ตอนที่แล้วบทที่ 10 ว้าว เสด็จพ่อสุดยอดมาก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 12: ความคิดของบุตรสาว!

บทที่ 11: ความรักของบิดามั่นคงเหมือนขุนเขา!


“ดูเหมือนว่าคนที่มีนามว่า หลินซวน จะดูผิดปรกตินิดหน่อย” เย่โยว ที่เผยท่าทางระมัดระวังออกมา.

จักรพรรดินีเสวียนปิง หนึ่งในผู้มีอำนาจในแดนสวรรค์ทั้งเก้า.

บุรุษของนาง แม้ว่าเขาจะมาจากอาณาจักรเบื้องล่าง แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นคนธรรมดาอย่างแน่นอน

"ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน" เจิ้งซ่งเห็นด้วย

“แต่สิ่งที่แปลกก็คือจักรพรรดินีดูเหมือนจะปฏิบัติต่อหลินซวนในฐานะคนธรรมดาเท่านั้น”

“นางพา หลินซวน มาที่ เป่ยเสวียนเทียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เขาช่วยนางดูแลลูก ๆ”

“นี่อาจเป็นกลอุบายของจักรพรรดินีเสวียนปิง” เย่โหยวส่ายหน้า "นางอาจไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ถึงพลังที่แท้จริงของบุรุษของนางก็เป็นได้."

เจิ้งซ่ง ถามอีกครั้ง: "แล้วถ้าหลินซวนเป็นยอดฝีมือขอบเขตมหาปราชญ์จริง ๆ ล่ะ การต่อสู้ครั้งนี้คงไม่ง่ายสำหรับพวกเรา"

เย่โหยวที่ได้ยินคำถามดังกล่าวก็กลายเป็นเงียบไปในทันที.

ถ้าหลินซวนเป็นยอดฝีมือมหาปราชญ์จริง เกรงว่าอาณาจักรหมื่นปิศาจคงถึงคราวจบสิ้นแน่.

ในเวลานั้น แสงสีดำลึกลับก็ปรากฏขึ้นในอากาศ

นี่เป็นวิธีการส่งข้อความที่ใช้กันทั่วไปในโลกปีศาจ เรียกว่า "อาคมพริบตา"

เจิ้งซ่งยื่นมือออกมาเพื่อจับแสงสีดำในมือของเขา และดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น: "จักรพรรดินิเสวียนปิงได้นำกองทัพมาที่นี่แล้ว!"

“หลินซวนอยู่กับนางหรือไม่?” เย่โหยว สอบถามอย่างรวดเร็ว

เจิ้งซ่งส่ายหน้า: "ตามข้อมูลที่ได้รับมาแนวหน้าของพวกเรา ไม่พบหลินซวน"

“นี่…” เย่โหยวที่งงงันชะงักไปพักหนึ่ง.

ถ้าหลินซวนอยู่ในอาณาจักรมหาปราชญ์จริง เมื่อจักรพรรดินิเสวียนปิงโจมตีอาณาจักรหมื่นปีศาจ เขาควรจะต้องมาช่วยอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามเวลานี้หลินซวนกับยังไม่ปรากฏตัวเลย เป็นไปได้ว่าการคาดเดาของเขาผิดพลาดหรือไม่?

“ไม่ว่ายังไงก็ตาม หลินซวนคนนี้ไม่ใช่ผู้นำทัพแน่นอน”

เย่โหยวลุกขึ้น แผ่ปราณปิศาจที่รุนแรงออกมาทั่วร่างของเขา.

“ในเมื่อจักรพรรดินีเสวียนปิงอยู่ที่นี่แล้ว เช่นนั้นก็มาจัดการกับนางก่อนก็แล้วกัน!”

-

แสงแดดสดใสส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาบนเตียงหนานมูสีทองขนาดใหญ่และหรูหรา

เมื่อหลินซวนตื่นขึ้นมา เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ดูเหมือนจะมีอะไรกดทับร่างเขาอยู่.

ขณะลืมตาขึ้นก็พบว่าที่หน้าอกและท้องของเขามีอะไรเกาะอยู่.

เป็นเสวียนซีและเสวียนหยู นั่นเอง

นอกจากนี้ที่ใต้วงแขนของเขาก็พบเสวียนจู่และเสวียนหานสาวน้อยทั้งสองอยู่ด้วยเช่นกัน.

ทันทีที่เขาลืมตาขึ้น ก็เห็นบุตรสาวที่เกาะติดเขาแน่น.

หลินซวนรู้สึกถึงความรักของบิดามันท่วมท้นอยู่ในใจหนักแน่นเหมือนกับขุนเขา.

ติ๊ง!

เสียงของระบบดังขึ้นทันที

“ความรักของบิดาหนักแน่นดั่งขุนเขา ช่วยให้บุตรสาวนอนหลับอย่างอย่างมีความสุข  ได้รับรางวัล: วิชากระบี่อู๋จี้”

ทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง ทักษะกระบี่อู่จี้

หากถูกนำไปไว้อาณาจักรล่างทวีปคังหลง ด้วยทักษะกระบี่นี้วิชาเดียว ก็สามารถสนับสนุนนิกายกระบี่ได้นับพันปี.

แม้แต่ดินแดนเบื้องบนเป่ยเสวียนเทียน ก็ยังนับว่าเป็นทักษะที่หายากมาก.

ไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไรมาก ทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นี้ คือทักษะที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก.

“สามารถรับรางวัลที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้เพียงแค่นอนกับบุตรสาว ชีวิตนี้ของข้า ช่างมีความสุขนัก!”

หลินซวนเผยยิ้มอย่างมีความสุข

เพื่อไม่ให้รบกวนเด็ก ๆ เขาต้องหายใจเบา ๆ อีกสองสามครั้งแล้วรอให้เสวียนซี และ เสวียนหยู ตื่น

โชคดีที่ได้รับการสั่งสอนจากตงหวงจื่อโหยว เด็ก ๆ ไม่ใช่หมูขี้เกียจที่ขี้เซาแต่อย่างใด

เมื่อถึงเวลา เด็ก ๆ ก็ตื่นกันทีละคน

“หือ? ทำไมข้าถึงอยู่บนท้องเสด็จพ่อล่ะ”

“เสด็จพ่อสบายมาก!”

“เสวียนหาน อย่าเอาเท้ามาโดนหน้าข้าสิ!”

"โอ้ โอ้ว!"

เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่น่ารักของเด็กหญิงทั้งสี่ หลินซวนก็มีความสุขมากในตอนเช้า

หลังจากลุกขึ้น หลินซวนก็ไปแปรงฟันและล้างหน้าด้วยความช่วยเหลือจากคนรับใช้

เนื่องจากการรบเร้าของธิดาทั้งสี่ ทำให้หลินซวนลงมือทำอาหารเช้าให้กับพวกนางด้วยตัวเอง.

รสชาติแปลกใหม่และการจับคู่ที่สมเหตุสมผล ทำให้สาวน้อยกินไม่หยุดเลย

อาหารเช้ามื้อนี้เป็นมื้อที่มีความสุขที่สุดที่พวกนางได้กินในปีที่ผ่านมา

แม้แต่เสวียนหยูก็ไม่คิดจะแบ่งอาหารให้กับสุนัขสวรรค์แล้ว เพื่อที่นางจะได้กินอาหารมากขึ้น.

ดูเหมือนว่าสนัขสวรรค์จะถูกหมางเมินเสียแล้ว.

ในเวลาเช้า ๆ เช่นนี้ สุนัขสวรรค์จ้องมองนางด้วยความคาดหวัง เผื่อว่าจะได้รับอาหารสักเล็กน้อย.

มันเข้าไปถูไถขาเสวียนหยูออดอ้อนเพื่อขอแบ่งอาหารสักหน่อย.

เสวียนหยูคิดเล็กน้อยก่อนที่จะเตะสุนัขสวรรค์ออกไป.

หลังมื้ออาหาร.

ผู้คุ้มกันตำหนักหยกเฟิงจี้ฟ่าน ได้เข้ามาในห้องโถง.

“เรียนตี้ฟู่ วันนี้เป็นวันที่องค์หญิงทั้งสี่ต้องฝึกกระบี่ ข้าจึงเข้ามาเชิญพวกนางไปที่สนามฝึกฝนการต่อสู้”

หลินซวนเอ่ยถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน.

จากนั้นเขาก็ได้เรียนรู้ว่าตงหวงจื่อโหยว ได้จัดเตรียมสนามศิลปะการต่อสู้ไว้ให้สำหรับเด็ก ๆ แล้ว

ที่นั่นมีค่ายกลรวมวิญญาณที่เหมาะสำหรับฝึกฝน.

ทุก ๆ สามวัน ผู้คุ้นกันจะพาเด็ก ๆ ไปที่ค่ายกลรวมวิญญาณเพื่อฝึกฝนกระบี่เป็นการส่วนตัว

“เสด็จพ่อ ช่วยข้าฝึกกระบี่ด้วยได้ไหม?”เสวียนจู่ จับมือของหลินซวน

เสวียนหยูพุ่งตัวเข้าไปในอ้อมแขนของหลินซวน และกอดเขาไว้แน่น: "เสด็จพ่อต้องไปนะ!"

เสวียนซี และ เสวียนหาน พยักหน้าอย่างสง่างาม: "ใช่ ๆ!"

“พ่อจะต้องไปแน่นอน” หลินซวนกอดเสวียนหยูและลุกขึ้นโดยอุ้มบุตรสาวอีกสามคนไว้ในอ้อมแขนของเขาด้วย

เฟิงจี้ฟ่านเอ่ยด้วยท่าทางอิจฉา "ตี้ฟู่และ องค์หญิง มีความสัมพันธ์ที่ดีมาก!"

เมื่อคิดถึงบุตรสาวของตัวเอง เขาก็ดูเหมือนจะเย็นชาไปหน่อยเหมือนกัน.

เฟิงจี้ฟ่านที่เทียบตัวเองกับหลินซวน ก็ทำให้ขารู้สึกว่าช่างเป็นบิดาที่ล้มเหลวมาก!

ในไม่ช้า หลินซวน ก็พาบุตรสาวของเขา ตามเฟิงจี้ฟ่านไปที่สนามศิลปะการต่อสู้

มีองค์รักษ์อยู่รอบ ๆ เห็นชัดเจนว่าที่นี่มีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมาก.

หลินซวนพบว่าป่าที่ด้านหน้านั้น มีกลุ่มของจิตวิญญาณสีขาวที่หนาแน่นและหมุนวนอยู่รอบ ๆ.

พลังงานจิตวิญญาณเป็นกลุ่มก้อนที่หนาแน่นในรัศมีสองลี้.

แม้นว่าจะอยู่ห่างไกลออกมาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของพลังจิตวิญญาณที่หนาแน่นแทบล้นทะลัก.

“ค่ายกลรวมวิญญาณนี้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ โดยฝ่าบาทได้เชิญปรมาจารย์ค่ายกลมาสร้าง เพื่อดูดซับพลังจิตวิญญาณสำหรับองค์หญิง และปรับปรุงการฝึกฝนของพวกนาง”

“การฝึกฝนกระบี่ในค่ายกลรวมวิญญาณ จะทำให้องค์หญิงพัฒนาได้เร็วขึ้น.

เฟิงจี้ฟานเดินนำหลินซวนไปข้างหน้า และเอ่ยอธิบายแนะนำ

หลินซวนพยักหน้าเล็กน้อย

ด้วยความรู้จากรูปแบบค่ายกลสิบทิศ เขาพบว่าค่ายกลด้านหน้านั้นดูผิดปรกติมาก.

หากไม่มีปรมาจารย์ค่ายกลผู้เชี่ยวชาญ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างค่ายกลขนาดใหญ่เช่นนี้ได้.

บูม! -

อย่างไรก็ตาม จู่ ๆ กลุ่มแสงสีดำที่หนาแน่นก็เกิดการระเบิดขึ้นที่ใจกลางของค่ายกล.

ในชั่วพริบตาค่ายกลรวมวิญญาณก็กลายเป็นยุ่งเหยิงวุ่นวายทันที.

กลิ่นอายของพลังงานที่บ้าคลั่งกำลังไหลท่วมแผ่ออกมาทันที.

แม้นว่าพลังจิตวิญญาณจะช่วยหล่อเลี้ยงพัฒนาร่างกาย แต่ถ้ามันมีความเข้มข้นมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน.

หลินซวนพบว่าองค์รักษ์ที่อยู่ใกล้ ๆ ค่ายกลรวมวิญญาณ ล้วนแต่ร้องตะโกนด้วยความตกใจ ก่อนที่พลังจิตวิญญาณจะซัดกระแทกร่างกายของพวกเขาลอยกระเด็นออกมา.

กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงแผ่ออกไปรอบ ๆ นั้น ทำให้เฟิงจี้ฟ่านเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกตกใจ.

"แย่แล้ว!"

เขาตะโกนและถอยออกไปอย่างรวดเร็ว พยายามปกป้องหลินซวนและองค์หญิงทั้งสี่ไว้

แต่เมื่อเขาเข้าใกล้ร่างของ หลินซวน ทันใดนั้นก็พบว่าพลังทางจิตวิญญาณที่พลุ่งพล่านสับสนได้ถูกกวาดล้างออกไปจนหมด.

เฟิงจี้ฟ่านรู้สึกราวกับว่าเขาได้ก้าวเข้ามาในโลกที่สุขสงบ.

ไม่ว่ากลิ่นอายพลังจิตวิญญาณจะปั่นป่วนวุ่นวายแค่ไหน ก็ไม่สามารถที่จะคุกคามเขาได้.

เฟิงจี้ฟ่านบอกได้ในทันที ว่าต้องเป็นฝีมือของหลินซวนแน่.

“ตี้ฟู่สามารถสลายพลังจิตวิญญาณได้ โดยแทบไม่ต้องขยับ ช่างเป็นคนที่พิเศษจริง ๆ.”

เฟิงจี้ฟ่านรู้สึกชื่นชมนับถือต่อหลินซวนมาก.

เขาพบว่าหลินซวนนั้นสงบนิ่งมั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้รู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ข้างกายเขา.

"ตี้ฟู่ น่าทึ่งจริงๆ!"

“ตี้ฟู่ร้ายกาจจริง ๆ!”

เมื่อได้ยินเสียงอุทานของผู้คนหลายคน หลินซวนที่เผยยิ้มเล็กน้อย.

นี่คืออาคมอัตโนมัติ “ดินแดนต้องห้ามคงกระพัน” เป็นความสามารถที่ยอดเยี่ยม.

เฟิงจี้ฟ่านที่โค้งคำนับ“ตี้ฟู่ ต้องขออภัยด้วยที่ทำให้ท่านและองค์หญิงตกใจ!”

“ข้าจะไปตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นกับค่ายกลรวมวิญญาณ”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด