง......"

"เช่นนี้ไม่เกินไปหน่อยหรือ?"

"หรือว่า เกือบหมื่นปีมานี้ นิกายหมื่นอัคคีเรามีความเมตตาเกินไป จนทำให้ผู้คนคิดว่านิกายหมื่นอัคคีเรารังแกง่ายเช่นนั้นหรือ?"

......

ฟู่ฟางมีตำแหน่งเป็นผู้อาวุโสที่สามแห่งนิกายหมื่นอัคคี

ฐานพลังอยู่ที่ขอบเขตกระจ่างแจ้ง 4 สวรรค์ ซึ่งเป็นขอบเขตที่ 4 ใน 7 ขอบเขตเซียน

(เจ็ดขอบเขตเซียน: ทารกเซียน, กายาเต๋า, พิสูจน์เต๋า, กระจ่างแจ้ง, ตระหนักรู้, สันติ, อมตะ!)

เขาได้รับมอบหมายจากประมุขสำนักคนปัจจุบันของนิกายหมื่นอัคคี ให้ทำหน้าที่บ่มเพาะศิษย์รุ่นเยาว์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้นิกายหมื่นอัคคี

จึงกล่าวได้ว่า เขาเป็นผู้อาวุโสที่ทำงานหนักที่สุดในบรรดาผู้อาวุโสทั้งหมด

สำนักตะวันหาญ ซึ่งเป็นสำนักสาขาของนิกายหมื่นอัคคี ได้แจ้งข้อมูล

ว่าพวกเขาอัจฉริยะผู้หนึ่ง

ภายใน 50 ปี จากมนุษย์ธรรมดา บำเพ็ญเพียรจนถึงขอบเขตกึ่งทารกเซียน

หากนำความเร็วนี้มาตัดสิน

ฟู่ฟางมั่นใจได้อย่างแน่นอนว่าหากเด็กน้อยผู้นี้บากบั่นจริงจัง บวกกับมียอดอาจราย์ช่วยฝึกฝน

อัจฉริยะผู้นั้นจะมีศักยภาพที่จะทะลวงถึงขอบเขตที่ 5 หรือแม้แต่ 6 ใน 7 ขอบเขตเซียน

กลายเป็นหน้าตา เป็นเสาหลักของนิกายหมื่นอัคคี

ดังนั้น สำหรับอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์วิเศษเช่นนี้ ที่กำลังจะส่งตัวมาเข้าร่วมนิกายหมื่นอัคคี

ฟู่ฟางจึงให้ความสนใจอย่างยิ่ง

แต่ใครจะคิดว่า

ยังไม่ทันได้ส่งตัวมาโดยสำนักตะวันหาญ

กลับมีข่าวร้ายส่งมา

สำนักตะวันหาญ......

ขาดการติดต่อแล้ว

น่าจะถูกทำลาย

ส่วนอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์วิเศษนั้นอาจพลอยร่วงหล่นไปด้วย

ข่าวนี้ทำให้ความโกรธเกรี้ยวที่ลุกโชนยากจะดับในใจของฟู่ฟางพุ่งขึ้นฉับพลัน

เพราะสำนักตะวันหาญเช่นนั้นหรือ?

สำหรับฟู่ฟางหรือแม้แต่นิกายหมื่นอัคคี สำนักสาขาอย่างสำนักตะวันหาญจะมีหรือไม่มี ก็ย่อมไม่สำคัญ

แต่การมี หรือไม่มี ไม่ได้หมายความว่าหากสำนักตะวันหาญถูกกำจัด

นิกายหมื่นอัคคีจะไม่สนใจ

อย่างไรเสีย สำนักตะวันหาญก็เป็นสำนักสาขาของนิกายหมื่นอัคคี

นับว่าเป็นหน้าตาของนิกายหมื่นอัคคี

แต่ตอนนี้ สำนักตะวันหาญกลับถูกทำลายไปโดยตรง

เท่ากับใบหน้าของนิกายหมื่นอัคคีโดนตบจนชา

หากไม่จัดการเรื่องนี้ให้ดี

นิกายหมื่นอัคคีจะไม่กลายเป็นตัวตลกในมณฑลตงหวงหรือ?

นิกายหมื่นอัคคีเองก็เป็น 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำของมณฑลตงหวง

ต้องรักษาอำนาจบารมีของขุมอำนาจชั้นนำไว้ให้ได้

......

"เจ้าไปบอกประมุขนิกาย"

"บอกว่าข้า ฟู่ฟาง จะไปดินแดนเต๋าอนันต์สักหน่อย"

"หากเร็ว ภายใน 3 วันข้าก็จะกลับมา"

"หากช้า......"

"อย่างช้าที่สุดก็จะกลับมาภายในครึ่งเดือน"

ฟู่ฟางกล่าวจบ

ไม่แม้แต่จะให้โอกาสศิษย์นิกายหมื่นอัคคีตอบโต้

ก็ปลดปล่อยวิชาลับระดับเซียนขั้นสูงสุดของนิกายหมื่นอัคคีในทันที นั่นก็คือ [ร่างเปลวไฟ]

ในชั่วพริบตา ร่างกายก็กลายเป็นเปลวไฟอันร้อนแรง

พุ่งทะยานไปยังทิศทางของดินแดนเต๋าอนันต์

ส่วนศิษย์นิกายหมื่นอัคคียืนอยู่นอกตำหนัก

ในตอนนี้ พลันรู้สึกอ่อนใจอยู่บ้าง

“เฮ้อ”

เขาผู้เป็นศิษย์นิกายหมื่นอัคคี

มีตำแหน่งสูงส่งยิ่งในนิกายหมื่นอัคคี

ตอนนี้ กลับกลายเป็นคนส่งข่าวเสียได้

ส่วนผู้อาวุโสที่สามไปยังดินแดนเต๋าอนันต์จะมีอันตรายหรือไม่นั้น?

ศิษย์นิกายหมื่นอัคคีผู้นั้นไม่เป็นห่วงแม้แต่น้อย

ต้องรู้ไว้ว่า ผู้อาวุโสที่สาม ฟู่ฟางนั้นเป็นยอดฝีมือในขอบเขตกระจ่างแจ้ง

ผู้บำเพ็ญเพียรในระดับนี้ ไปยังดินแดนเต๋าเล็ก ๆ ที่ไม่มีชื่อเสียง เช่นนั้นจะมีอันตรายได้อย่างไรกัน?

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด