ตอนที่แล้วบทที่ 14: เสด็จพ่อค่อนข้างมีความสามารถ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 16: ดีจริงๆ!

บทที่ 15: ไม่มีความหวัง!


ตงหวงจื่อโหยวเกิดในตระกูลราชวงศ์ และตอนนี้นางก็รับตำแหน่งจักรพรรดินิแห่งเป่ยเสวียนเทียน ประสบการณ์ของนางนั้นย่อมไม่ธรรมดาโดยธรรมชาติ

แม้ว่านางจะงดปี้กู้มานานแล้ว แต่นางก็ลิ้มรสอาหารอันโอชะมามากมายนับไม่ถ้วนเช่นกัน.

อาหารที่หลินซวนเตรียมไว้ในความเห็นของนาง อาหารเหล่านี้คืออาหารที่งดงามที่สุดที่นางเคยเห็นมา.

เมื่อได้กลิ่นหอมอันเข้มข้นตลบอบอวนอยู่บนโต๊ะ อารมณ์ของตงหวงจื่อโหยวก็สับสนขึ้นมา แม้แต่มองหลินชวนในแง่ดีขึ้นมาในทันที.

“เสด็จแม่มันอร่อยจริง ๆ มากินด้วยกันเถอะ!”เสวียนจู่ กระพริบตาโตของนางแล้วเอ่ยชวน

ตงหวงจื่อโหยวส่ายหน้า: "แม่ไม่หิว กินกันเถอะ"

แม้ว่าอาหารจะอร่อย แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะดึงดูดความอยากอาหารของจักรพรรดินิตงหวงจื่อโหยวได้.

ยิ่งเมื่อก้าวมาถึงขอบเขตจักรพรรดิแล้ว จิตใจของนางยิ่งแข็งแกร่ง.

นางที่หยุดกินอาหารมาเป็นเวลานาน เป็นธรรมดาที่นางจะไม่รู้สึกอยากอาหารเป็นธรรมดา.

“เสด็จแม่ กินสักหน่อยเถอะ” เสวียนซีเอ่ยอย่างอย่างคาดหวัง

เสวียนหานพยักหน้า: "ใช่ ๆ นี่คือครอบครัวของพวกเรา นี่เป็นครั้งแรกที่เรารับประทานอาหารเช้าด้วยกัน"

ขณะเสวียนหยูกำลังจะเอ่ย สัตว์อสูรสุนัขสวรรค์ที่เข้ามาออดอ้อนถูขานางอีกครั้ง ทำให้นางเตะมันออกไป.

เมื่อเห็นเด็ก ๆ รบเร้า ตงหวงจื่อโย่วก็ไม่มีทางเลือกนอกจากตกลง: "เอาล่ะ แม่จะกินอาหารกับพวกเจ้า"

นางหยิบช้อนขึ้นมาแล้วตัก คัสตาร์ดห่านนางฟ้า ที่เหมือนกับขนนกสีขาวที่อยู่ใกล้ที่สุดหนึ่งช้อนเต็ม

คัสตาร์ดห่านนางฟ้า เป็นอาหารทั่วไปในแดนสวรรค์ทั้งเก้า

แต่วิธีการของ หลินซวน ค่อนข้างแตกต่างจากคัสตาร์ดห่านนางฟ้า ในความทรงจำของตงหวงจื่อโหยว

นางอยากลองดูว่า หลินซวน ทำรสชาติแบบไหน

ริมฝีปากงามของนางที่เปิดอ้าช้า ๆ แล้วกัดคัสตาร์ดเข้าปากเล็กน้อย

"ดี!"

ดวงตาของตงหวงจื่อโหยวเป็นประกาย

กลิ่นนี้มัน...หอมจริงๆ!

กลิ่นไข่เข้มข้นผสมกับกลิ่นแปลก ๆ กระตุ้นต่อมรับรสของนางมาก

ต่อมรับรสที่ไม่ได้ใช้มานานราวกับว่าฟื้นฟูกับมา คลายกับว่ากำลังจะบานสะพรั่ง.

ตงหวงจื่อโหยว อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกมาและตักคัสตาร์ดอีกช้อนเต็ม

หลังจากกินครั้งนี้รสชาติยังคงเข้มข้นและค้างอยู่ในคอไม่เปลี่ยนแปลง.

ยิ่งไปกว่านั้น ต่อมรับรสของนางเวลานี้ ดูเหมือนว่าจะถูกกระตุ้นเต็มที่แล้ว.

“โดยไม่คาดคิด ไข่ห่านนางฟ้าขนนกสีขาว เขาจะสามารถทำได้อร่อยขนาดนี้!”

ตงหวง จื่อโหยว เงยหน้าดวงตาสีเข้มสวยของนาง มองหลินซวนด้วยสายตาประหลาดใจเล็ก ๆ

“เสด็จแม่ชอบกิน ข้าจะยกให้ท่าน!” เสวียนจู่กล่าวด้วยความกตัญญู

ตงหวงจื่อโหยวหยิบช้อนเล็กอีกช้อนหนึ่งก่อนวางลง ส่ายหน้าแล้วยิ้ม: "แม่อิ่มแล้ว เจ้ากินเถอะ"

สำหรับนาง การสามารถกินสามช้อนในคราวเดียวถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

จากนั้น นางมองดูหลินซวนกินอาหารเช้ากับเด็ก ๆ ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ

ใจที่จมอยู่ในฝุ่นผงมาเนิ่นนาน ได้สัมผัสถึงความอบอุ่นของครอบครัวเป็นครั้งแรก

หลังอาหาร.

จักรพรรดินิ จื่อโหยวจำต้องออกว่าราชกิจอีกครั้ง.

ขณะจะจากไป นางใช้ประโยชน์ที่เด็ก ๆ กำลังเล่นกันอยู่.

นางหยิบยาเม็ดสีม่วงทองพร้อมส่งให้หลินซวน:

“ยาเม็ดนี้เรียกว่า เม็ดยาจื่อจินเสวียนกุย(ดาราลึกล้ำม่วงทอง) เป็นยาเม็ดสวรรค์ขั้นกลาง”

“ถ้าเจ้าต้องการฝึกฝน เจ้าสามารถใช้มันเพื่อพัฒนาความเร็วในการบ่มเพาะได้”

“คนทั่วไปหากตั้งใจฝึกฝนอย่างขยันขันแข็งจะสามารถก้าวสู่ขอบเขตตงเสวียนได้ภายในสิบปี แต่หากใช้ยานี้จะใช้เวลาเพียงสองปี!”

หลินซวนไม่แม้แต่จะมองเม็ดยาจื่อจินเสวียนกุย เขาส่ายหน้าแล้วเอ่ยออกมาว่า "ข้าไม่ต้องการมัน"

มีระบบอยู่กับตัว รอเพียงรับรางวัล บางทีมันอาจจะทำให้เขาพุ่งทะยานไปสู่อาณาจักรจักรพรรดิเลยก็ได้

แม้ว่าเม็ดยาจื่อจินเสวียนกุยนี้จะดี แต่หลังจากรับไปแล้ว ก็ยังจำเป็นต้องฝึกฝนอย่างหนักอีก

หลินซวนคุ้นเคยกับการเป็นปลาเค็ม เขาจะถูกล่อลวงด้วยสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร?

ตงหวงจื่อโหยว แอบส่ายหน้าและถอนหายใจ จำต้องเก็บเม็ดยาจื่อจินเสวียนกุยไป

อารมณ์ดีเพียงเล็กน้อยในตอนเช้า เวลานี้มันได้หายไปในพริบตา

นางไม่มีความหวังเกี่ยวกับการฝึกฝนของหลินซวนมาระยะหนึ่งแล้ว.

ยาเม็ดนี้ ถือว่าเป็นการพยายามครั้งสุดท้ายของนาง

ดูเหมือนว่านางจะยอมแพ้ไปอย่างสมบูรณ์

ให้หลินซวนดูแลเด็ก ๆ ก็พอแล้ว นางไม่เห็นต้องการอะไรไปมากกว่านี้

"ข้ากำลังจะออกไป"

ตงหวงจื่อโหยวที่ก้าวออกไป โดยไม่หันกลับมามอง

หลินซวนไม่ได้คิดอะไรมาก เขาหันหลังกลับและเข้าไปในห้อง ในไม่ช้าก็เข้าร่วมเล่นเกมกับเหล่าธิดา

….

แดนปิศาจสวรรค์ เมืองหมื่นปิศาจ.

ในห้องโถงอันมืดมน ผู้ฝึกตนจำนวนหลายร้อยคนถูกมัดไว้รวมกันเอาไว้

เย่โหยวกระตุ้นพลังอาคม กลืนกินแก่นแท้ที่แท้จริงของพวกเขาทั้งหมดไปในคราวเดียว

หลังจากแสงอาคมแปลก ๆ กระพริบ เย่โหยวก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น

ขณะเหลือบมองศพนับร้อยที่แห้งเหี่ยวต่อหน้าเขา ด้วยแววตาที่ไร้ความปราณี เย่โหยวกัดฟันแล้วเอ่ยออกมาว่า:

“ข้าไม่ได้คาดหวังเลยว่าจักรพรรดินีเสวียนปิงจะทรงพลังขนาดนี้ นางทำให้ข้าสูญเสียการฝึกฝนไปถึงหนึ่งในสี่เลยจริง ๆ!”

“แต่จะให้กล่าวนั่น อาจเป็นเพราะข้ามีความแค้นสุมอยู่ในใจจนไม่สามารถตั้งสมาธิต่อสู้กับนางได้ ดังนั้นนางจึงสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้”

เมื่อต่อสู้กับจักรพรรดินีเสวียนปิง เย่โหยวก็นึกถึงหลินซวนเป็นครั้งคราว

การเหม่อลอยทำให้เขาประมาทและเผยจุดอ่อนออกมา.

ดังนั้นในการต่อสู้ครั้งนั้น เขาทำได้เพียงกัดฟันและอดทนต่อความพ่ายแพ้ในครั้งนี้.

และตอนนี้สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดของเขา คือ การตรวจสอบว่า หลินซวน เป็นคนที่แข็งแกร่งในอาณาจักรมหาปราชญ์หรือไม่?

ในวังเสวียนปิง ใครคือคนที่จัดการจิตวิญญาณของเขา?

นี่เป็นสิ่งสำคัญมาก!

หากเขาไม่แน่ใจ ครั้งต่อไปที่เขาต่อสู้กับจักรพรรดินีเสวียนปิง เขาก็จะยังคงได้รับผลกระทบ ไร้สมาธิในการต่อสู่เช่นเดิม.

ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไม่มีใครชอบ คนที่ซ่อนตัวอยู่โดยที่ไม่รู้ที่มาที่ไป ที่สามารถข่มขู่เขาเมื่อไหร่ก็ได้.

“เจิ้งซ่ง เจ้าส่งแม่ทัพปีศาจทั้งสี่ไปที่เป่ยเสวียนเทียนเพื่อหาโอกาสโจมตีหลินซวนซะ”

“คราวนี้ พวกเราต้องค้นหารายละเอียดของ หลินซวนให้พบ!”

“ถ้าสามารถฆ่าและสังหารบุตรสาวทั้งสี่ของเขาได้ จะเป็นเรื่องดีที่สุด!”

เจิ้งซ่งเดินออกมาจากความมืดทันที พยักหน้าแล้วเอ่ยออกมาว่า: "รับทราบ!"

-

เพราะหลินซวนยอมรับคำเชิญพิเศษจากซ่างกวนเจี๋ย

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เขาก็ออกเดินทางไปพร้อมกับบุตรสาวทั้งสี่คน

ครั้งนี้การชุมนุมทางวรรณกรรม ซึ่งอยู่ที่ภูเขาเหวินฉู่ทางตอนใต้ของเป่ยเสวียนเทียน

สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากพระราชวังเสวียนปิงห้าล้านลี้

หลินซวนพาบุตรสาวของเขาขึ้น ราชรถหยกซึ่งมีวิหคปีกฟ้าของพระราชวงศ์เสวียนปิงลากไป

วิหคปีกฟ้าขนาดใหญ่สี่ตัวกำลังลากราชรถบินไปด้วยความเร็ว ซึ่งผู้คนที่อยู่ข้างในสะดวกสบายเป็นอย่างมาก

หลินซวนสามารถถ่ายทอดความคิดของเขาผ่านหยกควบคุมสัตว์ได้ ทำให้สามารถควบคุมวิหคปีกฟ้าได้ดั่งใจ.

เดิมที เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ มีความคาดหวังสูงกับราชรถที่ลากด้วยวิหคทั้งสี่ตัวมาก.

พวกนางคิดว่าราชรถหยกคันนี้ใหญ่โต สะดวกสบายและบินได้เร็วมาก

แต่เมื่อพบว่ามีผู้ฝึกตนที่บินแซงพวกนางเป็นระยะ ๆ ก็เปลี่ยนใจ.

“พวกเรามีวิหคปีกฟ้าตั้งสี่ตัว แต่ก็ยังไม่เร็วเท่า คุณ ลุงคุณป้าเหล่านั้นเลย!”

“ใช่ ๆ ช้ามาก!”

“เสด็จพ่อบอกว่าภูเขาเหวินฉู่ยังอยู่อีกไกลมาก ใช้เวลานานเท่าใดจึงจะไปถึงที่นั่น?”

“ข้าอยากจะไปถึงที่นั่นเร็ว ๆ จัง!”

เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทั้งสี่คนต้องการไปที่ภูเขาเหวินฉู่ในทันที

นอกจากนี้เมื่อเห็นเหล่าผู้ฝึกตนที่บินกลางอากาศ บินแซงพวกนางจนหายไปคนแล้วคนเล่า ยิ่งทำให้รู้สึกว่าราชรถหยกของพวกนางนั้นช้าขนาดไหน.

หลินซวนที่ส่ายหน้าไปมา พร้อมกับเผยยิ้มเล็กน้อย เป่ยเสวียนเทียนเป็นหนึ่งในอาณาจักรเซียน ซึ่งมีผู้ฝึกตนอยู่มากมายนับไม่ถ้วน.

ความสามารถในการบินไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้ฝึกตนเหล่านี้.

นอกจากนี้ยังมีระดับจ้าววิญญาณ กระทั่งของเขตกึ่งจักรพรรดิอยู่ไม่น้อย.

ความเร็วในการบินของพวกเขานั้นมากมาย จะสามารถนำความเร็วของวิหคปีกฟ้าไปเทียบได้อย่างไร.

“เสด็จพ่อ ท่านมีวิธีทำให้เร็วกว่าไหม?”

เป็นเรื่องทั่วไป คงจะไม่รู้สึกอะไรเลย หากไม่มีการเปรียบเทียบ.

เสวียนจู่และธิดาคนอื่น ๆ ตอนนี้พวกนางแทบจะรอไม่ไหวที่จะบินให้เร็วกว่าเหล่าผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ.

หลินซวน พยักหน้าและยิ้ม: "ใช่!"

สร้อยข้อมือวิเศษในมือของเขาเป็นของวิเศษเพียงชนิดเดียวที่จะช่วยทำให้เขาสามารถใช้พลังพิเศษได้.

ขณะที่เจตจำนงของเขาเคลื่อนไหว กลิ่นอายอันสง่างามจำนวนนับไม่ถ้วนก็หลั่งไหลเข้าสู่สร้อยข้อมือของเขาจากทุกทิศทุกทาง

ฟู่ ๆ!

ทันใดนั้น กลิ่นอายที่น่าเกรงขามทรงพลังก็ผลักราชรถหยกให้พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว.

เดิมที วิหคปีกฟ้าสี่ตัวกำลังดึงลากราชรถหยกไปด้านหน้า  แต่ในชั่วพริบตามันก็กลายเป็นถูกราชรถลากพวกมันแทน.

กับภาพที่เกิดขึ้น ไม่เพียงแค่เด็กหญิงทั้งสี่คนเท่านั้นที่ตื่นตะลึง.

แม้แต่ผู้ฝึกตนที่อยู่ไกล ๆ ยังอ้าปากค้างไปตาม ๆ กัน.

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด