ตอนที่แล้วบทที่ 36 พลังที่แท้จริงของเซียงเฟิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 38 การต่อสู้ในรอบชิง (1)

บทที่ 37 เพิ่มระดับพลังอย่างบ้าคลั่ง


“กำแพงเหมันต์”

แกร๊กกกกกกก

ตูมมมมมมมมมมมมม

เจียงอี้เฟยตอนนี้กำลังประมืออยู่กับเซียงเฟิง โดยที่เจียงอี้เฟยโจมตีอีกฝ่ายไม่ได้เลยได้แต่ป้องกันเท่านั้น

“กระบี่วิหคเหมันต์ร่ายรำ”เจียงอี้เฟยแทงกระบี่เข้าใส่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็วแต่เซียงเฟิงนั้นไม่ได้ตั้งท่าป้องกันเลยด้วย

เคร้งงงงงงงง

ปลายกระบี่โดนเข้าไปเต็มแต่กลับเหมือว่าแทงไปยังเหล็กที่ไม่มีวันพังเสียอย่างนั้น

“ฮ่า ฮ่ากายาอสูรของข้านั้นเป็นระดับนภาต้องเป็นอาวุธระดับสวรรค์เท่านั้นจึงจะสร้างบาดแผลให้ข้าได้”เซียงเฟิงได้นำอสูรทมิฬที่มันเรียกออกมา มาหุ้มตัวของมันไว้เพราะอสูรทมิฬนั้นเป็นแค่เงาที่เกิดจากปราณ

“เพลิงพิโรธผลาญอสูร”เจียงอี้เฟยใช้วิชาใหม่มันมีผลต่อสัตว์อสูรเป็นอย่างมากเลยทดลองใช้ดู

“โฮกกกกกกก!!!”อสูรเงาตอนนี้นั้นคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวดแต่ตัวของเซียงเฟิงนั้นไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด

“หึ หึ ทุกการโจมตีอสูรทมิฬของข้าเป็นคนรับเอาไว้เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอก”

“ข้าขอยอมแพ้!!”เจียงอี้เฟยรีบกล่าวออกมาเพราะตอนนี้ตนได้ลองอะไรหลายๆอย่างแล้วแต่ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย

“ผู้ชนะ เซียงเฟิง!!!”

“เจ้าไม่เป็นอะไรนะ”หวังเล่อเฉิงเดินเข้าไปแล้วนำโอสถฟื้นฟูร่างกายขั้นสูงสุดออกมาให้

“แค่ใช้ลมปราณหมดเจ้าค่ะ”เจียงอี้เฟยรับโอสถฟื้นฟูร่างกายขั้นสูงสุดมาแล้วกินเข้าไปทันที

“เจ้าไปพักก่อนเถอะ”

“เจ้าค่ะ”หลังจากที่กินโอสถฟื้นฟูร่างกายเข้าไปบาดแผลและลมปราณก็เพิ่มขึ้นมาเกือบจะสมบูรณ์

หลังจากที่ให้เจียงอี้เฟยไปพักแล้วนั้นเจียงฉางเทียนและหวังเล่อเฉิงก็ขึ้นไปบนลานประลอง

“การประลองรอบ 4 คนสุดท้ายรอบสองเริ่มได้!!!”

“ย๊ากกกกกกก..หมัดทองคำทลายปฐพี”เจียงฉางเทียนใส่สุดตั้งแต่เริ่มก่อนที่จะไม่ได้โจมตีอีก

แต่เมื่อหวังเล่อเฉิงเห็นการโจมตีนี้เขาก็ส่งปราณกระบี่เล่มเล็กๆที่แฝงเจตจำนงเอาไว้เข้าใส่วิชาที่พุ่งมา

เพล้งงงงง

หมัดทองคำที่พุ่งเข้ามาใส่นั้นสลายหายไปจากอากาศด้วยการปะทะกับปราณกระบี่เล่มเล็กๆเท่านั้น

“ห๊ะ!! วิชาของข้าเจ้าทำได้อย่างไร”เจียงฉางเทียนตกตะลึงวิชาที่เขาใช้นั้นเขาคิดมาตลอดว่ามันสมบูรณ์แบบ

“เจ้าจะเอาวิชาที่ข้าสร้างขึ้นมาใส่ข้างั้นรึ”หวังเล่อเฉิงเป็นคนสร้างวิชานี้ขึ้นมาเขาต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมัน

“แต่เจ้าบอกว่ามันเป็นวิชาที่สมบูรณ์ไม่ใช่รึ”

“ไม่มีวิชาไหนสมบูรณ์แบบหรอก อย่างเช่นวิชาที่เจ้าใช้ข้าแค่กลบจุดอ่อนด้วยวิชาอื่นเท่านั้น ขอแค่ทำลายวิชาที่กลบจุดอ่อนไว้ได้อีกทีก็จบแล้ว”หวังเล่อเฉิงกล่าวจบก็พุ่งเข้าไปง้างหมัดต่อยกับเจียงฉางเทียน

ปักกก ปัก ปักกกก

“อ๊ากกกกกก”เจียงฉางเทียนโดนหมัดของหวังเล่อเฉิงเข้าไปทุกหมัดถึงแม้ส่าจะเคลือบตัวเองด้วยทองแล้วแต่มันก็ไม่สามารถป้องกันกายาอมตะที่เขาฝึกมาได้

“หมัดคชสารถล่มภูผา!!”เจียงฉางเทียนใกล้ไม่ไหวแล้วจึงใช้วิชารุนแรงออกมา

“ทำลาย!!”หวังเล่อเฉิงปล่อยหมัดไปใต้ท้องเงาช้างแล้วปล่อยปราณธาตุสายฟ้าเข้าไป

ตูมมมมมมมมมมม

เงาช้างขนาดใหญ่ระเบิดออกมาจนทำให้ผู้ใช้วิชานั้นกระเด็นตกจากลานประลองไปโดยที่หวังเล่อเฉิงยังเสื้อไม่ยับเลยด้วย

“ผู้ชนะ หวังเล่อเฉิง!!! การประลองรอบสุดท้ายจะเริ่มในอีก 3 วันขอให้เตรียมตัวให้พร้อม”หลังผู้คุมพูดเสร็จเขาก็หายไปเช้นเดิม

ณ ห้องที่มีสัญลักษณ์วิมานเมฆสีฟ้าอ่อน ซึ่งเป็นที่นั่งชมของผู้อาวุโสสำนักเมฆคราม

“เขาสามารถสร้างวิชาขึ้นมาได้แข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ”ชายชราที่ดูใจดีเอ่ยออกมาพร้อมกับกลิ่นอายที่ดูอบอุ่น

“น่าจะเป็นความจริงขอรับ จากข่าวที่ข้าได้มาตอนนี้ราชวงศ์เจียงมีวิชาใหม่ๆที่เป็นระดับนภาขั้นต่ำเข้ามามากทำให้กองทัพแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงเจ้าตัวนั้นสามารถทำลายวิชาได้อย่างแม่นยำจึงมีโอกาสสูงมากที่เขาจะเป็นคนสร้างวิชาขึ้นมาเอง”ชายหนุ่มกล่าว

“สมกับที่มีพรสวรรค์ไร้ระดับ ลองชวนเเขาเข้าสำนักเราดูหลังจากที่จบการแข่งขันรอบต่อไปแล้ว”

“ขอรับ ตามที่ท่านต้องการ”ชายหนุ่มเอ่ยจบก็คารวะแล้วเดินออกไป


หลังจากที่จบการประลองแล้วหวังเล่อเฉิงก็รีบขึ้นมาบนนาวาปราณเพื่อที่จะเร่งบ่มเพาะพลังให้ได้อย่างน้อยระดับก่อลมปราณขั้นที่ 8 ไม่งั้นสู้ไม่ไหวแน่

“โอสถที่ข้ามีอยู่น่าจะไปถึงขั้นที่ 8 ได้ไม่ยากแต่ข้าต้องการไปถึงขั้นที่ 9 เพื่อความแน่ใจยังไงข้าก็ไม่ต้องกังวลเรื่องรากฐานอยู่แล้วแต่อาจเจ็บตัวนิดหน่อย”หวังเล่อเฉิงนำโอสถจำนวนมากมายออกมาจากแหวนมิติแล้วหยิบมันมากระดกลงไปขวดหนึ่ง

“คงต้องฝืนสักหน่อยเพราะเป็นโอสถระดับ 5 ทั้งหมดเส้นลมปราณข้ายังรับไม่ค่อยไหว”หวังเล่อเฉิงใช้เส้นลมปราณกลืนกินของตนดูดซับโอสถระดับห้าจำนวนสิบเม็ดที่มีอยู่ในขวดอย่างเร่งรีบ

“อ๊ากกกกกกกก…เจ็บปวดเอาเรื่องอยู่”เพราะการฝืนดูดซับเข้าไปถ้าเป็นคงปกติคงเป็นการฆ่าตัวตายเป็นแน่แต่ดีที่หวังเล่อเฉิงมีกายากลั่นสวรรค์ทำให้โอสถที่กินเข้าไปนั้นกลายเป็นปราณธรรมชาติที่เข้มข้นแล้วจึงให้เส้นลมปราณกลืนกินดูดซับมันเข้าไป

“ข้าต้องชนะเจ้านั่นให้ได้ไม่งั้นอี้เฟยเป็นอันตรายแน่”เมื่อคิดได้เช่นนั้นหวังเล่อเฉิงก็นำขวดโอสถออกมากระดกกินเรื่อยๆ

เวลาผ่านไป 1 วันหวังเล่อเฉิงยังคงที่จะกระดกกินโอสถอยู่แต่ตอนนี้มีบางอย่างเปลี่ยนไป

“พลังปราณธรรมชาติในตัวข้าเพียงพอที่จะบรรลุขั้นที่ 8 แล้วแต่มันคงไม่พอที่จะทะลวงขั้นที่ 9 ได้แน่ข้าจะทำอย่างไรดี”หวังเล่อเฉิงคิดว่าถ้าเป็นขั้นที่ 9 นั้นตนจะมีความมั่นใจในการรับมือไพ่ตายต่างๆของเซียงเฟิงได้อย่างแน่นอน

“เฮ้ออออออ…ข้าไม่อยากให้พวกเขาช่วยเลย”หวังเล่อเฉิงนึกถึงเหล่าเซียนทั้ง 19 คนที่ตอนนี้อยู่ในหนังสือเล่มหนาที่เกิดจากอุปกรณ์วิญญาณของแต่ละคนมารวมกัน

“เพื่อความแข็งแกร่ง เพื่ออี้เฟย”หวังเล่อเฉิงส่งพลังจิตเข้าไปในหนังสือเล่มนั้นทันที

แวบบบบบบบบบบบบ

เมื่อมาถึงเขาสิ่งที่เขาเห็นนั้นเขาแทบอยากจะร้องสาปแช่งออกไป

“โอ้ สหายน้อยมีอะไรอย่างนั้นรึถึงมาหาพวกเราอย่างนี้”เซียนที่กำลังนั่งอ่านหนังสือต่างๆอย่างสบายใจบนกระท่อมหลังหนึ่งที่เขาไม่เข้าใจว่ามันมาได้ยังไงและธรรมชาติแสนอุดมสมบูรณ์ในนี้อีกเซียนแต่ละคนจะอยู่สุขสบายเกินไปแล้ว

“ข้ากำลังมีปัญหาใหญ่ ข้าต้องการของที่ทำให้ข้าทะลวงขั้นที่ 9 ของระดับก่อลมปราณตอนนี้”หวังเล่อเฉิงพูดอย่างจริงจัง

“สหายน้อยเล่อเฉิงเจ้าเข้ามาแล้วไม่แวะมาหาข้าหน่อยรึ”ปรากฎเซียนที่กำลังแบกฟืนไม้จำนวนมากเดินมาที่หน้าบ้าน

“ท่านเซียนวานรข้าแค่มีปัญหากับคนข้างนอกเล็กน้อยเท่านั้น”

“โอ้อย่างนั้นรึ เซียนบัณฑิตเอ๋ยสหายน้อยขออะไรมาก็ให้เขาไปเถอะ”เซียนวานรช่วยออกหน้าให้เขา นี่แหละคือเหตุผลที่เขาสุภาพกับเซียนวานรผู้แสนใจดี

“แต่ข้าไม่มีนะสิ ของที่เพิ่มพลังปราณได้น้อยๆแบบนั้นเจ้าลองไปเก็บจากหลังภูเขาลูกนั้นดู”เนื่องจากเป็นเซียนของแต่ละอย่างจึงเพิ่มพลังปราณอย่างมหาศาลมันอาจจะดีสำหรับบางคนแต่สำหรับหวังเล่อเฉิงที่ยังอ่อนแออยู่นั้นมันไม่ต่างจากพิษดีๆเลยนี่เอง

“ขอบคุณขอรับ”ถึงจะยังสงสัยว่าหลังภูเขามีอะไรเขาก็ยังเดินไปดูอยู่ดี

หวังเล่อเฉิงเดินไปได้ไม่นานก็มาถึงภูเขาลูกใหญ่เพราะพื้นที่ในนี้ถึงจะใหญ่แต่ก็ใหญ่แค่ 3-4 เมืองรวมกันเท่านั้น

“โอ้สหายน้อยต้องการอะไรอย่างนั้นรึ”ปรากฎหญิงสาวที่งดงามดังนางฟ้าในชุดสีเขียวลอยมาหา

“ท่านเซียนพิษสวรรค์ ข้าอยากได้สมุนไพรสำหรับทะลวงขั้นที่ 9 ของระดับก่อลมปราณแบบเร่งด่วนขอรับ”

“เจ้าไปเด็ดเอาในสวนได้เลยข้าปลูกไว้ยามว่างๆเอาไว้เยอะมาก”

“ขอบคุณขอรับ”เมื่อได้รับอนุญาตหวังเล่อเฉิงก็เดินเข้าไปในสวนดู

“นี่มันสวนอะไรฟะเนี่ยยยยย!!!”สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้าก็คือสวนสมุนไพรที่มีพืชมีชีวิตอยู่มากมายแต่พลังในสมุนไพรไม่ใช่น้อยๆเลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด