ตอนที่แล้วบทที่ 29 บุตรสาวผู้น่าขบขัน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 31 ภูมิปัญญาของการเป็นพ่อ!

บทที่ 30 อสรพิษหลามนภาเก้าเศียร ของเล่นชิ้นใหม่?


"ปรากฏว่าสามารถรับรางวัลเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับปรมาจารย์เช่นนี้ได้!"

หลินซวนดีใจเป็นอย่างมาก

เขาสามารถรับรางวัลที่ดีที่สุดแบบสบาย ๆ และยังสามารถตื่นขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม ใช้ชีวิตดั่งฝันและมีความสุขเช่นนี้ได้.

สำหรับพรสวรรค์ปรมาจารย์อสูร ตามคำแนะนำของระบบ สัตว์อสูรที่อยู่ต่ำกว่าอสูรยักษ์ลำดับสาม สามารถควบคุมได้ทันที.

ระดับอสูรยักษ์ เทียบกับขอบเขตการบ่มเพาะของมนุษย์ ก็คือขอบเขตจ้าววิญญาณนั่นเอง.

ยอดเยี่ยม

หลินซวนพอใจกับรางวัลนี้มาก

เขายังคงพาบุตรสาวของเขา ก้าวลึกเข้าไปในอาณาจักรลับ

แม้ว่าตอนนี้พวกนางจะหวาดกลัวกับสัตว์อสูรหมาป่าระดับสี่ แต่เสวียนจู่ และน้องสาว  ก็ยังไม่ได้ตัดใจ.

ในใจพวกนาง ตราบใดที่เสด็จพ่อยังอยู่ที่นั่น พวกนางก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวอันตรายใด ๆ !

เมื่ออยู่กับ หลินซวน เด็กหญิงตัวเล็กทั้งสี่คน ก็เริ่มทำการรังแกสัตว์อสูรระดับต่ำมากมายตลอดทาง

และระดับทักษะของพวกนางก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน.

มีความเข้าใจโดยปริยายในความร่วมมือระหว่างกันและกัน ทำให้หลินซวนยินดีเป็นอย่างยิ่ง

ว่ากันว่ามีการสื่อสารทางจิตวิญญาณระหว่างฝาแฝดตั้งแต่กำเนิดแล้ว.

การแสดงของเสวียนจู่ และน้อง ๆ ทำให้ หลินซวน ยืนยันว่านี่อาจเป็นเรื่องจริง

แสงในอาณาจักรลับค่อย ๆ จางลงโดยไม่รู้ตัว

โครก~

ท้องของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทั้งสี่กรีดร้องระงม.

“เสด็จพ่อ ข้าหิว!” เสวียนจู่เก็บกระบี่ของนาง แล้วเข้ามากอดขาของหลินซวนเอาไว้

เสวียนซี, เสวียนหาน และ เสวียนหยู ก็เข้ามาพิงขาของ หลินซวนด้วยเช่นกัน

“งั้นเราก็พักกันที่นี่สักพัก แล้วพ่อจะทำอะไรให้เจ้ากิน”

เพราะเร่งรีบออกมาจึงไม่ได้เตรียมอะไร จึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำเอง.

“เป็นไปได้ไหมที่จะได้กินอาหารอร่อย ๆ ในถิ่นรกร้างแห่งนี้?” เสวียนซีเอ่ยด้วยความอยากรู้อยากเห็น.

หลินซวนบีบจมูกเล็ก ๆ ของนาง: "แน่นอน!"

ด้วยแบบเรียนการสอนพ่อผู้สมบูรณ์แบบ ตราบใดที่มีส่วนผสม หลินซวนก็สามารถทำอาหารที่เหมาะแก่เด็ก ๆ ได้เสมอ.

หลังจากนั้นไม่นาน อาหารที่หรูหราจำนวนมากก็ถูกวางไว้ด้านหน้าเสวียนจู่และน้อง ๆ.

ผลอสรพิษสีดอกกุหลาบที่สวยงาม ไข่ห่านนางฟ้าขนนกย่างหอม ๆ ปลาบินหนามเงินต้ม นุ่ม ๆ...

"ว้าว~"

สาวน้อยอุทานด้วยความประหลาดใจ

ปรากฏว่า สามารถกินอาหารดี ๆ มากมายในป่าได้

เสด็จพ่อมีอำนาจทุกอย่างจริง ๆ!

หลังจากทีได้รับคำชื่นชมจากบุตรสาวของเขาแล้ว หลินซวน ก็เข้าร่วมรับประทานอาหารร่วมกันกับพวกนางอย่างมีความสุข

และหลังจากที่กินอาหารเสร็จสิ้น.

แสงโดยรอบเริ่มสลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่าจะเป็นเวลาพลบค่ำแล้ว

ในส่วนลึกของอาณาจักรลับ แสงสีน้ำตาลก็สว่างขึ้นทันที

ภูเขาสูงตระหง่านปรากฏขึ้นในกลุ่มเมฆหมอกที่ปกคลุม ลึกลับและงดงาม

“ภูเขาลูกนี้อาจจะเป็นจุดสิ้นสุดของอาณาจักรลับแห่งนี้”

ขณะที่ หลินซวน คิดเช่นนั้น เสวียนจู่ และคนอื่น ๆ ก็แทบรอไม่ไหวที่จะดึงเขาลุกขึ้น

"เสด็จพ่อไปดูกันเถอะ!"

โดยธรรมชาติแล้วเด็ก ๆ จะอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสิ่งใหม่ ๆ โดยเฉพาะสิ่งที่ไม่รู้จัก แน่นอนว่า หลินซวน ย่อมไม่ปฏิเสธ จึงออกเดินทางไปกับพวกนางทันที

และในครั้งนี้

ไป่เฟิงซิน, หลินตง, หนิงเจี๋ย, หวังเหวินหยาง และคนอื่น ๆ ก็สังเกตเห็นการปรากฏอย่างกะทันหันของภูเขาเช่นกัน.

“ภูเขาลูกนี้สูงชันมาก และมันจะต้องเป็นจุดสูงสุดของอาณาจักรลับ นอกจากดอกไม้ยืนยาว จะต้องมีสมบัติอื่น ๆ ด้วยแน่!”

ดวงตาของไป่เฟิงซินเป็นประกาย

ตี้ฟู่เอ่ยให้หลิงหรงเข้าสู่อาณาจักรลับ แม้ว่าเขาจะพบดอกไม้อายุยาว ไป๋เฟิงซินก็ไม่กล้าต่อสู้กับหลิงหรงอีก

แต่หากมีสมบัติอื่น ไป๋เฟิงซินเชื่อว่าจักรพรรดิจะไม่เข้าไปยุ่ง

ด้วยความคิดเดียวกัน

หลินถง,หนิงเจี่ย และหวังเหวินหยาง ก็มารวมตัวกันที่เชิงภูเขาอย่างรวดเร็ว.

บนยอดเขา

หลิงหรงลากร่างที่เต็มไปด้วยแผลเป็น กัดฟัน อดทนเพื่อปีนขึ้นไป

เพื่อให้ได้ดอกไม้อายุยืน นางวิ่งอย่างสิ้นหวังไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของอาณาจักรลับไปตลอดทาง

นางมีสัมผัสแหลมคมโดยธรรมชาติ ทำให้นางสามารถหลบการโจมตีของสัตว์อสูรได้หลายครั้ง

แต่สำหรับสัตว์อสูรระดับสูงบางตัว นางก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงการถูกข่วนและกัดได้

ในความเป็นจริง นางเกือบตายจากปากของสัตว์อสูรหลายครั้งเช่นกัน.

โชคดีไม่มีอะไรขัดขวางความอดทนพยายามอุตสาหะของนางได้ ทำให้นางมาถึงภูเขาที่ลึกที่สุดจนได้.

และเนื่องจากนางไม่ได้รั้งรอระหว่างทางใด ๆ นางจึงเป็นคนแรกที่มาถึงภูเขาลูกนี้.

“ดอกไม้อายุยืนต้องอยู่บนภูเขาลูกนี้แน่!”

โลหิตของหลิงหรงหยดเป็นทางลากร่างขึ้นไปบนเนินเขา

นางไม่สนใจใด ๆ ทั้งนั้น ความคิดเดียวของนางคือ ต้องได้รับดอกไม้อายุยืน.

เพียงได้รับดอกไม้อายุยืนเท่านั้น ที่จะทำให้นางได้รับสถานะตัวตนเดิมและมีสิทธิ์...  ที่จะได้พบหลินซวนอีกครั้ง!

ที่ไกลออกไปมีบางอย่างที่แผ่แสงสีชมพูลึกลับทะลุผ่านหมอกแห่งจิตวิญญาณและทำให้ดวงตาของหลิงหรงสว่างขึ้น.

“มันเป็นดอกไม้อายุยืนจริง ๆ !” หลิงหรงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากหลังจากที่ได้พบมัน.

นางรีบคว้าก้อนหินแล้วปีนขึ้นไป สุดท้ายนางก็โชคดีที่นางได้รับดอกไม้อายุยืนสำเร็จ

“ดอกไม้อายุยืนบานหนึ่งดอกในรอบร้อยปี ในที่สุดข้าก็ได้มันมา!”

หลิงหรงหลั่งน้ำตาอาบแก้มด้วยความตื่นเต้น

จากนั้นนางก็อ้าปากเล็ก ๆ ของนางกำลังจะกินดอกไม้อายุยืน

หวึ่ง! - -

ทันใดนั้นสายลมที่มีกลิ่นเหม็นก็พัดผ่านเข้ามา

แรงกดดันและจิตสังหารที่รุนแรง ล็อคเป้ามายังหลิงหรงทันที.

หลิงหรงเงยหน้าขึ้น และเห็นดวงตาสีแดงขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครเทียบได้ ปรากฏขึ้นบริเวณที่นางเพิ่งเด็ดดอกไม้อายุยืนออกมา

ไม่!

ไม่ใช่คู่เดียวแต่เป็นเก้าคู่!

โฮกกกก~

เมื่อดวงตาที่น่าสะพรึงกลัวทั้งเก้าคู่ปรากฏขึ้น ภูเขาทั้งลูกก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

หลิงหรงมองเห็นเนินเขาสูงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

อสรพิษยักษ์ที่มีเก้าเศียรจ้องมองมายังนางด้วยสายตาดุร้ายดูน่าสยดสยอง

มันมีความยาวหนึ่งร้อยฟุต และในรูม่านตาสีทองนั้นมีรูสีแดงสองช่อง

“อสรพิษหลามนภาเก้าเศียร ลำดับสอง!”

รูขุมขนทั่วร่างของหลิงหลงเปิดกว้าง รู้สึกเย็นยะเยือบแทงทะลุไปถึงกระดูก.

ต่อหน้าต่อตานาง มีสัตว์อสูรลำดับสองด้านหน้า!

ปัง

อสรพิษหลามนภาเก้าเศียรเงยหน้า ยกหางขึ้นแล้วก็ฟาดลงมา

เศษหินดินทรายที่ฟุ้งไปทั่วเนินเขา ร่างของหลิงหรงที่กระเด็นออกไป ล่วงหล่นลงไปที่แม่น้ำที่เชิงเขา.

ในเวลานี้ไป่เฟิงซินและหลินถง ก็มาอยู่ที่ด้านหน้าภูเขาเช่นกัน.

เมื่อเห็นร่างที่ใหญ่ยักษ์เท่ากับเนินเขา สูงกว่าสองร้อยฟุต ปรากฏ ไป่เฟิงซินและคนอื่น ๆ ต่างก็สูดหายใจเย็นยะเยือบเข้ามา.

“มันกลายเป็นสัตว์อสูรยักษ์ลำดับสอง!”

“หากต้องการจัดการกับมัน อย่างน้อยก็ต้องเป็นขอบเขตจ้าววิญญาณขึ้นไป?”

ทุกคนมองหน้ากันและกัน.

หลังจากคิดเล็กน้อย ไป่เฟิงซินก็เงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยออกมาว่า:

“ความแข็งแกร่งของอสูรยักษ์ชั้นสองนั้นน่ากลัวจริงๆ แต่หากพลาดมันไป จะต้องเสียใจมากเช่นกัน!”

หลินถงเอ่ย“เจ้านิกายไป๋ต้องการจัดการกับสัตว์อสูรยักษ์ตัวนี้อย่างงั้นรึ?”

มุมปากของไป่เฟิงซินกระตุก: "ช่วยกันฆ่ามัน แกนอสูร กระดูก เนื้อและโลหิต แบ่งปันกัน!"

ทุกคนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และพยักหน้าพร้อม ๆ กัน: "เอาล่ะ! เป็นข้อตกลงตามนี้!"

อสรพิษหลามนภาเก้าเศียรนี้มีตบะอย่างน้อยสี่หรือห้าพันปี

อสูรยักษ์ขั้นสอง อาจกล่าวได้ว่าทั้งร่างกายของมันล้วนแต่ล้ำค่า.

สำหรับผู้ฝึกตนแล้ว แม้แต่โลหิตหยดเดียวก็ถือว่าเป็นสมบัติแล้ว.

แม้ว่าอสรพิษหลามนภาเก้าเศียรที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาจะดูแข็งแกร่งมาก ทว่าย่อมไม่อาจต้านทานฝูงชนได้แน่

การต่อสู้นี้ ใช่ว่าจะไร้โอกาส.

เมื่อเห็นว่าทุกคนบรรลุข้อตกลงไป่เฟิงซินก็หยิบกระบี่เหินออกมา เอ่ยตะโกนดัง: "ทุกคน ไปด้วยกัน!"

ปัง ปัง~

หุหุหุ ~

ในเวลาต่อมา ปราณแท้ที่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า กระจายไปทั่วอากาศ.

ไป๋เฟิงซินและคนอื่น ๆ ใช้ความแข็งแกร่งที่สุดของพวกเขา โจมตีไปยังอสรพิษหลามนภาเก้าเศียร

อย่างไรก็ตามการโจมตีของพวกเขา ราวกับว่ากำลังยั่วยุมัน อสรพิษหลามนภาเก้าเศียรที่หวีดร้องดังกึกก้อง.

ในเวลาต่อมา มันก็ก้มหัวลง พร้อมกับจับจ้องมองไปยังไป่เฟิงซินและพวก พร้อมกับอ้าปากที่ใหญ่โตขึ้น.

ปัง ปัง ปัง~

บอลเพลิงเก้าดวงที่พุ่งออกไป คลื่นความร้อนที่น่าพรั่นพรึงแหวกอากาศทำให้พื้นที่รอบ ๆ สั่นส่ายไปมาเป็นระลอกคลื่น.

"โอ้วสวรรค์ อสรพิษหลามนภาเก้าเศียรตนนี้ มีพลังธาตุเพลิงโดยกำเนิดด้วย!"

“สัตว์อสูรตัวนี้แข็งแกร่งเกินไป ทุกคนถอยออกมาก่อน!”

ภายใต้คลื่นเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำออกมา ไป๋เฟิงซินและคนอื่น ๆ ที่ถอยออกมาด้วยความยากลำบาก.

แม้นว่าพวกเขาจะถอยออกมาได้ในทันที แต่ก็ยังมีหลายคนที่ได้รับสะเก็ดเพลิงเกือบเผาร่างพวกเขากลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว.

ไป๋เฟิงซินและคนอื่น ๆ เผยร่องรอยของความไม่เต็มใจออกมา

อสรพิษหลามนภาเก้าเศียรเต็มไปด้วยชิ้นส่วนที่ล้ำค่า แต่ความแข็งแกร่งของมันก็น่าสะพรึงอย่างแท้จริง.

เมื่อเผชิญกับสิ่งล่อใจครั้งใหญ่เช่นนี้ พวกเขาก็ตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก มันแย่มากที่ต้องละทิ้งความคิดเกี่ยวกับสมบัตินี้ไป

“เสด็จพ่อ อสรพิษตัวใหญ่ตัวนี้ดูน่ารักมาก ช่วยจับให้ข้าเล่นได้ไหม”

ในเวลานี้หลินซวนโผล่มาด้านหลังของฝูงชนพร้อมกับบุตรสาวสี่คนของเขา

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของเสวียนหยู ไป่เฟิงซินและคนอื่น ๆ ต่างก็เผยท่าทางประหลาดใจตกใจออกมา.

โอ้วสวรรค์ ตี้ฟู่ ไม่ใช่ว่าต้องการจับอสรพิษหลามนภาเก้าเศียรเป็น ๆ หรอกนะ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด