ตอนที่แล้ว[ตอนฟรี] ตอนที่ 190 : นิมิตของกายาราชัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[ตอนฟรี] ตอนที่ 192 : ตราสัญลักษณ์เข้าแท่นบูชา

[ตอนฟรี] ตอนที่ 191 : โม่บดสังหารจ้าวดารา


จ้าวดาราอู๋จี๋คือใครน่ะเหรอ? เขาคือตัวตนทรงพลังที่เคยโลดแล่นไปทั่วโลก เคยกระทั่งก่อเรื่องใหญ่โตในดินแดนอมตะมาแล้ว

แต่ตอนนี้ วิญญาณของจ้าวดาราอู๋จี๋กำลังสั่นเทา

ก่อนหน้าไม่นาน ตัวเขาในร่างวิญญาณปรารถนาที่จะทำลายจิตวิญญาณที่แท้จริงของจวินเซียวเหยา แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเรื่องราวจะกลับตาลปัตรเช่นนี้

ในที่สุด เงาดำขนาดมหึมาก็เผยโฉมออกมาอย่างสมบูรณ์

มันคือโม่บดแห่งเทพที่เปื้อนเปรอะไปด้วยคราบเลือดนั่นเอง

ขณะที่โม่บดแห่งเทพกำลังหมุนวน ราวกับว่ามีเสียงร้องโหยหวนของเหล่าเทพเจ้าและปีศาจดังออกมา หากใครได้ยินเข้าคงขนลุกขนพองเป็นแน่

โม่บดแห่งเทพคือสุดยอดทักษะการโจมตีวิญญาณของวิถีเทพเกลาวิญญาณนั่นเอง

ทักษะการโจมตีนี้ส่งผลต่อจิตวิญญาณที่แท้จริง ร่างวิญญาณ และทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องทางวิญญาณมากที่สุด

แม้ว่าการโจมตีนี้ต่อร่างกายทางกายภาพจะเป็นศูนย์

แต่ความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสำหรับจิตวิญญาณที่แท้จริงหรือร่างวิญญาณ

จึงไม่แปลกที่จ้าวดาราอู๋จี๋จะตัวสั่น

“นี่มันเคล็ดวิญญาณบ้าอะไรกัน?” จ้าวดาราอู๋จี๋อดไม่ได้ที่จะคำรามออกมา

แรงกดดันที่น่ากลัวนั้นแทบจะทำให้ตัวเขาแหลกสลาย

จ้าวดาราอู๋จี๋รีบถอยหลังและต้องการที่จะหนี

“ไหนๆ ก็เข้ามาแล้ว งั้นก็อยู่ที่นี่ซะสิ” วิญญาณของจวินเซียวเหยายิ้มเยาะ

ภายในมิติของวิหารศักดิ์สิทธิ์ โม่บดแห่งเทพที่มีขนาดมหึมาดั่งทวีปสีดำก็เคลื่อนตัวเสียงดังกึกก้องไปทางจ้าวดาราอู๋จี๋

จากนั้นแรงดูดมหาศาลก็ปะทุออกมา

ต่อให้จ้าวดาราอู๋จี๋พยายามจะหนียังไง เขาก็หนีไม่พ้น

ในที่สุด หลังจากที่ส่งเสียงกรีดร้องบาดใจออกมา เขาก็โม่บดแห่งเทพดูดเข้าไป

ทุกครั้งที่โม่บดแห่งเทพหมุนบด วิญญาณของจ้าวดาราอู๋จี๋ก็จะถูกบดขยี้ไปทีละนิด

“ม่ายย…ข้าผ่านร้อนผ่านหนาวมาทั้งชีวิต กว่าแผนการจะมาถึงจุดนี้ได้ เหตุใดข้าถึงพ่ายแพ้ให้กับเด็กวานซืนอย่างเจ้าด้วย!”

วิญญาณของจ้าวดาราอู๋จี๋ร้องคำรามด้วยความโกรธแค้น

เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะพ่ายแพ้ให้กับจวินเซียวเหยา

แผนการอันแยบยล ความทะเยอทะยานที่จะมีชีวิตใหม่ และความมุ่งมั่นที่จะเปิดเส้นทางที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนล้วนพังทลายลงในวินาทีนี้

ไม่ต้องบรรยายเลยว่าจ้าวดาราอู๋จี๋จะคับแค้นใจขนาดไหน

“คลื่นลูกใหม่ในแยงซีซัดคลื่นลูกเก่า เจ้าไม่รู้หรือไงว่าคลื่นลูกใหม่นั้นน่ากลัวแค่ไหน?” จวินเซียวเหยายิ้มอย่างเย็นชา

เขาเกิดในตระกูลโบราณที่เพียบพร้อมด้วยทรัพยากรนับไม่ถ้วนและมีพรสวรรค์ไร้เปรียบ

แถมเกิดมาก็มีสถานะสูงส่งในตระกูลชั้นสูงทันที

ในอีกแง่หนึ่ง จะนับว่า “คลื่นลูกใหม่” ก็ได้

โดนคลื่นลูกใหม่ซัดตายบนหาด มันก็ไม่เสียชื่อสักเท่าไหร่

“อ๊ากกก…น่าแค้นใจซะจริง!”

สุดท้าย เสียงร้องอันโศกเศร้าและขุ่นเคืองของจ้าวดาราอู๋จี๋ก็ดังกึกก้องไปทั่วโม่บดแห่งเทพ

หนึ่งในสุดยอดตัวตนแห่งยุค บัดนี้ได้ล้มหายตายจากไปจากโลกโดยสมบูรณ์แล้ว

ตัดภาพมาที่โลกภายนอก สีหน้าของอี้ยวี่และราชสีห์เก้าเศียรต่างก็กำลังตึงเครียดอยู่

ส่วนโม่ฝานนั้นยังคงอยู่ที่เดิม

เพราะมีอี้ยวี่และพรรคพวกอยู่ อยากหนีขนาดไหนเขาก็คงหนีไม่ได้

“หรือว่าจ้าวดาราอู๋จี๋จะยึดร่างได้แล้ว?” โม่ฝานครุ่นคิด

ถ้าจ้าวดาราอู๋จี๋ยึดร่างได้สำเร็จ แบบนั้นเขาก็น่าจะมีโอกาสรอดอยู่

แต่ครู่ต่อมา จวินเซียวเหยาก็ลืมตาขึ้น ดวงตาของเขายังคงใสกระจ่างและดูสงบ

ตอนนั้นเองที่สายตาของจวินเซียวเหยาปะทะเข้ากับสายตาของโม่ฝาน

ดวงตาของเขาเผยให้เห็นร่องรอยของการเย้ยหยันอยู่ ถึงกับทำให้หัวใจของโม่ฝานตกไปอยู่ตาตุ่ม

“โม่ฝาน เจ้าอยากเห็นข้าถูกยึดร่างงั้นเหรอ?”

คำพูดของจวินเซียวเหยาทำให้สีหน้าของโม่ฝานซีดเป็นกระดาษทันที

และก็ทำให้อี้ยวี่และราชสีห์เก้าเศียรพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก

พวกเขาแสดงท่าทีที่ชื่นชมอย่างสุดซึ้งออกมา

ขนาดคนที่พยายามจะยึดร่างคือจ้าวดาราอู๋จี๋ เขาก็ทำอะไรจวินเซียวเหยาไม่ได้

“ไม่…ไม่ใช่จ้าวดาราอู๋จี๋…”  โม่ฝานพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“เขาไม่มีวันได้ใช้ชีวิตที่สองแล้วล่ะ” จวินเซียวเหยาพูดอย่างเย็นชา

หัวใจของโม่ฝานเต้นไม่เป็นจังหวะทันทีที่ได้ยิน

เห็นได้ชัดว่าจ้าวดาราอู๋จี๋ตายไปแล้ว

ทันใดนั้น โม่ฝานก็คุกเข่าลงกับพื้นและก้มหัวขอขมา “ข้าน้อยผิดไปแล้ว ได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วย!”

“ไว้ชีวิตเจ้างั้นเหรอ?”

“เจ้าปล่อยพวกเผ่าคนบาปและนำหายนะมาสู่นิกายเสวียนเทียน ต่อให้เจ้ามีอีกร้อยชีวิต เจ้าก็ชดใช้บาปครั้งนี้ไม่ได้ นับประสาอะไรกับชีวิตเดียวที่เจ้ามี!” น้ำเสียงของจวินเซียวเหยาเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง

เขาไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้ และตบฝ่ามือใส่โม่ฝานทันที

“ไม่!”

โม่ฝานลุกขึ้นและวิ่งหนีทันที

พุฟ!

หลังจากฝ่ามือกระแทกลงไป ร่างโม่ฝานก็หายไปโดยสมบูรณ์

โดนตบจนกลายเป็นหมอกเลือดขนาดนี้ มั่นใจได้เลยว่าตายสนิทแน่นอน

ด้วยเหตุนี้เอง ปัญหาทั้งหมดในสถานที่แห่งนี้จึงได้รับการแก้ไข

เย่ซิงหยุนถูกยึดร่าง จ้าวดาราอู๋จี๋ถูกจวินเซียวเหยาสังหาร และโม่ฝานก็ตาย

จากนั้นจวินเซียวเหยาก็หยิบคันศรทำลายดวงดาวขึ้นมาดู

“เป็นอาวุธระดับเทวะที่ไม่เลว บางทีมันอาจจะยกระดับเป็นอาวุธกึ่งจักรพรรดิได้ในวันข้างหน้า” จวินเซียวเหยาพิจารณาคันศรทำลายดวงดาวอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็โยนมันให้อี้ยวี่

“นายท่าน นี่มัน…”  อี้ยวี่ชะงักไปครู่หนึ่ง ในขณะที่ถือคันศรทำลายดวงดาวไว้

นี่มันอาวุธเทวะเชียวนะ!

ถ้าเอาไปซ่อมแซมแล้วก็ดูแลต่ออีกหน่อย มันอาจพัฒนาเป็นอาวุธกึ่งจักรพรรดิได้เลย!

อาวุธเทวะที่หายากขนาดนี้ จวินเซียวเหยากลับโยนให้เขาหน้าตาเฉย

“นายท่าน ของสิ่งนี้มีค่ามากเกินไป อี้ยวี่คงรับไว้ไม่ได้” อี้ยวี่ค้อมตัวและยื่นคันศรทำลายดวงดาวคืน

“บอกให้เอาก็เอาไปเถอะ คิดว่านายท่านของเจ้าขาดแคลนอาวุธเทวะรึไง?” จวินเซียวเหยาโบกมือ

เขามีดาบวิญญาณผานหวางอยู่แล้ว

อีกอย่าง ถ้าเขาอยากได้อาวุธกึ่งจักรพรรดิจริงๆ แค่เอ่ยปากขอ เดี๋ยวตระกูลจวินก็มอบมันให้กับเขาเอง

ดังนั้น จวินเซียวเหยาจึงไม่ขาดแคลนอาวุธ

คันศรทำลายดวงดาวนี้เหมาะกับอี้ยวี่พอดี และเขาย่อมดึงประสิทธิภาพของมันออกมาได้มากที่สุด

อี้ยวี่พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ตระหนักได้ว่าจวินเซียวเหยาไม่ขาดแคลนอาวุธจริงๆ

ยังไงก็ตาม ความจริงใจนี้ยังคงทำให้อี้ยวี่ประทับใจอยู่ดี เขาจึงคุกเข่าลงคำนับจวินเซียวเหยาสามครั้ง

จวินเซียวเหยาเหลือบมองหุ่นเชิดเทพผ่าดาวหกตัว จากนั้นก็เก็บมันไว้ในแหวนมิติ

หุ่นเชิดเทพผ่าดาวระดับนักบุญหกตัว แม้แต่ในดินแดนอมตะก็หาได้ยาก

ในดินแดนเบื้องล่างแห่งนี้ บทบาทของพวกมันจะเฉิดฉายอย่างมาก

จากนี้ไป การปราบพวกเผ่าคนบาปจะสามารถทำได้โดยหุ่นเชิดเทพผ่าดาว

ยังไงก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการใช้งานหุ่นเชิดเทพผ่าดาวระดับนักบุญก็สูงมาก

อย่างน้อยก็ต้องใช้ศิลาปราณอมตะเกรดต่ำ หรือแหล่งพลังงานอย่างแก่นดวงดาว

โชคดีที่ก่อนหน้านี้จวินเซียวเหยาได้แก่นดวงดาวมาเป็นพัน

ไม่อย่างนั้นคงลังเลไม่น้อย กว่าจะได้ใช้งานมันแต่ละครั้ง

สุดท้าย สายตาของจวินเซียวเหยาก็หยุดอยู่ที่บัลลังก์แห่งดวงดาว หรือก็คือ แก่นแท้พิภพ

จวินเซียวเหยาก้าวเท้าเข้าไปดู

แก่นแท้พิภพเต็มไปด้วยสีสันงดงาม เต็มไปด้วยแสงดาวระยิบระยับกระจายอยู่ทั่ว

จวินเซียวเหยาเคยได้รับชิ้นส่วนเล็กๆ ของแก่นแท้พิภพมาจากหลินเฟิงแล้ว

แต่ตอนนี้ที่อยู่ตรงหน้าของจวินเซียวเหยา มันคือแก่นแท้พิภพทั้งก้อนของทวีปดวงดาว!

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังงานลึกลับอันไร้ที่สิ้นสุดที่บรรจุอยู่ในแก่นแท้พิภพ ถึงจวินเซียวเหยาจะเห็นสมบัติมามากมายแล้วก็เถอะ เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอยู่ดี

แต่เดิมคงเป็นจ้าวดาราอู๋จี๋ที่ได้หลอมกลั่นแก่นแท้พิภพอันนี้หลังจากที่ได้ยึดร่างของเย่ซิงหยุน

แต่ก็อย่างที่เห็น ทุกอย่างกลายเป็นของจวินเซียวเหยาแล้ว

จากนั้นเขาก็เก็บแก่นแท้พิภพอันนี้เข้าไปในช่องเก็บ

เขาต้องการที่จะสร้างเส้นทางเป็นของตัวเองและใช้ร่างกายตัวเองเป็นเมล็ดพันธุ์ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่แก่นแท้พิภพอันนี้จะไม่ถูกใช้เป็นเมล็ดพันธุ์

มันจะถูกใช้เป็นพลังงานสำรองในภายหลัง

“เสร็จธุระที่นี่เมื่อไหร่ก็คงถึงเวลากลับทวีปสวรรค์เร้นลับพอดี ข้าจะได้กลับไปเก็บต้นกุยช่ายหลินเฟิงด้วย” จวินเซียวเหยาคิดในใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด